ชุนเซียงได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจึงมองไป เห็นบุรุษสองคนหยุดยืนอยู่ไม่ไกล เป็คุณชายสามกับ...นั่นไม่ใช่จ้าวหรงเติงผู้มีชื่อเสียงฉาวโฉ่หรอกหรือ?
“คุณหนูเ้าคะ พวกเราเดินไปทางโน้นกันเถิด”
“เป็อะไรหรือ?” อวิ๋นซูมองไปอย่างกระตือรือร้น เห็นใบหน้าของหลิ่วอวิ๋นฮั่นแย้มยิ้มชั่วร้าย
“วันหน้าหากเห็นบุรุษที่อยู่ข้างกายคุณชายสาม จะต้องหลบให้ไกลเลยนะเ้าคะ ยืนอยู่กับคนเช่นนี้ เชื่อคุณหนูแห่งจวนโหวจะเสียหายหมดเ้าค่ะ”
ได้ยินคำพูดของชุนเซียง อวิ๋นซูพลันนึกไปถึงแววตาของหลิ่วอวิ๋นฮั่นเมื่อคืน ในใจยิ่งระมัดระวังขึ้นหลายส่วน
อีกด้านหนึ่งภายในห้อง
หลิ่วอวิ๋นเหยากำลังเดินเล่นอยู่กับสาวใช้หลายคนในสวนดอกไม้ ทันใดนั้นตรงมุมหนึ่งมีมือคู่หนึ่งยื่นออกมาปิดปากนางไว้แน่น “อื้อๆๆ ...”
“ว้าย! คุณหนู!” เหล่าสาวใช้พลันตกตะลึง รีบไล่ตามไปอย่างร้อนรน ไม่คิดว่าจะเจอเข้ากับหลิ่วอวิ๋นฮั่นที่มีใบหน้าเหี้ยมเกรียม ทันใดนั้นพวกนางพลันหน้าเปลี่ยนสีไม่กล้าส่งเสียงอีก
หลิ่วอวิ๋นเหยารู้สึกเพียงว่าตนเองใกล้จะขาดอากาศ นางถูกพาไปยังห้องห้องหนึ่ง หลิ่วอวิ๋นฮั่นผลักนางอย่างหยาบคาย สตรีนางนั้นหวาดกลัวจนขดตัวไปด้านหนึ่ง “พี่สาม...นี่...เหตุถึงจับอวิ๋นเหยามาที่นี่...”
เหตุใดตนเองถึงได้ซวยเช่นนี้ แต่นางยังไม่ได้ไปหาเื่พี่สามเลยนะ!
“เงียบหน่อย แน่นอนว่ามีเื่ที่้าให้เ้าไปทำแทนข้า!”
หลิ่วอวิ๋นฮั่นหยิบขวดกระเบื้องออกมาจากแขนเสื้ออย่างไม่สบอารมณ์ พริบตาเดียวก็ยัดเข้าไปในมือของดรุณีน้อย
“นี่...นี่คืออะไรเ้าคะ?”
“ย่อมเป็ของดี! เย็นวันนี้ เ้าจงนัดนังนั่น...ก็คือพี่หกของเ้าไปที่สวนดอกไม้ด้านหลัง จัดเตรียมของทานเล่นด้วย เทเ้านี่ไปในชาของนางหรือจะเทในอาหารของนางก็ได้ แค่นี้ก็พอ!”
“คงไม่ใช่ยาพิษหรอกนะเ้าคะ? หากท่านย่ารู้เข้า อวิ๋นเหยา... อวิ๋นเหยาต้องตายแน่!”
“ไม่ใช่ยาพิษ! ถ้าเ้าไม่ทำ ข้าก็จะให้เ้าตายตอนนี้เลย ไม่ต้องรอให้ท่านย่ารู้หรอก” กล่าวจบ หลิ่วอวิ๋นฮั่นก็ชูกำปั้นขึ้นมา แววตาอันตรายทำให้อวิ๋นเหยากรีดร้องพลางถอยไปข้างหลัง
“หนวกหู!”
