หลังจากเห็นฉากที่มนุษย์และงูเจียวต่อสู้กันจนต่างฝ่ายต่างาเ็สาหัส มู่เฟิงก็ตะลึงงันไปทันที
เมื่อได้สติเด็กหนุ่มก็รีบวิ่งไปยังูเาที่ทั้งสองคนต่อสู้กันอย่างรวดเร็ว เนื่องจากในบริเวณนี้เป็อาณาเขตของงูเจียวไฟ ดังนั้นจึงไม่มีอสูรร้ายตัวอื่นดำรงอยู่ มู่เฟิงที่กำลังวิ่งมุ่งหน้าไปทางนั้นจึงไม่พบกับอันตรายใดๆ
หลังจากที่วิ่งมากว่าสิบนาที ในที่สุดมู่เฟิงก็มาถึงสถานที่ที่หลิ่วอีเสวี่ยและงูเจียวไฟตกลงมา
มู่เฟิงพบว่าหลิ่วอีเสวี่ยนั้นตกลงมายังเขตของป่าสนสีเหลือง ไม่รู้ว่าชุดสีขาวบริสุทธิ์ของนางถักทอขึ้นจากผ้าหรือวัสดุพิเศษชนิดใด เพราะแม้ว่าจะล่วงลงมาท่ามกลางป่าสนชุดของนางก็ยังไม่ได้รับความเสียหายเลยแม้แต่น้อย
ร่างของหลิ่วอีเสวี่ยนอนฟุบอยู่บนพื้นกลางป่า นางได้รับาเ็สาหัสจนหมดสติไปแล้ว
มู่เฟิงรีบเข้าไปประคองร่างของหลิ่วอีเสวี่ยเข้ามาไว้ในอ้อมแขน ทำให้เขาสามารถจ้องมองใบหน้าที่เนียนละเอียดของหญิงสาวได้ในระยะใกล้ ภายในใจอดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพที่เขาได้เห็นใต้บ่อน้ำพุร้อน ทำให้มีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาในหัวของเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เด็กหนุ่มจึงหยิกขาของตัวเองเพื่อเรียกสติก่อนจะยิ้มขื่นออกมา นี่เขากำลังคิดอะไรอยู่กัน ว่านเอ๋อร์ยังรอเขาอยู่นะ
มู่เฟิงนำยารักษาออกมาและป้อนเข้าไปในปากของหลิ่วอีเสวี่ย จากนั้นก็หยิบถุงน้ำออกมาป้อนต่อเพื่อให้นางกลืนยาลงไปได้
หลังจากป้อนยาเรียบร้อยแล้วเขาก็วางร่างของหลิ่วอีเสวี่ยไว้บนพื้นด้านข้าง ก่อนจะเดินไปยังตำแหน่งที่งูเจียวไฟตกลงไป
งูเจียวไฟเองก็ได้รับาเ็สาหัสและตกลงมาบนผืนป่าเช่นกัน ต้นสนในบริเวณนั้นล้วนถูกหักโคน กระทั่งผืนดินยังกลายเป็แอ่งเื บนลำคอของมันมีรอยแผลขนาดใหญ่ซึ่งเกิดจากปราณกระบี่ของหลิ่วอีเสวี่ย
ภายในร่างกายของงูเจียวไฟยังคงหลงเหลือคลื่นพลังจากปราณกระบี่อยู่บางส่วน และมันก็กำลังสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของมันทีละน้อย
เมื่อมู่เฟิงเดินเข้าไปใกล้ เขาก็รู้ได้ว่าร่างของงูเจียวไฟตัวนี้มีขนาดใหญ่มาก
ร่างกายอันแข็งแกร่งของมันมีขนาดเท่าเรือนพักหลังหนึ่งเลยทีเดียว จากความยาวหลายสิบเมตรของมันทำให้มู่เฟิงที่ยืนอยู่เบื้องหน้าดูราวกับมดตัวหนึ่ง
“ระวังตัวด้วย งูเจียวไฟตัวนี้ยังไม่ตาย”
เสียงของซีเยว่ดังขึ้นในห้วงความคิดของเด็กหนุ่ม
“เยว่เอ๋อร์ ในที่สุดเ้าก็ตื่นแล้ว”
มู่เฟิงครุ่นคิดในใจ
ซีเยว่มักจะนอนหลับใหลอยู่ในหยกเทพชูร่าเพื่อฟื้นฟูจิติญญาดั้งเดิมของนาง
“เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดตรงหน้าเ้าถึงมีงูเจียวไฟที่ได้รับาเ็ได้กัน?”
