หลงหยียนกำลังหัวเราะในใจ “อีกครู่บิดาจะทำให้เ้ารู้ว่าการต้องล้มอยู่แทบเท้าข้ามันเป็เยี่ยงไร” เขานึกไม่ถึงเป็แน่ว่าหลงเหยียนจะเลื่อนระดับพลังภายในค่ำคืนเดียว อีกทั้งยังฝึกวิชากายสุริยะสำเร็จในขั้นแรกแล้วด้วย
ภายใต้สถานการณ์นี้ หลงเหยียนไร้ซึ่งความกลัว อีกทั้งยังพูดระคนหัวเราะ ทำให้คนตระกูลหลงที่อยู่ข้างหลังรู้สึกประหลาดใจมาก พวกเขาไม่เข้าใจ ่นี้หลงเหยียนเป็อะไรไป? สมองเพี้ยนไปแล้วหรือ? เพราะอะไรถึงกล้าใช้น้ำเสียงเช่นนี้พูดกับอัจฉริยะแห่งตระกูลเซียว
ทุกคนต่างก็รอคอย อยากเห็นว่าคนไร้ค่าตรงหน้าจะถูกเซียวปิงหลานเหยียบไว้แทบเท้าอย่างไร ที่ผ่านมา เพราะเขาเป็บุตรชายของผู้นำแห่งตระกูลหลง ทำให้พวกเขาไม่กล้าหาเื่ แต่ทุกคนก็ไม่มีใครชอบเขา หากไม่ขับคนไร้ค่าคนนี้ออกจากตระกูล วงศ์ตระกูลต้องอับอายขายขี้หน้า
พวกเขาสองคนตาต่อตาฟันต่อฟัน...
สิ่งที่ทำให้เซียวปิงหลานโมโหยิ่งกว่าก็คือ เวลานี้คนตระกูลหลงมีมากเกินไป ถ้าเป็สถานที่เงียบๆ เขาคงคร่าชีวิตหลงเหยียนไปนานแล้ว ไม่จำเป็ต้องพูดพร่ำทำเพลง ในใจปะทุความโมโห ไฟร้อนลุกโชนขึ้นไปถึงสมอง ในใจเปี่ยมไปด้วยความเกลียดแค้น
หลงเอ้าอวีอยู่บนเปลยกผู้ป่วย เขายิ้มอย่างผยอง มองทุกอย่างตรงหน้า วันนี้เขาตั้งใจเรียกคนในตระกูลหลงมาให้มากที่สุด เขา้าให้เซียวปิงหลานจัดการหลงเหยียนต่อหน้าทุกคน
“ดี ดีมาก ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ นี่เ้าอยากกลับ์แล้วหรือ? ครั้งก่อนทำข้าเสียเื่! วันนี้ข้าต้องเก็บเ้าให้ได้!”
จากนั้นเขาก็คำราม “เ้าสารเลวนี่ทำร้ายเพื่อนรักข้า พวกเ้าคิดว่าข้าควรสั่งสอนมันเยี่ยงไร”
“อัดมัน ฆ่าให้ตาย”
“ควรฉีกแขนขาทิ้ง ให้เขาคลานออกตระกูลหลง”
เสียงยุยงที่โเี้ดังมาจากรอบๆ
เซียวปิงหลานพูดด้วยเสียงดุร้าย “ได้ ข้าจะรวบชำระทั้งแค้นเก่าและใหม่ทีเดียว วันนี้เ้าต้องตาย หาใช่แค่ข้าที่้าทำแบบนั้นไม่ เ้าดูสิ พวกเขาล้วนอยากให้ข้าทำทั้งนั้น” มีหลงจ้านและบิดาเขาอยู่ ต่อให้หลงเหยียนเป็ผู้นำตระกูลหลงก็ทำอะไรเขาไม่ได้!
เมื่อตัดสินใจแล้ว เขาก็เงยหน้าที่แสดงถึงความเืเย็นขึ้น “พร้อมหรือไม่? บิดาจะทำให้เ้ารู้จักพละกำลังระดับชีพัขั้นที่สี่!”