เพราะถูกตะคอก ดรุณีน้อยจึงเงียบลงโดยพลัน ทำเพียงสูดจมูกฟืดฟาด
“ทำไม? หรือว่าเ้าไม่เกลียดนังเด็กนั่น พวกเ้าล้วนเป็ลูกอนุ แต่ท่านย่ากลับรักนางคนเดียว หยกก้อนใหญ่ขนาดนั้น ท่านย่าเคยให้เ้าหรือ?” หลิ่วอวิ๋นฮั่นเริ่มนึกถึงคำพูดของท่านโหว หาก้าให้คนคนหนึ่งเต็มใจจะทำงานให้ ก็ต้องรู้ว่าคนเหล่านี้้าอะไร แล้วก็ให้สิ่งนั้นแก่เขา
ใช่แล้ว นางยังไม่เคยได้รับของที่ท่านย่ามอบให้เลย ยังจำตอนที่พบคุณหนูหกครั้งแรกได้ บนกายนางสวมชุดสาวชาวบ้านทำจากผ้าป่านหยาบ นิสัยหรือก็ขี้ขลาด นางเห็นกระโปรงงดงามบนร่างของตน สายตาก็ฉายแววอิจฉาออกมา
จิตใจที่รักสวยรักงามของหลิ่วอวิ๋นเหยาพลันได้รับการเติมเต็ม ต้องทราบว่าเหล่าพี่สาวหลายคนนั้นล้วนสวมชุดที่ดีกว่านาง แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยมีผู้ใดอิจฉานางมาก่อน
“เช่นนั้น...ของสิ่งนี้คืออะไร?”
“ของสิ่งนี้สามารถทำให้เด็กนั่นเจ็บจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ เพียงแค่เ้าทำตามนี้ กลับไปข้าจะให้ท่านแม่ส่งเครื่องประดับและเสื้อผ้าสวยๆ มาให้เ้า”
“จริง...จริงหรือ?”
“แน่นอน พี่สามพูดคำไหนคำนั้น!” มุมปากของหลิ่วอวิ๋นฮั่นยกขึ้นเล็กน้อย
หลิวอวิ๋นเหยาออกมาจากห้อง กำขวดกระเบื้องในมือแน่น เหล่าสาวใช้นั้นคอยเฝ้าอยู่ด้านนอกตลอด ตอนแรกได้ยินเสียงคุณหนูของตนร้องไห้ ใจนเกือบจะวิ่งไปตามอนุรอง ครู่เดียวเสียงร้องไห้ก็หายไป พวกนางได้แต่คิดว่าคุณชายสามฆ่าคุณหนูไปแล้วหรือไม่ พลันแข้งขาอ่อนแรง ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
“คุณหนู ท่านไม่เป็อะไรใช่หรือไม่เ้าคะ? คุณชายสามไม่ได้ทำอะไรคุณหนูใช่หรือไม่?”
เหล่าสาวใช้ผลัดกันพูดผลัดกันถาม ใบหน้าของหลิ่วอวิ๋นเหยาไม่น่ามองนัก “ไม่ ไม่มีอะไร”
ใจดวงน้อยๆ ของนางกังวลอยู่ตลอดเวลา มาตอนนี้ถึงรู้สึกเสียใจที่เมื่อครู่ตอบรับคำพี่สามอย่างสบายใจขนาดนั้น นางทราบว่า พี่สามจะต้องโกรธพี่หกเพราะเื่เมื่อคืนเป็แน่ เหตุใดตนเองจึงได้ซวยเช่นนี้ เดินเล่นในสวนดอกไม้อยู่ดีๆ ก็ถูกพี่สามจับตัว
กลับไปถึงในห้อง อนุรองก็รอนางอยู่นานแล้ว “อวิ๋นเหยา เ้ากลับมาแล้ว”
มีเพียงตอนที่อยู่ในเขตเรือนของตนเองเท่านั้น อี๋เหนียงจึงจะสามารถเรียกชื่อของเหล่าคุณหนูได้ ต่อหน้าฮูหยินต้องเรียกหลิ่วอวิ๋นเหยาว่าคุณหนูเจ็ด
“อี๋เหนียง...”
