บทที่ 132 วิธีฟื้นคืนชีพ
เนื่องจากว่าเป็เวลาดึกมากแล้ว เขาจึงแอบย่องลูบคลำทางเข้ามาในบ้าน ไฟในห้องนั่งเล่นก็ปิดไปหมดแล้ว
แต่ทันใดนั้น แสงสีเขียวเข้มก็ได้เดินออกมาจากในความมืด
“จะแกล้งให้ฉันใใช่ไหม ปิดเอฟเฟกต์พิเศษของแกซะ”
“เ้านาย”
แสงสีเขียวในความมืดนิ่งไป ครู่หนึ่ง แสงสีเขียวก็ได้หายไป เย่จื่อเฉินจึงรีบเปิดไฟในห้องนั่งเล่น
“ดึกดื่นป่านนี้แล้ว ทำไมแกถึงไม่หลับไม่นอน มาวิ่งพล่านทำอะไรอยู่ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันมีสติ ฉันต้องใตายเพราะแกแน่”
เสี่ยวไป๋ยิ้มแยกเขี้ยวจนเห็นเขี้ยวเล็กๆ ก่อนจะวิ่งกระดิกหางเข้ามาออดอ้อนเย่จื่อเฉิน
“ก็ผมกลัวจะมีขโมยขึ้นบ้านเราไง”
“โอเค ระมัดระวังดี แต่เอฟเฟกต์ของแกเมื่อกี้ มันทำยังไงเหรอ แกเปิดให้ฉันดูหน่อยสิ”
“นี่มันไม่ใช่เอฟเฟกต์พิเศษ นี่เป็เซนเซอร์สแกน”
เสี่ยวไป๋สะบัดหางอย่างภูมิใจ ก่อนที่ดวงตาเล็กๆ คู่นั้นจะปรากฏแสงสีเขียวขึ้นมาอีกครั้ง
“โอ๊ะ!”
เย่จื่อเฉินยิ้ม
อันนี้น่าสนุกดีแฮะ
สักพัก เสี่ยวไป๋ก็ปิดเซนเซอร์สแกน เย่จื่อเฉินนั่งยกขาขึ้นไขว่ห้างอยู่บนโซฟา เสี่ยวไป๋ก็วิ่งส่ายก้นเข้าไปหา
“เ้านาย เป็ยังไงบ้าง”
“ดูแล้วมีสไตล์ดี ใช้ทำอะไรได้บ้าง?”
“ฟังก์ชันเซนเซอร์สแกนอันนี้มีประโยชน์เยอะมาก”
“พูดมา”
เย่จื่อเฉินยักคิ้วขึ้นอย่างสนใจ เสี่ยวไป๋ทำหน้าย่นอยู่นาน
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”
เพียะ!
ยกมือขึ้นตบลงบนหัวเล็กของเสี่ยวไป๋
ว่าแล้วเชียว เ้าหมาตัวนี้มันเลี้ยงเสียข้าวสุกอีกแล้ว
“เ้านายตีผมทำไมเนี่ย”
เสี่ยวไป๋ทำหน้าเสียใจ เย่จื่อเฉินถอนหายใจยาวอย่างเอือมระอา
“แล้วทุกวันแกพัฒนาทักษะพวกนั้นให้มันได้อะไรขึ้นมา ถึงจะรู้สึกว่ามันเจ๋งดี แต่มันไม่มีประโยชน์”
“ก็ผมยังเด็กอยู่นี่!”
