ใต้แสงนวลสลัวจากตะเกียงในยามอิ๋น[1] กลุ่มเมฆาทึบทะมึนก่อตัวขึ้นกลางหอนอน ‘ถิงถิง’ เฝ้ามองการขยับไหวของหมอกเมฆา แปรเปลี่ยนเป็บุรุษร่างสูงสง่าในอาภรณ์สีนิล
ร่างโปร่งใสนี้สามารถมองทะลุผ่าน เห็นประตูไม้บานเลื่อนสลักลายท้องนภาในห้องนอนนาง
นั่นใคร!? ิญญาหรือ?
ปีศาจสาวขมวดคิ้วทำหน้ายุ่ง หลังจ้องหน้าจ้องตาชายแปลกหน้าอยู่ครู่หนึ่งด้วยความรู้สึกประหลาดยากอธิบาย เปลวเทียนที่พัดปลิวข้างตั่งนอนส่องสะท้อนเข้ากับั์ตาของเขาและนาง พริบตาเดียว พื้นไม้เป็เงามันในห้องกลับมาว่างเปล่า คงเหลือไว้เพียงกลิ่นหอมอ่อนของดอกปี่อั้น
หายไปแล้ว!
“ท่านแม่ ๆ ช่วยข้าด้วย ๆ ผีหลอกข้า!” นางะโเสียงดัง ปลายเท้าเปลือยเปล่าวิ่งออกไปด้านนอกระเบียงเรือนอย่างลืมตัว อาภรณ์สีชาดสะบัดปลิว ท่ามกลางหยาดน้ำฟ้าที่ร่วงหล่นลงไม่ขาดสาย
ทันใดนั้นเอง ปีกผีเสื้อสีทองพลันพุ่งเข้ามาประหนึ่งแสงของดวงไฟ สตรีปีศาจในอาภรณ์สีนิลกระแทกเท้าใส่พื้นเรือน ท่าทางก้าวร้าวดุดัน
“เ้าพูดเื่ไร้สาระอะไร? ถิงถิง”
“ทะ... ท่านแม่ ข้า... ข้าเห็นผี ต้องเป็ิญญาแน่ ๆ มีผีในห้องนอนข้า”
“เ้าเสียสติไปแล้วรึไง ข้าสั่งเ้าให้ทำอะไรว่องไว บ่าวในเรือนใต้แจ้งข้าว่าแต่งตัวให้เ้าเรียบร้อยดีแล้ว ไยเ้ายังไม่ไปเรือนพิธี?”
“ก็ข้า ๆ เจอชายแปลกหน้า... น่าจะผีกระมังท่านแม่ ข้าได้กลิ่น...”
“หยุดเพ้อเจ้อ ถิงถิง เร็วเข้า! จิ้งจอกมีวิสัยใจร้อนโกรธง่าย ว่าที่สามีของเ้ามารอเ้าแล้ว เรือนไม้สวยงามค่ำคืนนี้ไม่ควรจะต้องพังราบคาบเพราะเ้าเป็ต้นเหตุ” สิ้นคำ ปีกสีทองพลันหายไปเบื้องหน้านาง
ถิงถิงก้มมองพื้นไม้เป็เงามันด้วยสีหน้าเศร้าหมอง แม้รู้แก่ใจดีเื่ปีศาจผีเสื้อล้วนหลงใหลในความงาม ภาพมายามีคุณค่ามากกว่าเื่ของการมีลมหายใจในโลกของปีศาจ
กระนั้นนางยังนึกเสียดาย ไม่ทันเอ่ยถามบุรุษรูปงามว่าเขาเข้ามาในห้องนอนนางได้อย่างไร มีธุระอันใดกับนาง ก่อนหน้านี้สาวใช้ประจำเรือนทั้งสามเพิ่งออกไป หลังจัดการเรือนผมดำขลับและเครื่องประดับงดงาม ปิ่นปักผมสีทองเข้ากับมุกสีดำสนิทเพื่อให้นางพร้อมเข้าพิธีสำคัญ
‘โธ่... ท่านแม่ไม่สนใจข้าเลย... ข้าไม่ใช่ปีศาจขี้โกหกเสียหน่อย’
“ไยเ้ายังไม่มาอีก!”