“มาๆๆ เ้ารีบมาดูสิ นี่อะไร?”
บนโต๊ะมีหีบไหมวางอยู่ หลิ่วอวิ๋นเหยาเดินเข้าไปด้วยความสงสัย ภายในมีปิ่นปักผมอันหนึ่งและต่างหูคู่หนึ่ง! “สวยมากเลยเ้าค่ะ!”
“นี่คือของที่ฮูหยินส่งมาให้ วันนี้ไม่รู้ว่าลมอะไรพัดมา ถึงกับบอกว่าเครื่องประดับของเ้าน้อยเกินไป แล้วเรียกให้คนส่งสองสิ่งนี้มา อี๋เหนียงมองแล้ว สองสิ่งนี้มีราคาไม่น้อยเลย”
หลิ่วอวิ๋นเหยาในตอนนี้โยนความกังวลเมื่อครู่หายไปในกลีบเมฆเรียบร้อยแล้ว หยิบปิ่นเล่มนั้นขึ้นมาประดับผมของตน ทั้งยังหยิบต่างหูมาเทียบ
เมื่อเทียบกับพี่สี่แล้ว ในสายตาของอี๋เหนียง ตนเองค่อนข้างโง่เขลา บ้านเดิมของอี๋เหนียงก็นับว่าเป็ครอบครัวที่มั่งคั่ง แต่เครื่องประดับและเสื้อผ้าของพี่สี่ล้วนแต่มากกว่าตนเอง ในใจของหลิ่วอวิ๋นเหยาคิดมาตลอดว่า ทั่วทั้งจวนโหวตนเองเป็ลูกอนุภรรยาที่สภาพย่ำแย่ที่สุดคนหนึ่ง
แต่เมื่อหลิ่วอวิ๋นซูปรากฏตัว ลูกอนุที่เกิดมาก็ไม่มีอี๋เหนียงผู้นั้นทำให้หลิ่วอวิ๋นเหยารู้สึกว่าในจวนโหวยังมีคนที่น่าอนาถกว่าตนเองอยู่ ช่างดียิ่ง
ทว่าพี่หกกลับได้รับความโปรดปรานจากฮูหยินผู้เฒ่าได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ ฐานะก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว หลิ่วอวิ๋นเหยาถูกโจมตีเสียจนไม่มีชิ้นดี กระทั่งอี๋เหนียงของตนก็กล่าวว่าพี่หกฉลาดมาก
ฮึ ฉลาดแล้วอย่างไร วันนี้ไปล่วงเกินพี่สามเข้า นางได้เจอดีแน่! ณ เวลานี้ นางมองใบหน้าอันงดงามในกระจก หลิ่วอวิ๋นเหยาตัดสินได้ใจแล้ว
ภายในเรือนไผ่ ชุนเซียงและเซี่ยเหอกำลังฟังคำพูดของอวิ๋นซูด้วยความประหลาดใจ พวกนางคิดไม่ถึงว่าคุณหนูหกจะรู้เื่ราวที่พวกนางไม่เคยได้ยินมาก่อนมากมายเช่นนี้
ภายในสวนดอกไม้หลังเรือนไผ่ เมื่อมองผ่านๆ ไปบนพื้นหญ้าก็คล้ายกับไม่มีอะไรผิดสังเกต แต่หากพิจารณาอย่างจริงจังจะพบว่าที่นี่ถูกแบ่งออกเป็หลายส่วน แต่ละส่วนพืชที่ปลูกไว้ด้านในก็ไม่เหมือนกัน
พืชพวกนี้คือสมุนไพรที่อวิ๋นซูเก็บกลับมาจากูเาด้านหลังวัดเทียนฝู ตอนนี้นำมาปลูกเข้าไปในสวนดอกไม้ของตน
“คุณหนูเ้าคะ คุณหนูเจ็ดรออยู่ในห้องเ้าค่ะ” อวี้เอ๋อร์เดินมาจากระเบียง อวิ๋นซูรู้สึกประหลาดใจ คุณหนูเจ็ดหรือ?