“ไปๆ ไปทางนู้นไป”
ไล่เสี่ยวไป๋ออกไปอย่างอารมณ์เสีย แล้วเย่จื่อเฉิงก็ล้วงเอาโทรศัพท์ออกมา แล้วนั่งลงบนโซฟาพร้อมเลื่อนหาชื่อาาฉู่เจียง
เย่จื่อเฉิน : าาฉู่เจียง
าาฉู่เจียงที่กำลังฟังเพลงอยู่ภายในโถงนรกห้องที่สอง พอเห็นข้อความก็ใทันที
ทำไมผู้วิเศษท่านนี้ถึงได้ทักมาหาเขา
หรือว่าจะมีเื่อะไรที่ต้องหารให้พวกเขาช่วยเหลืออีก หรือว่าท่านผู้วิเศษท่านนี้จะทักมาหาเื่
เ้าแห่งยมโลกท่านนี้คิดมากขึ้นมาทันที
เย่จื่อเฉิน : าาฉู่เจียง
ข้อความปรากฏขึ้นมาบนหน้าจออีกครั้ง าาฉู่เจียงกลืนน้ำลายลงคอ แล้วรีบไล่ลูกชายออกไป กำโทรศัพท์เอาไว้สักพัก ถึงได้ตอบกลับไป
าาฉู่เจียง : อยู่
เย่จื่อเฉิน : ผมคิดว่าท่านหลับไปแล้วซะอีก
พอเห็นข้อความนี้ เขาก็นิ่งอยู่นาน เ้าแห่งยกโลกทั้งสิบอย่างพวกเขามีเวลานอนที่ไหนกัน แต่ละวันต้องจับผีจับิญญา พวกเขาต้องตัดสินคดีและออกคำสั่งการอีก เวลาเร่งรีบจะตาย
แต่เพราะเป็คำพูดของท่านผู้วิเศษ ไหนเลยเขาจะกล้าโต้แย้ง
าาฉู่เจียง : ยังไม่นอน ไม่ทราบว่าที่ท่านทักมาหาข้ามีเื่อะไรจะบอกหรือเปล่า
คราวนี้เป็เย่จื่อเฉินที่นิ่งไป ถึงยังไงก็เป็ถึงเ้าแห่งยมโลก ทำไมถึงได้อ่อนน้อมถ่อมตนขนาดนี้
แต่ถ้าเขาจะกลัวก็กลัวไปเถอะ มันไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเอง
เย่จื่อเฉิน : ไม่ได้มีเื่อะไร ผมแค่จะบอกว่า คุณน่าจะบอกผมเื่วิธีชุบชีวิตแล้วก็ส่วนบุญอะไรนั่นได้แล้วนะ
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าคุณงามความดีมันใช้ทำอะไรได้บ้าง แต่ถ้าได้มามันต้องมีประโยชน์แน่
าาฉู่เจียง : ได้ ข้าจะให้ส่วนบุญกับท่าน
ติ๊ง!
าาฉู่เจียงส่งอั่งเปามาให้ เย่จื่อเฉินก็กดรับ
คุณได้รับอั่งเปาของาาฉู่เจียง
ส่วนบุญทางโลก x10,000
คุณได้รับการเลื่อนตำแหน่งในนรก ตำแหน่งปัจจุบันคือยมทูตระดับสี่
ตำแหน่งเ้าหน้าที่ในนรกได้เลื่อนขั้นอีกครั้งแล้ว
เย่จื่อเฉินไม่มีเวลามาสนใจเื่นี้ เมื่อรับอั่งเปาแล้ว ก็ถามกลับไป
เย่จื่อเฉิน : วิธีฟื้นคืนชีพ
วิธีที่จะฟื้นคืนชีพให้กับคนที่ยังไม่สิ้นอายุขัยนั้น จะบอกว่าง่ายก็ง่าย จะบอกว่ายากก็ยาก
เย่จื่อเฉิน : เข้าประเด็นเลย
าาฉู่เจียง : ได้
าาฉู่เจียงที่อยู่ในนรกยกมือขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าผาก ผู้วิเศษท่านนี้ใจร้อนจริงๆ
าาฉู่เจียง : ถ้าจะฟื้นคืนชีพให้กับคนที่ยังไม่สิ้นอายุขัย จะต้องมีรากบัววิเศษเก้ารู เนตรัอายุพันปี และน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ แล้วนำเอามารวมกับยาวิเศษซานเหวินชิง และจะต้องมาที่บ่อน้ำส่งไปเกิดในห้องโถงนรกห้องที่หกเท่านั้น ถึงจะสามารถคืนชีพได้
เมื่อได้รับข้อความนี้ เย่จื่อเฉินก็จดจำทุกอย่างในโทรศัพท์เอาไว้ แล้วก็ไปหาที่แอปเถาเป่าดู
ไม่มีรากบัววิเศษเก้ารู
ไม่มีเนตรัพันปี
ไม่มีน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ จะฟื้นคืนชีพต้องไปที่นรก
แบบนี้มันเหมือนกับไม่ได้บอกอะไรเลย คนธรรมดาแบบเขาสามารถวิ่งไปที่นรกได้ด้วยเหรอ?
