นางนวดหว่างคิ้ว ข้าทาสจำนวนมากวิ่งเข้าวิ่งออกอยู่ภายในสวน
ที่นี่อาจจะมีหนอนบ่อนไส้ที่ศัตรูส่งมาแต่นางจะทำเช่นไรจึงจะสามารถถอดหน้ากากคนเ่าั้ออกได้?
ยิ่งไปกว่านั้น หลายวันที่ผ่านมาหลงเทียนอวี้หายไปไม่มีใครคอยช่วยเหลือจัดการเื่บางอย่าง
“นายหญิง ทางด้านตำหนักหยาเสวียนเชิญท่านไปเข้าเฝ้าเ้าค่ะ”
ป๋ายจื่อมิได้อยู่รับใช้ข้างกายหลินเมิ้งหยาดังนั้นจึงเป็ป๋ายจีที่ต้องพานางไปเข้าเฝ้า
หลายวันมานี้น้าจิ่นเยว่พยายามสุดความสามารถในการอบรมสั่งสอนสุดท้ายนางจึงมีลักษณะท่าทางดั่งเช่นสาวรับใช้ทั่วไป กิริยามารยาทดีขึ้นกว่าเดิมอย่างน้อยก็มิมีใครเห็นนางเป็ตัวตลกอีกแล้ว
“อืมจงนำกระโปรงยาวลายดอกไม้ที่จิ่นซิ่วฟางส่งมาให้ข้าลองใส่หน่อย”
“เ้าค่ะ”
หลังจากตระเตรียมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดติดต่อกันนานหลายวันทำให้หลินเมิ้งหยารู้สึกหมดเรี่ยวแรง
หลงเทียนอวี้หายไปไม่เห็นแม้แต่เงาพระสนมเต๋อเฟยเจ็บป่วยไม่ยอมออกมาด้านนอกดังนั้นภายในจวนที่กว้างขวางแห่งนี้จึงมีแค่นางที่ต้องคอยดูแล
หากไม่ใช่เพราะนางมีเพื่อนสนิทที่เป็ผู้บริหารระดับสูง จึงมักได้ยินเสียงบ่นเกี่ยวกับเื่การจัดสรรทรัพยากรและบุคคลแล้วละก็
เกรงว่าป่านนี้นางคงสมองแตกตายไปแล้ว
ความวุ่นวายทางด้านนอกมิได้ส่งผลกระทบถึงตำหนักหยาเสวียน
สาวใช้ที่ถูกส่งมาทำงานที่นี่กำลังทำตามหน้าที่ของตนเองอย่างขะมักเขม้น
ตลอดทางเดินพบว่าบรรยากาศของที่นี่ช่างเงียบสงบ
“ถวายคำนับหมู่เฟย หลายวันมานี้อาการป่วยของหมู่เฟยเป็เช่นไรบ้างเพคะ?”
ภายในตำหนัก พระสนมเต๋อเฟยดูมีกำลังขึ้นมาก
“เ้ามานี่สิเปิ่นกงรู้ว่า่นี้เ้าต้องลำบากมากในการจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิด”เมื่อได้พูดกับหลินเมิ้งหยา พระสนมเต๋อเฟยหยักยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“หามิได้เพคะ หมู่เฟยมีความสุข จวนอวี้แห่งนี้จึงมีแต่ความโชคดีเพคะ”
หลินเมิ้งหยาลอบสังเกตหากเทียบกับหมู่เฟยที่มีท่าทางฉุนเฉียวในวันนั้นหมู่เฟยในวันนี้อ่อนโยนและแสดงออกถึงความรักความเอ็นดูกว่ามาก
แม้จะยังเจ็บป่วยจนผู้อื่นอดไม่ได้ที่จะรู้สึกทรมานใจทว่าคนที่จะเปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้ได้มีไม่มากเลย
“ปากของเ้าหวานเสียจริง จริงสิเปิ่นกงตามเ้ามาก็เพื่อถามไถ่ว่าเ้าเตรียมรายชื่อแขกทั้งหมดเรียบร้อยแล้วหรือไม่?”
