เจียงเฉินไม่ได้ตอบรับคำเชิญงานเลี้ยงของชาวเมือง เขาได้พาหวงต้าที่หลับอยู่กลับไปยังคฤหาสน์ของเขา เมื่อชาวเมืองเห็นหวงต้าได้รับาเ็ไม่ได้สติจากการต่อสู้กับราชันย์จันทราโลหิต พวกเขาต่างเฝ้าภาวนาให้มันฟื้นตัวโดยเร็ว
ภายในห้องในคฤหาสน์เจียงเฉิน เขาได้วางหวงต้าลงบนเบาะรองนั่ง เพื่อให้มันได้ดูดซับพลังงานจากชีพจรพลังงาน นอกจากนี้เขายังนำวารีกำเนิดพลังให้มันกินอีก ทั้งสองอย่างสามารถทำให้มันฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
หลังจากที่ป้อนวารีกำเนิดพลังแก่หวงต้าเสร็จ เจียงเฉินก็ปิดด่านฝึกตน การเดินทางไปยังหุบเขาิญญาเมฆาได้ให้อะไรเขามากมาย นอกจากธงโลหิต เขายังได้แก่นโลหิตสี่ลูก หนึ่งในนั้นคือแก่นโลหิตของราชันย์จันทราโลหิต ส่วนอีกสามมาจากขุนพลปีศาจโลหิตแก่นแท้์ขั้นปลาย แก่นพลังงานปีศาจนี้มีประโยชน์แก่เจียงเฉินเป็อย่างมาก โดยเฉพาะของราชันย์จันทราโลหิต มันมีพลังงานจำนวนมหาศาลอยู่ภายใน ทำให้เจียงเฉินสามารถสร้างตราประทับัเพิ่มอีกหลายดวงจากการดูดซับมัน
นอกจากการดูดซับแก่นแท้โลหิตแล้ว เจียงเฉินจำเป็ต้องทำการบ่มเพาะอย่างสงบเพื่อทำให้ระดับการบ่มเพาะของเขาเสถียร
รุ่งเช้าวันต่อมา เจียงเฉินได้ฟื้นขึ้นจากการฝึกตน พลังปราณของตัวเขาในตอนนี้ทรงพลังยิ่งกว่าก่อนมากนัก แก่นแท้โลหิตของแก่นแท้์ขั้นปลายสี่ลูก ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันให้พลังแก่เขามากมายนัก โดยเฉพาะที่ได้มาจากราชันย์จันทราโลหิต พลังงานจากแก่นแท้โลหิตทำให้เขาสร้างตราประทับัให้เขาได้ถึงสามสิบดวง
ก่อนจะดูดซับแก่นแท้โลหิต เจียงเฉินมีตราประทับัทั้งหมดหนึ่งร้อยยี่สิบดวง เมื่อรวมเข้ากับตราประทับัอีกสามสิบดวงที่ได้มาใหม่ ในตอนนี้เขาได้มีตราประทับัทั้งหมดหนึ่งร้อยห้าสิบดวง ด้วยสิ่งนี้ทำให้ความแข็งแกร่งของเจียงเฉินเพิ่มมากขึ้น เขาได้เข้าใกล้ขอบเขตแก่นแท้์ขั้นกลางขึ้นอีกก้าว
ตราบที่เขาจัดการสร้างตราประทับัได้ครบสองร้อยดวง เขาก็จะสามารถทะลวงเข้าสู่แก่นแท้์ขั้นกลางได้ และความแข็งแกร่งของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นอีกระดับ
ขณะที่เจียงเฉินเดินออกมาจากคฤหาสน์ อี้จื่อฮันก็ได้มารอเขาสักพักหนึ่งแล้ว เจียงเฉินได้มอบภารกิจบางอย่างแก่ท่านเ้าเมืองจางเจิ้น และขอให้เขาดูแลหวงต้า นอกจากนี้ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปในคฤหาสน์ของเขาเป็อันขาด
หลังจากเื่ทั้งหมดเสร็จสิ้น เจียงเฉินและอี้จื่อฮันได้ทะยานสู่ฟ้า มุ่งหน้าไปยังนิกายเซวียนอี้
"น้องเจียง เ้าได้สังหารปีศาจโลหิตทั้งหมด อีกทั้งยังสังหารราชันย์จันทราโลหิตลงได้ เมื่อพวกเรากลับถึงนิกายเซวียนอี้ ข้ามั่นใจว่าท่านผู้นำนิกายต้องตบรางวัลให้เ้าอย่างงาม"