เมื่ออวิ๋นซูเหยียบย่างเข้าสู่ประตูห้อง ดรุณีน้อยผู้นั้นก็ออกมาต้อนรับอย่างอบอุ่น “พี่หก!”
หลิ่วอวิ๋นเหยาในตอนนี้สวมชุดงดงามยิ่งนัก ปิ่นทองบนผมของนางเปล่งประกายวิบวับ ต่างหูสีแดงเข้มคู่นั้นก็สวยงามน่ามอง
“น้องเจ็ด” อวิ๋นซูตอบรับเรียบๆ นางไม่ได้สนิทสนมอะไรกับน้องเจ็ดคนนี้ หากไร้เื่ร้อนใจคงไม่ถ่อไปวัด1
“พี่หกกำลังยุ่งอะไรอยู่หรือเ้าคะ? ข้ามาหาคงไม่รบกวนท่านใช่ไหมเ้าคะ?”
ใบหน้าไร้เดียงสาแย้มยิ้ม ทว่าอวิ๋นซูกลับเห็นทุกสิ่งทุกอย่างได้จากสายตาของนาง
หากเทียบกับคุณหนูเจ็ดจวนชางติ้งโหว ความไร้เดียงสาของหลิ่วอวิ๋นเหยาดูจงใจเสียมาก
“ข้ากำลังว่าง ไม่มีอะไรทำ จึงไปปลูกดอกไม้เ่าั้”
“ตอนเย็นพี่หกว่างหรือไม่เ้าคะ? เหยาเอ๋อร์ไม่เคยร่วมโต๊ะกับพี่หกมาก่อนเลย! ให้พวกบ่าวเตรียมขนมอร่อยๆ ไว้แล้ว พี่หกคงไม่ปฏิเสธเหยาเอ๋อร์กระมัง?”
อวิ๋นซูไม่ได้ตอบ ทำเพียงมองไปยังชุนเซียงที่อยู่ข้างกายตน
หลิ่วอวิ๋นเหยาใจเต้นตึกตัก เมื่อก่อนพี่ชุนเซียงเป็บ่าวในเรือนท่านย่า ทั้งยังฉลาดเฉลียวยิ่งนัก เกิดกลัวว่าตนจะถูกนางจับพิรุธอะไรได้
“คุณหนูเ้าคะ วันนี้ในเรือนของฮูหยินผู้เฒ่าไม่ได้ส่งคนมา ยามเย็นควรจะมีเวลาอยู่เ้าค่ะ”
“เช่นนั้นก็ดี ขอบคุณน้องเจ็ดมาก”
“ดีเหลือเกิน! พี่หก ข้าจะรอท่าน!” กล่าวจบ ดรุณีน้อยก็วิ่งออกไปอย่างมีความสุข
อวิ๋นซูค่อยปรับท่าทางให้ผ่อนคลายลง ในสายตาของชุนเซียงดูลึกล้ำอยู่มาก “คุณหนูหกเ้าคะ ปิ่นปักผมเล่มนั้น บ่าวเคยเห็นฮูหยินใช้เ้าค่ะ”
เหลยซื่ออย่างนั้นหรือ? มุมปากของนางยกยิ้มเย็นะเื คนพวกนั้นไม่ยอมหยุดจริงๆ
พระอาทิตย์ตกดิน ส่องแสงสีแดงเรื่อไปครึ่งฟ้า ราวกับยินเสียงนกน้อยบินกลับรังแว่วมา
บนพื้นหญ้าที่สวนดอกไม้ด้านหลัง ดรุณีน้อยนางหนึ่งรอคอยอย่างตึงเครียด สายตาของนางจับจ้องไปยังถ้วยชาฝั่งตรงข้าม รู้สึกกระวนกระวายใจ
“น้องเจ็ด”
เสียงอันสงบนิ่งดังมาจากข้างหลัง หลิ่วอวิ๋นเหยาลุกขึ้นยืน รีบเปลี่ยนเป็ท่าทีแย้มยิ้มอย่างดีใจ “พี่หก”
อวิ๋นซูยิ้มบางๆ เป็การตอบรับ นั่งลงตรงข้ามหลิ่วอวิ๋นเหยาตามที่สาวใช้นำทาง
“พี่หกมาตรงเวลาพอดี วันนี้เหยาเอ๋อร์เตรียมของกินเอาไว้เยอะเลยเ้าค่ะ! มา ลองชิมขนมชิ้นนี้ดู!”
