ฮูหยินสวี่มาเอะอะโวยวายถึงหน้าประตู แม้ว่าสุดท้ายแล้วชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของนางจะได้การกู้กลับมา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่านางจะไม่รังเกียจ?
ไม่ทำให้ฮูหยินสวี่ลำบากก็ดีเท่าไรแล้ว จะเชิญให้นางนั่งได้อย่างไรกัน?
อี้ไท่เฟยเหลือบมองและมองไปบนกระดาษอีกครั้ง ฮูหยินสวี่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเมื่อมาถึงศาลต้าหลี่ท่าทีของอี้ไท่เฟยจะเ็าถึงเพียงนี้ นางทั้งใทั้งโกรธและส่งสายตาไปมู่หรงหว่านหรู
สวี่ฮูหยินคนนี้ เวลานี้ยังจะมาขอที่นั่งอีกอย่างนั้นหรือ?”
มู่หรงหว่านหรูที่ร้อนรน เตือนฮูหยินสวี่ด้วยท่าทางดุร้าย แต่การส่งสายตาไปมาของพวกนางถูกหานอวิ๋นซีเห็นทั้งหมด
หานอวิ๋นซีค่อยๆ หรี่ตาลง เอาเถอะ คราวนี้เป็มู่หรงหว่านหรูอีกแล้วสินะ คนผู้นี้ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ!
วันนี้ นางจะทำให้รู้ว่าอะไรที่เรียกว่าความเสียใจ
ในขณะเดียวกัน องครักษ์จากข้างนอกก็เข้ามารายงาน “ทูลอี้ไท่เฟย...นักโทษหานฉงอันมาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนในห้องต่างเงียบสงบ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งไหนก็ไม่สำคัญ อี้ไท่เฟยนั่งตัวตรงและจริงจังขึ้นมา พร้อมกับพูดอย่างเ็าว่า “เข้ามา!”
หานฉงอันที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และไม่รู้ว่าใคร้าพบเขา แต่เมื่อได้ยินว่ามาที่ห้องโถงใหญ่ เขาเดาว่าคนที่้าพบเขาต้องเป็คนชั้นสูงอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม นอกจากหานอวิ๋นซีแล้ว เขานึกไม่ออกว่าจะมีใครจำเขาได้อีกและยินดีที่จะมาพบเขา อย่างไรก็ตาม หากหานอวิ๋นซี้าพบเขา นางมักจะไปที่ห้องขังเสมอ!
หานฉงอันที่เดินไปก็เต็มไปด้วยความสงสัย เขาก้าวข้ามธรณีประตูสูง
ในขณะเดียวกัน ก็เห็นผู้คนในห้อง โดยเฉพาะใบหน้าที่คุ้นเคยของคนตระกูลหาน หานฉงอันก็หยุดอยู่ที่ประตูทันทีด้วยความตกตะลึง
นี่มัน...เกิดอะไรขึ้น?
เขาที่ยังคงงุนงง แต่จู่ๆ เสี่ยวอี้เอ๋อร์ก็ส่งเสียงร้องไห้ออกมา ะโลงจากเก้าอี้สูงแล้วรีบวิ่งไป “ท่านพ่อ!”
เสียงเรียก “ท่านพ่อ” ช่างะเือารมณ์เหลือเกิน น้ำเสียงของเด็กน้อยที่ไม่เสแสร้ง เต็มไปด้วยความคิดถึงและ้าที่พึ่งพิง ไม่ว่าคนคนนั้นจะมีจิตใจที่แข็งกระด้างสักเพียงไหน ก็คงอ่อนไหวให้กับเด็กน้อยคนนี้ใช่หรือไม่?
เสี่ยวอี้เอ๋อร์โผเข้าไปกอดบิดาของตนเองและร้องไห้ออกมา “ท่านพ่อ เมื่อไรท่านจะกลับบ้าน! ฮือฮือ...ลูกคิดถึงท่าน เมื่อไรท่านจะกลับบ้าน?”