อี้จื่อฮันพูดด้วยรอยยิ้ม เจียงเฉินมายังเขตหวงฉีเพราะถูกผู้นำนิกายมอบหมายภารกิจให้ และในตอนนี้เขาได้ทำภารกิจสำเร็จลุล่วงอย่างสมบูรณ์ ชื่อเสียงในนิกายเซวียนอี้จะต้องพุ่งทะยาน และเขาจะกลายเป็อัจฉริยะอันดับหนึ่งของนิกายเซวียนอี้
เจียงเฉินตอบกลับเพียงแค่รอยยิ้มเท่านั้น ไม่ได้พูดอะไร คอนนี้เขา้าที่จะกลับไปยังนิกายเซวียนอี้ให้เร็วที่สุดที่สามารถทำได้ แม้ว่าเขากำลังเดินทางกลับไปยังนิกายเซวียนอี้ ความไม่สบายใจได้เกิดขึ้นในใจเขาอีกครั้ง เป็เื่ยากที่เขาจะรู้สึกเช่นนี้ เขารู้สึกว่าต้องมีเื่ไม่ดีเกิดขึ้นเป็แน่
อี้จื่อฮันััได้ว่าเจียงเฉินกำลังคิดอะไร ดังนั้นเขาจึงหุบปากและรีบบินต่อไป
ฟิ้วววว..!
เมื่อทั้งสองเข้าใกล้เขตหุบเขา ลำแสงได้ปรากฏขึ้นและขวางทางพวกเขา มันเป็ชายสวมชุดคลุมสีเทา ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความสง่างามที่ไม่สามารถปิดซ่อนได้ มันคือเหลียงเซียวจากนิกายเทียนเจี้ยน
เจียงเฉินและอี้จื่อฮันหยุดกลางอากาศ เหลียงเซียวไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับพวกเขา เจียงเฉินไม่จำเป็ต้องพูดสิ่งใด เขาและนิกายเทียนเจี้ยนมีความบาดหมางกัน ส่วนอี้จื่อฮันซึ่งเป็ศิษย์ในของนิกายเซวียนอี้ ย่อมรู้จักเหลียงเซียวหนึ่งในสุดยอดอัจฉริยะแห่งนิกายใหญ่ทั้งสี่
แม้แต่คนโง่ยังรู้ ว่าทำไมเหลียงเซียวถึงปรากฎตัวที่นี่ ระหว่างเจียงเฉินและนิกายเทียนเจี้ยนมีความบาดหมางต่อกันนั่นทุกคนต่างรู้ดี เหตุผลที่เหลียงเซียวมาที่นี่ชัดเจนว่าเป็เพราะเจียงเฉิน
"ข้าไม่คิดเลยว่าราชันย์จันทราโลหิตจะอ่อนแอถึงเพียงนี้ ตกตายด้วยน้ำมือเ้า ช่างน่าผิดหวังเสียจริง"
สายตาที่แหลมคมดุจคมดาบของเหลียงเซียวจับจ้องไปที่เจียงเฉิน จากนั้นท่าทีตกตะลึงได้ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของมัน
"คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ั้แ่การแข่งประจำปีแคว้นฉีจนถึงบัดนี้ เ้าสามารถเติบโตได้ถึงขนาดนี้ในเวลาสั้นๆ"
จากการที่มันได้ััได้ถึงพลังปราณของเจียงเฉิน ได้ทำให้เขาตกตะลึงอย่างมาก เวลาประมาณเดือนเดียวนับั้แ่การแข่งขันประจำปีแคว้นฉี เพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น เจียงเฉินได้เติบโตขึ้นจากขอบเขตแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้นเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ขั้นต้นได้ อีกทั้งยังสามารถสังหารราชันย์จันทราโลหิต ช่างเป็เื่น่าประหลาดใจอย่างมาก
"เป็เฝินคุนสินะที่บอกว่าข้าอยู่ที่นี่"
เจียงเฉินยิ้มเยาะออกมา เขตหวงฉีอยู่ภายใต้อาณาเขตของนิกายเซวียนอี้ มันเป็สถานที่ซึ่งไกลจากนิกายเทียนเจี้ยน อีกทั้งยังมีเื่เกี่ยวกับปีศาจโลหิตเกิดขึ้น มันจำเป็ต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าเขตอื่นของแคว้นฉีจะรับรู้เื่ราวนี้ ถึงอย่างนั้น เหลียงเซียวก็ทราบเื่ราวที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังสามารถมาขวางทางเขาได้ ชัดเจนว่าต้องมีใครสักคนบอกมันเกี่ยวกับเื่ที่เกิดขึ้น และนั่นต้องเป็คนของนิกายเซวียนอี้ นอกจากเฝินคุน เจียงเฉินไม่สามารถคิดว่าคนอื่นจะสามารถทำเช่นนี้ได้
