สองวันหลังจากนั้น หลงอวี้ก็ได้กลับไปถึงลัทธิสยบฟ้าพร้อมกับปู้สิง เขามาถึงยังป่าไผ่ที่เป็ที่ตั้งของหอผู้าุโ
ระหว่างทางนั้น ปู้สิงก็ได้เล่าเื่ราวคร่าวๆ ให้หลงอวี้ฟัง
ในอดีตนั้นไป๋อวิ๋นจงกับบิดาของหลงอวี้ ‘หลงจ้ายเทียน’ เคยเป็ขุนพลของอาณาจักรต้าถังทั้งสิ้น เฟิงฉางเกอคือรองขุนพลของหลงจ้ายเทียน
การจะได้เป็ขุนพลนำทัพรับศึกกับศัตรูนอกอาณาจักร หลงจ้ายเทียน ไป๋อวิ๋นจง และเฟิงฉางเกอนั้น ระดับพลังอย่างน้อยสุดต้องสูงกว่าระดับิญญาแท้ขึ้นไปเท่านั้น!
เพียงแต่ว่า เฟิงฉางเกอได้รับาเ็ระหว่างต่อสู้กับศัตรู ทำให้ชีพจรเสียหาย ดังนั้นตอนนี้จึงแสดงพลังออกมาได้แค่ระดับวรยุทธ์ขั้นแปดเท่านั้น แม้แต่ิญญาแท้ก็ไม่สามารถใช้ออกมาได้เลย
‘ที่แท้บิดาของข้าก็มีนามว่าหลงจ้ายเทียน เป็ขุนพลของอาณาจักรต้าถัง เพียงแต่ปู้สิงเองก็ไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับเื่นี้ รายละเอียดคงต้องรอถามประมุขไป๋อวิ๋นแล้ว...’
หลงอวี้คิดในใจเช่นนั้น เงยหน้ามองหอผู้าุโที่อยู่ในป่าไผ่
“ท่านประมุขอยู่ข้างในนี้แหละ เ้าเข้าไปก่อน”
ปู้สิงบอกหลงอวี้ด้วยรอยยิ้ม
“จริงสิศิษย์น้อง อย่าลืมกลับมาหาข้าที่หอวิทยายุทธ์ด้วยนะ สหายสนิทของเ้า หลิงหาน เมื่อสองวันก่อนได้ส่งจดหมายทางนกพิราบสื่อสารมาให้เ้าหนึ่งฉบับ น่าจะมีเื่้าบอกเ้า”
“อืม”
หลงอวี้พยักหน้ารับพร้อมกับคิดในใจ
ก่อนหน้านี้หลิงหานบอกว่าจะกลับไปทีู่เาตระกูลหลิงสักรอบหนึ่ง หรือว่าจะเกิดเื่ขึ้น?
หลงอวี้หยุดคิดเื่นี้ชั่วคราว จากนั้นก็ก้าวเท้าเข้าไปภายในหอวิทยายุทธ์
ภายในหอตอนนี้โล่งไม่เหมือนตอนมาครั้งก่อนที่มีผู้าุโมากมายมารวมตัว
หลงอวี้มองเข้าไปข้างในเห็นแต่ชายวัยกลางคนที่อายุราวๆ สามสิบปี เขามีผมสั้น มีหนวดเล็กๆ ที่มุมปากสองข้าง เขาก็คือประมุขแห่งลัทธิสยบฟ้า ไป๋อวิ๋นจง!
ไป๋อวิ๋นจงตอนนี้กำลังนั่งจิบชาอย่างสบายใจ มองมาทางหลงอวี้
“รับไว้”
ไป๋อวิ๋นจงพูดเพียงสองคำสั้นๆ จากนั้นก็สะบัดมือ โยนหอกยาวเล่มหนึ่งมาทางหลงอวี้
“นี่คือ?”
หลงอวี้ชะงัก แต่ยื่นมือออกไปรับหอกเล่มนั้นโดยไม่รู้ตัว
แต่กระนั้นเอง ในตอนที่มือของเขาแตะโดนหอกเล่มนั้น พริบตานั้นก็รู้สึกราวกับมีเสียงัคำรามดังมาจากในหอกก็ไม่ปาน มันแทรกซึมไปถึงจิตใจและดวงิญญาของเขา!
“หนักมาก!”