“เ้าค่ะท่านแม่!”
ร่างผีเสื้อสีม่วงรายล้อมด้วยผีเสื้อตัวเล็กจิ๋ว ปีศาจลูกสมุนซึ่งเคยแทรกแซมอยู่บนเรือนผมดำขลับยาวประข้อเท้า มุ่งตรงไปยังเรือนไม้อันงดงาม
นางเหยียบยืนบนพื้นไม้เป็เงามันบริเวณระเบียงเรือนโล่งกว้าง รายล้อมด้วยพฤกษชาตินานาพรรณ สถานที่พำนักอาศัยของปีศาจราตรี
ค่ำคืนนี้แลดูเงียบเหงาเยือกเย็น แม้ทั่วทั้งบริเวณมีแสงของหมู่มวลผีเสื้อ แสงกะพริบจากหิ่งห้อยคอยนำทางแทนแสงของดาวเดือน ทั่วทั้งเรือนได้รับการตกแต่งด้วยฝีมือท่านปู่หลี่หวังหยาง ผีเสื้อาุโผู้เสกสรรเรือนไม้สนใต้พรรณบุปผาให้กลายเป็สถานที่เฉลิมฉลองงานมงคลวิวาห์ ชายคาเรือนมีผ้าสีแดงสลับดำผูกไขว้กัน ประดับด้วยโคมไฟลวดลายผีเสื้อหลากสีสัน
ปีกสีม่วงอร่ามทอประกายใต้แสงจันทรา หากไร้เรี่ยวแรงอย่างเคยผงาดบินในเรือน ผีเสื้อผู้ร่าเริงเกิดความรู้สึกต่ำต้อยและไร้ซึ่งศักดิ์ศรี นางไม่มีทางเลือก จำต้องเชื่อฟังคำสั่งของมารดา ท่านผู้นำตระกูลเหมยเตี๋ย[2] ท่านปู่หลี่หวังหยาง[3] ปีศาจในตระกูลฝากความหวังไว้กับนาง
เ้าสาวในอาภรณ์สีชาดยืนอยู่หน้าเรือนพิธี แต่นางยังไม่กล้าเข้าไป นางทำเก้ ๆ กัง ๆ ชะโงกคอมองคนข้างใน สบโอกาสนางหันไปพบพี่สาวเข้าพอดี มารดากำลังให้การต้อนรับแขกจึงไม่ทันต่อว่านางชักช้าอีกรอบ
“เ้าเป็ผู้เสียสละเพื่อตระกูลมาโดยตลอด การที่เ้ายอมแต่งกับบุตรชายของจิ้งจอกเงินเพื่อการสมานฉันท์ เพื่อแผนการขยายดินแดนในภายภาคหน้า ข้าแสนภูมิใจในตัวเ้านัก น้องเล็ก”
บุตรสาวคนที่สองของตระกูลในอาภรณ์สีฟ้าครามสดใส ชายอาภรณ์ลากยาวจรดพื้นไม้ ตั้งใจมาบอกลาถึงหน้าเรือนกว้างขวาง ปีศาจผู้พี่ทั้งสองแต่งหน้างามอย่างปีศาจ ใบหน้างดงามหมดจด ริมฝีปากสีชาด
“พี่รอง... มาส่งข้าด้วยหรือ?”
“ข้าต้องมาสิ ต้องมา... ข้าอวยพรขอให้เ้าโชคดี ไว้พบกันเมื่อวาสนานำพา”
“ขอบคุณพี่รอง” นางหัวเราะแห้ง เห็นจะมีแค่พี่รองมาอวยพรนาง ทั้งที่ปีศาจทุกตนในเรือนใต้รู้ดีว่าย่ำรุ่งอรุณนี้นางจำต้องจากเรือนไปอาศัยกับเผ่าพันธุ์จิ้งจอกเงิน
แต่ผีเสื้อกับจิ้งจอก... จะเป็ไปได้อย่างไร? นางคงถูกปีศาจจิ้งจอกฉีกทึ้งปีกสวย ๆ ไม่มีชิ้นดี ซากศพนางจะยังมองเห็นเป็รูปร่างหรือเปล่ากัน นางอาจไม่เหลือแม้กระทั่งหนวดไว้ดมกลิ่น ดีไม่ดี นางอาจได้กลับไปเป็หนอนผีเสื้อ!
