ตอนแรกเซี่ยฉางเจิงกับจางชุ่ยนั้นกลัวเซี่ยเสี่ยวหลานยิ่งนัก
หาเื่เธอทีไรเป็ต้องซวยทุกครั้ง เขากับจางชุ่ยจึงตัดสินใจหนีจากซางตูมาถึงปักกิ่ง ทว่าก็ยังหนีเซี่ยเสี่ยวหลานไม่พ้น วินาทีนั้น ความเดือดดาลของเซี่ยฉางเจิงเอาชนะสติสัมปชัญญะไปจนสิ้น แน่นอนว่าเขาเองก็รู้จักคิด เซี่ยเสี่ยวหลานมาพร้อมกับชายวัยกลางคนท่าทางสุขุมเอาการเอางาน แค่ดูก็รู้ว่าไม่ควรก่อเื่ หากเซี่ยเสี่ยวหลานไปไหนมาไหนโดยมีบอดี้การ์ดคอยติดตาม เมื่อคนขี้ขลาดอย่างเซี่ยฉางเจิงเจอเธอคงอยู่ให้ห่างมากที่สุด!
แต่ครานี้เซี่ยฉางเจิงกระแทกตัวผู้จัดการใหญ่อู่จนล้ม!
โชคดีที่ผู้จัดการใหญ่อู่ไม่ได้ตกลงไปในบ่อน้ำ เซี่ยฉางเจิงพยายามยันตัวลุกขึ้นจากพื้นอยู่นานแต่ก็ไม่สำเร็จ
“เป็บ้าอะไรของแกฮะ?!”
เ้าของบ้านจับตัวเซี่ยฉางเจิงเอาไว้ เขาโมโหจนอกแทบจะะเิเสียให้ได้
สองสามีภรรยาเซี่ยฉางเจิงและจางชุ่ยเพิ่งย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ได้ไม่นาน บ้านปล่อยเช่าให้ใครก็เหมือนกัน ขอแค่จ่ายค่าเช่าทุกเดือนก็พอ! เดิมทีผู้เช่าในบ้านหลังนี้ก็ค่อนข้างมีคนอยู่หลากหลายประเภท แต่ส่วนใหญ่ล้วนมีงานมีการทำ ทว่าผู้เช่าที่อาศัยการเปิดแผงขายของเพื่อเลี้ยงชีพอย่างเซี่ยฉางเจิงและจางชุ่ยนั้นมีไม่มาก อย่างไรเสียคนกลุ่มแรกต่อให้สวัสดิการจะแย่เพียงใด แต่ทุกเดือนย่อมได้เงินเดือน จึงไม่มีปัญหาเื่การจ่ายค่าเช่า
รถขายอาหารว่างของจางชุ่ยจอดอยู่ในตัวบ้าน เมื่อขายอาหารย่อมมีกลิ่นคละคลุ้งไปทั่ว ผู้เช่าคนอื่นเคยมาฟ้องเ้าของบ้าน ทว่าตอนนั้นเ้าของบ้านได้ตัดสินใจขายบ้านแล้ว จึงขอให้ทุกคนเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน — เห็นอกเห็นใจบ้าอะไร จู่ๆ เซี่ยฉางเจิงก็พุ่งมาทำร้ายผู้จัดการใหญ่อู่ ตอนนี้เ้าของบ้านอยากจับเขาโยนลงบ่อน้ำ และโยนหินก้อนั์ซ้ำลงไปเพื่อคลายความโกรธเสียเหลือเกิน!