ซีเยว่เอ่ยถาม
มู่เฟิงรีบอธิบายให้ซีเยว่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นคร่าวๆ จากนั้นเขาก็จ้องมองไปยังงูเจียวไฟ ดวงตาของเขาวาวโรจน์ขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า “เยว่เอ๋อร์ หากว่าหยกเทพชูร่าได้ดูดซับพลังจากงูเจียวไฟตัวนี้ข้าว่าคงสามารถฟื้นตัวได้มากทีเดียว”
“อืม โอกาสนี้แหละเหมาะสมมาก แก่นโลหิตของงูเจียวไฟตัวนี้จะสามารถช่วยให้งูน้อยของเ้ามีวิวัฒนาการเข้าใกล้กับัมากขึ้นไปอีกขั้น”
ซีเยว่พยักหน้า
“หึๆ ในเมื่อมันยังไม่ตาย เช่นนั้นข้าก็จะใช้ดาบปลิดชีวิตของมันเอง”
มู่เฟิงยิ้มเย็น เขาชักดาบออกมาก่อนจะกระโจนตัวขึ้นไปบนลำคอของงูเจียวไฟ เด็กหนุ่มง้างดาบขึ้นสูงก่อนจะแทงลงมาสุดแรง
แกร๊ง!
เกิดเป็เสียงคล้ายกับโลหะกระทบกัน เพียงคมดาบััถูกเกล็ดของมัน มันก็เด้งกลับออกมาในทันที และไม่เหลือรอยแผลทิ้งไว้เลยแม้แต่น้อย
“บัดซบ! การป้องกันของมันไม่ธรรมดาเลย”
มู่เฟิงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ เขาพยายามจะแทงลงไปอีกหลายครั้ง แต่ก็เปล่าประโยชน์
“พลังป้องกันของเกล็ดงูเจียวไฟนั้นเทียบได้กับเกราะป้องกันระดับิญญา อาศัยเพียงดาบนี้ของเ้าถือว่าไร้ประโยชน์ มีเพียงต้องใช้ดาบโลหิตชูร่าแทงลงไปยังาแของมันเท่านั้นจึงจะสามารถสังหารมันได้”
ซีเยว่ชี้แนะ
มู่เฟิงพยักหน้า ก่อนจะะโลงจากร่างของมัน เพื่อเปลี่ยนตำแหน่งไปยังลำคออีกด้านหนึ่ง ซึ่งลำคอบริเวณนี้มีาแฉกรรจ์ขนาดใหญ่จนน่าใอยู่ แน่นอนว่าแผลนี้เป็ฝีมือของหลิ่วอีเสวี่ย
มู่เฟิงอมเม็ดยาโลหิตขั้นสองเอาไว้ในปาก ก่อนจะค่อยๆ กลั่นมันให้กลายเป็พลังปราณ จากนั้นพลังปราณเหล่านี้ก็หลั่งไหลเข้าสู่หยกเทพชูร่า เข้าไปกระตุ้นอักขระเทพที่อยู่ภายในตัวหยก จากนั้นหยกเทพชูร่าก็ถูกเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้กลายเป็ดาบโลหิตขนาดใหญ่เล่มหนึ่งที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความชั่วร้ายและความกระหายเื
มู่เฟิงใช้ดาบเล่มนั้นจ้วงแทงลงไปยังาแเดิมบนลำคอของงูเจียวไฟอย่างโเี้
“โฮก…”
งูเจียวไฟถูกความเ็ปปลุกให้ได้สติกลับคืนมาอีกครั้ง มันแผดเสียงคำรามออกมาอย่างเ็ป ทันใดนั้นดวงตาสีทองเข้มของมันก็เบิกโพลงขึ้น ก่อนจะเหลือบไปเห็นมู่เฟิงที่เหยียบอยู่บนลำคอของมัน
มู่เฟิงใเป็อย่างมาก เขาดึงดาบเล่มใหญ่ออกจากาแของอีกฝ่ายและรีบถอยห่างออกมาทันที
“ไอ้เด็กบัดซบ เ้ากล้าทำร้ายข้า!”
งูเจียวไฟคำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด มันพยายามจะหยัดกายลุกขึ้น แต่หลังจากแผดเสียงคำราม ร่างของมันก็ทรุดลงบนพื้นอย่างอ่อนแรง
ภายในร่างกายของมันยังมีคลื่นพลังของปราณกระบี่หลงเหลืออยู่ ซึ่งตอนนี้มันกำลังกัดกร่อนอวัยวะภายในของมัน ทำให้มันได้าเ็ภายในอย่างรุนแรง
เมื่อเห็นร่างของงูเจียวไฟกลับไปเกลือกกลิ้งบนพื้นอีกครั้ง มู่เฟิงก็พรูลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขาก้าวเท้าเข้าไปหางูเจียวไฟอีกครั้งพร้อมกับดาบโลหิตชูร่า
งูเจียวไฟจ้องมองมู่เฟิงด้วยดวงตาเบิกกว้าง ก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงอันเย็นะเืว่า “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่อย่างนั้นเปิ่นจั้วจะกินเ้าเสีย”
“ฮ่าๆ จะกินข้างั้นรึ? ตาเฒ่าเอ๊ย ลำพังแค่ขยับกายลุกเ้ายังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้วเ้าจะมากินข้าได้อย่างไร? ให้ข้าช่วยปลดปล่อยเ้าจากความทรมานนี้ไม่ดีกว่าหรือ”
มู่เฟิงเย้ยหยัน จากนั้นเขาก็วาดดาบออกมาอีกครั้งโดยพุ่งเป้าไปที่าแเดิมของงูเจียวไฟ พลังปราณทั้งหมดในร่างของเขาถูกส่งไปยังดาบเล่มใหญ่ ไม่นานปราณดาบสีแดงโลหิตก็แทงลึกลงไปยังลำคอของงูเจียวไฟ
ฉึก...!
เืร้อนผ่าวพุ่งกระฉูดออกมาจนเปรอะเปื้อนไปทั่วร่างมู่เฟิง เด็กหนุ่มยิ้มรับด้วยความยินดี
“อ่า... เ้าเด็กบัดซบ ขะ ข้าจะฆ่าเ้า”
งูเจียวไฟคร่ำครวญออกมาด้วยน้ำเสียงอันแหบแห้ง แววตาของมันเผยให้เห็นถึงร่องรอยของความหวาดหวั่น ปราณดาบเมื่อครู่ได้ตัดผ่านเส้นเืของมันอีกครั้ง
ทันใดนั้นงูเจียวไฟก็ตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาทันที หัวของมันพุ่งชนร่างของมู่เฟิง ทำให้ร่างของเด็กหนุ่มลอยกระเด็นไปไกลหลายเมตร ก่อนจะกระแทกเข้ากับลำต้นของต้นสนในป่า มู่เฟิงกระอักเืออกมาในทันที พลังชีวิตของอีกฝ่ายแข็งแกร่งเกินไปแล้ว
งูเจียวไฟแผดเสียงคำราม มวลพลังสีแดงถูกควบแน่นขึ้นในปากของมัน มันคิดจะใช้เปลวเพลิงัแผดเผาร่างของมู่เฟิง แต่ในขณะที่มันเงยหน้าขึ้นพลังชีวิตของมันก็หมดลงพอดี ศีรษะของมันจึงล่วงตกลงพื้นอีกครั้ง พร้อมกับชีพจรชีวิตที่หายไป
ดวงิญญาอันเลือนรางของงูเจียวไฟลอยออกมาจากร่างของมัน ดวงตาอันแดงก่ำของมันจ้องมองมู่เฟิงอย่างเคียดแค้น ก่อนจะประกาศกร้าวออกมาว่า “ไอ้คนบัดซบ ในเมื่อข้าจะต้องตาย เช่นนั้นข้าก็จะลากเ้าลงนรกไปด้วยกัน”
หลังจากนั้นดวงิญญาของงูเจียวไฟก็พุ่งเข้าหามู่เฟิง หวังจะบดขยี้ดวงิญญาอันเปราะบางของอีกฝ่ายและลากไปยมโลกด้วยกัน
ทว่าทันใดนั้นก็มีดวงิญญาที่มีพลังสะกดข่มมหาศาลลอยออกมาจากดาบโลหิตชูร่า อีกฝ่ายเหลือบมองมาทางดวงิญญาของเจียวคุนด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม
นางสวมใส่ชุดสีขาวนวล ใบหน้างามล่มเมือง ทุกท่วงท่าล้วนดูสูงส่งและสง่างาม
“เป็เพียงดวงิญญายังริอาจอวดดี”
เพียงนางโบกมือ สำแสงิญญาสีทองสายหนึ่งก็พวยพุ่งเข้าใส่ดวงิญญาของเจียวคุนในทันที
“อ๊าก…!”