"เื่นั้นมันไม่สำคัญ ที่สำคัญคือวันนี้เ้าต้องตาย เมื่อข้าเหลียงเซียวลงมือ เ้าจะต้องตกตายอย่างไม่ต้องสงสัย ข้าแนะนำว่าเ้าอย่าพยายามขัดขืนหรือตอบโต้จะดีกว่า หากเ้ายอมแพ้ในตอนนี้ ข้าจะมอบความตายที่แสนสบายให้แก่เ้า"
เหลียงเซียวพูดอย่างไม่ใส่ใจ ในสายตาของเขา เจียงเฉินก็เหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว
"น้องเจียง พวกเราควรทำอย่างไรดี?มันไม่ใช่เื่ง่ายที่จะต่อสู้กับเหลียงเซียว"
ใบหน้าของอี้จื่อฮันมืดทะมึน เหลียงเซียวไม่ใช่คนที่เฝินคุนสามารถเทียบได้ เขาเป็หนึ่งในสุดยอดอัจฉริยะทั้งสี่ในแคว้นฉี เทียบเท่ากับกวนอี้หยุน
แม้ว่าเจียงเฉินจะสามารถสังหารราชันย์จันทราโลหิตลงได้ อี้จื่อฮันรู้ว่าทำไมเขาถึงสามารถทำได้ หากไม่ใช่ว่าราชันย์จันทราโลหิตอยู่ระหว่างการทำพิธีสังเวยโลหิต เจียงเฉินคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของราชันย์จันทราโลหิตเป็แน่
"ในเวลานี้ ข้าชักอยากจะเห็นแล้วสิ ว่าเหลียงเซียวจะร้ายกาจสักแค่ไหน?"
มุมปากของเจียงเฉินยกขึ้นเผยรอยยิ้มกว้าง ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ไม่เหมือนกับตอนที่เขาเพิ่งจะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ ด้วยตราประทับัทั้งหนึ่งร้อยห้าสิบดวงทำให้เขามั่นใจ ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ ยากที่ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์จะสามารถรับมือได้ เหลียงเซียวปรากฎตัวขึ้นมาในเวลาที่เจียงเฉิน้าทดสอบความแข็งแกร่งของเขา
อี้จื่อฮันรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก มองไปยังใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจของเจียงเฉินด้วยความไม่อยากเชื่อ เขาคิดกับตัวเองว่าชายคนนี้มีความกล้าอย่างมาก เขาไม่เกรงกลัวเหลียงเซียวแม้แต่น้อย
" จื่อฮัน เ้าถอยไปอยู่ข้างๆซะ"
เจียงเฉินบอกกับอี้จื่อฮัน จากนั้นเพียงพริบตา เขาก็ได้เข้าประชิดเหลียงเซียว ร่างกายของเขาเปล่งแสงออกมา จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความฮึกเหิม
"ดีมาก เจียงเฉิน หลังจากที่ได้พบข้าเหลียงเซียวแล้วยังคิดจะสู้อยู่อีก เช่นนั้น ข้าจะฆ่าเ้าซะ!"
เหลียงเซียวปลดปล่อยพลังปราณของเขาออกมา ชัดเจนว่าเขาไม่้าเสียเวลาเปล่า เขายื่นมือขนาดั์ออกไปคว้าไปยังเจียงเฉิน
ฮึ่ม!
เจียงเฉินแค่นเสียงเ็า เขากำหมัดของแน่น บนหมัดเปล่งแสงเจิดจ้า เขาชกออกไปข้างหน้า พลังมหาศาลดุจูเากดทับไปยังเหลียงเซียว
ปัง!