เซี่ยเสี่ยวหลานช่วยพยุงตัวผู้จัดการใหญ่อู่ให้ลุกขึ้น ผู้จัดการใหญ่อู่เองก็โมโหเช่นกัน
เซี่ยฉางเจิงถูกเ้าของบ้านจับตัวไว้ ผู้จัดการใหญ่อู่อยากพุ่งไปต่อยเขาสักหมัด แต่พอคิดได้ว่าตนเป็ข้าราชการจึงต้องข่มอารมณ์ไว้
เซี่ยฉางเจิงในตอนนี้พูดจาโผงผาง หนวดเคราเต็มหน้า ยังเช้าอยู่แท้ๆ แต่ตัวกลับเหม็นกลิ่นเหล้า เขาไม่มีมือข้างขวา แค่ดูก็รู้ว่าเป็ผู้พิการที่อยู่ระดับต่ำสุดของสังคม ผู้จัดการใหญ่อู่ได้แต่คิดว่าตัวเองนั้นดวงซวย พอฟังดูดีๆ เซี่ยฉางเจิงไม่ได้ด่ากราดไปทั่ว แต่คนที่เขาด่าคือเซี่ยเสี่ยวหลานน่ะสิ
ผู้จัดการใหญ่อู่รู้สึกประหลาดใจ อย่างไรก็ตามเซี่ยเสี่ยวหลานไม่จำเป็ต้องอธิบายอะไรกับผู้จัดการใหญ่อู่ทั้งนั้น
แต่บ้านหลังนี้คงไม่ต้องซื้อกันแล้ว
เซี่ยฉางเจิงยังคงพ่นคำหยาบคาย ส่วนเซี่ยเสี่ยวหลานก็ได้เดินตามผู้จัดการใหญ่อู่ออกจากบ้านไป
“ฉันเคยมีเื่กับผู้ชายคนนั้น บ้านหลังนี้ต่อให้ดีแค่ไหนฉันก็ไม่เอาแล้วล่ะ ถ้าเขารู้ว่าฉันอยู่ที่ไหนคงตามรังควานไม่หยุดแน่ๆ ”
เื่ที่เธอกับเซี่ยฉางเจิงบาดหมายกันนั้นไม่ใช่เื่เล็กๆ
เซี่ยฉางเจิง้าขัดขวางการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเธอ อยากทำลายอนาคตของเธอ เซี่ยเสี่ยวหลานถึงกับกระดูกมือขวาร้าว เธอไปสอบเกาเข่าพร้อมด้วยอาการาเ็ ที่จริงแล้วหากเธอไม่าเ็ ก็ไม่แน่ว่าจะได้คะแนนต่ำกว่าหนิงเสวี่ยไป 4 คะแนน
อย่างไรก็ตามเซี่ยฉางเจิงก็เสียมือข้างหนึ่งไปเช่นกัน
เพื่อเอาตัวรอด นักเลงพวกนั้นจึงลงมือกับเซี่ยฉางเจิงอย่างโหดร้าย เซี่ยเสี่ยวหลานเป็พวกมีแค้นต้องชำระ เมื่อเห็นเซี่ยฉางเจิงแล้วเธอไม่รู้สึกผิดสักนิด เธอแค่ไม่อยากอยู่ใกล้กับหมาบ้าก็เท่านั้น
ตอนเห็นวิทยาลัยฝึกหัดครูปักกิ่ง เซี่ยเสี่ยวหลานก็รู้สึกระแวงนิดหน่อย สิ่งที่เธอต้องระวังคือการเผชิญหน้ากับเซี่ยจื่ออวี้และหวังเจี้ยนหัว หากซื้อบ้านที่นี่จริงการเผชิญหน้ากับทั้งสองคนคงมาถึงสักวันหนึ่ง เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกไม่สบายใจ ถึงอย่างไรบ้านสองหลังก่อนหน้านี้ก็อยู่ห่างจากหัวชิงประมาณสิบกิโลเมตร เมื่อขี่จักรยานก็ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น และที่สำคัญคือไม่มีคนที่เธอเกลียด อีกทั้งเซี่ยเสี่ยวหลานเองก็ชอบบ้านที่สือช่าไห่มากเช่นกัน
ถ้าซื้อบ้านทั้งสองหลังได้ เธอก็จะเลือกบ้านที่สือช่าไห่ และให้หลิวหย่งซื้อบ้านที่ซอยหนานหลัวกู่เสีย
ผู้จัดการใหญ่อู่เองก็รู้สึกว่าควรเลือกหนึ่งในบ้านสองหลังก่อนหน้า ส่วนบ้านหลังนี้ไม่เอาก็ไม่เป็ไร
เขาบอกกับเ้าของบ้านอย่างชัดเจนว่าไม่ซื้อ เ้าของบ้านะโเหนี่ยวรั้งไล่หลังอยู่นานพอสมควร
หลังจากผู้จัดการใหญ่อู่กับเซี่ยเสี่ยวหลานขี่จักรยานออกมาแล้ว เ้าของบ้านก็กลับไปะเิอารมณ์ใส่เซี่ยจางเฉิง “เก็บข้าวของแล้วย้ายออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้ ค่าเช่าเดือนนี้ที่ยังเหลืออยู่ฉันจะคืนให้แก รีบไสหัวไปซะ!”
