แสงอรุณเริ่มทอแสงสาดส่องผ่านช่องหินเข้ามาในถ้ำ หลินเว่ยตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่นกว่าที่ผ่านมาหลายวัน การฝึกวิชาัทะยานฟ้าเริ่มส่งผล เขารู้สึกถึงพลังชี่ไหลเวียนในร่างกายอย่างสม่ำเสมอมากขึ้น และอาการปวดร้อนจากเชื้อไวรัสเริ่มบรรเทาลง
เมื่อมองไปรอบๆ เขาพบว่าทุกคนตื่นและเตรียมตัวเดินทางแล้ว ยกเว้นเมิ่งหลิงคนเดิมที่ยังนั่งอยู่มุมหนึ่งของถ้ำ สีหน้าเคร่งเครียด
"เป็อะไรไหม?" หลินเว่ยถามเมื่อเดินเข้าไปหา
เมิ่งหลิงมองขึ้นมา ในดวงตาฉายแววลังเล "เรา...ต้องคุยกัน ก่อนที่จะเดินทางต่อ"
"เื่อะไร?"
"ฉันไม่ได้เป็แค่นักศึกษาแพทย์ธรรมดาอย่างที่บอกคุณ" เธอยอมรับ "ฉันเคยทำงานให้องค์กรเทียนซื่อ"
หลินเว่ยถอยหลังหนึ่งก้าวด้วยความใ เขามองไปรอบๆ ตัวอย่างระแวดระวัง "คุณเป็สายลับของพวกเขาหรือ?"
"ไม่ใช่!" เมิ่งหลิงรีบปฏิเสธ "ฉันหนีออกมา เมื่อรู้ว่าพวกเขาทำอะไร ฉันพยายามหาทางหยุดพวกเขา แต่ก็้าความช่วยเหลือ นั่นคือเหตุผลที่ฉันตามหาคุณ หลินเว่ย"
หลิวซินที่ได้ยินการสนทนาเดินเข้ามาร่วมวง สีหน้าเคร่งเครียด "คุณรู้อะไรเกี่ยวกับองค์กรเทียนซื่อบ้าง?"
เมิ่งหลิงกวาดตามองไปรอบๆ ให้แน่ใจว่าสมาชิกกลุ่มอื่นยังอยู่ไกลพอที่จะไม่ได้ยินการสนทนา "องค์กรเทียนซื่อก่อตั้งขึ้นั้แ่สมัยราชวงศ์ถัง โดยมีจุดประสงค์เพื่อค้นหาความเป็ะ แต่เป้าหมายของพวกเขาเปลี่ยนไปตามกาลเวลา"
"เปลี่ยนไปอย่างไร?" หลินเว่ยถาม
"พวกเขาไม่เพียง้าความเป็ะสำหรับตัวเอง แต่ยัง้าควบคุมวิวัฒนาการของมนุษยชาติ" เมิ่งหลิงอธิบาย "นาฬิกานรกไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็การทดลองที่วางแผนอย่างรอบคอบ พวกเขา้าทดสอบว่ามนุษย์คนไหนมียีนแข็งแกร่งพอที่จะต้านทานมัน"
หลินเว่ยนั่งลงด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง "คุณกำลังบอกว่าองค์กรเทียนซื่อปล่อยไวรัสนี้เพื่อฆ่าคนส่วนใหญ่ทิ้ง และเหลือเพียงคนที่พวกเขาคิดว่า 'เหมาะสม' อย่างนั้นหรือ?"
เมิ่งหลิงพยักหน้า "พวกเขาเชื่อว่ามนุษยชาติกำลังเสื่อมถอย และ้าสร้างสังคมใหม่จากผู้ที่พวกเขาเลือก—คนที่มียีนต้านทานเชื้อได้ และคนที่มีพลังชี่แข็งแกร่ง"
"แล้วฉันล่ะ?" หลินเว่ยถาม เสียงสั่นเครือ "ทำไมพวกเขาถึงสนใจฉันมากนัก?"