การโจมตีอันทรงพลังจากยอดฝีมือทั้งสอง ทำให้เกิดคลื่นพลังสั่นะเืฟ้าดินขึ้น คลื่นพลังงานเ่าั้ได้แปรเปลี่ยนเป็ลำแสงหลากสีกวาดผ่านท้องฟ้า ผลกระทบจากพลังงานจำนวนมากได้ทำให้เนินเขาขนาดเล็กด้านใต้พวกเขาพังทลายลง
เจียงเฉินถอยหลังไปสามก้าวกลางอากาศ เมื่อเขามองไปที่เหลียงเซียว พบว่าเหลียงเซียวยังคงลอยอยู่ที่เดิม ชัดเจนว่าเหลียงเซียวเป็ผู้ชนะในการแลกเปลี่ยนกระบวนท่าครั้งแรก แต่จริงๆแล้วมันการลงมือที่สูสีกัน และผลที่ออกมาได้ทำให้เหลียงเซียวต้องประหลาดใจ
'เ้านี่แข็งแกร่งอะไรขนาดนี้ เ้าหมอนี่เป็แค่ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ขั้นต้น แต่มันสามารถประมือกับข้าได้อย่างเท่าเทียม นี่มันไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ เ้านี่มีพร์และศักยภาพสูงมาก!ข้าต้องกำจัดมันให้เร็วที่สุดเท่าทีข้าจะทำได้ มิเช่นนั้นแล้ว มันจะกลายเป็ปัญหาใหญ่ต่อพวกเราเป็แน่"
ประกายตาของเหลียงเซียวเปลี่ยนเป็อำมหิต จิตสังหารที่รุนแรงได้ปกคลุมทั่วร่าง มันต้องสังหารให้จงได้ โอกาสที่เช่นวันนี้หาได้ยาก เขาจะต้องใช้โอกาสนี้สังหารเจียงเฉินให้จงได้ เมื่อเจียงเฉินกลับถึงนิกายเซวียนอี้ คงจะหาโอกาสเช่นนี้อีกไม่ได้
ส่วนเจียงเฉิน ผลที่ออกมาไม่ได้ทำให้เขาประหลาดใจนัก แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นมาก เหลียงเซียวก็เป็ถึงหนึ่งในสี่สุดยอดอัจฉริยะแห่งแคว้นฉี มันเป็ตัวแทนของนิกายเทียนเจี้ยน มันไม่ใช่คนที่ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ขั้นปลายทั่วไปจะสามารถเทียบได้ นอกจากนี้ระดับการบ่มเพาะพลังของเขายังด้อยกว่าเหลียงเซียวถึงสองขั้น เป็เื่ปกติที่ผลจะออกมาเช่นนี้
"เจียงเฉิน เ้าเป็อัจฉริยะไร้ที่เปรียบจริงๆ ทำให้ข้าต้องฆ่าเ้าให้ได้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม"
จิตสังหารที่รุนแรงของเหลียงเซียวทะยานสู่์ เหลียงเซียวะโออกมาเสียงดัง
"หมัดภูผา์!"
เปรี้ยง.........
หลังจากที่เหลียงเซียวะโ มันก็ได้ปล่อยหมัดออกมา ลำแสงจำนวนนับไม่ถ้วนได้ทำให้อากาศโดยรอบสั่นะเื ลำแสงโดยรอบได้หลอมรวมกลายเป็หมัดสีทองขนาดั์ มันใหญ่ราวสามสิบจ้าง มันมีพลังทำลายล้างมหาศาล พุ่งทะลวงลงมาจากท้องฟ้าพุ่งเข้าใส่เจียงเฉินอย่างรวดเร็ว
"หกดัชนีสุริยัน!"
ขณะเดียวกัน เจียงเฉินได้ะโออกมาเสียงดัง เขาได้ตอบโต้ด้วยทักษะหกดัชนีสุริยัน ตอนนี้เขาสามารถปลดปล่อยดัชนีทองคำได้ถึงสี่ดัชนี ด้วยความแข็งแกร่งของเจียงเฉินในตอนนี้การปลดปล่อยดัชนีสุริยันทั้งสี่ดัชนีเป็เื่น่าเหลือเชื่อมาก
ตูม!......
