ทั้งสองสบตากันอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา เด็กสาวเดินตรงไปยืนริมระเบียงหอคอย ปล่อยให้สายลมกลางคืนพัดปลายผมสีม่วงดำสยายพลิ้ว เธอมองทิวทัศน์เบื้องล่างด้วยสายตาเหม่อลอย ก่อนจะเอ่ยขึ้นโดยไม่ได้หันมามองไอแซกซ์
“ปกติแล้ว… บนนี้ไม่ค่อยมีใครขึ้นมาหรอกนะ”
เสียงเธอนุ่มแต่แฝงด้วยความสงบ ไอแซกซ์ยังคงมองออกไปเบื้องหน้า ไม่ตอบในทันที ความเงียบแ่บางแทรกอยู่ระหว่างทั้งสอง
“ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย นายเป็นักท่องเที่ยว? หรือเพิ่งย้ายมาเมืองนี้กันแน่?” เธอถามต่อ
“ผมเพิ่งย้ายมาครับ” ไอแซกซ์ตอบสั้นๆ
“อืม… งั้นหรอ” เธอพยักหน้าเบาๆ
บรรยากาศกลับมาเงียบอีกครั้ง เสียงลมพัดและเสียงนาฬิกาเก่าดังเป็จังหวะเหมือนกำลังนับเวลาที่ไหลผ่าน
“ว่าแต่… คุณขึ้นมาที่นี่บ่อยเหรอครับ?” ไอแซกซ์เอ่ยถามบ้าง
“บางครั้ง เวลาที่ฉันรู้สึกเบื่อ หรืออยากอยู่เงียบๆ” เธอตอบพร้อมกับแหงนมองดาว “บนนี้เห็นเมืองทั้งเมืองได้ชัดดี”
“ก็จริงนะครับ…” ไอแซกซ์พยักหน้า รู้สึกว่าคำพูดของเธอสะท้อนความรู้สึกบางอย่างในใจตนเอง
ครู่หนึ่งเธอหันมามองตรงๆ “แล้วนายชื่ออะไร?”
“ผมชื่อ ไอแซกซ์… แล้วคุณล่ะครับ?”
“เอลีเซีย” เธอยิ้มบาง “ยินดีที่ได้รู้จักนะ ไอแซกซ์”
“เช่นกันครับ… เอลีเซีย”
เวลาเริ่มล่วงเข้าสู่ดึกสงัด ไอแซกซ์จึงเอ่ยลา “ผมคงต้องกลับแล้ว ไว้เจอกันอีกนะ”
เอลีเซียหันมายิ้มบางๆ “ไว้เจอกันนะ”
ระหว่างทางกลับบ้าน แสงไฟจากเสาตามถนนค่อยๆ ส่องสว่างเป็แนว บางดวงเหมือนเปลวเทียนลอยอยู่กลางอากาศ บางดวงเป็ผลึกเรืองแสงราวกับดวงดาวที่ถูกกักขังไว้ในแก้วใส ไอแซกซ์หยุดมองด้วยความทึ่ง มันแตกต่างจากโลกเก่าของเขาอย่างสิ้นเชิง—ไม่มีหลอดไฟ ไม่มีเครื่องจักร มีเพียงเวทมนตร์ที่คอยขับเคลื่อนชีวิตผู้คน
รถม้าหรูหราบางคันวิ่งผ่าน เขามองเห็นครอบครัวชนชั้นสูงนั่งอย่างภูมิฐาน ขณะที่ชาวบ้านธรรมดาก็เดินเท้าอย่างไม่เร่งรีบ ทุกสิ่งบอกให้รู้ว่านี่คือสังคมที่เวทมนตร์คือศูนย์กลางแท้จริง
ไม่ทันรู้ตัว เขาก็มาถึงบ้านไม้ของลุงคาร์เตอร์แล้ว
(เสียงเปิดประตู)
“กลับมาแล้วครับ”
“หืม? ทำไมกลับซะค่ำเชียว ไปสำรวจถึงไหนมา?” ลุงคาร์เตอร์เอ่ยถาม
“ก็… เจอคนรุ่นราวคราวเดียวกัน เลยนั่งคุยกันนิดหน่อยก่อนกลับน่ะครับ” ไอแซกซ์ตอบ
“งั้นเหรอ… เจอคนวัยเดียวกันก็ดีแล้ว” คาร์เตอร์พึมพำเบาๆ เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง
สักพัก เขาก็เปลี่ยนเื่ “จริงสิ อีกไม่นานสถาบันเวทย์มนตร์ของเมืองเราจะเปิดรับสมัครแล้วนะ สนใจไปลองดูไหม?”