“ต้องเตรียมพร้อมด้วยหรือ อยากลงมือก็เข้ามาเถอะ เ้านึกว่าข้าจะกลัวเ้าหรือ ที่ริมน้ำเมื่อวาน ข้าแค่ไม่อยากทำให้เป็เื่ใหญ่โตเท่านั้น เพราะข้ายังอยากกอดหญิงงามต่ออีกหน่อย ฮ่าๆๆ จริงสิ ข้าได้ยินมาว่าแม่เ้าก็รูปงามไม่น้อย ไว้มีโอกาสจูงเชือกออกมาให้บิดาเชยชมหน่อยสิ ข้าก็อยากรู้ว่าจะหาสุนัขหน้าโง่เหมือนพ่อเ้าให้นางอีกสักตัวสองตัวได้หรือไม่ จะได้หาตัวที่เหมาะกับคนขี้แพ้อย่างเ้า... ฮ่าๆๆ”
หลังจากหลงเหยียนพูดจบ เขาก็แหงนหน้าหัวเราะอย่างผยอง ทำให้คนตระกูลหลงที่อยู่ข้างหลังเซียวปิงหลานอดหัวเราะตามไม่ได้
เมื่อฟังเช่นนั้น เซียวปิงหลานก็ะเิโมโหออกมาในที่สุด ที่ผ่านมาเขาวางตัวเหมือนเป็คนสูงส่ง วันนี้กลับถูกหยามศักดิ์ศรีเช่นนี้ แถมคนที่หยามหน้ายังเป็คนที่ตนเคยรังแกมาตลอด หลงเหยียนไม่เพียงแต่ทำให้คนรอบข้างประหลาดใจ ยังทำให้เขาโมโหจนตัวสั่น
“เ้าสมควรตาย เ้าทำให้ข้าโมโห วันนี้ ถ้าเ้าไม่ตาย ข้าจะยอมเป็ขี้ข้าเ้า”
ทันใดนั้น ร่างเขาก็ะเิพลังปราณ พลังปราณระลอกหนึ่งเคลื่อนไหวตามตัว รอบๆ ก่อตัวกลายเป็พายุ พละกำลังชีพัขั้นที่สี่ถูกปล่อยออกมาซึ่งแข็งแกร่งกว่าหลงเอ้าอวีมาก
“โอ้ เขาแกร่งมากเสียจริง เหมือนครั้งนี้หลงเหยียนจะจนมุมแล้ว เขาต้องต้านไม่ไหวแน่”
“ไม่แน่ หลงเหยียนอาจตายั้แ่กระบวนท่าแรก...” คนรุ่นหลังในตระกูลหลงยกหลงเอ้าอวีถอยหลัง เพื่อให้มีพื้นที่ในการต่อสู้
ตอนนี้ คนที่ผยองที่สุดก็คือหลงเอ้าอวี... ความปีติยินดีบนใบหน้านั้นมิอาจปกปิดได้เลย
เซียวปิงหลานเหวี่ยงออกไปหนึ่งหมัด หมัดยังไปไม่ถึง คลื่นลมจากหมัดก็พัดชายเสื้อหลงเหยียนลอยไปข้างหลัง
พละกำลังของหมัดนี้แกร่งเกินไปแล้ว หลงเหยียนที่เป็เหมือนตัวตลกในสายตาทุกคนต้องพ่ายแพ้ เกรงว่าจะไม่เหลือแม้แต่กระดูก!
แต่เมื่อหมัดของเซียวปิงหลานเข้าใกล้ หลงเหยียนร่างกะพริบ สามารถหลบหมัดนี้ได้อย่างง่ายดาย ตอนนี้เขามีกายสุริยะ สำหรับเขาแล้ว พละกำลังจากหมัดนี้ไม่แกร่งเท่าไร ถ้าเปลี่ยนเป็ตนมีพลังชีพัขั้นที่สาม พลังปราณมหาศาลในตัว บวกกับกายสุริยะ ผลลัพธ์ของหมัดนี้ต้องน่ากลัวกว่าหลายเท่า
“เ้าอย่าคิดว่าชีพัขั้นที่สองของเ้าจะผยองต่อหน้าข้าได้ มีพละกำลังเพียงน้อยนิดก็ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำแล้ว ส่วนใหญ่คนแบบนี้ล้วนตายอนาถ และสิ่งที่เ้าต้องแลกมาคือความตาย...”
หมัดของเซียวปิงหลานคว้าน้ำเหลว เขาไม่ได้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง ร่างกายคล้ายพายุหมุน พุ่งเข้ามาหาหลงเหยียนซ้ำ ก่อนจะะเิเสียงคำรามติดต่อกันหลายครั้ง ทว่าทุกหมัดกลับล้มเหลว
“นี่มัน...?” เซียวปิงหลานชะงักไป
“เพราะเหตุใดเ้านั่นถึงเร็วขึ้นกว่าเดิม เหมือนมีพลังไม่ต่างจากข้าเลย? เป็ไปได้อย่างไร?”