‘วันแต่งงานของข้าแท้ ๆ ความเป็ความตาย อยู่ในสภาพล่อแหลม’
ความคิดเลวร้ายทอดผ่านั์ตาสีอำพันของผีเสื้อ พี่รองเลื่อนมือมาตบบ่านางให้กำลังใจ เมื่อเห็นว่าน้องเล็กของบ้านยังไม่ได้ก้าวขาเข้าไป
ถิงถิงกลอกตาไปมา พูดจาอึกอัก “คือว่า... พี่รอง... ท่านอย่าว่าข้าเป็พวกเื่เยอะเลยนะ ข้าพึ่งพบิญญาในห้องนอนข้า”
“พูดเื่ไร้สาระอะไรของเ้า? ถิงถิง ิญญาตนไหนจะข้ามผ่านเขตอาคมของท่านปู่เข้ามาได้ ข้าอายุมากกว่าเ้าตั้งหลายพันปียังไม่เคยเห็นิญญาสักตน แล้วเราก็เป็ปีศาจราตรีมิใช่หรือ? เ้ากลัวอะไรไม่เข้าท่า”
“ที่ข้าควรต้องกลัวคือสามีข้าต่างหากเล่า พี่รองมีความคิดเหมือนข้าใช่หรือไม่?”
“ท่านฮู่โหมวไม่มีวันทำร้ายเ้า เ้ารู้ข้อนี้ดีที่สุด”
‘พี่รองกำลังปลอบใจข้าต่างหากเล่า ทำไมข้าจะไม่รู้’ นางคิดในใจ เอี้ยวหน้าไปมองพี่ใหญ่ซึ่งเอาแต่จ้องจิ้งจอกหนุ่มด้วยแววตาหิวกระหาย ราวกับว่าจะกลืนพวกเขาลงท้องแทนอาหารมื้อค่ำ ปีศาจก็เป็เช่นนั้น
“เ้ารีบไปเถิดถิงถิง ท่านแม่ยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ เดี๋ยวเ้าจะโดนเอ็ดว่าเข้าอีก”
“ข้าซาบซึ้งน้ำใจท่านนักพี่รอง ข้าลา”
“ข้าลาเ้าเช่นกัน น้องเล็ก...”
ถิงถิงคว้าจับมือเรียวใต้อาภรณ์ที่ยาวพ้นถึงหลังมือ ไม่ให้ปีศาจผู้มีอายุขัยมากกว่าก้มศีรษะให้นาง ทว่าคงไม่ทัน มือทั้งสองยกขึ้นประสานกันอย่างนอบน้อม ก่อนที่พี่สาวจะลดมือลง นางถอนหายใจ ละสายตาจากใบหน้าขาวผ่อง มองผ่านบานประตูเข้าไปในห้องโล่งกว้าง
นางเคยได้ยินมาว่าพิธีการรับสะใภ้เข้าเผ่าพันธุ์พวกเขานั้นไม่ง่ายดาย ในคืนแรกวิวาห์ เ้าสาวจิ้งจอกจะต้องผ่านด่านทดสอบการไล่ล่าจากจิ้งจอกทั้งฝูง! ส่วนใหญ่ไม่ค่อยรอดชีวิตไปครองคู่กับสามีจริง ๆ หรอก
บททดสอบวิปริตพิสดารนั่นนางหาได้กลัวไม่ นางเกิดมีความเชื่อเล็ก ๆ ขึ้นมาว่าท่านฮู่โหมวคงไม่ปล่อยให้นางสิ้นใจตายอย่างน่าอนาถด้วยน้ำมือญาติพี่น้อง
จิ้งจอกเ้าเล่ห์ว่าที่สามีของนางอาจหาสักหนทางหนึ่งปกป้องนาง...
[1] ยามอิ๋น (寅:yín) คือ 03.00 – 04.59 น.
[2] 媚碟 Mèi dié
[3] 李旺阳 Lǐwàngyáng
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้