“ออกไป! ” หร่านซวี่จือรู้ถึงสถานการณ์ของตนเองคร่าว ๆ เขาจึงเอาสองมือกอดไหล่ของตนเองไว้แล้วพ่นคำพูดออกมา
ร่างกายของเขานั้นสั่นเทาอย่างรุนแรง ความร้อนบนิัราวกับเป็ไข้และอุณหภูมิสูงขึ้นไม่หยุด ราวกับไฟจะไหม้เสียให้ได้
“ออกไปให้ห่างจากฉันนะ! ” หร่านซวี่จือยังคงพูดออกมาอีก
ปิงโหยวจี้อยากจะเปิดปากแต่ก็ต้องเม้มปากไว้ เขาเดินถอยหลังไปหลายก้าว จากนั้นก็นั่งลงบนใต้ต้นไม้
หร่านซวี่จือจ้องพื้นผิว เบื้องหน้านั้นเดี๋ยวก็พร่ามัว เดี๋ยวก็ชัดเจน ความทรงจำของทังเหวยฉายภาพขึ้นสลับไปมาในสมอง ความโศกเศร้านั้นราวกับจะทำให้คนขาดอากาศหายใจ
‘เสี่ยวเหวย นายต้องจำไว้” ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในสมอง เสียงอันคุ้นเคย ปนกับความอ่อนโยนที่คะนึงหา
“พวกเราคือคนที่ถูกโชคชะตาทอดทิ้ง”
ภาพความทรงจำอันเ็ป ที่อยู่อาศัยที่ถูกทำลาย ชีวิตดั่งราวอยู่ในกรงขัง เสียงสะอื้นที่ไม่ขาดสาย เพลงโศกเศร้าสลักลึกลงในจิติญญา
หร่านซวี่จือคว้าหญ้าบนพื้นแล้วกำไว้แน่น เขาส่งเสียงกรีดร้องเ็ปอยู่ในลำคอ
ปิงโหยวจี้นั่งอยู่ด้านหลังต้นไม้และใช้มือขวาจิกบนหัวเข่า เนื่องจากเห็นสถานการณ์ของหร่านซวี่จือที่เ็ปจนแทบทนไม่ไหว
“ทังเหวย” ปิงโหยวจี้อดทนอยู่นานค่อนวันแล้วก็เลือกที่จะเอ่ย “การอดทนแบบนี้มันไม่ดีกับร่างกายนะ...”
หร่านซวี่จือรวบรวมแรงเรียกหาระบบ
หร่านซวี่จือ: “สองสามสาม…”
ระบบ: “คุณรัน้าอะไรครับ? ”
หร่านซวี่จือ: “เอายาแก้สารพัดคราวก่อนมาให้ฉันเร็ว! ”
ระบบ: “ได้ครับ ต้องใช้แต้มเก้าร้อยเก้าสิบแปดแต้ม กำลังหักแต้ม ติ๊ง”
หร่านซวี่จือเอามือเกาศีรษะอย่างบ้าคลั่ง
ปิงโหยวจี้ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่อีกฟากนานพอสมควร ในที่สุดก็ทนไม่ไหวจึงคลำไปหาหร่านซวี่จือ
ขณะเดียวกันที่หร่านซวี่จือเริ่มรู้สึกว่าความไม่สบายตัวนั้นค่อยๆ ลดทอนลงไปบ้าง มือคู่หนึ่งก็ัับนตัวเขา
หร่านซวี่จือ “!!!”