ไม่ว่าเสี่ยวอี้เอ๋อร์จะฉลาดและแก่แดดแค่ไหน เขาก็ยังเป็แค่เด็กน้อยอยู่ดี
เสี่ยวอี้เอ๋อร์ได้ยินจากหลายๆ คนว่าพ่อของเขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตและจะไม่มีวันได้กลับบ้าน แต่เขาก็ดื้อรั้นไม่เชื่อ
เขายังคงรอให้พ่อกลับบ้าน มาสอนให้เขารู้จักยา สอนให้เขาช่วยรักษาผู้คน
หานฉงอันที่อยู่ในเสื้อผ้ามอมแมม ผมยาวยุ่งเหยิงและร่างกายอ่อนแรง เขามองบุตรชายตัวน้อยในอ้อมแขน แววตาที่มืดมนอดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนเป็สีแดง ได้แต่เปิดปากแต่ก็ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามของบุตรชายอย่างไร
หานอวิ๋นซีที่เห็นฉากนี้ตรงหน้า นี่เป็ครั้งแรกที่คนที่แยกความรักกับความเกลียดออกจากกันอย่างชัดเจนอย่างนางรู้สึกผิดต่อหานฉงอัน
ไม่สิ พูดให้ถูกคือเป็ความรู้สึกผิดต่อเสี่ยวอี้เอ๋อร์ต่างหาก นางได้แอบตัดสินใจแล้ว และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นางจะปกป้องเสี่ยวอี้เอ๋อร์ให้ปลอดภัยและเติบโตอย่างราบรื่น
ในเวลานี้ จู่ๆ หานอวี้ฉีก็ะโว่า “ท่านพ่อ” และรีบวิ่งไปทันทีเช่นกัน หานรั่วเสวี่ยเองก็เดินตามหลังไปติดๆ
เดิมทีอี้ไท่เฟยรู้สึกประทับใจกับความรู้สึกที่ไร้เดียงสาและจริงใจของเสี่ยวอี้เอ๋อร์ แต่เมื่อนางเห็นท่าทางเสแสร้งของหานหอวี้ฉีและหานรั่วเสวี่ย ก็รู้สึกรำคาญโดยไม่มีสาเหตุและพูดอย่างหมดความอดทนว่า “วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อผดุงความยุติธรรมให้กับตระกูลหาน ไม่ได้มาดูงานรวมญาติของพวกเ้า!”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ทั้งหานอวี้ฉีและหานรั่วเสวี่ยก็ใ จนรีบถอยห่างออกมา แต่เสี่ยวอี้เอ๋อร์กลับกอดบิดาของเขาไว้แน่น ด้วยกลัวว่าบิดาของเขาจะถูกพรากไปอีกครั้ง
“อี๋เหนียงเจ็ด ทำไมเ้าไม่ดึงบุตรชายออกมา ต่อหน้าอี้ไท่เฟยจะทำเช่นนี้ได้อย่างไร?” ฮูหยินสวี่ตำหนิอย่างไม่พอใจ
นายท่านถูกคุมขังตลอดชีวิตและมันไม่สมเหตุสมผลที่จะเอาชนะใจเขา อย่างไรก็ตาม นายท่านไม่มีทางโง่ถึงขนาดมอบกุญแจห้องเก็บของให้บุตรสาวที่ออกเรือนแล้ว และไม่ว่าใครก็ตามในตระกูลหานที่นายท่านมอบกุญแจให้ นางจะต้องหาทางต่อสู้เพื่อเอามันมาให้บุตรชายของนาง
สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการเอากุญแจห้องเก็บของคืนมาจากหานอวิ๋นซี
ด้านข้าง อี๋เหนียงเจ็ดถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นนายท่าน น้ำคลอเบ้าครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อถูกฮูหยินสวี่เตือนเช่นนั้น นางจึงจะได้สติกลับคืนมา ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อดึงเสี่ยวอี้เอ๋อร์ “อี้เอ๋อร์ ไท่เฟยโกรธแล้ว เ้าอย่าทำร้ายพ่อของเ้าเลย”