เมิ่งหลิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ราวกับกำลังชั่งใจว่าควรเปิดเผยมากแค่ไหน "เพราะ...คุณพิเศษ หลินเว่ย คุณไม่ใช่แค่คนที่บังเอิญมีภูมิต้านทาน แต่คุณถูกสร้างขึ้นมา"
"สร้าง? คุณหมายความว่ายังไง?"
"ดีเอ็นเอของคุณถูกดัดแปลงั้แ่ก่อ
"สร้าง? คุณหมายความว่ายังไง?"
"ดีเอ็นเอของคุณถูกดัดแปลงั้แ่ก่อนเกิด" เมิ่งหลิงเล่าด้วยน้ำเสียงเบา "คุณเป็ส่วนหนึ่งของโครงการลับที่เรียกว่า 'เทียนหลง' หรือั์ เป้าหมายคือการสร้างมนุษย์ที่สามารถควบคุมพลังชี่ได้อย่างสมบูรณ์"
หลินเว่ยนั่งนิ่งงัน รู้สึกราวกับพื้นใต้เท้าหายไป ทุกความทรงจำเกี่ยวกับวัยเด็ก ครอบครัว และชีวิตที่เขาคิดว่าเป็ความจริงสั่นคลอน ความรู้สึกหลายอย่างถาโถมเข้าใส่จิตใจของหลินเว่ยในคราวเดียว—ความโกรธ ความเ็ป ความสับสน ความไม่อยากเชื่อ ประหนึ่งว่าตัวตนของเขากำลังแตกสลายออกเป็เสี่ยงๆ ภาพจำของพ่อแม่ที่เขารักและเคารพกลายเป็ภาพหลอน เขานึกถึงรอยยิ้มอ่อนโยนของแม่ยามอุ้มเขาตอนเป็เด็ก นึกถึงมือหนาของพ่อที่วางบนบ่าเขาอย่างภาคภูมิใจในวันสำเร็จการศึกษา
ความทรงจำเ่าั้จริงหรือปลอม? ความรักนั้นเป็เพียงภารกิจหรือว่ามีความจริงใจแฝงอยู่? เขานึกถึงวันที่ได้รับข่าวการจากไปของพวกเขา ความเศร้าโศกที่เขาแบกรับ น้ำตาที่เขาหลั่ง...มันทั้งหมดเพื่ออะไร? เพื่อคนที่หลอกใช้เขา? หรือเพื่อคนที่สุดท้ายแล้วรักเขามากพอจะพาเขาหนี? น้ำตาร้อนๆ ไหลลงมาตามแก้มโดยไม่รู้ตัว
"แล้ว...พ่อแม่ผม?" เขาถามเสียงสั่น
เมิ่งหลิงมองเขาด้วยสายตาเห็นใจ "พวกเขาเป็พันธมิตรกับองค์กรเทียนซื่อ ภารกิจของพวกเขาคือเลี้ยงดูและปกป้องคุณจนกว่าจะถึงวัยที่เหมาะสม"
"นั่นเป็เหตุผลที่พวกเขา...หายไป?"
"ใช่" เมิ่งหลิงพยักหน้า "เมื่อพวกเขาเริ่มมีความรู้สึกต่อคุณจริงๆ และพยายามพาคุณหนี องค์กรก็...กำจัดพวกเขา และจัดฉากให้เป็อุบัติเหตุ"
หลินเว่ยรู้สึกราวกับโลกทั้งใบหมุนวน เขารู้สึกทั้งโกรธ เศร้า และสับสนในเวลาเดียวกัน
หลิวซินที่นั่งฟังเงียบๆ ตลอด จู่ๆ ก็ถาม "แล้วคุณล่ะ? คุณรู้เื่นี้ได้อย่างไร?"
"ฉันเป็นักวิจัยในโครงการฟื้นฟูเทียนหลง" เมิ่งหลิงตอบ "เมื่อรู้ว่าพวกเขาวางแผนจะปล่อยไวรัสและฆ่าคนนับล้าน ฉันทนไม่ได้ ฉันขโมยข้อมูลและหนีออกมา พยายามตามหาคุณเพื่อเตือน"
"แล้วเมิ่งหลิงอีกคน?" หลิวซินถามต่อ
"ฉันไม่แน่ใจ แต่องค์กรเทียนซื่อมีกลยุทธ์ในการแทรกซึมทุกกลุ่ม เราต้องระวังตัว"
หลินเว่ยพยายามประมวลข้อมูลทั้งหมด "ทำไมผมต้องไปทีู่เา?"