เจียวคุนเปล่งเสียงร้องโหยหวนออกมา แสงจากดวงิญญาของเขาค่อยๆ หรี่ลง ในขณะที่สายตาก็จ้องมองมาทางซีเยว่อย่างสยดสยอง
“ดะ ดวงิญญาระดับเทวะ! ในอาณาจักรที่เล็กจ้อยเช่นนี้ เหตุใดจึงมีดวงิญญาที่แข็งแกร่งขนาดนี้ปรากฏตัวขึ้นมาได้?”
ในขณะที่กำลังตื่นกลัวจนถึงสุดขีด ดวงิญญาของเจียวคุนก็ค่อยๆ สลายหายไป และในขณะเดียวกันนั้น คลื่นพลังิญญาของเขาก็ถูกซีเยว่ดูดซับเข้าไปด้วย
หลังจากที่ซีเยว่ดูดซับพลังิญญาของเจียวคุนเข้าไปแล้ว นางก็เผยยิ้มออกมา จากนั้นร่างของนางก็เปลี่ยนเป็ลำแสงสีทองลอยกลับเขาไปในดาบโลหิตชูร่าอีกครั้ง
“เยว่เอ๋อร์ ขอบคุณเ้ามาก”
มู่เฟิงกล่าวขอบคุณจากใจจริง เขารู้ว่าซีเยว่ได้ช่วยชีวิตของเขาเอาไว้
“อืม เ้าก็ระวังตัวด้วย ข้าจำเป็ต้องกลั่นพลังิญญาของเ้างูเจียวนี่ก่อน”
หลังจากซีเยว่กล่าวจบก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดเกิดขึ้นอีก มู่เฟิงรู้ได้ทันทีว่าซีเยว่ได้หลับไปแล้ว
มู่เฟิงเดินไปยังร่างของงูเจียวไฟ ก่อนที่ร่างสีขาวของเสี่ยวเทียนจะเลื้อยออกมาจากแขนของเขา จากนั้นมันก็ขยายร่างของตัวเองให้ใหญ่ขึ้น เมื่อมองเห็นร่างของงูเจียวไฟดวงตาของมันก็ลุกวาวขึ้นมาทันที มันไม่รอช้าที่จะพุ่งตัวเข้าไปในร่างของอีกฝ่ายจากทางปากแผลที่กำลังเปิดกว้าง
มู่เฟิงไม่ได้สนใจการกระทำของเสี่ยวเทียน เขากลืนเม็ดยาโลหิตลงไปเพื่อฟื้นฟูพลังปราณ เนื่องจากการใช้ดาบโลหิตชูร่าเมื่อครู่ทำให้เขาต้องสูญเสียพลังปราณทั้งหมดภายในร่างไป
หลังจากนั้นไม่นานเสี่ยวเทียนก็โผล่หน้าออกมาจากปากแผลอีกครั้ง โดยในปากของมันกำลังกัดกินหัวใจขนาดใหญ่ที่เปื้อนไปด้วยเื