หลินเมิ้งหยาสั่งให้ป๋ายจีนำไปถวายหากไม่ใช่เพราะการชี้แนะของน้าจิ่นเยว่ เกรงว่านางคงทำไม่เสร็จ
“เขียนเสร็จแล้วเพคะ หม่อมฉันรู้ว่าหมู่เฟยไม่ชอบความฟุ่มเฟือยดังนั้นจึงเชิญเพียงคนสนิทเท่านั้น มีฝั่งทางบ้านของท่านอาคนโต ท่านอารองบ้านของท่านป้าและท่านน้า ส่วนแขกคนอื่นๆ หม่อมฉันอายุยังน้อยดังนั้นจึงยังรอความเห็นชอบจากหมู่เฟยเพคะ”
พระสนมเต๋อเฟยก้มลงมองรายชื่อ สีหน้าพึงพอใจ
“เด็กคนนี้ แม้เ้าจะอายุยังน้อยแต่กลับจัดแจงทุกอย่างได้เป็อย่างดี เปิ่นกงไม่มีอะไรจะถามแล้วเ้าตามเปิ่นกงมานี่สิ มาลองชุดเป็เพื่อนเปิ่นกงเถิด”
พระสนมเต๋อเฟยหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องหลินเมิ้งหยารู้ได้ทันทีว่าพระนางยังมีเื่ถามตนเอง
มือทั้งสองข้างสอดเข้าไปในเสื้อ ก่อนจะตามพระสนมเต๋อเฟยเข้าไป
“เปิ่นกงได้ยินมาว่าเกิดเื่ขึ้นกับพระพุทธรูปเ้าแม่กวนอิมที่เ้าได้รับมาอย่างนั้นหรือ?”
หลินเมิ้งหยาพยักหน้าเกรงว่าพระสนมเต๋อเฟยจะรู้เื่พระพุทธรูปเ้าแม่กวนอิมอยู่ก่อนแล้ว
พระสนมเต๋อเฟยถอนหายใจ จ้องมองหลินเมิ้งหยาด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก
“เปิ่นกงเคยบอกเ้าแล้วว่าหากเ้าไม่แน่ใจอย่าได้รับสิ่งใดมาจากฮองเฮา แต่เ้ากลับเก็บสิ่งของเ้าปัญหานั้นเอาไว้”
หลินเมิ้งหยาเลิกคิ้วเหตุใดวันนี้พระสนมเต๋อเฟยจึงโกรธเกรี้ยวนางเล่า
ปกติแล้วความสัมพันธ์ระหว่างแม่ผัวลูกสะใภ้ล้วนมีปัญหาที่ยากจะเอื้อนเอ่ยนางพอจะเข้าใจได้ ดังนั้นนางจึงทำเพียงน้อมรับความผิดเท่านั้น
“หม่อมฉันพลาดเองเพคะ หมู่เฟยได้โปรดวางพระทัยหม่อมฉันจะหาทางแก้ไขให้ได้”
“มันต้องเป็เช่นนั้น หากเ้าทำให้อวี้เอ๋อร์ต้องมีปัญหาอย่าหาว่าเปิ่นกงไม่เตือนเ้าก็แล้วกัน”
น้ำเสียงของพระสนมเต๋อเฟยเ็า ราวกับเป็คนละคนกัน
หลินเมิ้งหยาเดินกลับออกมาด้วยท่าทางสงบเสงี่ยมเรียบร้อยภายนอกยังเผยให้เห็นถึงความอ่อนโยนและอ่อนน้อมถ่อมตน
“เกิดอะไรขึ้นเพคะพระชายา?”