นางตักขนมชิ้นหนึ่งให้อวิ๋นซูด้วยตัวเอง ทว่าเมื่อเบนสายตาขึ้นกลับพบกับดวงตาอันลึกล้ำของอีกฝ่าย ไม่รู้ว่าเหตุใดใจถึงได้ขลาดเขลาขึ้นมา มือสั่นระริก ขนมอ่อนนุ่มก้อนนั้นก็ลื่นหลุดออกจากตะเกียบ
“ตายแล้ว!”
“น้องเจ็ด เมื่อครู่ข้าพบพี่สามในเขตเรือนด้วย”
หลิ่วอวิ๋นเหยาหน้าเปลี่ยนสี ริมฝีปากซีดขาว “พะ พี่สาม เขาพูดอะไรหรือเ้าคะ?”
อวิ๋นซูมองปฏิกิริยาของนาง ส่ายศีรษะ “ไม่ได้พูดอะไรนี่”
มีสาวใช้ผู้หนึ่งเดินเข้ามารินชาให้พวกนาง ชุนเซียงรีบไปยืนข้างกายของอวิ๋นซู “ให้ข้ารินให้เองเถิด”
ดวงตาของหลิ่วอวิ๋นเหยาจ้องมองกาน้ำชาอย่างไม่เป็ธรรมชาติ อวิ๋นซูพลันเข้าใจกระจ่าง ทว่ากลับขบขันอยู่บ้าง เหตุใดหลิ่วอวิ๋นฮั่นจึงได้หาเด็กน้อยที่ไม่รู้จักเก็บอาการผู้นี้มาทำเื่พรรค์นี้ เป็เพราะรู้สึกว่าอวิ๋นเหยาจัดการได้ค่อนข้างง่ายหรือ?
“ขนมพวกนี้แห้งอยู่บ้าง พี่หกดื่มชาก่อนเถิดเ้าค่ะ” คงมิใช่ว่าพี่สามมาดูว่าตนเองลงมือหรือไม่หรอกนะ? หากผิดพลาดขึ้นมา เขาจะต้องฆ่าตนแน่
“อืม” หลิ่วอวิ๋นเหยามองสตรีตรงข้ามอย่างแปลกประหลาด นางยกถ้วยชาขึ้น แกว่งถ้วยชาเบาๆ แต่กลับไม่ดื่ม “มะ มีอะไรหรือเ้าคะ?”
อวิ๋นซูแย้มยิ้ม “ได้เรียนรู้มาจากท่านย่าว่า แกว่งเบาๆ เช่นนี้ จะทำให้ความหอมของชาแผ่ออกมา”
ที่แท้ก็เป็เช่นนี้...
น้ำชาแผ่กลิ่นแปลกๆ ออกมา อวิ๋นซูย่อมทราบว่าเป็หยางหงซาน2 มักจะถูกแม่นางในหอนางโลมใช้อยู่บ่อยครั้ง ใช้รั้งแขกได้ดีนัก ไม่คิดเลยว่าหลิ่วอวิ๋นฮั่นจะถึงกับใช้ยาชั้นต่ำเช่นนี้
หลิ่วอวิ๋นเหยาจ้องนางเขม็ง อวิ๋นซูถามอย่างแปลกใจ “น้องเจ็ดไม่ดื่มหรือ?”
“เอ๋? ข้า ข้าดื่ม!” นางพลันใช้กาน้ำชาข้างมือรินชาถ้วยหนึ่งแล้วยกขึ้นดื่ม จากนั้นจึงยิ้มออกมาอย่างขอโทษ
**************************
คำอธิบายเพิ่มเติม
[1] ไร้เื่ร้อนใจไม่ถ่อไปวัด หมายถึง หากไม่้าบางสิ่งก็คงไม่เดินทางมาหา
[2] หยางหงซาน เป็สมุนไพรจีนชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์คล้ายยาปลุกเซ็ก