เซียวปิงหลานเร่งความเร็วพุ่งออกไป ระหว่างกลางพวกเขา หมัดเสียดสีห้วงอากาศจนเกิดประกายไฟ ทว่ากลับมิอาจแตะต้องตัวหลงเหยียนได้
“ฮ่าๆๆ พี่อวี ลองดูหลงเหยียนสิ เมื่อกี้ยังผยองอยู่เลย ดูตอนนี้ สภาพเขาอนาถมากน่าดู ถูกหมัดของพี่หลานบีบให้ถอยหลัง แม้แต่โอกาสโจมตีกลับยังหามีไม่”
ขาข้างหนึ่งของหลงเอ้าอวีห้อยอยู่กับไม้ดาม หนึ่งในคนของตระกูลหลงนวดไหล่และพูดประจบประแจง
ในมือหลงเอ้าอวีถือผิงกั่ว1แล้วยกมันขึ้นมากัด “เ้าจะไปรู้อะไร ขอแค่พี่หลานลงมือ ชกเข้าเป้า ชีวิตเ้าหมอนั่นต้องจบแน่”
ขณะที่เขากำลังพูดอย่างภูมิใจพลางปรบมือ ศิษย์ตระกูลหลงที่อยู่รอบๆ ส่งเสียงเฮ บ้างก็หัวเราะเสียงดัง ชี้นิ้วด่าทอหลงเหยียนต่างๆ นานา คล้ายเซียวปิงหลานกำลังแหย่ลูกไก่ในกำมือ หลงเหยียนเป็เหมือนของเล่นและตัวตลก มีแค่เซียวปิงหลานเท่านั้นที่รู้ วันนี้หลงเหยียนต่างไปจากเดิม ความเร็วของตนมิอาจตามทัน
หลงเหยียนหลบสำเร็จอีกครั้ง มองท่าทางที่ผยองของหลงเอ้าอวีกับสีหน้าของคนรอบตัวแล้ว เขาก่นด่าในใจ “พวกสารเลว ดูให้ดี ครั้งนี้ข้าจะทำให้พี่หลานของพวกเ้าล้มแทบเท้าข้า จำต้องร้องขอชีวิตกับข้าเลย”
“รายการน่าตื่นตาตื่นใจใกล้เข้ามาแล้ว เบิกตาดูให้ดี”
หลงเหยียนะโลอยไปข้างตัวหลงเอ้าอวีด้วยความเร็วสูง จากนั้นก็ใช้มือบีบปากเขาอย่างแรง ส่วนมืออีกข้างก็ยกขึ้นมาตบหน้า เพียะๆๆๆๆ หลงเหยียนลงมืออย่างรวดเร็ว
ฟิ้ว... ร่างหมุนกลับไปยังที่เดิม ครั้งนี้ทุกคนชะงักไปตามๆ กัน ผิงกั่วในมือหลงเอ้าอวีหล่นลงบนพื้น
“น่าสมเพช นี่เ้าฉวยโอกาสตอนข้าขยับไม่ได้มาหยามศักดิ์ศรีข้าหรือ พี่หลาน รีบเอาชีวิตมันซะ ถ้าเกิดเื่อะไรข้าจะรับหน้าให้เอง”
เวลานี้หลงเหยียนกลับยืนกอดอก มองไปยังหลงเอ้าอวีและเซียวปิงหลานที่แลดูเหนื่อยหน่าย ก่อนจะแสยะยิ้มมุมปาก
“ทักษะการต่อสู้เ้ามีแค่นี้หรือ กระจอก แสดงศักยภาพของเ้าออกมาให้เต็มที่ ให้ข้าได้เห็นท่าไม้ตายของเ้าหน่อย”
“แกรก!”
สภาพของหลงเหยียนในตอนนี้ดูอนาถมาก แต่ยังกล้าพูดจาผยองอีก อีกยังท้าทายเซียวปิงหลานด้วยรอยยิ้ม! นี่มันรนหาที่ตายชัดๆ ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็นึกไม่ถึง เพียงแค่วันเดียวพละกำลังของหลงเหยียนจะเพิ่มขึ้นมากขนาดนี้
ที่ผ่านมาเซียวปิงหลานไม่เคยถูกบีบเท่านี้มาก่อน เขาคำรามเสียงดัง พลังปราณถูกรวบรวมอีกครั้ง เมื่อครู่เขาแค่อบอุ่นร่างกายเท่านั้น ยังไม่ได้เริ่มใช้วิชาการต่อสู้ที่แท้จริง
“หลงเหยียน เ้ามันน่าสมเพช สมควรตาย ถ้าเ้าไม่ตาย ข้าจะ...”
“ถ้าเ้าฆ่าข้าไม่ได้ เ้าจะต้องเป็ขี้ข้าของข้า เมื่อกี้เ้าพูดเอง”
ตอนนี้แสงแดดจ้า หลงเหยียนสามารถต่อสู้พลางฝึกวิชากายสุริยะไปในเวลาเดียวกัน เพื่อเป็การสร้างรากฐานชีพัขั้นที่สามให้มั่นคง
จู่โจม ความเร็ว ควบคุมพลังปราณที่มหาศาล ทั้งหมดนี้แกร่งกว่าพละกำลังขั้นที่สามมาก ฝึกวิชากายสุริยะไม่ได้ช่วยเพิ่มพลังปราณเท่านั้น แต่ยังใช้เป็วิชาป้องกันที่ดีได้อีกด้วย ทั้งหมดนี้ล้วนเป็ที่พึ่งพาและช่วยให้หลงเหยียนแข็งแกร่งขึ้น
“หมัดทะลวงฟ้า”
“หมัดทะลวงฟ้า”
พวกเขาสองคนคำรามพร้อมกัน
ทันใดนั้น หมัดจากชีพัขั้นที่สี่และหมัดจากชีพัขั้นที่สามปะทะกัน โครม... พวกเขาทั้งสองถูกแรงกระแทกดันให้ถอยหลังพร้อมกัน
--------------------
1 ผิงกั่ว คือ แอปเปิล
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้