"มี มี" ป้าหวังรีบตอบ
ซ่งอวี้โล่งอกเล็กน้อย "รีบไปหยิบสุรามา"
หลี่เฉิงที่ยืนอยู่ด้านหลังซ่งอวี้เมื่อเห็นว่านาง้าสุรา แววตาของเขาก็เปี่ยมไปด้วยความสงสัย หรือว่าสุราสามารถช่วยลดไข้ได้?
เพียงไม่นานป้าหวังก็กลับมาพร้อมกับสุราหนึ่งถ้วย ซ่งอวี้ถอดเสื้อของเกินจือออก ใช้สุราเช็ดตัวของเด็กน้อย แล้วขูดถูบนจุดฝังเข็มหลายจุดแรงๆ
เพียงชั่วพริบตาผิวขาวเนียนนุ่ม ก็เกิดเป็รอยสีม่วงแดงหลายรอย ชุนหวาที่มองอยู่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดใจ นางเอามือป้องปากแล้วร้องไห้ไม่หยุด
แม้แต่ป้าหวังก็ขมวดคิ้วเป็ปมด้วยความปวดใจ หลายครั้งที่นางอยากจะพูดปรามซ่งอวี้ไม่ให้นางกัวซา [1] แต่ก็กลัวว่าหากพูดมากจะทำให้นางขุ่นเคือง จึงทำได้เพียงรอด้วยความอดทน
หลี่เฉิงแปลกใจกับการกระทำของซ่งอวี้ยิ่งนัก จึงเอ่ยถาม "ทำเช่นนี้จะช่วยลดไข้ได้หรือ?"
มือของซ่งอวี้ที่กำลังขูดถูอยู่นั้นชะงักเล็กน้อย แล้วอธิบายให้พวกเขาฟังอย่างละเอียด
"ยามมีไข้ ใช้สุราเช็ดตัวเช่นนี้จะช่วยให้ไข้ลดลงได้ ในเวลาเดียวกันสามารถใช้ของแข็งที่เล็กและบาง แต่ไม่ทำร้ายผิว ขูดแผ่นหลังเบาๆ กระทั่งเกิดเป็รอยสีม่วงแดง หรือว่าจะขูดข้อศอก ข้อมือและง่ามมือ ก็ได้ผลลัพธ์เช่นเดียวกัน"
วิธีนี้ หลี่เฉิงไม่เคยได้ยินมาก่อน อดไม่ได้ที่จะคาดเดาว่านางฝึกวิชาการแพทย์ด้วยตนเองจริงๆ หรือ? ส่วนป้าหวังและชุนหวายืนอยู่ข้างๆ ก็จดจำสิ่งที่ซ่งอวี้สอน
หลังจากซ่งอวี้กัวซาให้เกินจือเสร็จ แก้มที่แดงระเรื่อของเด็กน้อย ก็จางลงไม่น้อย แม้แต่การหายใจก็สม่ำเสมอขึ้นมาก นางยื่นมือไปแตะหน้าผากของเกินจือ หลังจากพบว่าตัวของเด็กน้อยไม่ได้ร้อนเท่าตอนแรกแล้ว นางก็โล่งอก
"ไข้ของเกินจือทรงตัวแล้ว แต่ก็มีความเป็ไปได้ที่จะกลับมาตัวร้อนอีกครั้ง ประเดี๋ยวพวกเ้าใช้สุราเช็ดตัวเกินจือทุกหนึ่งชั่วยาม แต่ไม่ต้องกัวซาแล้ว"
"แค่นี้ก็พอแล้วหรือ?" ป้าหวังถามเสียงเบา
ซ่งอวี้พยักหน้าเล็กน้อย "ตอนนี้ทำได้เพียงแค่นี้"
แม่บ้านที่เก่งกาจ ก็ไม่อาจทำอาหารได้โดยไม่มีข้าว [2] ไม่มียา นางก็ไม่มีวิธีอื่น
ชุนหวาที่อยู่ข้างๆ นั่งลงบนเตียง ยื่นมือไปแตะหน้าผากเกินจือ หลังจากที่พบว่าตัวไม่ร้อนเหมือนก่อนหน้านี้ นางก็มองไปทางป้าหวังด้วยความดีใจ พูดเสียงสั่นเทา "แม่สามี เกินจือตัวไม่ร้อนมากขนาดนั้นแล้วเ้าค่ะ"
เมื่อป้าหวังได้ยินคำนี้ นางดีใจขึ้นมาทันที โค้งตัวลงกล่าวขอบคุณซ่งอวี้ครั้งแล้วครั้งเล่า "ขอบใจเ้ามาก ขอบใจเ้าที่ช่วยชีวิตเกินจือ"
ซ่งอวี้โบกมือเบาๆ "พวกเ้าดูแลเกินจือให้ดีเถอะ ประเดี๋ยวอย่าลืมปิดหน้าต่าง แล้วเปิดให้อากาศถ่ายเททุกสองถึงสามชั่วยาม อย่าเปิดนานเกินไป เกินจือจะได้ไม่จับไข้อีก"
"ข้าจดจำแล้ว จดจำแล้ว" ป้าหวังพูดซ้ำๆ นางยิ้มจนรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าซ้อนทับกัน
ก่อนที่ซ่งอวี้จะกลับไป ป้าหวังให้ไข่ไก่นางสองฟอง สำหรับครอบครัวป้าหวังแล้ว นี่ถือเป็ของล้ำค่าที่สุด
ซ่งอวี้กลับใเล็กน้อยที่ป้าหวังทำดีกับตน นางคิดไม่ถึงว่าป้าหวังที่แสนตระหนี่ จะมี่ที่มีน้ำใจเช่นนี้ ซ่งอวี้มองไข่ไก่ในมือแล้วยิ้มกว้างไปทางหลี่เฉิง
"มีอาหารว่างให้เ้าแล้ว"
ดวงตาทอประกายระยิบระยับของนาง ทำให้หลี่เฉิงจิตใจล่องลอยครู่หนึ่ง เขาอดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้นยิ้ม "พวกเราทานอาหารว่างด้วยกัน"
พวกเรา!