เซี่ยจางเฉิงถูกผู้เช่าอีกสองคนกดตัวไว้กับเก้าอี้ ไม่อย่างนั้นเขาคงวิ่งตามออกไปทำร้ายเซี่ยเสี่ยวหลานแล้ว
“ฉันจ่ายเงินไปแล้ว มีสิทธิ์อะไรมาไล่? คิดจะรังแกคนต่างถิ่นอย่างพวกเราสินะ!”
เ้าของบ้านคิดในใจ ก็แค่พวกที่มาจากต่างเมือง คนอื่นต่อให้เช่าบ้านอยู่แต่ก็มีอาชีพการงานทำ มีญาติสนิทมิตรสหายอาศัยอยู่ที่ปักกิ่ง อากงแก่ๆ ถือกรงนกแต่งตัวมอซอ ดีไม่ดีในอดีตอาจจะเป็เชื้อพระวงศ์ที่ปัจจุบันชื่อตระกูลยังถูกบันทึกเอาไว้อยู่ในที่ว่าการก็เป็ได้
สองคนนี้มาจากต่างถิ่นเพื่อเปิดร้านขายของ มีลูกสาวเป็นักศึกษาในวิทยาลัยฝึกหัดครู เ้าของบ้านย่อมไม่กลัว!
เขาไม่ปล่อยให้พ่อแม่นักศึกษามหาวิทยาลัยเช่าบ้าน ใครจะทำอะไรเขาได้?
เซี่ยฉางเจิงถูกไล่ออกจากเรือนสี่ประสาน จางชุ่ยที่ออกไปขายของถูกเรียกตัวกลับมาอย่างกะทันหัน หลังกลับมาก็ร้องไห้พลางก่นด่าสามีของตน “กว่าเจี้ยนหัวจะหาบ้านให้ได้นั้นไม่ง่ายสักนิด แถมยังอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยของจื่ออวี้ สภาพแวดล้อมดีกว่าบ้านเช่าก่อนหน้านี้ด้วย คุณจะไปทะเลาะกับคนอื่นทำไมกัน”
คิดว่าบ้านเช่าหาง่ายนักหรือ!
ต้องมีที่ให้วางรถเข็นขายของ ค่าเช่าไม่แพงจนเกินไป แถมต้องอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยของจื่ออวี้ จื่ออวี้จะได้กลับมาหาได้อย่างสะดวก... เรือนสี่ประสานแห่งนี้ เป็หวังเจี้ยนหัวที่ขอร้องคนอื่นให้ช่วยหามาให้
เซี่ยฉางเจิงพูดด้วยเสียงแหบพร่า “ฉันเจอกับนังเด็กเลวเซี่ยเสี่ยวหลาน! คิดว่ามันจะมาทำอะไร!”
จางชุ่ยหุบปากเงียบทันที
เธอไม่ได้เจอเซี่ยเสี่ยวหลานมาั้แ่ตอนเกิดเื่ที่หน้าโรงเรียนอันชิ่งเซี่ยนอีจงวันที่สี่หลังขึ้นปีใหม่ หลังจากนั้นร้านจางจี้ก็ปิดกิจการลง เธอกับเซี่ยฉางเจิงจึงย้ายมาที่ซางตู พออยู่ซางตูเพียงไม่นานก็ได้ย้ายตามเซี่ยจื่ออวี้มาที่ปักกิ่งเพราะความหวาดกลัว
เซี่ยเสี่ยวหลานเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยหัวชิงไม่ใช่หรือ?
แล้วเธอมาที่นี่ทำไม!
จางชุ่ยรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที เ้าของบ้านบอกให้เธอกับเซี่ยฉางเจิงย้ายออกพรุ่งนี้ เื่นี้เกิดขึ้นเพราะเซี่ยเสี่ยวหลาน เซี่ยเสี่ยวหลานอยากให้พวกเขาอยู่ปักกิ่งต่อไปไม่ได้ใช่หรือไม่ นังเด็กเลวคนนั้นจิตใจชั่วร้ายเกินไปแล้ว!