กระบวนท่าอันทรงพลังทั้งสองเข้าปะทะกัน คลื่นพลังที่เกิดขึ้นจากการปะทะกันรุนแรงยิ่งกว่าก่อนหน้า ภายใต้ผลจากการปะทะกันอย่างรุนแรง อี้จื่อฮันที่ยืนอยู่ไกลๆหน้าซีดขาว ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ หากเขาเข้าร่วมการต่อสู้นี้ด้วยเขาต้องถูกสังหารในทันทีเป็แน่
หมัดภูผา์กับหกดัชนีสุริยะ ต่างเป็ทักษะขั้นปฐีทั้งคู่ แต่มันก็ไม่ว่าจะเป็ระดับ หรือความแข็งแกร่งจากทักษะ หกดัชนีสุริยันไม่ใช่สิ่งที่หมัดภูผา์จะเทียบได้
เมื่อพลังงานจำนวนมากได้เข้าปะทะกัน ทั้งเจียงเฉินและเหลียงเซียวต่างได้รับาเ็จากการการปะทะอย่างรุนแรง ความแข็งแกร่งของเจียงเฉินเปรียบเสมือนมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ เมื่อรวมกับทักษะยุทธที่ทรงพลัง แม้ว่าจะมีช่องว่างระหว่างตัวเขากับเหลียงเซียว ผลที่ออกมาในครั้งนี้เสมอกัน
หรือจะพูดอีกอย่าง เจียงเฉินในตอนนี้ไม่ใช่คนที่เหลียงเซียวสามารถสังหารได้ตามใจชอบ แม้มันจะสามารถกดดันเจียงเฉินได้เล็กน้อย แต่มันเป็ไปไม่ได้ที่มันจะสังหารเจียงเฉินในตอนนี้
"มันร้ายกาจขนาดนี้ได้อย่างไร? ทักษะยุทธที่มันใช้เมื่อกี้ ข้าสามารถบอกได้ว่าระดับมันสูงกว่าทักษะหมัดภูผา์ของข้าเสียอีก"
เหลียงเซียวตกตะลึงอย่างมาก ทักษะหมัดภูผา์เป็ทักษะยุทธที่ทรงพลังที่สุดของมัน มันคิดว่ามันสามารถใช้ทักษะนี้ในการจัดการเจียงเฉินได้ แต่มันคาดไม่ถึงว่าเจียงเฉินจะตอบโต้กลับด้วยทักษะยุทธที่ทรงพลังยิ่งกว่าทักษะยุทธของเขา
"เหลียงเซียว ใครจะอยู่ใครจะตายยากที่จะตัดสิน 'มายาเก้าร่าง'"
ในตอนนี้จิตสังหารของเจียงเฉินได้ทะยานขึ้นสูงเสียดฟ้า เหลียงเซียว้าสังหารเขา เขาก็้าสังหารเหลียงเซียว ด้วยตราประทับัที่ได้เพิ่มขึ้นสามสิบดวง รวมกับทักษะลับที่เจียงเฉินได้เก็บงำเอาไว้ เขามั่นใจว่าในวันนี้เขาสามารถสังหารเหลียงเซียวได้
ฟุ่บ...ฟุบ...ฟุบ...
ทันใดนั้น ร่างของเจียงเฉินทั้งเก้าได้ปรากฎขึ้นในเวลาเดียวกัน ท่าทีเยือกเย็นตลอดเวลาของเหลียงเซียวในที่สุดก็แปรเปลี่ยนไป
"ทักษะเคลื่อนที่บ้าอะไรนั่น? มันสามารถสร้างร่างมายาที่เหมือนกันมากมายในเวลาเดียวกัน?"
ในตอนนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งของเจียงเฉิน เหลียงเซียวได้สูญเสียความเยือกเย็นและความมั่นใจไปจนหมดสิ้น การปรากฎร่างเจียงเฉินถึงเก้าร่างได้ทำให้เขาสับสนมาก และเขาไม่สามารถแยกออกว่าร่างไหนคือร่างจริงของเจียงเฉิน
ฝ่ามือของเจียงเฉินทั้งเก้าร่างได้ซัดออกมาพร้อมกัน เหลียงเซียวที่กำลังสับสนจากเจียงเฉินจำนวนมากตรงหน้าของมัน จึงได้โต้ตอบกลับด้วยทักษะหมัดภูผา์ ร่างเจียงเฉินห้าร่างถูกทำลายในทันที
เหลียงเซียวรวดเร็วมาก และเขาได้พบกับร่างจริงของเจียงเฉิน เขาได้ชกอย่างรุนแรงออกไปยังฝ่ามือของเจียงเฉิน
อย่างไร เหลียงเซียวก็มิได้สังเกตเห็นถึงรอยยิ้มมีเลศนัยบนใบหน้าของเจียงเฉิน และฝ่ามือของเจียงเฉินมีแสงสีเขียวกะพริบอยู่