อี๋เหนียงเจ็ดมักจะรู้วิธีเกลี้ยกล่อมเสี่ยวอี้เอ๋อร์เสมอ ทันทีที่นางพูดเช่นนี้ เสี่ยวอี้เอ๋อร์ก็ใมากจนปล่อยมือทันที อี๋เหนียงเจ็ดรีบอุ้มเขาออกมาและถอยกลับไปด้านข้าง ไม่กล้านั่งบนเก้าอี้ตัวเดิมอีกต่อไป
หานฉงอันมองไปที่อี๋เหนียงเจ็ดอย่างโศกเศร้า ไร้ซึ่งหนทางและลังเลที่จะพูดออกมา หากอี๋เหนียงเจ็ดแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้อีกหน่อย เขาก็คงไม่จำเป็ต้องขอร้องโดยใช้ความพยายามอย่างหนักกับหานอวิ๋นซี
หานฉงอันเองถือว่าเป็คนเช่นกัน เขาสงบอารมณ์ลงเล็กน้อยและเดินไปข้างหน้าทันทีเพื่อคำนับ “กระหม่อมหานฉงอัน ถวายบังคมไท่เฟย ถวายบังคมหวังเฟย”
“หานฉงอัน ฮูหยินสวี่ของเ้ามาเอะอะโวยวายถึงหน้าประตูจวนของข้าเื่กุญแจห้องเก็บของ ตอนนี้ข้าขอถามเ้าหน่อยว่ากุญแจห้องเก็บของของตระกูลหานอยู่ที่ไหน?” อี้ไท่เฟยถามอย่างกระวนกระวายใจ
ทันทีที่เขาได้ยินคำว่า “กุญแจห้องเก็บของ” หานฉงอันซึ่งฉลาดไม่น้อย ก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น จุดประสงค์หลักของการมอบกุญแจห้องเก็บของให้หานอวิ๋นซี ก็เพื่อป้องกันมันจากฮูหยินสวี่อย่างไรล่ะ!
ตระกูลของฮูหยินสวี่มีการสนับสนุนที่แข็งแกร่ง ทันทีที่เขาไป ตระกูลหานก็ต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองของฮูหยินสวี่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นี่เป็สิ่งที่เข้าใจได้ แต่อย่างไรก็ตามคุณชายใหญ่ไม่ได้เื่เอาเสียเลย
หากตระกูลหานตกอยู่ในมือของฮูหยินสวี่ ก็ไม่ได้ต่างจากการตกอยู่ในมือของคุณชายใหญ่ ด้วยนิสัยของคุณชายใหญ่แล้ว ตระกูลหานคงได้พังทลายภายในสามปีอย่างแน่นอน
ทันใดนั้นดวงตาของหานฉงอันก็เ็าและลึกล้ำ และก็มองไปที่ฮูหยินสวี่
ฮูหยินสวี่ตกตะลึงและรู้สึกไม่สบายใจอย่างอธิบายไม่ได้ นางรีบพูดว่า “นายท่าน ทำไมไม่ตอบคำถามของอี้ไท่เฟยล่ะ?”
หานฉงอันไม่พูด สายตาเ็าก็ไปตกอยู่ที่หานอวี้ฉี หานอวี้ฉีที่ไม่คาดคิดและโพล่งออกมาว่า “ท่านพ่อ หานอวิ๋นซีบอกว่าท่านเอากุญแจให้นาง เป็ไปได้อย่างไรกัน? นางขโมยกุญแจนั้นไปใช่หรือไม่?”
“ใช่แล้วๆ นายท่าน เราเชิญอี้ไท่เฟยมาที่นี่ ท่านไม่ต้องกลัวหานอวิ๋นซี แค่บอกมาว่าเกิดอะไรขึ้น” ฮูหยินสวี่พูดอย่างร้อนรน
ในเวลานี้ หานรั่วเสวี่ยไม่สามารถทนได้อีกต่อไปและรีบพูดเกลี้ยกล่อมว่า “ท่านพ่อมีเหตุผลอันใดถึงได้มอบกุญแจห้องเก็บของให้กับบุตรสาวที่ออกเรือนไปแล้ว? ท่านคงต้องทนทุกข์ทรมานในคุกมากๆ เลยใช่หรือไม่? ลูกมาที่นี่หลายครั้งหลายคราทว่าก็ไม่สามารถเข้าเยี่ยมท่านได้ สรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้น ท่านพูดออกมาเถิด อี้ไท่เฟยจะตัดสินให้ตระกูลหานของเราเอง!”
