“ยะ...ยานี่เธอได้มาจากไหน” ใน่ขณะที่กัวไฮว่หยิบยาออกมานั่นเองจูเก่อเจิ้งหยวนก็ลุกพรวดขึ้นมาแล้วพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้นจนถึงกระทั่งที่เขาไม่ทันสังเกตเห็นตัวเองแล้วเขาก็ได้สติว่าพลังงานกดทับไร้รูปในร่างกายได้ผุดออกมาก่อร่างในท่า้าจะแย่งชิง
“ยอดฝีมือระยะปี้กู่จริงด้วย!” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “นายท่านครับ เก็บพลังไว้เถอะ ถ้าคุณอยากแย่งไปละก็ผมแนะนำว่าอย่าลองเลยจะดีกว่า”
จูเก่อเจิ้งหยวนมองกัวไฮว่แวบหนึ่ง เขาสูดลมหายใจเข้าลึกให้อารมณ์เย็นลงหน่อย เมื่อเห็นว่ากัวไฮว่เองก็ไม่ได้พูดจาอะไร ในเมื่อเอาของดีๆออกมาแล้ว หรือว่าอยากให้ฉันได้เห็นเท่านั้น
“ยาชำระปราณช่วยขับของสกปรกที่เหลืออยู่ในเส้นเืของยอดฝีมือระยะปี้กู่ให้ออกมาได้ เตรียมตัวสำหรับยาวิเศษไว้ให้ดีเลยนะ” กัวไฮว่พูดอย่างยิ้มแย้ม
“พ่อหนุ่มเรียกฉันมานี่คงไม่ได้จะให้ฉันเห็นยาชำระปราณนี่อย่างเดียวหรอกใช่ไหม” จูเก่อเจิ้งหยวนพูดยิ้มๆ “หลายร้อยปีมานี้ในหัวซย่าฉันเดินทางข้ามน้ำข้ามูเามามากมาย ได้พบเจอผู้มีพลังวิเศษมาไม่น้อย แต่คนที่เดี๋ยวเดียวจะเอายาชำระปราณของแบบนี้ออกมากลับไม่มีเลย”
“ฮ่าๆ ยาชำระปราณนี่ให้นายท่านนะครับ ตอนเด็กๆผมเคยได้ยินว่านายท่านต่อสู้คนเดียวที่เขาเซวี่ยซาน เลยเลื่อมใสนายท่านมากวันนี้มีวาสนาได้เจอกัน ผมให้นายท่านนะครับ” กัวไฮว่พูดพลางส่งยาเก้าสีเม็ดนั้นไปให้จูเก่อเจิ้งหยวนทำให้จูเก่อเจิ้งหยวนเดาไม่ออกกว่าเดิมว่ากัวไฮว่้าจะทำอะไร
“ไร้ผลงานแต่กลับได้ลาภยศมา พ่อหนุ่มอยากให้ฉันทำอะไรเหรอถ้าทำได้ฉันก็จะรับมันไว้ ถ้าทำไม่ได้ เธอก็เก็บมันไปเถอะ” จูเก่อเจิ้งหยวนพูดเบาๆ แม้ปากจะพูดเช่นนั้น ทว่าเขาก็บีบยาเม็ดนั้นไว้จนแน่น
“นายท่านน่าจะรู้ดีนะครับว่าผมเปิดคลินิกอยู่ เป็คลินิกรักษาช่วยชีวิตคนจะมีเื่อะไรให้นายท่านมาสอดมือช่วยอีกได้ล่ะ” กัวไฮว่พูดอย่างยิ้มแย้ม “ถ้านายท่านยังไม่สบายใจอีกเมื่อกี้ผมััได้ว่าวัตถุดิบยาในถุงของคุณคุณภาพไม่เลวเลย ให้ผมดีไหมครับยาชำระปราณนี่ถือเป็ของแลกเปลี่ยนกันก็ได้แล้ว”
“พ่อหนุ่ม ถึงยาที่ฉันมีจะคุณภาพไม่เลวแต่เธอรู้มูลค่าของยาชำระปราณนี่หรือเปล่าในหัวซย่านอกจากพวกนักพรตอิสระที่บำเพ็ญอย่างตั้งใจในต่างประเทศพวกนั้นแล้วเนี่ยก็ยังมียอดฝีมือระยะปี้กู่อีกสามสิบกว่าคนยาชำระปราณแบบนี้ทำให้พวกยอดฝีมือระยะปี้กู่ช่วยเหลือเธอในเื่ต่างๆ ได้นะ” จูเก่อเจิ้งหยวนกล่าวขึ้นเบาๆ