"เพราะที่นั่นมีตำราฉบับเต็มของวิชาัทะยานฟ้า" เมิ่งหลิงอธิบาย "บรรพบุรุษของคุณมาจากที่นั่น และคุณอาจเป็ความหวังสุดท้ายในการหยุดองค์กรเทียนซื่อ"
เมิ่งหลิงคนใหม่เข้ามาขัดจังหวะการสนทนา "ทุกคนพร้อมแล้ว เราควรออกเดินทาง"
ทุกคนลุกขึ้น แต่สายตาของหลินเว่ยและเมิ่งหลิงคนเดิมสบกันอย่างรู้กัน สองคนนี้ยังมีเื่ต้องคุยกันอีกมาก กลุ่มเริ่มออกเดินทางลัดเลาะผ่านซากปรักหักพังของสิ่งที่เคยเป็เมืองเล็กๆ อันเจริญรุ่งเรือง บ้านเรือนถูกทิ้งร้าง บางหลังถูกเผาจนเหลือเพียงโครงเหล็กดำเขรอะ ตั้งตระหง่านเหมือนโครงกระดูกของั์ที่ล้มตาย
ถนนที่เคยมีผู้คนสัญจรไปมาบัดนี้เต็มไปด้วยซากรถที่ถูกทิ้งไว้อย่างไร้ระเบียบ บางคันยังมีร่างแห้งกรังของผู้ที่พยายามหลบหนีนั่งค้างอยู่ข้างใน กลิ่นเน่าเหม็นและไอของความตายยังลอยอวลในอากาศ ป้ายโฆษณาและธงที่เคยสะบัดพลิ้วถูกลมและฝนกัดกร่อนจนสีซีดจาง เหลือเพียงภาพเลือนรางของชีวิตที่เคยมี เด็กเล็กๆ ตุ๊กตาตัวโปรด เสื้อผ้ากระจัดกระจาย ล้วนเป็ประจักษ์พยานของความสิ้นหวังและความรุนแรงที่เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน ไม่มีเสียงนกร้อง ไม่มีเสียงหัวเราะของเด็กๆ มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่านซากปรักหักพังและเสียงกระดาษที่ปลิวไปตามแรงลม
กลุ่มเริ่มออกเดินทางผ่านป่าเขาที่รกทึบ มุ่งหน้าไปยังเทือกเขาสูงที่มองเห็นอยู่ไกลๆ หลินเว่ยเดินอย่างเงียบขรึม ความคิดยังวนเวียนอยู่กับสิ่งที่เพิ่งรู้
"คุณโอเคไหม?" หลิวซินถามเบาๆ เมื่อเดินมาเคียงข้างเขา
หลินเว่ยส่ายหน้า "ผมไม่รู้ว่าควรเชื่ออะไรอีกแล้ว ชีวิตผมเป็เื่โกหกทั้งหมด"
"ไม่ใช่ทั้งหมด" หลิวซินปลอบ "สิ่งที่คุณเลือกทำต่อจากนี้คือสิ่งที่จะกำหนดว่าคุณเป็ใคร ไม่ใช่อดีตหรือการถูกสร้างขึ้นมา"
หลินเว่ยมองเธอ เห็นความจริงใจในดวงตา "ขอบคุณ หลิวซิน ถ้าไม่มีคุณ ผมคงไม่มีทางรอดมาถึงวันนี้"
การเดินทางดำเนินต่อไปตลอดทั้งวัน ผ่านพื้นที่ที่ยากลำบากมากขึ้น ทุกคนระมัดระวังมากขึ้นเมื่อเริ่มเข้าสู่เขตที่เมิ่งหลิงคนใหม่เรียกว่า "เขตต้องห้าม"
"ที่นี่เป็พื้นที่อันตราย" เธออธิบาย "นอกจากสัตว์ป่าและผู้ติดเชื้อ ยังมีกับดักและเครื่องป้องกันโบราณ เพื่อคัดกรองผู้ที่มุ่งหน้าสู่ชุมชนบนูเา"
"เครื่องป้องกันแบบไหน?" หลินเว่ยถาม
"บางอย่างเป็ทางกายภาพ เช่น หลุมพรางหรือกับดัก" เมิ่งหลิงคนใหม่ตอบ "แต่บางอย่างเล่นงานจิตใจโดยตรง เป็วิธีที่ชุมชนโบราณทดสอบคุณสมบัติและความแข็งแกร่งทางจิตใจของผู้มาเยือน"
ขณะที่พวกเขาเดินทางลึกเข้าไปในป่า อากาศเริ่มเปลี่ยนไปอย่างประหลาด หมอกบางๆ ก่อตัวขึ้นและกระจายไปทั่ว บางครั้งทำให้มองเห็นได้แค่ไม่กี่เมตร
"หลินเว่ย" เมิ่งหลิงคนเดิมเรียก "นี่เป็เวลาที่เหมาะสมในการฝึกท่า ัหลับใหล เพื่อรับรู้พลังงานแปลกปลอมรอบตัว"
หลินเว่ยพยักหน้า เขาหยุดเดิน นั่งลงในท่าสมาธิ และเริ่มหายใจเข้าออกช้าๆ อย่างสม่ำเสมอ ปล่อยให้จิตใจว่างเปล่า ภายในไม่กี่นาที เขารู้สึกเหมือนประสาทััแผ่ขยายออกไป สามารถรับรู้กระแสพลังงานที่ไหลเวียนรอบตัวได้
เขาลืมตาขึ้น "มีบางอย่างไม่ถูกต้อง หมอกนี้...ไม่ธรรมดา มันมีพลังงานแปลกๆ"
"นั่นคือตาข่ายป้องกัน" เมิ่งหลิงคนใหม่อธิบาย "มันจะทดสอบเรา ทุกคนอยู่ใกล้กัน อย่าแยกกัน ไม่ว่าจะเห็นหรือได้ยินอะไรก็ตาม จำไว้ว่ามันอาจไม่ใช่ความจริง"
ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องก็ดังมาจากที่ไกลๆ ทุกคนหันไปมองทางต้นเสียง แต่ไม่เห็นอะไรผ่านหมอกหนา
"ฟังสิ" หนึ่งในสมาชิกกลุ่มของเมิ่งหลิงคนใหม่พูด "มีคนขอความช่วยเหลือ"
"อย่าไป" เมิ่งหลิงคนใหม่ห้าม "นี่เป็การทดสอบแรก"
แต่ไม่ทันได้ห้าม ชายคนนั้นก็วิ่งเข้าไปในหมอก เสียงของเขาค่อยๆ เลือนหายไป
หลินเว่ยรู้สึกถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา เขายกแขนขึ้นช้าๆ ในท่า ัสยายปีก แผ่ขยายพลังชี่ออกไปรอบตัว รู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวที่ซ่อนอยู่ในหมอก
"ทุกคนเตรียมพร้อม" เขาเตือน "เรากำลังถูกล้อม"
"มันคืออะไรเหรอ?" เมิ่งหลิงคนเดิมถาม เสียงสั่น
"ฉันไม่แน่ใจ" หลินเว่ยตอบ "แต่ไม่ใช่มนุษย์ และไม่ใช่สัตว์..."