เย่จื่อเฉิน : าาฉู่เจียง ท่านกำลังล้อผมเล่นอยู่หรือไง!
าาฉู่เจียงที่อยู่ในนรกเหงื่อแตกพลั่กทันที
าาฉู่เจียง : เปล่า ข้าพูดความจริงทุกอย่าง
เย่จื่อเฉิน : ได้ ถ้าอย่างนั้นท่านบอกมาหน่อยสิ ว่าคนธรรมดาอย่างผมจะไปที่นรกได้ยังไง
าาฉู่เจียง : เื่นั้นไม่มีปัญหา ถ้าท่านรวบรวมของทุกอย่างได้ครบแล้ว ถึงตอนนั้นข้าจะเปิดทางผ่านระหว่างโลกมนุษย์กับนรกให้ท่านเอง
เมื่อเห็นข้อความนี้ ไฟร้อนในใจของเย่จื่อเฉินก็มอดดับลงไปมาก
อีกฝ่ายสามารถเปิดทางผ่านได้ ก็แปลว่าเื่นี้เป็ไปได้
แต่ว่ารากบัวหรือน้ำมนต์อะไรพวกนั้น…
เย่จื่อเฉิน : ท่านบอกผมหน่อยสิว่าพวกรากบัวเก้ารู น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์อะไรพวกนั้น จะไปหามาจากที่ไหน
าาฉู่เจียง : ถ้ารากบัวเก้ารู ที่เหอเซียนกู่[1] น่าจะมีอยู่ เนตรัพันปีก็คือดวงตาของัที่บำเพ็ญเพียรมาพันปี ยาวิเศษที่ไท่ซางเหล่าจวินมีอยู่ ส่วนน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์…”
เย่จื่อเฉิน : น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ทำไม?
าาฉู่เจียงที่นั่งอยู่บนบัลลังก์เลียริมฝีปาก น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์นี้ไม่มีทางหาเจอหรอก
แต่ดูจากท่าทางของผู้วิเศษท่านนี้แล้ว ดูท่าว่าจะมีความจำเป็ที่จะต้องชุบชีวิตคนที่ยังไม่สิ้นอายุขัยให้ได้
ถ้าบอกออกไป…
เย่จื่อเฉิน : ผมถามท่านอยู่นะ!
ให้ตาย อย่ารีบร้อนนักสิ
าาฉู่เจียงด่าอยู่ในใจ ขบกัดฟันแล้วตอบกลับไป
าาฉู่เจียง : น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ต้องใช้ลูกแก้วิญญาแช่ไว้ในบ่อน้ำไร้ก้นสระนอกวังกวงฮานบน์เป็เวลาสี่สิบเก้าวัน
ลูกแก้วิญญา
เย่จื่อเฉิน : าาฉู่เจียง ท่านบอกผมหน่อยสิว่าในโลกนี้ยังมีลูกแก้วิญญาอยู่อีกหรือไง!
