ในเมืองที่เจริญรุ่งเรืองยังคงมีแหล่งเสื่อมโทรมอยู่จำนวนไม่น้อย ในเมืองที่เจริญๆอย่างจิงหัวเองก็ยังมีขอทานเดินวนไปวนมาอยู่ทุกทีรวมทั้งยังมีแหล่งเสื่อมโทรมโกโรโกโสอีกมากมาย ในสายตาของพวกคนรวยหรือพวกที่คิดว่าตัวเองรวยการคนอยู่ของคนเหล่านี้มักจะไม่ได้รับความเมตตา ในทางกลับกันก็จะไม่มีการผ่อนปรนใดๆทั้งสิ้น เพราะคนเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อเมืองและยังรกหูรกตาเขาพวกอีกด้วย
ทางเหนือของเมืองจิงหัวในเขตเสื่อมโทรมที่แออัดแห่งหนึ่ง ที่แห่งนั้นมองไม่เห็นกำแพงที่สมบูรณ์เลยสักแห่ง แม้กระทั่งสิ่งก่อสร้างสูงห้าชั้นที่เหลือในเวลานี้ก็กลายเป็ตึกเก่าคร่ำครึสีดำไปหมด ถนนหนทางของที่แห่งนี้ทำด้วยดินและก้อนหินบด ยากจะหาพื้นเรียบให้วางเท้าได้อย่างสบายๆ
ในบ้านเช่าที่มีพื้นที่แค่เจ็ดตารางเมตร ห้องเล็กๆห้องหนึ่งราคาเดือนละ 80 เหรียญหัวเซี่ยที่มีสภาพราวกับพร้อมจะถล่มลงมาได้ทุกเมื่อห้องนี้มีราคาเท่ากับค่าเช่าโรงแรมในเมืองใหญ่เพียงแค่สามชั่วโมงเท่านั้น ในห้องนั้นมีเตียงนอนหนึ่งหลังวางอยู่พร้อมกับโต๊ะเก่าๆสองตัวและเก้าอี้อีกหนึ่งตัว บนโต๊ะตัวหนึ่งนั้นยังมีหม้อหุงข้าวแบบบ้านๆวางอยู่ส่วนโต๊ะอีกตัวก็มีขวดและกระป๋องวางเกลื่อนกลาดไปหมด........ ถ้ามองให้ดีๆจะรู้ว่าสิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะตัวนั้นก็คือยาหลากหลายชนิด
ที่หัวเตียงมีชั้นวางธรรมดาๆอยู่อันหนึ่ง ้านั้นเต็มไปด้วยเสื้อผ้าของผู้หญิงวางไว้เป็กองเล็กๆ นอกจากของเ่าั้แล้วห้องเล็กๆห้องนี้ก็ไม่มีสิ่งของใดๆอีก เตียงแคบๆ โต๊ะเล็กๆสองตัวกับเก้าอี้หนึ่งตัวและชั้นวางอีกหนึ่งอันคือทั้งหมดที่บรรจุอยู่ในห้องเล็กๆที่แทบจะหาที่เดินไม่ได้แห่งนี้
เด็กสาวคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงเพียงหลังเดียวภายในห้อง......... เธอคือหญิงสาวที่งดงามราวกับนางฟ้า ไม่ว่าใครได้เห็นเธอก็ต้องถูกใบหน้าที่งดงามราวกับเทพนิยายทำให้ตกตะลึงและหลงใหล เธอสวยราวกับเ้าหญิงที่เดินออกมาจากภาพวาด ความงดงามและความไร้เดียวสาของเธอไม่สมควรเป็ของโลกมนุษย์ เพราะบรรยากาศอันสกปรกบนโลกใบนี้อาจจะแปดเปื้อนเธอได้..........
ภาพอันทรุดโทรมและหญิงสาวอันงดงามนั้นไม่สอดคล้องกันเลยแม้แต่น้อย
บนที่นอนมีหมอนสองใบด้านซ้ายอันนึงด้านขวาอันนึง เธอนอนนิ่งอยู่บนหมอนนุ่ม ดวงตาของเธอหลับพริ้ม ริมฝีปากของเธออวบอิ่ม ผิวของเธอขาวราวกับหิมะ แต่ใครได้มองเห็นเธอแค่เพียงแวบแรกก็ล้วนรู้สึกได้ถึงความเ็ป....... ไม่ว่าริมฝีปากของเธอหรือใบหน้าที่ขาวจนแทบจะไร้มีเืนั่น............. มันหมายความว่าเธอไม่ได้มีพลังชีวิตมากมายอีกต่อไปแล้ว
ประตูที่ทำด้วยไม้เนื้ออ่อนของห้องๆนี้เปื่อยยุ่ยจนเป็รูหลายรู แต่บริเวณที่เสียหายก็ถูกแปะปิดด้วยกระดาษจนมิดชิด หลังประตูไม้มีเพียงประตูเหล็กกันขโมยที่ดูใหม่หน่อยซึ่งดูเหมือนมันเพิ่งจะถูกสร้างมาได้ไม่นาน และสิ่งเดียวที่ทำให้แสงลอดผ่านเข้ามาด้านในก็คือบานหน้าต่างทรงสูงนั้น
เสียงไขกุญแจดังขึ้นมา ประตูไม้เปิดออกแล้วตามมาด้วยประตูเหล็กกันขโมย เมื่อประตูเหล็กกันขโมยถูกเปิดออกหญิงสาวบนเตียงก็ลืมตาขึ้นมาทันที..........ดวงตาสดใสทั้งสองข้างนั้นช่างงดงามแต่มันกลับดูมืดมนไร้สีสันใดๆ
“พี่คะ” เธอเรียกออกมาเสียงเบา
หญิงสาวที่เข้ามาสวมใส่เสื้อผ้าที่สดใสและสวยงาม แต่สำหรับผู้หญิงที่งดงามราวกับนางฟ้าอย่างเธอแล้ว ต่อให้เธอสวมใส่เสื้อผ้าหยาบกระด้างบนร่างกายก็ไม่มีทางบดบังเสน่ห์ชวนลุ่มหลงของเธอได้ คิ้วโก่ง ตากลมโต จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากสีเชอรี่ แก้มขาวเนียนนุ่มเหมือนหิมะ เส้นผมยาวสยาย ลำคอราวกับหยก ทั้งหมดนั้นคือสิ่งที่เธอมีและมันทำให้ผู้หญิงธรรมดาๆเกิดความอิจฉาเพราะเธอมีความงดงามทั้งหมดที่ผู้หญิงควรมีอยู่บนร่างของเธอ
เมื่อมองดูคนต้องมองดูมือเป็อย่างแรก หลายคนบอกว่า มือนั้นเป็ตำแหน่งที่สวยที่สุดของผู้หญิง และสองมือของเธอก็ดูอ่อนนุ่ม นิ้วทุกนิ้วของเธอล้วนเนียนใสเหมือนแท่งหยก ปลายนิ้วของเธอก็มีลักษณะเหมือนต้นไผ่ที่งดงามสมบูรณ์ ข้อมือและแขนเรียวยาวที่เหมือนโปร่งใสใต้แขนเสื้อของเธอปรากฏผิวบรรณขาวบริสุทธิ์ มันไม่ขาวซีดเหมือนหิมะ แต่กลับขาวนวลเนียนเหมือนแท่งหยก
ผู้หญิงที่มีมือและผิวพรรณเช่นนี้ เธอจะเป็หญิงสาวที่เกิดมาในครอบครัวยากจนจริงๆอย่างนั้นเหรอ?
“เสี่ยวเสว่ พี่กลับมาแล้ว.........เสี่ยวเสว่มาดูนี่เร็วเข้า พี่ซื้อของกินอร่อยๆกลับมาด้วย แล้วก็ยังมีของที่เมื่อก่อนเธอชอบกินด้วยนะ...........” เธอรีบนั่งลงบนเตียงอย่างว่องไว ในมือของเธอยกของกินมากมายที่อัดแน่นอยู่เต็มถุงออกมาวางไว้ตรงหน้าของน้องสาว ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยรอยยิ้มของความสุขและความพึงพอใจ “เธอรู้ไหม วันนี้พี่หาเงินได้เยอะแยะเลย ต่อจากนี้พวกเราจะต้องหาเงินได้เยอะอย่างนี้ทุกวันแน่นอน แล้วยังจะเพิ่มมากขึ้นทุกวันๆด้วยนะ จะต้องมีเงินเก็บให้เสี่ยวเสว่รักษาตัวจนหายได้แน่นอน”
หญิงสาวบนเตียงไร้รอยยิ้มยินดี แต่เธอกลับนิ่งเงียบไปจากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นมามองไปที่พี่สาวของเธอ “พี่คะ พี่พูดจริงหรอคะ?”
น้ำเสียงของเธอเบาหวิวราวกับเสียงหยาดฝนที่โรยปรายลงมา แต่มันกลับเป็สายลมที่ไร้แรง พี่สาวของเธอพยักหน้าแล้วยิ้มน้อยๆแล้วลูบไล้แก้มของน้องสาวแ่เบา “ยัยเด็กโง่ ในที่สุดพี่ก็หาวิธีที่จะหาเงินมาเยอะๆได้แล้ว เธอไม่ดีใจเหรอ? พี่รู้ว่าเธอกังวลว่าพี่จะไปทำเื่ที่พี่ไม่อยากทำ.......... แต่มันไม่ใช่แบบนั้นนะ” เธอยกอุปกรณ์เชื่อมต่อเกม World of Fate ที่เป็สร้อยคอเส้นหนึ่งขึ้นมาจากนั้นก็ยิ้มน้อยๆแล้วพูดต่อไป “ด้วยการใช้เ้านี่ไง ยังจำได้ไหม ที่พี่บอกเธอไปเมื่อไม่กี่วันก่อนไงว่าพี่มีอาชีพที่สามารถหาเงินมาได้แล้ว มันเรียกว่านักประเมินไงล่ะ วันนี้พี่ก็หาเงินมาได้เพราะมันเลยนะ ใช้เวลาแค่ไม่นานก็หาเงินมาได้เยอะแยะเลย”
ถ้าเย่เทียนเซี่ยอยู่ที่นี่เขาก็คงจะนึกได้ในทันทีว่าเธอคือหญิงสาวที่ช่วยเขาประเมินไอเทมในเมืองเทียนเฉินนั่นเอง เขาจ่ายค่าประเมินเป็เงินทั้งหมด 350 เหรียญทอง เขาจะต้องคิดไม่ถึงแน่ว่าการมอบเงินจำนวนนั้นให้หญิงสาวจะนำมาซึ่งความหวังและความสุขมากมายขนาดนี้
เมื่อได้รับเงินมา 350 เหรียญทองหญิงสาวก็ไม่รอช้ารีบไปที่จุดแลกเปลี่ยนเงินอันน่าเชื่อถือซึ่งเป็ของกิลล์ปีกแห่งท้องฟ้าแล้วทำการแลกเปลี่ยนเงินในเกมเป็เงินจริงในหัวเซี่ยทันที เพราะวันนี้ข่าวเื่การเปิดระบบแลกเปลี่ยนเงินเพิ่งจะประกาศออกมา เดิมทีเงินในเกมและเงินหัวเซี่ยที่มีอัตราการแลกเปลี่ยน 1 ต่อ 2 จึงตกลงมาอยู่ที่อัตราและเปลี่ยน 1 ต่อ 1 ซึ่งเธอก็ไม่ได้คิดว่ามันน่าหดหู่หรือน่าเสียใจอะไร เมื่อได้รับเงินที่แลกมาเป็จำนวนเงิน 350 เหรียญหัวเซี่ยเธอก็รู้สึกโล่งอกและรู้สึกขอบคุณขึ้นมาทันที
บางคนสามารถนำเงินร้อยล้านจนกระทั่งเงินหลายร้อยล้านออกไปเล่นการพนันได้โดยไม่ต้องคิดมากแม้แต่นิดเดียว และในสายตาของพวกเขาคงไม่สนใจเงินสามร้อยกว่าเหรียญทองที่มีความสำคัญต่อน้องสาวที่กำลังป่วยของเธอแม้แต่น้อย สำหรับเธอที่แทบจะสิ้นหวังนั้นเงินจำนวนนี้มันสำคัญกับเธอมากจริงๆ เพราะสิ่งที่เธอได้รับไม่ใช่เพียงแค่เงิน แต่ยังเป็ความหวังอีกด้วย........ เพราะมันทำให้เธอเหมือนกับได้มองเห็นเส้นทางใหม่และได้มองเห็นความหวังที่จะช่วยชีวิตน้องสาวของเธอเองไว้ได้ เงินจำนวนนี้เธอไม่ได้ไปขโมยหรือแย่งใครเขามา และไม่ใช่เงินที่คนอื่นบริจาคให้ด้วย แต่มันเป็เงินที่เธอได้มาจากความพยายามของตัวเธอเองทั้งนั้น
เพื่อดูแลน้องสาวเธอถึงได้ออกไปจากห้องพักห้องนี้น้อยมาก และเพื่อหาเงิน เธอถึงได้ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงในการสอนพิเศษเด็กน้อยและเธอยังต้องรีบไปรีบกลับด้วย เทียบกับรายได้สิบกว่าเหรียญในหนึ่งวัน รายได้จำนวน 300 เหรียญทองภายในระยะเวลาสั้นๆเรียกได้ว่าเป็จำนวนมหาศาลจริงๆ
ในที่สุดน้องสาวของเธอก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างมีความสุข รอยยิ้มแจ่มใสของเธอก็สามารถทำให้หิมะในฤดูหนาวละลายไปจนหมด “พี่คะ พี่เจ๋งมากเลยค่ะ”
พี่สาวพยักหน้าแรงๆ เธอกุมมือเย็นเฉียบของน้องสาวเอาไว้ “ต่อไปเสี่ยวเสว่จะมีความสุขทุกวันเลยดีไหม? อาการป่วยของเธอจะต้องดีขึ้นแน่นอน ชีวิตของพวกเราจะต้องดีขึ้นไปเรื่อยๆ.........เธอดูสิ พี่ซื้อปลาสดๆมาตัวนึงด้วยนะ เย็นนี้พวกเรากินซุปปลากันเถอะ”
เสี่ยวเสว่พยักหน้าแล้วพูดออกมาเบาๆ “พี่คะ หนูเล่นเกมนี้ด้วยดีไหมคะ หนูอยากจะ.........ช่วยพี่ พี่ทำได้ บางทีหนูก็น่าจะ............ทำได้เหมือนกัน”
หญิงสาวส่ายหน้าแล้วยิ้มออกมาน้อยๆ “เสี่ยวเสว่คนดี คุณหมอบอกว่าร่างกายและจิตใจของเธอยังอ่อนแอเกินไป สมองของเธอไม่สามารถรองรับข้อมูลที่มากเกินไปได้ รอให้ร่างกายของเสี่ยวเสว่ดีขึ้นอีกนิดแล้วพวกเราค่อยไปเล่นด้วยกันดีไหม?”
เสี่ยวเสว่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอมองไปยังถุงที่เต็มไปด้วยของกินมากมาย ก่อนจะพูดออกมาอย่างคลุ่มเครือ “พี่คะ........เพื่อหนูพี่ถึงได้ผอมลงไปมากขนาดนี้............”
ความมั่งคั่งและความสูงส่งที่เคยมีล้วนกลายเป็ไอไปหมดแล้ว ั้แ่ที่เธอออกมาจากบ้านมา แม้ว่าจะทั้งเหนื่อยทั้งลำบาก แต่ว่าจะต้องป่วยและหิวแทบตาย พวกเธอก็เคยเสียใจเลยสักนิด และไม่คิดจะกลับไปอีกตลอดไป พวกเธอสองคนพี่น้องกลายเป็ใบไม้แห้งสองใบที่ปลิวไปตามสายลม เมื่อหนึ่งเดือนก่อนในที่สุดพวกเธอก็ได้อยู่ที่นี่อย่างสงบ...... แต่ก่อนที่จะจากที่นั่นมาน้องสาวของเธอก็ป่วยเป็โรคร้ายแรงที่รักษาไม่หาย.........
ต่อให้ต้องลำบากกว่านี้อีกสักเท่าไร ต่อให้ทุกคนบอกว่ามันเป็โรคที่ไม่มีวันรักษาให้หายได้ เธอก็จะไม่ละทิ้งความหวัง เพราะนี่คือน้องสาวของเธอ และเป็คนที่เธอรักมากที่สุด
และเพื่อตัวของเธอเอง พี่สาวต้องลำบากมากมายขนาดไหน ต้องเสียอะไรไปเพื่อเธอบ้าง เธอได้แต่มองดูพี่สาวอย่างเงียบๆ และในใจดวงนี้เพื่อพี่สาวแล้วเธอจะต้องมีชีวิตอยู่อย่างเข้มแข็งต่อไป ต่อให้ทุกวันจะมีความรู้สึกอยากตายที่คอยฉุดรั้งเธอให้จมลงไปในหุบเหวหมื่นจั้งเธอก็จะต่อสู้สุดชีวิตเพื่อให้ตัวเองห่างไกลจากความตายให้มากที่สุด......... เธอคือภาระของพี่สาว แต่เธอก็ยังเป็ความหวังและที่พึ่งของพี่สาวด้วย เพราะถ้าเธอตายไปพี่สาวของเธอก็คงต้องอยู่คนเดียวอย่างแท้จริง............
เพราะฉะนั้นคำพูดที่เธอมักจะพูดกับพี่สาวของเธอก็คือ “พี่คะ ถ้าพี่ต้องทำเื่ที่พี่ไม่อยากทำเพื่อหนูล่ะก็ หนูจะตายต่อหน้าพี่ทันที...........”
เธอกลัวว่าพี่สาวของเธอจะใช้ร่างกายและศักดิ์ศรีของตัวเองไปแลกเป็เงินเพื่อรักษาอาการป่วยและซื้อของที่เธอชอบกินมาให้เธอ นี่คือเื่ที่เธอหวาดกลัวที่สุด ในสายตาของเธอพี่สาวของเธอคือคนที่อ่อนโยนและงดงามมากที่สุดในโลก มีเพียงแค่ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลกเท่านั้นถึงจะคู่ควรกับเธอ เธอควรจะมีผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่สุด และจะได้ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยเพื่อเธอ.........
“จะเป็ไปได้ยังไง เสี่ยวเสว่พูดอะไรโง่ๆ จะว่าไปใครๆก็บอกว่าผู้หญิงผอมเรียวน่ะสวยที่สุดเลยนะ” พี่สาวยังคงพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็ยื่นมือออกมาเปิดถุงใหญ่ๆใบนั้น “ดูนี่เร็วเข้า มีเยอะแยะเลย อยากกินอะไรหืม? ดูสิ นี่ถั่วที่เมื่อก่อนเธอชอบกินที่สุดไง พี่ซื้อมาเยอะเลย ชอบกินอันไหนพี่จะแกะเปลือกให้นะ หมอบอกว่าตอนนี้จะต้องกินของแข็งๆน้อยหน่อย เพราะงั้นกินได้แค่นิดเดียวนะ แล้วก็ยังมีเยลลี่นี่ด้วย พวกเราไม่ได้กินนานแล้วสินะ นี่ก็พุทราจีน อันนี้กินเยอะหน่อยจะดีต่อร่างกายของเธอตอนนี้มากเลย.........”
ปั้ง!
ขณะที่เธอกำลังพูดเสียงทุบประตูจากด้านนอกก็ดังขึ้นมาฉับพลันอย่างไม่ถูกที่ถูกเวลา เสียงที่ตามมาจากเสียงทุบประตูคือเสียงหัวเราะน้อยๆที่ดังขึ้นมาจากนอกประตู “เสี่ยวเฉินซิน เปิดประตูหน่อยสิ พี่หวงของเธอมาหาเธอแล้ว”
เมื่อได้ยินเสียงนั้นใบหน้าของสองพี่น้องก็ปรากฏความกังวลและความเกลียดชังขึ้นมา
