“ฝากนายท่านของข้าให้ท่านดูแลด้วย~~~~”
“ดูแลนายท่านของข้าด้วย~~~~~~”
พรึบ
“เฮือก!!”ผมสะดุ้งดีดตัวลุกขึ้นอย่างด้วยความใที่ตื่นจากความฝัน ที่ในฝันของผมฝันถึงเมียงเรผู้หญิงผมยาวคนเมื่อคืนนี้ ในฝันเธอมาบอกผมว่าให้ผมดูแลพี่เข้ม
อย่าให้พี่เข้มหลงเชื่ออะไรผู้หญิงผิวขาวนวลผ่องคนนั้นเด็ดขาดเธอคนนั้นจะนำพาความเดือดร้อนและความทุกข์ทรมานมาให้แก่พี่เข้ม
พรึบ
“เฮือก!”ผมสะดุ้งโหยงสุดตัวอีกครั้งเมื่อััหนักๆวางลงบนไหล่ของผม ผมจึงหันไปมองคนที่นอนอยู่บนแคร่ไม้ไผ่เดียวกันด้วยสีหน้าตื่นใ
พี่เข้มก็มองผมด้วยสายตาเป็ห่วงปนสงสัยว่าผมเป็อะไรไป ถึงได้สะดุ้งลุกขึ้นนั่งขนาดนี้
“ร้อนเหรอ…เหงื่อโทรมกายเชียว?”พี่เข้มเอ่ยถามผมพร้อมกับยื่นมือมาเช็ดคราบน้ำเหงื่อที่เปียกโชกไปทั่วทั้งร่างกายของผมตามที่พี่เข้มบอกจริงๆนั้นแหละ
พรึบ
ผมคว้ามือพี่เข้มไปพร้อมกับกำมือเขาแน่นแววตาสั่นไหวจับจ้องมองไปในแววตาสีดำของเขา
“เมียงเร….มาเข้าฝันผม…เธอบอกให้ผมดูแลพี่เข้ม…”
“อย่าห่วงไป…ข้าดูแลตัวเองได้…^_^”พี่เข้มว่าเสียงใสพร้อมกับคลี่ยิ้มบางๆให้ผม แต่รอยยิ้มของเขาไม่ได้ทำให้ผมใจชื้นขึ้นมาเลยสักนิด ถ้าเมียงเรมาเตือนขนาดนี้ แสดงว่าต้องมีอันตรายอันใหญ่หลวงเกิดขึ้นกับพี่เข้มจริงๆแน่
พรึบ
“นอนเถอะ…อย่าคิดมาก…ข้าไม่เป็อะไรหรอก…”พี่เข้มว่าเสียงอ่อนโยนพร้อมกับเกี่ยนิ้วโป้งแ่เบาสีไปมากับแก้มของผม ผมก็พยักหน้าเป็อันรับรู้ก่อนจะค่อยๆเอนตัวลงนอนกลับไปตามเดิม โดยมีพี่เข้มค่อยๆทิ้งตัวลงนอนตามมาด้วย
โดยที่เราทั้งคู่หันหน้าเข้าหากันและพี่เข้มก็ยื่นมือมาโอบกอดเอวผม ปลายจมูกของเราแตะกัน เราทั้งคู่ต่างพากันพ่นลมหายใจใส่กันและกัน ก่อนที่ผมจะค่อยๆปิดเปลือกตาลงและเข้าสู้ห้วงนิทราไปในที่สุดอีกครั้ง เพราะพี่เข้มลูบแผ่นหลังอย่างแ่เบาเพื่อทำการกล่อมให้ผมหลับ ผมก็กลับอย่างใจที่สบายลงไม่ทุกข์ร้อนอย่างเช่นหน้านี้
เช้าวันต่อมา….
บ้านพรานเข้ม….
