นางคิดด้วยความคับแค้นใจ ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะอิงเหนียงชื่นชมน้องสาวของตนเองว่าดีเลิศประเสริฐศรี นางจะยอมยกเลิกงานแต่งงานระหว่างลูกชายของตนกับซ่งอวี้ได้อย่างไร ทั้งหมดนี้ล้วนเป็ความผิดของอิงเหนียง
ยายฉี ซึ่งก็คือแม่สามีของอิงเหนียง วางมาดเป็แม่สามี ทารุณอิงเหนียง มีเพียงการได้เห็นนางอ่อนแอไร้ทางสู้เช่นนี้ ยายฉีจึงจะรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย
"หญิงชั่ว ข้าให้เ้าเลี้ยงหมูที่เรือนแต่เ้ากลับวิ่งแจ้นออกไปด้านนอก ไม่เคยเห็นสะใภ้คนใดไม่เชื่อฟังเช่นเ้ามาก่อน หากเ้าไม่อยากอยู่ในตระกูลฉีเช่นนั้นก็รีบเก็บข้าวของแล้วไสหัวกลับเรือนของเ้าเสีย ข้าจะไปเชิญเฉินซิ่วไฉมาเขียนใบหย่าให้เ้านำกลับเรือนไปพร้อมกัน"
ยายฉีตบอิงเหนียงสองทียังไม่หายคับแค้นใจจึงด่ากราดอีกครั้ง
อิงเหนียงกัดฟันแน่น ทว่าไม่กล้าโต้เถียง กลัวจะถูกทุบตีรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
หลังจากยายฉีทุบตีอิงเหนียง ความขุ่นเคืองของนางบรรเทาลงเล็กน้อย แล้วเริ่มพูดบ่นเหมือนทุกวัน "ตอนนั้นข้าไม่ควรรับเ้าเข้ามาในตระกูลฉีเลย ดูเล่าตอนนี้สะใภ้คนดีของข้าถูกเ้าคะยั้นคะยอให้ยกเลิกงานแต่งงาน เ้าเป็คนทำให้ตระกูลปั่นป่วน เวลานี้ตระกูลฉีถูกผู้คนหัวเราะเยาะล้วนเป็เพราะเ้า!”
ยายฉีเป็คนชอบออกไปหาเพื่อนฝูง เวลานี้ถูกบีบให้อยู่ในเรือนหลายวันแล้ว เพราะกลัวว่าจะมีคนหัวเราะเยาะนางเื่ที่ปล่อยให้ซ่งอวี้หลุดมือ
หากเป็ตระกูลใหญ่ อาจจะรังเกียจที่ซ่งอวี้เป็หมอ รู้สึกว่านางทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง แต่หมู่บ้านเสี่ยวหนิวเป็เพียงหมู่บ้านเล็กๆ เท่านั้น ได้กินอิ่มนอนอุ่นก็ดีมากแล้ว ทั้งยังอยู่ว่างๆ แล้วมีเงินเข้ากระเป๋า ถือเป็ชีวิตที่ดียิ่งนัก
เดิมทีตระกูลฉีของพวกเขาสามารถมีชีวิตเช่นนั้นได้ แต่เพราะความโง่เขลาในอดีต เวลานี้ซ่งอวี้จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับพวกเขา
หากยังไม่ได้ยกเลิกการหมั้นหมาย ยามซ่งอวี้ออกไปรักษาผู้คน พวกเขาก็จะสามารถเดินตามหลังแล้วคอยเก็บค่ารักษาได้ เดือนๆ หนึ่งยังมีเงินเก็บสามสี่ตำลึง ไม่ถึงหนึ่งปีก็สะสมเงินซื้อที่นาผืนงามได้สองผืนแล้ว สินทรัพย์ก็ย่อมมากขึ้นเรื่อยๆ
ทุกครั้งที่คิดเช่นนี้ยายฉีรู้สึกเหมือนมีคนเอาค้อนมาทุบตีหัวใจของนาง ทำให้นางเ็ปและเสียใจอย่างมาก
เมื่อคิดเช่นนี้ ความขุ่นเคืองที่เพิ่งบรรเทาลงเมื่อครู่มีทีท่าจะปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
อิงเหนียงหวาดกลัวความเหี้ยมโหดของแม่สามียามทุบตีคนยิ่งนัก จึงรีบพูดขึ้น "ท่านแม่ เื่นี้สะใภ้ผิดไปแล้ว เวลานี้น้องสามีกับน้องสาวของข้ายังไม่ได้แต่งงานกัน ไม่แม้แต่จะหมั้นหมาย แม้เวลานี้จะยกเลิกงานแต่งงานผู้คนก็ไม่อาจพูดสิ่งใดได้ ถึงอย่างไรข้าก็เป็พี่สาว คำนินทาว่าร้ายต่างๆ ภายนอกข้าสามารถช่วยพูดได้เ้าค่ะ"
ยายฉีฟังสิ่งที่อิงเหนียงพูดแล้วก็ลดมือลง บอกให้นางพูดต่อ
อิงเหนียงรีบลุกจากพื้น ไม่กล้าแม้แต่จะปัดดินโคลนที่เปื้อนกระโปรง
"ท่านแม่ดูเล่า เวลานี้ซ่งอวี้ก็ไม่มีสามีแล้ว แม้นางจะบอกว่าสามีของนางกลับบ้านเพราะมีเื่สำคัญต้องทำ แต่มีอย่างที่ไหนกลับบ้านตามลำพังโดยไม่บอกกล่าว ต้องเป็เพราะชาติตระกูลของสามีนางไม่ธรรมดาไม่ยอมรับนางที่เป็เพียงหญิงชาวบ้าน เวลานี้หากตระกูลฉีของเราแสดงให้รู้ว่าไม่รังเกียจที่นางเคยแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง ทั้งยังยินดีที่จะรับนางเป็สะใภ้ ท่านคิดว่าซ่งอวี้จะเลือกอย่างไร?"