แม้จะใช้ยาแก้สารพัดแล้ว แต่เนื่องจากกำลังของร่างกายก็ยังไม่ฟื้นคืนเต็มที่ ร่างกายของหร่านซวี่จือนั้นจึงอ่อนยวบยาบ ปิงโหยวจี้ใช้สองนิ้วเกยคางเขาขึ้นมา
ใบหน้าของหร่านซวี่จือยังคงแดงอยู่ จังหวะที่คางยกขึ้นริมฝึปากของเขาก็เผยอออกเล็กน้อย เผยให้เห็นปลายลิ้นสีแดงสดและเปียกชุ่มเล็กน้อย
ปิงโหยวจี้สูดลมหายใจลึก อดไม่ได้ที่จะเพิ่มเรี่ยวแรง หร่านซวี่จือออกแรงยกมือขึ้นมาคว้าข้อมือของเขาไว้ แต่ริมฝีปากที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงก็ต้องอ้าออกเพราะแรงบีบตรงแก้ม
ปิงโหยวจี้ก้มศีรษะและเอียงใบหน้า เขาค่อยๆ อ้าปากออกแล้วอมลิ้นของหร่านซวี่จือไว้
“อื้อ...” หร่านซวี่จือครวญครางออกมา มือของปิงโหยวจี้เลื่อนไปด้านหลังลำคอ นิ้วมือัันวดคลึงต่อมที่นูนขึ้นของโอเมก้าอย่างเบาๆ แต่เย้ายวน
หางตาของหร่านซวี่จือถึงกับแดง ความเสียวซาบซ่านที่ส่งผ่านมาจากหลังคอทำให้เขาขนลุกซู่และอดไม่ได้ที่จะเคลื่อนตัวเอนเข้าหาร่างของปิงโหยวจี้
แขนของปิงโหยวจี้โอบเอวบางของหร่านซวี่จือ สอดลิ้นเข้ามาและดูดกลืนภายในปากของเขา หัวเข่าขวาสอดเข้าตรงหว่างขาที่เปียกชุ่มของหร่านซวี่จือ
ทั้งที่ใช้ยาแก้สารพัดไปแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมร่างกายของหร่านซวี่จือถึงได้ร้อนรุ่มขึ้นมาอีกครั้ง สองมือนั้นโอบกอดปิงโหยวจี้ด้วยความเคลิบเคลิ้มอย่างไม่รู้ตัวและค่อยๆ โอบแน่นขึ้น
“เชื่อใจฉันเถอะ” ปิงโหยวจี้ถอนปลายลิ้นออกมาแล้วดึงเส้นใยสีเงินเป็ประกายออกมาหนึ่งเส้น จรดตรงข้างริมฝีปากของหร่านซวี่จือ เสียงของเขาแหบพร่าปนเซ็กซี่ “ยกร่างกายให้ฉันนะ”
เื่ราวต่อจากนั้นก็ลื่นไหลไปตามน้ำ สมองที่เบลอแต่กลับมีความเร่าร้อนอย่างสุดซึ้ง ฟีโรโมนของอัลฟ่าที่คลั่งอย่างไม่มีอะไรเทียบได้เกี่ยวพันกับฟีโรโมนของโอเมก้าอย่างรุนแรง ทำให้บรรยากาศนั้นกลายเป็หวานหยาดเยิ้มจนสิ่งใดมิอาจเทียบได้
หัวสมองของหร่านซวี่จือนั้นราวกับมีไม้มาคนมันไปมา กลิ่นอายของปิงโหยวจี้ถาโถมเข้ามา ราวกับซึมผ่านจมูกเข้ามาในสมอง ร่างกายสั่นระริกอย่างควบคุมไม่อยู่
ของเหลวเปียกชื้นไหลจากหางตา หร่านซวี่จือโอบกอดหลังของปิงโหยวจี้ไว้แแ่ ราวกับว่าเกาะขอนไม้กลางทะเล
ดวงิญญาเชื่อมเข้าหากันและฟีโรโมนผสานรวมกัน ทั้งหมดนี้ทำให้ความสับสนวุ่นวายและความอิ่มเอมสำราญใจมาพร้อมกับความเ็ปอย่างเป็ที่สุด
ปิงโหยวจี้โอบกอดหร่านซวี่จือไว้แน่นพลางกัดเข้าที่ไหล่ของหร่านซวี่จือเต็มแรงราวกับโกรธกัน จวบจนได้กลิ่นเืถึงยอมผละออกจากร่างกายนั้น
หร่านซวี่จืออ้าปากหายใจแรง เบื้องหน้าดับมืดไปหมด จนในที่สุดก็หมดสติไป