“คุณปู่ จะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนคุณบอกมาคำเดียว จะมากเื่มากความทำไมถ้าคุณรู้สึกเอาเปรียบผมละก็ งั้นคุณก็มาอยู่ที่คลินิกไม่สักพักสิหนึ่งถือว่ามาช่วยผมดูแลคลินิกไม่ ผมมีน้องๆ ที่มีความสามารถไม่เลวเลยคิดว่าถ้าคุณได้เจอแล้วก็คงชอบ สองมาบำเพ็ญเพียรอยู่ที่นั่น อาศัยอยู่อย่างเงียบๆในเมืองอันวุ่นวาย ไม่ได้เป็อย่างนี้หรอกหรือ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ฮ่าๆ คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าอยู่มาตั้งหลายปีแล้วยังไม่อาจละทิ้งคำว่าเจตนาเดิมได้เลยเทียบกับพ่อหนุ่มแล้วฉันแย่กว่าเยอะเลยจริงๆ ยาฉันทิ้งไว้นี่แหละส่วนของในถุงผ้านี่ฉันสะสมเองเกือบร้อยปี เธอเอาไปเถอะผ่านไประยะหนึ่งฉันค่อยไปเยี่ยมเยียนเพื่อนๆ เสร็จแล้วค่อยไปที่คลินิกของเธอ ฮ่าๆ” พูดเสร็จ จูเก่อเจิ้งหยวนเดินยิ้มๆ ออกไปจากห้างประมูล
“พันสามร้อยล้าน! ใครบอกกันล่ะว่ายานี่ใช้ได้แค่กับผู้ชายชื่อยาว่ายากระตุ้นปราณไม่ใช่เหรอ ทำไมผู้หญิงจะร่วมด้วยไม่ได้” หลังจากที่ราคายากระตุ้นปราณเม็ดที่สองลอยสูงลิ่วถึงราคาหนึ่งพันสามร้อยล้านตอนนี้ไม่ใช่าระหว่างตระกูลใหญ่แล้ว เพราะคนะโบอกราคาคือผู้หญิงคนหนึ่งผู้หญิงที่แสนจะแกร่งคนหนึ่ง เธอมีธุรกิจในเมืองหลวงเป็ของตนเองไม่ได้มาจากตระกูลใหญ่ตระกูลใด ทำเอาทุกคนปวดหัวกันไปหมด
“หนึ่งพันสามร้อยล้านครั้งที่สาม ยินดีกับคุณหนูโอวหยางซีเยวี่ยด้วยนะคะยาชำระปราณนี่เป็ของคุณค่ะ” หลิ่วเยียนกล่าวเสียงดังหนึ่งพันสามร้อยล้าน ทำลายสถิติงานประมูลได้อีกครั้ง
“น้องหลิ่วเยียนยากระตุ้นปราณนี่แค่ผู้ชายหรือว่าผู้บำเพ็ญเพียรเท่านั้นเหรอที่กินได้ ถ้าฉันกินไปจะมีผลข้างเคียงอะไรหรือเปล่า” โอวหยางซีเยวี่ยถามยิ้มๆ หนึ่งพันสามร้อยล้านสำหรับคนที่มีมูลค่าสูงถึงหมื่นล้านอย่างเธอแล้วนี่ไม่ใช่จำนวนที่น้อยเลยทีเดียวทว่าเงินหมื่นล้านกับพันล้านนี่ต่างกันแค่เลขศูนย์เลขเดียวไม่ใช่เหรอถ้าเป็ปกติก็ใช้จ่ายไม่หมดอยู่แล้ว มันก็เป็เพียงแค่ตัวเลขชุดหนึ่งเท่านั้น
“พี่โอวหยางคะ ผอ. กัวไฮว่ให้ฉันมาบอกพี่ว่าพี่กินยากระตุ้นปราณนี่ได้ส่วนสรรพคุณอย่างอื่นไม่ต้องพูดมาก อย่างน้อยๆ ก็ทำให้พี่อายุเพิ่มขึ้นสามสิบปีแน่นอนว่าทุกคนอาจมองว่าเป็เื่ตลก เพราะยังไงสามสิบปีนี่ก็ไม่มีทางจะพิสูจน์ได้อยู่แล้ว” หลิ่วเยียนพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้ม
ทว่าโอวหยางซีเยวี่ย กลับยิ้มแฉ่งราวกับดอกไม้ สามสิบปีนี่เ้าพวกอวดดี พวกแกได้ยินแล้วสิว่าจ่ายเงินไปเยอะขนาดนี้ทำไมถ้าไม่ใช่เพื่อที่จะดื่มด่ำชีวิตมีชีวิตอยู่อีกสักหลายปีหรอกเหรอ
“ฝากฉันขอบคุณผอ. กัวด้วยนะรอให้งานประมูลสิ้นสุดลงแล้วซีเยวี่ยจะต้องไปพบผอ.กัวที่คลินิกไม่เมืองอู่เฉิงแน่นอน” โอวหยางซีเยวี่ยพูดยิ้มๆจากนั้นก็นั่งลงไปบนเก้าอี้ของตนเอง
“ยากระตุ้นปราณเม็ดสุดท้ายนะคะ สินค้าประมูลชิ้นสุดท้ายจากคลินิกไม่ราคาต่ำสุดอยู่ที่หนึ่งร้อยล้าน เริ่มเลยค่ะ” หลิ่วเยียนพูดยิ้มๆตระกูลหนานกงได้มาหนึ่งเม็ด โอวหยางซีเยวี่ยได้มาหนึ่งเม็ดเม็ดสุดท้ายนี่จะตกเป็ของใครกันนะ