เมื่อกลับมาถึงตำหนัก มีเพียงป๋ายจีเท่านั้นที่มองเห็นขนคิ้วที่ขมวดเข้าหากันจนเผยให้เห็นความเศร้าหมองของหลินเมิ้งหยา
“ไม่มีอะไร แค่เหนื่อยนิดหน่อย จริงสิ เ้าไปตามป๋ายจื่อมาหาข้าทีข้ามีเื่ต้องถามนาง”
พระสนมเต๋อเฟย...จะพูดอย่างไรดีนะ บางทีอาจเพราะเป็คนในราชวงศ์ดังนั้นจึงมักออกอาการโมโหอย่างเปิดเผยโดยไม่เลือกหน้าได้แต่เมื่อครู่พระสนมเต๋อเฟยทำเกินเหตุจนผิดสังเกต
ป๋ายจื่อกลับมารายงานหลินเมิ้งหยาว่าอาหารการกินของพระสนมเต๋อเฟยปกติดีทุกอย่าง
ไม่มีสิ่งไหนผิดปกติเลย หรือนางจะคิดมากจนเกินไป?
“อีกสองวันก็จะถึงวันงานแล้ว พวกเ้าต้องตั้งสติให้ดีอย่าให้เกิดข้อผิดพลาดอันใด เข้าใจหรือไม่?”
“เ้าค่ะ นายหญิง”
วันงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันประสูติของพระสนมเต๋อเฟย หลงเทียนอวี้จึงรีบร้อนกลับมา
เขาเอ่ยว่าออกไปตามหาของขวัญวันเกิดล้ำค่าให้กับพระสนมเต๋อเฟยทว่าหลินเมิ้งหยากลับไม่เชื่อ
วันงานเลี้ยงฉลอง ภายในจวนอวี้คลาคล่ำไปด้วยแขกผู้มีเกียรติและญาติสนิทมิตรสหายดังนั้นคนของจวนจึงยุ่งวุ่นวายมากเป็พิเศษ
เหตุเพราะเป็ถึงพระชายาอวี้หลินเมิ้งหยาจึงสวมใส่ชุดสีแดงปักดิ้นทองลายดอกไม้และคอยยืนต้อนรับแขกผู้มาเยือน
ศีรษะประดับด้วยปิ่นปักผมพลิ้วไหว ยิ่งได้เห็นใบหน้างดงามรูปไข่ยิ่งทำให้ผู้คนหลงใหลในตัวนาง
ขณะเดียวกัน แเื่ที่เป็ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดาย
หากรู้แต่แรกว่าบุตรสาวคนโตของเจิ้นหนานโหวที่เคยถูกโจษจันว่าสติเลอะเลือนจะงดงามมากถึงขนาดนี้พวกเขาคงพยายามสุดชีวิตเพื่อขอนางแต่งงาน
ล้วนพูดกันว่าสินสอดในวันแต่งงานมีของที่บรรจุอยู่เต็มกล่องขนาดใหญ่ราวสี่สิบกว่ากล่อง
ตอนนี้ถึงจะพูดไปก็ไร้ประโยชน์แต่ถึงอย่างนั้นก็อดที่จะอิจฉาหลงเทียนอวี้ไม่ได้
เหตุใดเขาจึงโชคดีขนาดนี้กันนะ?
“พระชายา ฮูหยินหลินและคุณหนูรองมาถึงแล้วเ้าค่ะ”
ผอจื่อที่ทำหน้าที่ต้อนรับแขกนำบัตรอวยพรจากสกุลหลินมาส่งมอบให้
หลินเมิ้งหยาแค่นหัวเราะเสียงเย็นสุดท้ายสองแม่ลูกที่น่ารังเกียจและไร้ยางอายก็มาที่นี่สินะ
“ในเมื่อมาแล้วก็เชิญเข้ามาเถิด ให้จัดสรรตามธรรมเนียมของแขกหญิงไม่ต้องมาหาข้า”
หลินเมิ้งหยาไม่แม้แต่จะมองบัตรอวยพรใบนั้นแล้วโยนทิ้งไป
ผอจื่ออดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดูท่าคุณหนูใหญ่แห่งสกุลหลินจะไม่ถูกกับแม่เลี้ยงสินะ
“พวกเ้าคอยดูแลให้ดี อย่าให้เกิดเื่วุ่นวายอันใดขึ้นข้าจะไปเชิญท่านอ๋อง”
ผอจื่อที่มีความสามารถหลายคนพยักหน้าลงแล้วรีบเข้าไปทำงานของตนเอง
หลินเมิ้งหยาพาป๋ายจื่อไปพบหลงเทียนอวี้
คิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันที่เท้าจะถึงหน้าประตูนางจะได้ยินเสียงหวานใสออดอ้อนดังออกมาจากภายใน
“ท่านพี่อวี้ ท่านไม่ได้มาหาหรูฉินนานแล้วนะเพคะ หรูฉินคิดถึงท่านเหลือเกิน”
พี่? หลินเมิ้งหยาหยุดฝีเท้ากะทันหันหวังว่าจะไม่ใช่พี่น้องที่สลักชื่อร่วมสาบานลงบนก้อนหินหรอกนะ
ไม่เช่นนั้นหากมีเื่เพื่อนสมัยเด็กเติบโตมาด้วยกันจนก่อเกิดเป็ความรักนางคงจะกลายเป็มือที่สามใช่หรือไม่?