หลงอวี้เซเล็กน้อย ต้องยื่นมืออีกข้างออกมาช่วยประคองหอกไว้ถึงจะถือได้
หอกยาวเล่มนี้หนักกว่าที่เขาคิดเอาไว้ น่าจะหนักหลายหมื่นชั่ง ทำเอาเขาเกือบทำมันตกพื้นเลยทีเดียว
“หอกยาวเล่มนี้ คือหอกที่บิดาของเ้าเคยใช้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ นามว่า หอกั์!”
น้ำเสียงของไป๋อวิ๋นจงฟังดูเปลี่ยวเหงาเศร้าโศก ราวกับว่ากำลังรำลึกบางอย่าง
หอกั์!
หลงอวี้ขมวดคิ้ว บิดาเคยใช้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่?
หรือว่า ตอนนี้บิดาของเขาจะตายไปแล้ว?
“บิดาของข้าเขา...”
หลงอวี้อดที่จะถามไม่ได้
“ตอนนี้เ้าสามารถยกหอกั์เล่มนี้ได้แล้ว แม้จะยังไม่คล่องมือ แต่ก็มีเื่บางเื่ที่พอจะเล่าให้เ้าฟังได้บ้างแล้ว”
ไป๋อวิ๋นจงมองเขาครู่หนึ่ง ก่อนจะดื่มชาเข้าไปหนึ่งอึก
“แต่เดิมแล้ว ข้าคิดว่าหอกั์เล่มนี้คงได้แต่หลับใหลไปตลอดกาล ไม่คิดเลยว่าไอ้หนูเ้าจะมีพร์สูงถึงเพียงนี้...”
จากนั้นไป๋อวิ๋นจงก็ได้เล่าให้เขาฟัง เหตุการณ์ต่างๆ ในอดีตราวกับปรากฏตรงหน้าเขาเื่แล้วเื่เล่า!
บิดาของหลงอวี้ หลงจ้ายเทียน ถือกำเนิดขึ้นในตระกูลขุนพลแห่งอาณาจักรต้าถังอย่างตระกูลหลง
ตระกูลขุนพลตระกูลหลง ตระกูลราชวงศ์ตระกูลฉู่ ตระกูลเสนาบดีตระกูลโม่ ถูกเรียกขานว่า สามมหาตระกูลแห่งอาณาจักรต้าถัง เป็ตัวตนที่มีพลังและอำนาจมากที่สุดทั่วอาณาจักรต้าถัง!
มหาอำนาจสามฝ่าย ขุนพล เสนาบดี ราชวงศ์ เป็ตัวตนที่คอยค้ำจุนอาณาจักรต้าถัง
ส่วนตระกูลหวังที่หวังเทียนจั๋วอยู่ คือหนึ่งในสี่ตระกูลขุนนางใหญ่ในเขตพระราชฐาน
ตระกูลขุนนางกับมหาตระกูลนั้นไม่อาจเทียบเคียงกันได้เลย อธิบายง่ายๆ ก็คือ ตระกูลขุนนางทั้งสี่รวมตระกูลหวังด้วย ต่อให้รวมพลังกันก็ยังไม่อาจเทียบกับมหาตระกูลอย่างตระกูลหลงเพียงตระกูลเดียวได้
ตระกูลหลงถือกำเนิดผู้ฝึกยุทธ์อัจฉริยะมากพร์ไม่ขาดสาย ทุกยุคทุกสมัยล้วนได้เป็ขุนพลใหญ่ของอาณาจักรต้าถังทั้งสิ้น หลงจ้ายเทียนเองก็มีพร์สูงมากเช่นกัน อายุเพียงสิบแปดปีก็สร้างิญญาแท้และก้าวสู่ขอบเขตระดับิญญาแท้ได้แล้ว!
พร์ที่ร้ายกาจสุดขีดเช่นนี้ ทำให้ตัวเขาที่อายุยังน้อยได้ขึ้นเป็หนึ่งในขุนพลของอาณาจักรต้าถังแล้ว
และหลังจากนั้น ไป๋อวิ๋นจงและหลงจ้ายเทียนก็ได้รู้จักกันและคบหาเป็มิตรสหาย ส่วนเฟิงฉางเกอนั้นก็เป็รองขุนพลของหลงจ้ายเทียนั้แ่แรก หลงจ้ายเทียนไม่เคยถือตัวจึงคบหากับเฟิงฉางเกอฉันมิตรสหายด้วย!