เงียบสงบ...งานประมูลเงียบสงบลงในทันที หลิ่วเยียนชะงักไปทุกคนต่างรอคอย หลิ่วเยียนััได้ว่าหลายคนอยากได้ยาเม็ดที่สามนี่ทว่าไม่มีใครปริปากพูด
เธอจะไปรู้ได้อย่างไรว่าที่เธอถ่ายทอดคำพูดของกัวไฮว่เมื่อสักครู่ที่ว่าเพิ่มอายุอีกสามสิบปีทำเอาเหล่าเศรษฐีนั่งไม่ติดที่พวกเขาไม่เข้าใจหรอกหากบอกแค่เพิ่มระดับเขตแดนได้ทว่าเพิ่มอายุนี่ใครบ้างที่จะไม่เข้าใจ อยู่ต่ออีกสักพักหน่อยก็แล้วกันใครไม่อยากอยู่นานๆ บ้างล่ะ
ในตอนนี้เองทุกคนไม่ได้พิจารณาแล้วว่าสามสิบปีนั่นจริงหรือไม่แต่ในเมื่อมียาที่ทำให้หญิงสาวอัปลักษณ์ตระกูลฉื่อเปลี่ยนไปได้มากในเวลาไม่นานได้ถ้าจะเพิ่มอายุได้สามสิบปีก็ไม่น่าประหลาดใจเลย
“ในเมื่อทุกคนไม่ประมูลงั้นก็ข้ามยากระตุ้นปราณเม็ดสุดท้ายนี่ไปแล้วกันนะคะ” หลิ่วเยียนพูดพลางยกค้อนไม้เอาไว้ในมือ
“แม่มันเถอะ พวกแกไม่เอาฉันเอา พันห้าร้อยล้าน ฉันซ่งต้าฉุยออกพันห้าร้อยล้าน เงินเป็ของนอกกาย ไม่ตายก็หาใหม่ได้” ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งพูดขึ้นเสียงดังด้วยสำเนียงตงเป่ย[1] คนคนนี้เป็ผู้ประกอบการอาหารของตงเป่ยที่มาร่วมงานประมูลในครั้งนี้ก็เพียงแค่ผ่านทางเท่านั้นตอนแรกไม่คิดเลยว่าจะคึกคักอย่างนี้ ทว่าความคึกคักในตอนนี้จะอย่างไรก็ต้องร่วมเสียหน่อย
“ต้าฉุย นี่มันงานประมูลเมืองหลวงนะ แกจะมาคึกคักอะไรด้วยยากระตุ้นปราณนี่พวกเรายังไม่พอแบ่งด้วยซ้ำ ยังจะให้แกพาไปตงเป่ยได้อีกพันหกร้อยล้าน” เฉียวฉวนอันผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เมืองหลวงชายชราอายุเกินหกสิบปีผู้หนึ่งพูดด้วยเสียงดัง
“ฉวนอันพูดถูก ยานี่ต้องเก็บไว้ที่เมืองหลวง พันเจ็ดร้อยล้าน” จางเทียนจ้าน าาค้าปลีกแห่งเมืองหลวงหรือจะเรียกว่าาาค้าปลีกแห่งหัวซย่าพูดขึ้นด้วยเสียงดัง
“ทุกท่านคะ ผอ. กัวให้ฉันมาเตือนทุกท่านว่าคนที่สุขภาพแข็งแรงกินยานี่ไปก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ แต่ถ้าสภาพร่างกายตอนนี้ไม่สู้ดีก็กินไม่ได้ฤทธิ์ยาแรงมาก อาจย้อนกลับได้ ถ้า้ารักษาก็สามารถไปที่คลินิกไม่ได้” หลิ่วเยียนกล่าวเตือนด้วยความหวังดี
“สามพันล้าน เงินเยอะแค่นี้เอง ฉันป่วยเป็โรคซึมเศร้า ฉันไม่เอาเงินแล้วตอนแรกก็ตั้งใจจะบริจาค แต่ในเมื่อมีโอกาสแบบนี้ ฉันรู้สึกว่าบริจาคไปก็สู้ให้คลินิกไม่ได้หรอกคลินิกแพทย์ดีๆ ยังดีกว่าองค์กรการกุศลอีก” เฉินหลงตงอายุห้าสิบปี เป็บุคคลในตำนานแห่งวงการการค้าเมืองหลวง อะไรที่ทำเงินได้ก็ทำและติดอันดับที่หนึ่งรายชื่อคนดีในทุกๆ ปีเป็ชื่อที่ใครพูดขึ้นมาต่างก็ลุกขึ้นแสดงความเคารพเลื่อมใส
[1] ภาคตะวันออกเฉียงเหนือถูกขนานนามว่าเป็ดินแดนแห่งเทพนิยายเนื่องจากมีธรรมชาติที่งดงาม