“ทำอะไร?”พี่เข้มเอ่ยถามผมอย่างสงสัยที่เขาเห็นผมกำลังยืนอมน้ำและทำการกลั้วปากอยู่ เพราะไม่ได้แปรงฟันหลายวันรู้สึกไม่ค่อยดียังไงไม่รู้
“ถุย!”ผมถุยน้ำในปากลงสู้พื้นดินหน้าบ้านพี่เข้มและหันกลับไปมองหน้าพี่เข้มที่เขาจ้องมองผมอยู่อย่างไม่วางตา
มีผ้าขาวม้าหลายสีพาดอยู่บนไหล่ของพี่เข้มทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่าเขา้าที่จะอาบน้ำในโอ่งด้านหน้าบ้านของเขาที่ผมกำลังยืนอยู่เป็แน่
“ก็ผมทำความสะอาดโพรงปากน่ะครับ…ปกติผมจะต้องแปรงฟันทุกวันแต่พอมาอยู่ที่นี่กลับไม่ได้แปลงฟันเลย…”ผมบอกพี่เข้มเอ่ยเอื่อยๆ ใจหนึ่งก็อยากจะกลับบ้านเต็มแก่ แต่ทำไงได้ในเมื่ออีกใจผมอยากอยู่กับผู้ชายคนตรงหน้าของผมมากกว่า
“ไว้ข้าเอาเนื้อสัตว์ไปขายในเมือง…แล้วข้าจะไปซื้อแปลงสีฟันและยาสีฟันมาให้เอ็งก็แล้วกันนะ”พี่เข้มว่าเสียงปกติหน้าตาเรียบเฉยแต่คำพูดของเขากลับทำให้ผมยิ้มกริ่มขึ้นมาอย่างดีใจที่พี่เข้มเอาใจใส่ผมขนาดนี้
“ขอบคุณล่วงหน้าล่ะกันครับ^^”
“อืม…วันพรุ่งนี้ข้าจะเข้าป่า…ไปล่าสัตว์…เพราะเสบียงที่บ้านก็เริ่มร่อยหรอ…”พี่เข้มว่าพร้อมกับเอื้อมมือลงไปในโอ่งเพื่อจะหยิบขันและตักน้ำขึ้นมาอาบชำระร่างกาย
ผมก็พยักหน้าให้เขาก่อนจะเดินออกมาจากที่ตรงนั้นเดินมุ่งไปหาลุงสิงห์ที่นั่งอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ตัวเดิมเพิ่มเติมคือวันนี้แกอารมณ์ดีเป็พิเศษนะ
“วันนี้เป็อะไรครับ…มองอารมณ์ดีจัง?”ผมนั่งลงพร้อมกับเอ่ยถามลุงสิงห์ไปด้วยน้ำเสียงสุภาพ ลุงแกก็มองหน้าผมและยิ้มหวานให้ผม
“ก็ไม่มีอะไร…ข้าก็อารมณ์ดีทุกวัน….”ลุงสิงห์ว่าพลางก้มหน้าลงไปจกข้าวเหนียวขึ้นมาใส่ปากพร้อมกับเคี้ยวกุบๆไปด้วยรอยยิ้มหวาน ผมก็มองหน้าแกอย่างงงๆแต่ก็ไม่ได้อะไรกับแกมาก ก็ลงมือกินข้าวเหนียวตรงหน้าของผมต่อเพื่อเป็อาหารมื้อเช้านี้
เพราะเห็นว่าตอนส่ายๆพี่เข้มจะพาผมไปที่ๆหนึ่ง ตามคำพูดที่เขาบอกผมเมื่อคืนนี้ว่าเขาจะพิสูจน์ให้ผมดู ว่าผมอยู่ที่ไหน และที่นี่ไม่ใช่ที่ที่ผมอยู่และผมก็ไม่สามารถที่จะกลับไปยังที่ที่ผมจากมาได้ด้วย
2ชั่วโมงต่อมา…
ตึกๆๆๆ
“เราจะเดินไปอีกไกลไหมครับ…พี่เข้ม..?”ผมเอ่ยถามพี่เข้มไปพลางมองสำรวจรอบๆของป่ารกทึบไปด้วย
ที่นี่เป็ป่าที่จัดว่าอุดมสมบูรณ์มากๆเพราะผมไม่เคยเห็นป่าที่ไหนเขียวขจีเท่ากับที่นี่มาก่อนเลย
แต่เอ๊ะ ผมเคยเดินสำรวจกับทางกรมป่าไม้มาแล้วหนิแต่ไม่เคยเห็นป่าโซนนี้เลยเสียด้วยซ้ำ
“ไม่ไกล….อีกห้าร้อยเมตรจะถึงใจกลางของที่ตั้งูเาสองลูกแล้ว…”พี่เข้มที่เดินนำหน้าผมอยู้เอ่ยบอกผมขึ้นแต่เขาไม่ได้หันกลับมามองหน้าผมที่เดินตามแผ่นหลังเขาต่อยๆ
“ที่ตั้งของูเาสองลูก?…ูเาภูดาวใช่ไหมครับ?”ผมถามพี่เข้มไปเสียงเข้มอย่างใและรีบเร่งฝีเท้าให้ทันพี่เข้ม
ตอนนี้ผมหายเจ็บระบมก้นของผมไปแล้ว เพราะผมได้ทานสมุนไพรที่พี่เข้มต้มให้ผม ผมกินไปแค่สองมื้อหลังอาหารก็หายเป็ปลิดทิ้งไปเลย เหมือนมันไม่เคยเจ็บมากก่อน เหมือนกับที่แผลที่ท้องของผมนั่นแหละ
พรึบ