ตลอดการทำศึกาเป็เวลานานนับสิบปี หลงจ้ายเทียนและไป๋อวิ๋นจงสามารถขัดขวางการร่วมมือกันรุกรานของอาณาจักรกู่เิและอาณาจักรตงยื่อได้หลายครั้งหลายครา สร้างชื่อเสียงโด่งดังเป็ที่เลื่องลือไปทั่วอาณาจักร
ตอนที่หลงอวี้ยังไม่ได้ออกจากเมืองอวี้กวน เขาเคยได้ยินวีรกรรมของไป๋อวิ๋นจงมาก่อน แต่เขาไม่เคยได้ยินเื่ของหลงจ้ายเทียนเลยสักครั้ง ราวกับว่ามันถูกปิดผนึกไว้อย่างจงใจ ไม่มีใครกล้าพูดถึงเลยแม้แต่คำเดียว
นี่ก็คือจุดที่ทำให้หลงอวี้สงสัยเป็อย่างมาก
แต่ หลังจากที่ได้ฟังเื่เล่าจากไป๋อวิ๋นจง ในที่สุดหลงอวี้ก็ได้รู้ความจริง
ที่แท้หลังจากที่หลงจ้ายเทียนเป็แม่ทัพได้สิบปีแล้ว เขาได้รู้จักกับสตรีผู้หนึ่ง นามว่า ‘เป่ยอวี้เหยา’
ยังไม่ต้องพูดเื่ที่เป่ยอวี้เหยานั้นงดงามราวกับนางฟ้าบน์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือนางนั้นมาจากขุมอำนาจหนึ่งที่ทรงพลังยิ่งกว่าทั้งอาณาจักรต้าถังเสียอีก!
หลงจ้ายเทียนครองรักกับเป่ยอวี้เหยา แต่กลับถูกยอดฝีมือจำนวนมากจากขุมอำนาจของเป่ยอวี้เหยาขัดขวาง!
แต่กระนั้น หลังจากผ่านการฆ่าสังหารและการทำศึกาใหญ่ๆ หลายครั้งหลายครา ความแข็งแกร่งจนน่าสะพรึงกลัวของหลงจ้ายเทียนก็เป็ที่หวาดหวั่นของผู้คนทั้งหมด ขุมอำนาจที่เป่ยอวี้เหยาอยู่จึงส่งยอดฝีมือจำนวนหนึ่งมาจัดการ แต่ก็ไม่สามารถต่อกรกับหลงจ้ายเทียนได้!
เมื่อไม่สามารถจัดการได้ ขุมอำนาจนั้นจึงได้หันมากดดันอาณาจักรต้าถังแทน ประจวบกับที่ภายในอาณาจักรต้าถังมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่อิจฉาริษยาหลงจ้ายเทียนอยู่แล้ว ท้ายที่สุด หลงจ้ายเทียนก็ได้ถูกขับออกจากอาณาจักรต้าถังไป
ไม่เพียงแต่ถูกยึดตำแหน่งขุนพลเท่านั้น แต่ยังถูกขับออกจากตระกูลหลง เนรเทศออกจากอาณาจักรต้าถังด้วย!
ส่วนเหตุผลที่ใช้ขับไล่คือการร่วมมือกับศัตรูทรยศอาณาจักร ชัดเจนมากว่าเป็การใส่ร้ายป้ายสี แต่ถูกใช้เป็ความผิดให้หลงจ้ายเทียนถูกขับไล่ออกไปได้จริงๆ
ด้วยเหตุนี้เอง หลงจ้ายเทียนจึงไม่มีที่ไปอย่างสิ้นเชิง!
เขาไม่อาจอาศัยอยู่ในอาณาจักรต้าถัง อีกทั้งเขายังเคยนำทัพทำศึกกับอริราชศัตรู สังหารเหล่านักรบของอาณาจักรกู่เิและอาณาจักรตงยื่อมานับไม่ถ้วน สองอาณาจักรนั้นยิ่งไม่ต้อนรับเขาเข้าไปใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นหลงจ้ายเทียนเองก็เป็คนหยิ่งผยอง ไม่มีทางยอมเข้าร่วมกับศัตรูแน่
เขากับเป่ยอวี้เหยาพเนจรอยู่ข้างนอกนานหนึ่งปี แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด
หลังจากที่เป่ยอวี้เหยาให้กำเนิดหลงอวี้ นางก็ถูกขุมอำนาจของนางจับตัวกลับไป ไม่ได้ยินข่าวคราวอะไรอีก
ส่วนหลงจ้ายเทียน ได้ยินว่าเขาบุกเข้าไปในขุมอำนาจนั้น แต่ผลลัพธ์เป็อย่างไรกลับไม่มีใครล่วงรู้ แม้แต่ไป๋อวิ๋นจงเองก็ไม่รู้ว่าหลงจ้ายเทียนตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนแล้ว
มีเพียงข่าวลือเล็กๆ แพร่ออกมาว่าหลงจ้ายเทียนถูกจัดการไปนานแล้ว เกรงว่าแม้แต่ชีวิตก็คงไม่เหลือ
ส่วนเฟิงฉางเกอนั้น เพื่อที่จะปกป้องหลงจ้ายเทียน ตัวเขาจึงได้รับาเ็สาหัส ชีพจรถูกทำลายอย่างรุนแรง ชาตินี้ไม่อาจก้าวขึ้นสู่ขอบเขตวรยุทธ์ในระดับที่สูงกว่านี้ได้ ใช้พลังได้มากสุดแค่ระดับวิถียุทธ์ขั้นแปดเท่านั้น แม้แต่ิญญาแท้ก็ยังถูกปิดผนึกไว้อย่างสมบูรณ์
หลังจากหลงจ้ายเทียนหายสาบสูญ เฟิงฉางเกอก็พาหลงอวี้กลับไปยังตระกูลเฟิงเมืองอวี้กวน และเลี้ยงดูเขาจนเติบใหญ่
ในขณะเดียวกันเขาก็ได้แต่งงานกับสตรีแห่งตระกูลหลิ่วที่เคยคบหาดูใจกันอยู่ก่อนแล้วอย่างหลิ่วอวี้ พวกเขาให้กำเนิดบุตรีอย่างเฟิงเหยา จากนั้นก็ลงหลักปักฐานที่เมืองอวี้กวน
่เวลาหลายปีที่ผ่านมา มีผู้คนไม่น้อยที่้ากำจัดหลงอวี้เพื่อถอนรากถอนโคนทิ้ง แต่สุดท้ายเขาก็มีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้
“ทั้งราชวงศ์แห่งอาณาจักรต้าถัง ทั้งตระกูลขุนพลตระกูลหลง หรือจะเป็ขุมอำนาจของมารดาเ้า ล้วนมีแต่คน้าฆ่าเ้า”
ไป๋อวิ๋นจงพูดเสียงเรียบ
“แต่ว่า คนที่้าจะปกป้องเ้าเองก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน และด้วยเหตุนี้ ทำให้เ้ามีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้”
“มีคน้าจะกำจัดข้า ข้าเข้าใจได้ แต่ใครกันที่อยากจะปกป้องข้า?”
หลงอวี้ขมวดคิ้ว
“มารดาข้าถูกจับตัวไปแล้ว บิดาข้าหายสาบสูญไป นอกจากนี้แล้ว ยังมีใครอีกหรือ”
“เื่นั้น คงต้องรอให้ตัวเ้าแข็งแกร่งขึ้นก่อน จากนั้นค่อยออกไปตามหาความจริงด้วยตัวเอง”
ไป๋อวิ๋นจงหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพูดกับหลงอวี้
“อันที่จริง ข้าไป๋อวิ๋นจงเป็เพียงแค่คนนอกเท่านั้น เพียงแต่ถูกบิดาของเ้าดึงเข้าไปโดนลูกหลง ทำให้ถูกปลดจากตำแหน่งขุนพลไปด้วย ตอนนี้เลยได้เป็แค่ประมุขคนหนึ่งของลัทธิสยบฟ้าเท่านั้น”
“ท่านเกลียดบิดาของข้าหรือ”
หลงอวี้เอ่ยถาม
“เ้าคิดว่าอย่างไร?”
ไป๋อวิ๋นจงกระแทกเสียงเบาๆ
“เ้าบ้านั่น จะออกไปลุยทั้งทีดันไม่ยอมเรียกข้าไปด้วย น่าเจ็บใจจริงๆ! สุดท้ายก็หายสาบสูญไป ส่วนข้าก็ได้แต่อุดอู้อยู่ในลัทธิสยบฟ้านี่ ช่างน่าเบื่อ น่าเบื่อจริงๆ”
“...”