เหงื่อบนหน้าผากของาาฉู่เจียงไหลออกมาทันที เขาว่าแล้วว่าผู้วิเศษท่านนี้จะต้องรู้ความลับของลูกแก้วิญญาแน่นอน
าาฉู่เจียง : ท่านผู้วิเศษ ที่ข้าบอกไปทั้งหมดล้วนเป็ความจริง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะหาลูกแก้วิญญามาไม่ได้
เย่จื่อเฉิน : ถ้าอย่างนั้นท่านก็บอกมาสิว่าหายังไง
าาฉู่เจียง : ตอนนั้นลูกแก้วิญญาแตกกระจายแยกกันตกลงไปในมหาสมุทรทั้งสี่ และอยู่ในดินแดนทางเหนือที่ห่างไกล กับที่นรกของข้า ท่านจะลองหาดูก็ได้
าาฉู่เจียงไม่กล้าพูดต่อแล้ว
แม่เ้า ตนยังไม่เชื่อเลยว่าจะสามารถหามาได้
อย่าว่าแต่มหาสมุทรทั้งสี่เลย ดินแดนทางเหนือที่ห่างไกล สถานที่ที่กว้างใหญ่ขนาดนั้น ใครจะไปหาเจอว่าชิ้นส่วนชิ้นนั้นมันอยู่ที่ไหน
แต่ปฏิกิริยาของเย่จื่อเฉินตอนที่ได้เห็นข้อความนี้ กลับต่างออกไป
ที่นรกมีอยู่หนึ่งชิ้น
เมื่อเปิดดูหีบสมบัติในวีแชท เศษชิ้นส่วนของลูกแก้วิญญาทั้งห้าอันก็อยู่ในมือของเขาแล้ว อันที่เขาขาดอยู่ก็คืออันที่อยู่ในนรก
เย่จื่อเฉิน : ท่านบอกว่าที่นรกมีอยู่ชิ้นหนึ่งใช่ไหม
ผู้วิเศษท่านนี้คงไม่ได้จะเอาหรอกนะ
บอกตามตรง ว่าตนไม่อยากให้เลย
ถึงจะเป็แค่ชิ้นส่วนของลูกแก้วิญญา แต่นั่นก็เป็สมบัติหายาก อีกอย่างเศษลูกแก้วิญญาชิ้นนั้นก็ไม่ได้อยู่ในมือเ้าแห่งยกโลกอย่างพวกตน
าาฉู่เจียง : พวกข้ามีอยู่ชิ้นหนึ่งก็จริง
เย่จื่อเฉิน : ผมขอ
เย่จื่อเฉินรู้สึกเหมือนว่ากำลังทำตัวเป็โจรรีดไถอยู่เลย
าาฉู่เจียงร้องไห้แล้ว
าาฉู่เจียง : มันไม่ได้อยู่กับข้า
เย่จื่อเฉิน : แล้วอยู่กับใคร
เย่จื่อเฉินเริ่มอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา าาฉู่เจียงคนนี้ชอบมาให้ความหวังเขา แล้วก็ทำให้เขาผิดหวัง ทำร้ายเขาชะมัดเลย
าาฉู่เจียง : อยู่กับองค์ยูไล[2]
เย่จื่อเฉิน : ดี ท่านไปขอเศษลูกแก้วจากองค์ยูไลมาให้ผม ถ้าเอามาไม่ได้…
เย่จื่อเฉินส่งสติกเกอร์มีดเปื้อนเืไปเป็แถว
เย่จื่อเฉิน : ท่านคิดเอาเองแล้วกันว่าจะทำยังไง
___________________________________________________
[1] เหอเซียนกู่ หมายถึง เป็บุคคลในประมวลเื่ปรัมปราจีน ลัทธิเต๋าจัดเข้าเป็เซียนองค์หนึ่งในกลุ่มโป๊ยเซียน (แปดเซียน) โดยเป็สตรีหนึ่งเดียวในกลุ่มดังกล่าว ในมือจะถือดอกบัววิเศษเอาไว้
[2] องค์ยูไล หมายถึง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเ้าของชาวจีน