“โรงเรียนเวทย์มนตร์…” ไอแซกซ์ชะงัก ภาพความทรงจำเก่าๆ ที่เคยโดนกลั่นแกล้งในโลกก่อนแล่นเข้ามา แต่เขารีบสะบัดความคิดนั้นออกไป
“ไอแซกซ์? เป็อะไรไป?” คาร์เตอร์เอ่ยถามเมื่อเห็นเขาเงียบ
“อะ… อ้อ ครับ! สนใจครับ!” ไอแซกซ์รีบตอบตะกุกตะกัก
คาร์เตอร์ยิ้ม “ดีเลย เห็นว่าเขาจะเปิดรับสมัครพรุ่งนี้พอดี จะไปลองดูกันเลยไหม?”
“ครับ!” ไอแซกซ์ตอบทันที คราวนี้ด้วยแววตาที่มุ่งมั่น
คืนนั้นก่อนนอน ภาพเด็กสาวที่ชื่อเอลีเซียยังวนเวียนในความคิดของเขา “เธอ… จะมาสมัครเหมือนกันรึเปล่านะ”
เช้าวันถัดมา ไอแซกซ์ตื่นั้แ่ฟ้ายังไม่สว่าง ความตื่นเต้นทำให้เขาแทบไม่ได้นอนทั้งคืน หลังเตรียมตัวเสร็จ เขารีบตรงไปยังสถาบันเวทย์มนตร์
ประตูทางเข้าสูงตระหง่านราวกับปราสาท ข้างในคลาคล่ำไปด้วยเด็กหนุ่มสาวจากทั่วสารทิศ บางคนแต่งกายหรูหราบ่งบอกถึงตระกูล ขณะที่บางคนก็เรียบง่ายแต่แววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
สายตาของไอแซกซ์พลันหยุดลงเมื่อเห็นร่างคุ้นเคยในกลุ่มผู้คน—เอลีเซีย
“นั่นเธอนี่นา…”
“เฮ้! เอลี–” ไอแซกซ์ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกใครบางคนผลักจนล้มลงกับพื้น
“ไอ้หมอนี่! คิดจะตีสนิทกับเอลีเซีย ทั้งที่เป็แค่สามัญชนกระจอกงั้นเรอะ?” เสียงชายหนุ่มผู้หนึ่งดังขึ้น เขาสวมชุดเครื่องแบบตัดเย็บอย่างดี แววตาเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง
“เดนนิส! ทำอะไรของนาย?” เอลีเซียหันมามองด้วยความไม่พอใจ
“ก็ไอหมอนี่สิ อยู่ๆ ก็โผล่มาทำเป็สนิทกับเธอ ฉันก็แค่กันไม่ให้พวกไร้ค่าเข้ามาใกล้เท่านั้นเอง” เดนนิสตอบ
เอลีเซียจ้องหน้าเขา “นี่มันเกินไปแล้วนะเดนนิส”
“โธ่… เธอนี่ชอบใจดีกับสามัญชนจริงๆ” เดนนิสหัวเราะเยาะก่อนจะปรายตามองไอแซกซ์ด้วยแววตาเหยียดหยาม “วันนี้แกโชคดีไป”
เขาหันหลังเดินจากไป ทิ้งบรรยากาศตึงเครียดไว้เื้ั
เอลีเซียรีบยื่นมือให้ไอแซกซ์ “ไม่เป็ไรนะ?”
“ผมไม่เป็ไรครับ แค่นี้เอง” ไอแซกซ์ปฏิเสธ มือเขาสั่นเล็กน้อย แต่ก็ฝืนลุกขึ้นด้วยตัวเอง
“ต้องขอโทษแทนเขาด้วยนะ” เอลีเซียพูดเสียงแ่
“ไม่จำเป็ต้องขอโทษหรอกครับ… มันไม่ใช่ความผิดของคุณ” ไอแซกซ์ตอบด้วยรอยยิ้มบาง
ทันใดนั้น เสียงประกาศเรียกรวมดังก้องไปทั่วลาน “นักเรียนทุกคน โปรดเข้ามาในอาคารเพื่อเริ่มการคัดเลือก!”
เอลีเซียหันมายิ้ม “งั้นไว้เจอกันข้างในนะ”
“ครับ ไว้เจอกัน” ไอแซกซ์ตอบ ก่อนจะมุ่งหน้าเข้าสู่สถาบันที่อาจเปลี่ยนชะตาชีวิตของเขาตลอดไป…