“หรูฉิน นี่หาใช่ที่ที่เ้าควรมา”คิดไม่ถึงเลยว่าหลินเมิ้งหยาจะได้ยินเสียงหมดความอดทนจากปากของหลงเทียนอวี้
เอ๋?นี่ท่านอ๋องของนางมิได้สนใจหญิงสาวผู้นั้นหรอกหรือ?
หากหลงรักเพียงฝ่ายเดียวเช่นนั้นนางควรแสดงตัวเพื่อเข้าไปช่วยเขาหรือเปล่านะ
หลินเมิ้งหยาครุ่นคิด ก่อนที่จะเดินเข้าไปในสวนฉินอู่
“ท่านอ๋อง แขกมากันครบแล้วเพคะ ท่านจะเสด็จหรือยัง?”
หลินเมิ้งหยาส่งยิ้มหวานราวกับมองไม่เห็นหญิงสาวที่อยู่ข้างกายของเขา
ทั้งที่เป็เด็กสาวหน้าตาสวยงาม แต่กลับกล้าเสนอตัวก่อนเห็นได้ชัดว่ากำลังคิดจะวางแผนทำมิดีมิร้ายท่านอ๋อง!
“ท่านนี้คงเป็พี่สะใภ้สินะ ที่แท้ก็สวยมากขนาดนี้ พี่สะใภ้ หรูฉินขอถวายความเคารพ”
หลินเมิ้งหยาแอบหัวเราะเสียงเย็นในใจ นางยังคิดจะเคารพกันอีกหรือทั้งที่นางคิดไม่ซื่อกับท่านอ๋อง แต่ปากกลับยังร้องเรียกพี่สะใภ้
หรือนางมิได้เห็นหลินเมิ้งหยาผู้นี้อยู่ในสายตาเลย
“น้องหรูฉินไม่ต้องมากพิธี วันนี้เป็ครั้งแรกที่ได้เจอกันท่านอ๋องนี่จริงๆ เลย เหตุใดมีญาติผู้น้องงดงามอ่อนโยนถึงขนาดนี้แต่กลับไม่เคยเล่าให้หม่อมฉันฟังตอนแรกหม่อมฉันเผลอคิดเอาเองว่ามีสาวๆ จากสกุลอื่นมาหว่านเสน่ห์ใส่ท่านอ๋องเสียอีก”
หลินเมิ้งหยามองหรูฉินด้วยท่าทางใจกว้างพลางลอบประเมินในใจเด็กคนนี้หน้าตาไม่เลว มีส่วนคล้ายคลึงกับพระสนมเต๋อเฟยโดยเฉพาะ่ขนคิ้วที่ดูจะเหมือนมากเป็พิเศษ
แต่ก็มีส่วนที่ไม่คล้ายเช่นกันอย่างเช่นความสง่าและน่าเคารพนับถือที่เทียบไม่ได้กับพระสนมเต๋อเฟยเลย
หน้าตาสวยงาม แต่กลับมิได้ดูฉลาดเลยแม้แต่น้อย
“พี่สะใภ้พูดอะไรน่าขันเหลือเกิน ข้ากับท่านพี่มีความรู้สึกดีๆ ให้กันมาั้แ่เด็กพี่สะใภ้คงมิได้หึงใช่หรือไม่?”