เงาทะมึนเริ่มปรากฏในหมอก ร่างขนาดใหญ่ที่เคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า เมื่อมันเข้าใกล้มากพอ ทุกคนก็เห็นว่ามันคือสิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยเห็นมาก่อน รูปร่างคล้ายสัตว์เลื้อยคลานขนาดั์ แต่ลำตัวโปร่งใสราวกับน้ำ
"ผู้พิทักษ์น้ำ" เมิ่งหลิงคนใหม่กระซิบ "มันเป็สิ่งมีชีวิตเมื่อพันปีก่อน ถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องทางเข้าเขตศักดิ์สิทธิ์"
"เราสู้มันไหวหรือ?" หลิวซินถาม เตรียมอาวุธในมือ
"ไม่ต้องสู้" เมิ่งหลิงคนใหม่ตอบ "มันแค่ทดสอบเรา ถ้าเรามีเจตนาบริสุทธิ์ มันจะปล่อยให้เราผ่าน"
สิ่งมีชีวิตประหลาดเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ขึ้น ทุกคนยืนนิ่งด้วยความหวาดกลัว มันหยุดตรงหน้าหลินเว่ย ดวงตาสีเขียวมรกตจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขา
หลินเว่ยรู้สึกเหมือนถูกสำรวจจนถึงก้นบึ้งของจิติญญา ความคิด ความทรงจำ และความรู้สึกทั้งหมดถูกเปิดเผยต่อหน้าสิ่งมีชีวิตนี้
หลังจากครู่ใหญ่ สิ่งมีชีวิตประหลาดก็ถอยห่างออกไป และหมอกเริ่มจางหายไป เผยให้เห็นเส้นทางที่ชัดเจนนำไปสูู่เา
"มันยอมให้เราผ่าน" เมิ่งหลิงคนใหม่พูดด้วยความโล่งอก "แต่มันเลือกเฉพาะบางคน"
หลินเว่ยมองไปรอบๆ สังเกตเห็นว่าสมาชิกกลุ่มของเมิ่งหลิงคนใหม่หายไปอีกสองคน
"พวกเขาอยู่ที่ไหน?" เขาถาม
"มันส่งพวกเขากลับ" เมิ่งหลิงคนใหม่ตอบเรียบๆ "เขตต้องห้ามจะปกป้องตัวเองจากผู้ที่มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ เราต้องเดินทางต่อ ก่อนที่มันจะเปลี่ยนใจ"
กลุ่มที่เหลือ—หลินเว่ย หลิวซิน เมิ่งหลิงทั้งสองคน และสมาชิกที่เหลืออีกสองคนของกลุ่มเมิ่งหลิงคนใหม่ เริ่มเดินทางต่อบนเส้นทางที่ปรากฏ
"แปลกนะ" หลิวซินพูดกับหลินเว่ย "สิ่งมีชีวิตนั่นมองคุณนานที่สุด แต่ก็ดูเหมือนจะชอบคุณมากที่สุดด้วย"
"อาจเพราะดีเอ็นเอพิเศษของฉันก็ได้" หลินเว่ยตอบ น้ำเสียงขมขื่น "หรือเพราะฉันถูกสร้างมาให้เข้ากับสถานที่แบบนี้"
เมิ่งหลิงคนเดิมเดินเข้ามาใกล้ "หลินเว่ย ฉันรู้ว่าคุณกำลังสับสนและโกรธ แต่คุณต้องเข้าใจว่าคุณเป็ความหวังสุดท้ายของเรา"
"ผู้พิทักษ์น้ำััได้ถึงหัวใจที่แท้จริงของคุณ" เมิ่งหลิงคนใหม่เสริม "ไม่ว่าคุณจะถูกสร้างขึ้นมาอย่างไร แต่จิติญญาของคุณเป็ของคุณเอง และมันบริสุทธิ์"
หลินเว่ยไม่ตอบ เขายังคงต่อสู้กับความรู้สึกสับสนในใจ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้ว่าไม่มีทางเลือก พวกเขาต้องไปให้ถึงชุมชนบนูเา เพื่อค้นหาความจริงทั้งหมดและวิธีหยุดองค์กรเทียนซื่อ
"เราจะไปกันที่ไหนต่อ?" เขาถามในที่สุด
"เราต้องเข้าไปในหุบเขาลับ" เมิ่งหลิงคนใหม่ตอบ พลางชี้ไปยังช่องเขาแคบๆ ด้านหน้า "ที่นั่นจะนำเราไปสู่ทางเข้าชุมชนโบราณ"
กลุ่มเดินทางมุ่งหน้าต่อไป โดยไม่รู้ว่าอะไรรออยู่เบื้องหน้า และจะมีการทดสอบอะไรอีกที่ท้าทายความกล้าหาญและความเป็ตัวตนของพวกเขา
สิ่งเดียวที่แน่นอนคือ หลินเว่ยจะต้องเผชิญหน้ากับชาติกำเนิดที่แท้จริงของเขา และโชคชะตาที่ถูกกำหนดไว้ั้แ่ก่อนเขาเกิด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้