หากตอนนี้ซ่งอวี้ยืนอยู่ที่นี่ต้องหัวเราะเสียงดังอย่างแน่นอน หลังจากนั้นบอกกับพวกนางด้วยความเยือกเย็น 'ฝันไปเถอะ' แม้ไม่มีหลี่เฉิงนางก็ไม่มีวันแต่งงานเข้าตระกูลเช่นนี้
ทางด้านซ่งอวี้รู้สึกว่าเป็เื่เพ้อฝัน แต่ยายฉีกลับพิจารณาอย่างจริงจัง
แม้ยุคสมัยนี้จะมีการหย่าร้าง แต่นั่นก็แสดงให้เห็นว่าสามีมีปัญหา ตระกูลทั่วไปล้วนไม่ยอมรับ เพราะถึงอย่างไรบุรุษล้วนทระนงในเกียรติของตนเอง หากอยากจะหย่าร้าง ทำได้เพียงรับใบหย่า ส่วนเื่หย่าร้างนั้นเป็เพียงความเพ้อฝัน
แต่ว่าสถานการณ์ของซ่งอวี้นั้นพิเศษกว่าพวกนางเล็กน้อย สิ่งที่เกิดขึ้นกับนางถือว่าเป็การถูกทอดทิ้ง ไม่แตกต่างจากทอดทิ้งภรรยาเท่าใดนัก แต่รุนแรงกว่านั้นเล็กน้อย เพราะการแต่งงานต้องมีการเรียกเปลี่ยนใบบันทึกวันเดือนปีเกิด
สามีคือหัวหน้าตระกูล หากเขาไม่อยู่ ไม่อาจทำเื่เหล่านี้ได้ ซ่งอวี้ยังเป็ภรรยาในนามของชายอื่น แต่เงินทองของซ่งอวี้ทำให้พวกนางหน้ามืดตามัวแล้ว ไม่สนใจเื่เหล่านี้แม้แต่น้อย อยากจะให้ซ่งอวี้ย้ายมาอยู่ที่เรือนของตน
ความโลภทอประกายในแววตาของยายฉี อิงเหนียงเห็นอย่างชัดเจน นางพูดด้วยความระมัดระวัง "หากท่านแม่ไม่สะดวกที่จะพูด เช่นนั้นข้าที่เป็สะใภ้ใหญ่จะไปเองเ้าค่ะ ท่านเพียงบอกว่าตนล้มป่วยติดเตียงก็พอแล้ว หากผู้อื่นถาม ท่านก็บอกว่าไม่สบาย ดังนั้นจึงไหว้วานให้ข้าคอยดูแลเื่ในเรือน เมื่อเป็เช่นนี้ข้าก็ไปอย่างมีสถานะถือว่าไปอย่างถูกต้อง"
คำพูดของอิงเหนียงกำจัดความกังวลของยายฉีได้อย่างสิ้นเชิง สีหน้าของยายฉีโอนอ่อนลงมาก "ในเมื่อเ้ามีความคิด เช่นนั้นก็ไปจัดการเถอะ จริงด้วย เื่น้องสาวเ้า เ้าไปบอกกล่าวเสียหน่อย อย่าลืมเอาตะกร้าไข่ไก่ไปด้วย อย่าให้ผู้อื่นบอกว่าเราไม่รู้มารยาท"
ตอนที่พูดถึงไข่ไก่ ความเ็ปฉายขึ้นในแววตาของยายฉี แต่เมื่อคิดถึงความมั่งคั่งในวันข้างหน้าก็รู้สึกว่าสิ่งที่ทุ่มเททำในตอนนี้คุ้มค่า
อิงเหนียงรับคำด้วยรอยยิ้ม แล้วไปเตรียมตัว
เมื่อหมุนตัวหันหลัง แววตาของนางก็แปรเปลี่ยนเป็เยือกเย็น ยายแก่หนังเหนียว ไข่ไก่เพียงหนึ่งตะกร้าก็คิดจะขับไล่น้องสาวข้าหรือ? ไม่ง่ายเช่นนั้นหรอก