หลงอวี้พอจะฟังออกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไป๋อวิ๋นจงและหลงจ้ายเทียนนั้นดีไม่เบาทีเดียว ไม่มีทางโกรธเื่ที่ถูกหลงจ้ายเทียนลากเข้าไปโดนลูกหลงด้วยแน่นอน
ตำแหน่งขุนพลไม่อยู่ในสายตาของไป๋อวิ๋นจงเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่ไป๋อวิ๋นจงรู้สึกไม่พอใจมากที่สุดคงจะเป็เื่ที่หลงจ้ายเทียนจากไปคนเดียวโดยไม่บอกกล่าวอะไรเขาเลยต่างหาก!
แต่เื่นี้หลงอวี้ทำได้แค่แอบคาดเดาในใจเงียบๆ เท่านั้น
ราชวงศ์แห่งอาณาจักรต้าถัง ตระกูลขุนพลตระกูลหลง และขุมอำนาจที่มารดาของเขาอยู่ ฝ่ายไหนกันแน่ที่้าจะปกป้องเขา?
ตัวเขาตอนนี้ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับทั้งสามฝ่ายเลยแม้แต่น้อย ย่อมคาดเดาไม่ได้อยู่แล้วว่าใครจะช่วยเขา แต่เื่ที่มั่นใจได้คือ นอกจากเฟิงฉางเกอแล้ว ยังมีคนอื่นที่เป็ห่วงเขาอยู่แน่
“ไม่ว่าอย่างไร ข้าหลงอวี้ก็ต้องก้าวขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของวิถียุทธ์ ทำให้เื่ราวทั้งหมดชัดเจนให้ได้!”
‘หลงจ้ายเทียน บิดาของข้า ข้าจะตามหาท่านให้เจอ แล้วลากคอไอ้พวกที่มันใส่ร้ายว่าท่านทรยศหักหลังอาณาจักรออกมาให้หมด!’
หลงอวี้คิดในใจเช่นนั้น
ในโลกที่วรยุทธ์คือทุกสิ่งเช่นนี้ ขอเพียงมีพลังมากพอ ทุกปัญหาก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป!
“หอกั์เล่มนี้ ตอนนี้ข้ายกให้เ้าเลยก็แล้วกัน”
ไป๋อวิ๋นจงได้เล่าเื่ที่เขาอยากรู้ทั้งหมดออกมาแล้ว เขารู้สึกโล่งอกขึ้นมาไม่น้อย
“เ้านี่ไม่ใช่ยุทธภัณฑ์ทั่วไปนะ หากมันอยู่ในสภาพสมบูรณ์ล่ะก็ อานุภาพของมันจะทรงพลังยิ่งกว่ายุทธภัณฑ์ขั้นสุดยอดเสียอีก แต่น่าเสียดายที่ ตอนนี้หอกั์เสียแล้ว”
หลังจากที่เขาพูดประโยคนี้ หลงอวี้ก็เหมือนจะััได้ว่ามีเสียงดังมาจากหอกั์ในมือของเขา ราวกับมันเสียใจกับสภาพของตัวเองในตอนนี้ก็ไม่ปาน
“ท่านประมุข เหนือกว่ายุทธภัณฑ์ขั้นสุดยอดกับวิทยายุทธ์ขั้นสุดยอด ยังมีระดับที่สูงกว่านี้อยู่อีกใช่ไหม?”
หลงอวี้ขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย
นับั้แ่ที่เขาได้วิธีฝึกฝนของวิชาหมัดัปรภพมา เขาก็ได้รู้ว่าเหนือวิทยายุทธ์ขั้นสุดยอดขึ้นไป ต้องมีระดับชั้นที่สูงยิ่งกว่าอยู่แน่
แต่เขาไม่รู้เสียทีว่ามันคืออะไร ตอนนี้ได้เจอกับไป๋อวิ๋นจงแล้ว จึงได้โอกาสไถ่ถาม
“แน่นอนอยู่แล้ว”
ไป๋อวิ๋นจงเลิกคิ้วขึ้น
“แต่ว่า หากเ้ายังขึ้นไปไม่ถึงขอบเขตระดับิญญาแท้ก็ยังไม่จำเป็ต้องรู้เื่พวกนี้หรอก ตอนนี้เ้าไปเลือกหาวิชาหอกขั้นสูงสักวิชามาใช้คู่กับหอกั์ไปชั่วคราวก่อนดีกว่า”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้