“ถึงแล้ว…ที่นี่แหละกึ่งกลางของูเาสองลูกที่อยํ่ติดกัน…”
“ที่เขาเรียกขานกันว่า…ูเาภูดาว…”พี่เข้มเอ่ยขึ้นหลังจากที่เขาหยุดฝีเท้าลง ผมก็มองไปรอบๆที่แห่งนี้
ที่ที่พี่เข้มบอกว่ามันเป็ก้นและตรงกลางของูเาสองลูก ตรงที่ผมมาซุ่มดักจับพวกทรยศชาติและเป็ที่เดียวกับที่ผมถูกลอบทำร้ายาเ็ปรางตาย
ผมหันไปมองที่รอบๆที่ไร้ความว่างเปล่า มีเพียงแค่ต้นหญ้าขึ้นอยู่รกเต็มบริเวณพื้นดิน ผิดกับที่ผมเห็นตอนนั้น ที่เคยมีเต้นท์ตั้งแค้มหลบพักแรมอยู่ก็ไม่มี
แต่กลับมีร่องรอยของการต่อสู้ มีรอยเืที่เพิ่งจะเกิดขึ้นได้เพียงไม่กี่วันที่แล้วปรากฏอยู่รอบๆบริเวณนี้และซากเศษเสื้อผ้าที่คุ้นตาผมปรากฏอยู่ ทำให้ผมเอื้อมมือลงไปหยิบเศษชิ้นของเสื้อสีกากีประจำของตำรวจขึ้นมาดู ก็ต้องถึงกับใกับสิ่งที่เกิดขึ้น
รอยฉีกขาดของเสื้อและคราบเืที่ติดอยู่ กลิ่นเหม็นคาวผสมกับกลิ่นเน่าเหม็นที่ชวนอ้วกทำให้ผมผะอืดผะอมขึ้นมา พี่เข้มก็เดินห่างออกไปจากผมเพื่อไปหาร่องรอยอื่นๆ ผมก็มองไปรอบๆอีกครั้งเพื่อมองหาซากของเต้นท์
ขนาดเสื้อผ้ายังหลงเหลือแต่ทำไม่ซากเต้นท์กลับไม่มีหลงเหลือให้เห็น
ปืนกลหลายกระบอกวางกันอยู่อย่างกระจัดกระจายผมจึงเดินไปหยิบปืนกลขึ้นมาดู
ก็พบกับความคุ้นตา ว่านี่เป็ของตำรวจชุดที่มากับผมแน่นอนผมจึงมองต่ำลงไปที่พื้นเพื่อหาลูกะุ
และก็พบกับกล่องะุหลายสิบกล่องที่วางระเนียระนาดอยู่เกลื่อนไปหมด ผมก้มลงไปเก็บเพื่อจะใช้เป็อาวุธ
และสิ่งที่ทำให้ผมแทบจะล้มทั้งยืนก็คงจะเป็ศีรษะที่มีเส้นผมอยู่เต็มหัวและดวงตาที่เบิกโตขึ้น ศีรษะตรงหน้าผมมันไม่ร่างอยู่เพราะศีรษะถูกตัดออกจากร่างกาย
เป็การตายที่น่าเวทนาที่สุด
และใบหน้าเ้าของของศีรษะอันนี้ก็เป็คนที่คุ้นตากับผม
เขาคือหัวหน้าแก๊งลักลอบขนยาเข้าประเทศเพื่อไปจำหน่ายและยังเป็พ่อของไอ้ปลิวอีกด้วย
“คนเลวๆแบบแก…ตายแบบนี้ยังไม่ทรมานเสียด้วยซ้ำไป…”ผมกดเสียงทุ้มต่ำพูดออกไปอย่างเครียดแค้น คนเลวๆแบบพวกมันมีจุดจบที่น่าสมเพชเวทนาแบบนี้น่ะ มันยังไม่สะใจผมเสียด้วยซ้ำ และมันยังไม่พอกับบาปกรรมที่พวกมันก่ออีกด้วย
“ทีนี้เชื่อข้าหรือยัง…ว่าเอ็งและไอ้คนพวกนี้ไม่ใช่คนในยุคสมัยนี้….”พี่เข้มเดินกลับมาพร้อมกับปืนพกสั้นในมือสองกระบอกพร้อมกับเอ่ยถามผม ผมก็มองหน้าเขาด้วยความอยากรู้ว่ามันเกิดเื่ผิดธรรมชาติแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไงกัน
หรือเป็เพราะเ้าป่าเ้าเขาของที่นี่จะโกรธแค้นไอ้คนเลวที่ทรยศชาติบ้านเมืองจึงทำโทษพวกมันให้มาตายอย่างทุเรศทุรังเช่นนี้
“เอ็งคงจะรู้ดี…ว่าไอ้คนพวกนี้มันตายด้วยวิธีอะไร?”
“และใครที่เป็คนฆ่าพวกมันให้ตายอย่างน่าสมเพชเวทนาเช่นนี้…”พี่เข้มเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงเรียบๆผมก็มองเขาด้วยแววตาสั่นไหวก่อนจะหันไปมองรอบๆที่แห่งนี้อีกครั้ง
ผมรู้ว่าคนพวกนี้ตายเพราะอะไร และตายยังไง เพราะสิ่งสุดท้ายที่ผมได้ยิน คือเสียงร้องโหยหวนที่ทุกข์
ทรมานที่สุดจากคนพวกนี้ ผมจดจำเสียงนั้นได้อย่างไม่มีวันลืม