เวลานี้ซ่งอวี้ไม่รู้ตัวเลยว่านางตกเป็เป้าหมายของคนตระกูลฉีแล้ว รู้สึกเพียงว่าการสร้างบ้านของคนโบราณไม่ใช่เื่ง่าย หลังจากป้าหวังกำชับ นางจึงเพิ่งรู้ว่าที่แท้การปลูกบ้านสร้างเรือนในชนบทเช่นนี้เ้าของเรือนต้องรับผิดชอบอาหารกลางวัน ทั้งยังต้องมีอาหารหนึ่งอย่างถือว่าเป็ค่าเหนื่อยของพวกแรงงาน
นางไม่ได้เสียดายเงินที่ต้องใช้จ่าย แค่ว่านางตั้งใจจะจ้างแรงงานยี่สิบคนมาสร้างบ้าน เมื่อนับรวมหวังเสี่ยวลิ่ว ป้าหวังและตัวนางเองแล้ว ก็มีทั้งหมดยี่สิบสามคน
จำนวนคนมากมายเช่นนี้ หากนางทำอาหารเพียงลำพังย่อมไม่ทันกาลแน่นอน
ป้าหวังรู้ดีว่าซ่งอวี้กำลังกังวลเื่ใดจึงเป็ฝ่ายเสนอช่วยนางด้วยตนเอง ขอเพียงมีอาหารกลางวันให้ทานก็พอแล้ว แต่ซ่งอวี้ก็รู้สึกว่าป้าหวังช่วยงานนางมามากแล้ว จึงไม่กล้ารบกวนป้าหวังให้ทำงานเหน็ดเหนื่อยเช่นนี้
นางเขียนเื่ของตนเองลงไปในจดหมายที่ส่งให้ท่านจ้าว คิดไม่ถึงว่าวันถัดมาท่านจ้าวจะสั่งให้ผู้จัดการโจวส่งคนมาช่วยนางวางแผนการเื่ที่ดินด้วยตนเอง
"เด็กคนนี้ เ้าลืมข้าที่เป็ท่านอาจารย์แล้วหรือ? ลอบทำเื่ตั้งมากมาย โดยไม่เขียนลงไปในจดหมายแม้แต่น้อย หากไม่ใช่เพราะเวลานี้พบเจอปัญหาคงจะไม่นึกถึงข้าแล้วใช่หรือไม่?" ทันทีที่ท่านจ้าวลงจากรถม้าเขาก็ตำหนิซ่งอวี้
แต่ความเป็ห่วงที่แฝงอยู่ในคำพูดของเขานั้นคือความจริง ซ่งอวี้ไม่โกรธเคืองแม้แต่น้อย แต่กลับรู้สึกอบอุ่นหัวใจ
ฝากตัวเป็ลูกศิษย์ไม่ถึงหนึ่งเดือน ท่านจ้าวก็ไม่เคยสอนกับมือ แต่ท่านอาจารย์คนนี้กลับเอ็นดูนาง แค่เื่เล็กน้อยที่หาคนช่วยงานไม่ได้เช่นนี้ ท่านจ้าวก็เดินทางมาด้วยตนเองเพื่อมาช่วยนางคิด
ซ่งอวี้รีบกล่าวขอโทษท่านจ้าว นางพูดด้วยรอยยิ้ม "เื่เล็กแค่นี้ข้าเองก็ทำได้ แค่คิดว่าท่านชอบฟังเื่เล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตของข้า ข้าจึงเล่าให้ท่านฟัง ท่านอย่าโกรธเคืองข้าเลย"
ซ่งอวี้ในอดีต ยามเผชิญหน้ากับท่านจ้าวล้วนเป็คนอ่อนโยนวางตัวอย่างเหมาะสม แต่นางในตอนนี้กลับออดอ้อนเหมือนเด็ก ทำให้ท่านจ้าวรู้สึกได้รับการปลอบประโลม แค่ว่ากลัวนางจะลำพองใจจึงไม่ได้แสดงออกทางสีหน้าเท่าใดนัก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้