โชคดีที่ครั้งนี้ไม่ได้เกิดความใคร่เต็มที่ เพราะโดยปกติแล้ว ่กำเนิดความใคร่ของโอเมก้านั้นจะยืดไปถึงประมาณสามวัน หากไม่ตีตราอย่างสมบูรณ์ก็จะไม่อาจหยุดมันได้ และถ้าอัลฟ่าที่เรี่ยวแรงพละกำลังและความทนไม่เพียงพอ อาจจะตายคาอกโอเมก้าเลยก็เป็ได้
ปิงโหยวจี้อุ้มหร่านซวี่จือขึ้นมา และหลังจากที่หาลำธารเจอ จึงจัดการชำระล้างร่างกายของเขาและจัดเสื้อผ้าให้เสร็จสรรพ นิ้วมือััไปที่ต่อมบนหลังคอของหร่านซวี่จือแล้วยื่นปลายจมูกเข้าไปดอมดม
ต่อมของโอเมก้าแผ่กลิ่นดอกกุหลาบที่น่ารัญจวนใจออกมา แล้วยังมีกลิ่นจากร่างกายของตนเองปนอยู่ด้วย ความอยากของอัลฟ่านั้นกำลังทำงานเต็มที่ ปิงโหยวจี้จูบลงบนจอนผมของหร่านซวี่จือ
หลังจากผ่านพ้นครั้งนี้ไป ร่างกายของหร่านซวี่จือก็จะเริ่มเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงจากเบต้าเป็โอเมก้าแล้ว
ปิงโหยวจี้อุ้มหร่านซวี่จือขึ้นมาพลางเปิดตำแหน่งที่ปักหมุด แล้วมุ่งหน้าไปทิศที่ทีมอยู่อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่หร่านซวี่จือตื่นขึ้น เบื้องหน้าก็เป็ดวงตาดำขลับคู่โตของซาจือ เขาถึงกับสะดุ้ง
“พี่ชาย! ” ซาจือกอดเอวของหร่านซวี่จือไว้แน่นแล้วเอ่ยด้วยความดีใจ
พอได้ยินเสียงของซาจือ ไอค์ก็รีบเปิดประตูเข้ามา
“นี่เราอยู่ที่ไหนกัน? ” หร่านซวี่จือนวดขมับที่รู้สึกปวดและบวม จู่ๆ ก็พบว่าเสียงของตนเองนั้นแหบพร่าอย่างร้ายกาจ อีกทั้งร่างกายทั้งเนื้อทั้งตัวนั้นไม่สามารถใช้งานได้ ราวกับเพิ่งถูกช้างโขลงหนึ่งเหยียบ
“พื้นที่ทำการสาขาย่อยเขตซีของรัฐบาลกลาง” ไอค์ตอบ
หร่านซวี่จือมองออกไป ไอค์ยังคงยืนอยู่ตรงริมประตู ตอนที่พูดก็อยู่ห่างมาก ราวกับว่าร่างกายของตนเองมีเชื้อไวรัสยังไงยังงั้น
“นายอยู่ไกลขนาดนั้นทำไม? ” หร่านซวี่จือขมวดคิ้ว เขาสะกดความเจ็บคอแล้วเอ่ย
ไอค์หน้าแดงขึ้นมาทันใดและใช้นิ้ววาดรอบใบหน้าด้วยความเขินอาย: “เอ่อ...”
ไอค์ไม่พูดไม่จา ทันใดนั้นเหมือนมองเห็นอะไรแล้วรีบหลบออก
คนที่เข้ามาคือพยาบาลที่กำลังถืออุปกรณ์ที่ไว้ใช้ทำความสะอาดแผล ใบหน้าสะสวยได้รูป กลิ่นอายที่ได้กลิ่นนั้นหอมสบาย นี่คือ…โอเมก้า?
หร่านซวี่จือใอย่างมาก
พยาบาลเดินตรงมาทางหร่านซวี่จือและวางถาดลงบนโต๊ะข้างๆ จากนั้นก็หยิบเข็มฉีดยาออกมา แล้วฉีดลงไปในน้ำเกลือที่หยอดให้หร่านซวี่จือ จากนั้นเอ่ยถาม “คุณผู้ชายผ่านการเกิดความใคร่ครั้งแรกมานานแค่ไหนแล้วคะ? ”
“???”
หร่านซวี่จือตะลึง ฉับพลันก็หันขวับไปทางไอค์
ไอค์แกล้งทำเป็ไม่รู้ไม่เห็นแล้วมองไปที่อื่น ทว่ามุมปากที่ยกขึ้นของเขาเผยให้เห็นอารมณ์ของเขา ณ ตอนนี้
หร่านซวี่จือเลิกมุมปากขึ้น แทบอยากจะหาไม้มาทุบตัวเองให้สลบ
นี่...เราถูกเปิดเผยแล้วหรือ???