คนของตระกูลหานเต็มไปด้วยความกังวลใจ อี้ไท่เฟยเองก็เช่นกัน นางถามอีกครั้งว่า “หานฉงอัน หานอวิ๋นซีบอกว่าเ้ามอบกุญแจห้องเก็บของให้นาง นี่เป็เื่จริงหรือไม่?”
ทันทีที่อี้ไท่เฟยพูดจบ มู่หรงหว่านหรูก็พูดเสริมอย่างรวดเร็วว่า “หานฉงอัน ในเมื่อวันนี้หมู่เฟยของข้ามาแล้ว ท่านสามารถพูดในสิ่งที่ท่าน้าได้และอย่าปิดบังสิ่งใด ท่านยินดีมอบกุญแจให้ฉินหวังเฟยจริงๆ ใช่หรือไม่?”
เสี่ยวอี้เอ๋อร์และอี๋เหนียงเจ็ดที่กำลังดูและฟังอยู่ข้างๆ สองแม่ลูกจับมือกันแน่นด้วยความวิตกกังวล ต้องรู้ว่าคำตอบของท่านพ่อเกี่ยวข้องกับชะตากรรมของพวกเขาโดยตรง!
ในที่สุด ภายใต้การกระตุ้นของทุกคน หานฉงอันมองไปที่อี้ไท่เฟยด้วยความสงบ ตอนนี้ทุกคนเงียบลง กลั้นหายใจและรอให้เขาพูด
เขาจะตอบว่าอย่างไรกันนะ?
ฮูหยินสวี่อดไม่ได้ที่ยกมือขึ้นมากุมหัวใจที่เต้นเร็วขึ้นเพราะความตื่นเต้น แค่เพียงนายท่านปฏิเสธ หานอวิ๋นซีก็จะจบทันที!
มู่หรงหว่านหรูชำเลืองมองฮูหยินสวี่ด้วยความพึงพอใจมาก และคาดว่าหานฉงอันจะประกาศความผิดของหานอวิ๋นซีด้วยคำพูด
อย่างไรก็ตาม หานฉงอันยิ้มเบาๆ ราวกับทำอะไรไม่ถูก ราวกับกำลังเยาะเย้ยตัวเอง ทุกคนที่มองอยู่ต่างไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอย่างไร
ในขณะเดียวกัน เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “ทูลไท่เฟย กุญแจห้องเก็บของเป็กระหม่อมที่มอบให้บุตรสาวด้วยความเต็มใจ และมันเป็ของฉินหวังเฟย...”
อะไรนะ?
ประโยคที่สงบนิ่งราวกับก้อนหิน ก่อกวนคลื่นในห้องโถงที่เงียบงัน!
“ไม่ เป็ไปไม่ได้!” ฮูหยินสวี่กรีดร้องทันที
“ท่านพ่อ ท่านสมองเลอะเลือนไปแล้วหรือไร? ท่านกำลังพูดอะไรอยู่?”
หานอวี้ฉีที่คิดไม่ถึง ก็พุ่งเข้าหาหานฉงอันอย่างดุร้าย ถ้าหานฉงอันไม่ใช่พ่อของเขา เดาว่าเขาคงลงมือไปแล้ว?
“ท่านพ่อ ฉินหวังเฟยบังคับท่านใช่หรือไม่? ท่านมีเื่ต้องกังวลใช่หรือไม่? ท่านพ่อ อี้ไท่เฟยบอกว่าจะรักษาความยุติธรรมให้เรา...”
หานรั่วเสวี่ยเองก็ร้อนรนเช่นกัน แม้ว่าอี๋เหนียงสามจะดึงนางไว้อย่างแรง แต่นางก็ยังเพิกเฉยและพูดต่ออย่างรีบร้อนว่า “ท่านพ่อ ท่านไม่ต้องกลัวอะไร ฉินหวังเฟยข่มขู่อะไรท่าน ท่านพูดออกมาเถิด! พูดมันออกมา!”