เมื่อได้ยินคำนี้ รอยยิ้มบนดวงหน้าซ่งอวี้ก็สดใสยิ่งกว่าเดิม ดวงตาของนางโค้งมนเป็รูปพระจันทร์เสี้ยว ทั้งสองส่งยิ้มให้กัน แล้วเดินกลับเรือน
นับั้แ่ซ่งอวี้ช่วยชีวิตหวังกุ้ย จากนั้นก็รักษาหลานชายของป้าหวัง ชื่อเสียงด้านวิชาการแพทย์ของนางก็แพร่สะพัดไปทั่วหมู่บ้าน ทุกสามวันห้าวันจะมีคนมาหานางที่เรือนและขอให้นางช่วยรักษา
นางแทบจะไม่ปฏิเสธคนไข้แม้แต่คนเดียว พยายามรักษาทุกคนอย่างสุดความสามารถ
ชื่อเสียงของนางในหมู่บ้านก็ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างช้าๆ ยามนางเดินบนท้องถนนก็จะมีคนคอยให้ผักและผลไม้เล็กๆ น้อยๆ กับนาง แม้ของที่ให้จะไม่มีราคา แต่อย่างน้อยก็เป็น้ำใจของผู้ให้
วันนี้ ซ่งอวี้ทำแผลให้หลี่เฉิงเฉกเช่นทุกวัน เห็นาแที่ขาซ้ายของเขาหายดีแล้ว แผลค่อยๆ ตกสะเก็ด จึงไม่ได้ทายาให้เขาอีก
นางจับชีพจรของหลี่เฉิง ชีพจรของเขามั่นคงขึ้นมาก ไม่เป็อะไรมากแล้ว
"าแของท่านหายดีแล้วเ้าค่ะ"
หลี่เฉิงยิ้มบางๆ แต่รอยยิ้มนี้ไม่ได้มาจากส่วนลึกในดวงตาของเขา าแหายดีแล้ว หมายความว่าไม่รู้ว่าอีกเร็วเพียงใดเขาจะต้องไปจากที่แห่งนี้
ซ่งอวี้ไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าของเขา นางเก็บของ แล้วพูดกำชับ "ประเดี๋ยวข้าจะไปนา อาหารข้าทำเสร็จแล้วอยู่ในหม้อ ตอนเที่ยงท่านอุ่นเพียงเล็กน้อยก็ทานได้แล้ว"
หลี่เฉิงมองไปที่นางด้วยความฉงน "ตอนเที่ยงเ้าไม่กลับมาทานข้าวด้วยกันหรือ?"
"ไม่กลับเ้าค่ะ ข้าเอาอาหารแห้งไปเล็กน้อยก็พอ ใกล้จะผ่านพ้นฤดูทำนาแล้ว ข้าเสียเวลามาหลายวัน กลัวว่าจะไม่ทันการ" นางอธิบาย
เดิมทีนางไม่ได้อยากทำนาต่อ แค่เพียงเก็บสมุนไพรนางก็เลี้ยงตนเองได้แล้ว แต่ตอนนี้มีหลี่เฉิงเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน ทำให้นางมีภาระมากขึ้น นางจึงคิดที่จะปลูกข้าวและปลูกผัก หากกินไม่หมดนางก็สามารถเอาไปขายได้ เป็รายได้อีกช่องทางหนึ่ง
"ข้าไปกับเ้า" จู่ๆ หลี่เฉิงก็พูดขึ้น
เชิงอรรถ
[1] กัวซา หมายถึงศาสตร์การบำบัดแผนจีน ซึ่งสามารถใช้รักษาโรคได้โดยการนำแผ่นกัวซ่ามาขูดนวดตามร่างกายั้แ่ศีรษะจรดปลายเท้า จะช่วยกระตุ้นให้เืหมุนเวียนได้ดีขึ้น
[2] แม่บ้านที่เก่งกาจ ก็ไม่อาจทำอาหารได้โดยไม่มีข้าว หมายถึง ต่อให้เชี่ยวชาญเพียงใด แต่ถ้าไม่มีอุปกรณ์เครื่องมือหรือวัตถุดิบที่จำเป็ ก็ไม่อาจแสดงฝีมือออกมาได้