ทว่าสถานการณ์ในปัจจุบันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ตระกูลของหวังเจี้ยนหัวสามารถลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง เซี่ยจื่ออวี้บอกว่า พ่อของหวังเจี้ยนหัวทำงานอยู่ที่กระทรวงศึกษาธิการ ดังนั้นจะจัดการนักศึกษาคนหนึ่งไม่ได้เชียวหรือ?
จางชุ่ยรีบวิ่งแจ้นไปหาเซี่ยจื่ออวี้
เซี่ยจื่ออวี้ยังคงดีใจเื่ที่หวังเจี้ยนหัวได้ลงหน้าหนังสือพิมพ์
หนังสือพิมพ์ลงรูปของเขา สูงใหญ่หล่อเหลา เซี่ยจื่ออวี้เก็บสะสมหนังสือพิมพ์ทุกฉบับซึ่งมีรูปของหวังเจี้ยนหัวเท่าที่จะหามาได้ การขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์คราวนี้ของหวังเจี้ยนหัว ในที่สุดก็ทำให้เพื่อนร่วมหอของเซี่ยจื่ออวี้ออกปากชม
เซี่ยจื่ออวี้ทุ่มเทอะไรไปมาก และเธอมองคนไม่ผิดจริงๆ
ไม่รู้ใครเอาไปพูดกันว่า ที่จริงแล้วหวังเจี้ยนหัวเป็ลูกหลานข้าราชการระดับสูง ก่อนหน้านี้เขาแค่ถ่อมตัว รวมถึง้าฝึกฝนตัวเอง และเพราะตอนนั้นเซี่ยจื่ออวี้ไม่รังเกียจเขาที่มีฐานะยากจนถึงได้ทำให้เธอมีวันนี้ได้
ั้แ่ปีที่แล้วทุกอย่างล้วนไม่ได้ดั่งใจ ในที่สุดเซี่ยจื่ออวี้ก็ได้ััถึงรสชาติของการถูกผู้คนอิจฉาอีกครั้ง แต่แม่ของเธอกลับนำข่าวร้ายมาให้เธอเสียได้
เซี่ยเสี่ยวหลานไปที่บ้านเช่าของพ่อกับแม่ ไปกับคนอื่นเพื่อดูบ้าน?
“...เซี่ยเสี่ยวหลานจะซื้อบ้านที่ปักกิ่งแล้วรึ?”
เซี่ยจื่ออวี้ลุกพรวด
จางชุ่ยใ “ไม่หรอกมั้ง อาจจะไปดูบ้านเป็เพื่อนคนอื่นเขาก็ได้ นังเด็กนั่นจะมีปัญญาซื้อบ้านได้อย่างไร เ้าของบ้านเสนอขายตั้งเจ็ดหมื่นหยวนเลยนะ!”
บ้านหลังนั้นเซี่ยจื่ออวี้ก็ถูกใจเช่นกัน ตอนเธอรู้ว่าเ้าของ้าขายบ้าน เธอเองก็คิดว่าอยากหาเงินสักเจ็ดหมื่นมาซื้อมัน แม้ที่ชั้นเรียนกวดวิชาจะเริ่มทำกำไรได้บ้างแล้ว รวมถึงรายได้ต่อเดือนก็พอมีอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ชั้นเรียนกวดวิชากลายเป็สถานที่ซึ่งช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับหวังเจี้ยนหัว จึงไม่ควรใช้มันในการหารายได้
เงินที่เซี่ยจื่ออวี้มีอยู่ในมือ คือเงินที่ตระกูลหวังคืนมาให้นั่นเอง
เมื่อรวมกับเงินเก็บของเซี่ยฉางเจิงกับจางชุ่ยก็มีแค่หมื่นกว่าๆ เท่านั้น เซี่ยจื่ออวี้ปลอบใจตัวเองอยู่นาน พลาดบ้านหลังนี้ไป อย่างไรเสียในอนาคตก็ยังมีบ้านหลังอื่นอีก แต่เซี่ยเสี่ยวหลานกลับ้าซื้อบ้านหลังนี้ เธอมีสิทธิ์อะไร!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้