หานอวิ๋นซีมองไปอย่างเ็า สายตาของนางมองไปที่มือของอี๋เหนียงสามที่กำลังดึงมุมเสื้อผ้าของหานรั่วเสวี่ยและยังคงไม่ส่งเสียงใดๆ
นอกจากอี๋เหนียงสามและอี๋เหนียงเจ็ดแล้ว ตระกูลหานทั้งหมดล้อมรอบหานฉงอัน และถามกันคนละคำถาม ราวกับว่ากำลังบังคับให้ตอบคำถาม
อี้ไท่เฟยส่ายหัวด้วยความไม่เชื่อ นางไม่อยากเชื่อเลยว่าหานฉงอันจะพูดออกมาเช่นนั้น
หานฉงอันไม่มีเหตุผลที่จะทำเช่นนี้!
ไม่ต้องพูดถึงว่าหานอวิ๋นซีเป็บุตรสาวที่ออกเรือนแล้วเลย แม้แต่เื่ที่หานฉงอันถูกคุมขัง เท่าที่นางรู้ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับหานอวิ๋นซี พูดตรงๆ เหตุผลที่หานฉงอันถูกจำคุกนั้นก็เป็เพราะหานอวิ๋นซี
หานฉงอันเกลียดหานอวิ๋นซีมาั้แ่ไหนแต่ไร เขาจะมอบกุญแจห้องเก็บของและอนาคตของตระกูลหานให้นางได้อย่างไร?
“หมู่เฟย ข้าคิดว่าเื่นี้ต้องมีอะไรซ่อนอยู่แน่ๆ” ในที่สุดมู่หรงหว่านหรูก็ทนไม่ได้อีกต่อไป ยากนักที่จะพูดออกมาตรงๆ เช่นนี้
หานอวิ๋นซีมองนางอย่างมีความหมาย รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏบนริมฝีปากเล็กน้อย
มู่หรงหว่านหรูอดไม่ได้ที่จะใและไม่สบายใจในทันที หานอวิ๋นซียิ้มให้นางแบบนี้ เป็ไปได้หรือไม่ว่านางกำลังสงสัยอะไรบางอย่าง?
ไม่นะ!
เมื่อวานเื่ตระกูลหานของฮูหยินสวี่ นางก็เก็บเป็ความลับอย่างดี นอกจากฮูหยินสวี่แล้ว ไม่มีทางที่จะมีคนรู้ว่านางเสนอแผนอะไรให้กับฮูหยินสวี่
“หานฉงอัน มีเื่อะไรที่ปิดบังไว้ เ้าพูดออกมาเถอะ ข้าจะตัดสินใจให้เอง!” อี้ไท่เฟยเป็คนตรงไปตรงมามาก ถ้าเื่ยังเป็แบบนี้ หากหานอวิ๋นซีรอดไปได้ การที่นางมาวันนี้จะไม่สูญเปล่าหรือไร?
อย่างไรก็ตาม หานฉงอันพูดอย่างจริงจังว่า “ไท่เฟย นี่เป็เื่ภายในครอบครัวของตระกูลหาน เหตุผลที่กระหม่อมเลือกที่จะมอบกุญแจให้กับหวังเฟยเก็บไว้ชั่วคราว กระหม่อมได้พิจารณาด้วยตัวเองแล้ว...”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ หานหอวี้ฉีก็ขัดจังหวะด้วยความโกรธ “ข้าว่าท่านเลอะเลือนไปแล้ว ไม่ว่าจะพิจารณาอะไร เื่นี้ก็ไม่เกี่ยวกับหานอวิ๋นซี นางออกเรือนไปแล้ว!”
“เงียบปาก!” หานฉงอันตำหนิทันทีและพูดด้วยความโกรธว่า “แม้ว่าข้าจะติดคุก แต่ก็ยังไม่ตาย ยังเป็ผู้นำของตระกูลหานและยังมีสิทธิ์ตัดสินใจว่าใครเป็เ้าของกุญแจห้องเก็บของและตัดสินผู้ชิงตำแหน่งผู้นำของตระกูลหาน!”
หานอวี้ฉีไม่ได้สนใจมากนัก ในความคิดของเขา บิดาคนนี้ไร้ประโยชน์ที่สุด เมื่อกำลังจะด่าทอเขา ฮูหยินสวี่ก็ห้ามเอาไว้อย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าบุตรชายที่หุนหันพลันแล่นบ้าบิ่นจะทำให้งานนี้พัง