ปิดปากหัวเราะ ทว่าเจียงหรูฉินกลับแอบดูถูกพี่สะใภ้คนนี้ในใจ
มองขึ้นมองลงเพื่อสำรวจ รูปร่างสวยงามแต่พี่ชายเคยบอกว่าพี่สะใภ้คนนี้เป็คนใจดำอำมหิต
จะปล่อยให้นางทำร้ายท่านพี่อวี้ไม่ได้เด็ดขาด
“จะเป็เช่นนั้นได้อย่างไร ล้วนเป็ญาติพี่น้องกันทั้งนั้นข้าไม่มีทางใจแคบเช่นนั้นหรอก จริงสิเพคะท่านอ๋องหม่อมฉันยังมีเื่้าจะปรึกษากับท่าน ถ้าเช่นนั้นเชิญน้องหรูฉินกลับเข้าไปภายในงานเลี้ยงก่อนเถิด”
หลินเมิ้งหยาเข้าไปคล้องแขนของหลงเทียนอวี้อย่างเป็ธรรมชาติก่อนจะส่งยิ้มอ่อนโยนให้กับเขา
สีหน้าของหลงเทียนอวี้เริ่มแปลกไปเล็กน้อยแต่กลับไม่ได้สีหน้ารำคาญใจเหมือนอย่างที่มีต่อหรูฉิน
“หรูฉิน เ้ากลับเข้าไปก่อนเถิด ข้ายังมีเื่ต้องคุยกับหยาเอ๋อร์”
เจียงหรูฉินกระทืบเท้า แต่สุดท้ายต้องจำยอมทำตาม
พาผู้หญิงของตนเองเดินออกจากสวนฉินอู๋
“ดูเหมือนท่านอ๋องจะรับมือกับสาวสวยยากมากนะเพคะ”หลินเมิ้งหยารีบคลายมือออก หลบไปอีกด้าน ก่อนจะส่งยิ้มซุกซน
หลงเทียนอวี้ถลึงตาใส่นาง แต่ถึงอย่างนั้นก็กล่าวคำอธิบาย
“หรูฉินเป็ลูกสาวของท่านอาคนโตของข้า เป็น้องสาวของเจียงเฉิงนางมักจะมาเที่ยวเล่นที่นี่และอยู่เป็เพื่อนคุยกับหมู่เฟยั้แ่เด็ก”
สำหรับหลงเทียนอวี้แล้ว หรูฉินเป็เพียงน้องสาวเท่านั้น
อีกอย่าง แม้ท่านอาคนโตจะอยากให้หรูฉินขึ้นเป็พระชายาของเขาแต่เขากลับไม่เห็นด้วย
“ที่แท้ก็เป็แบบนี้ จริงสิเพคะท่านอ๋อง ข้ามีเื่ต้องบอกท่าน”
หลินเมิ้งหยาเล่าเื่เ้าแม่กวนอิมและพระราชโองการให้ฟัง
“ศพของผอจื่อคนนั้นเล่า?” คิ้วของหลงเทียนอวี้ขมวดเข้าหากันแน่นมือเรียวยาวกำเข้าหากัน คิดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเื่เช่นนี้กับจวนของเขา
คนเ่าั้อยากตายใช่หรือไม่!
“หม่อมฉันส่งคนให้นำไปเก็บรักษาเอาไว้ในโรงน้ำแข็งเก่าแล้วเพคะ”
หลินเมิ้งหยาขยับขึ้นมาหนึ่งก้าวนิ้วมือทั้งสองข้างนวดหว่างคิ้วที่ขมวดเข้าหากันแน่นของหลงเทียนอวี้เบาๆ
“หม่อมฉันจะขจัดอุปสรรคทั้งหมดเพื่อพระองค์เองฉะนั้นพระองค์โปรดวางพระทัย”
ทั้งสองอยู่ใกล้กันจนััได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย