“เสร็จแล้วๆ ! ” เฉิงจวิ้นมือเท้าลนแล้วรีบลุกขึ้นจากเตียง ใบหน้าของเขาแดงจนถึงลำคอที่กำยำนั้น แล้วเขาก็ถือขวดยากับสำลีออกไป
หร่านซวี่จือลูบหลังของตนเองแล้วควานหาเสื้อผ้าของตนเองบนเตียงมาสวม
จากนั้นเป็ต้นมา หร่านซวี่จือก็รู้สึกว่าสายตาของเฉิงจวิ้นนั้นเปลี่ยนเป็แปลกพิกล
บ้านของเฉิงจวิ้นอยู่ข้างบ้านไป๋ สวนก็อยู่ใกล้กัน ตอนที่หร่านซวี่จืออาบน้ำตอนกลางคืน ขณะที่ตักน้ำอยู่ก็ได้ยินเสียงอื่นด้วย
หร่านซวี่จือขมวดคิ้วแล้วเดินตัวเปลือยไปข้างๆ ผ้าม่าน เมื่อยื่นมือไปเปิดออกก็เจอเข้ากับใบหน้าของเฉิงจวิ้น
เฉิงจวิ้นเหมือนสะดุ้งโหยง เขารีบถอยหลังหลายก้าว ใบหน้านั้นมีเหงื่อซึม พลางเอ่ยด้วยความเก้อเขิน “เสี่ยวหลิง อาบน้ำเวลานี้หรือ? ”
หร่านซวี่จือมองเขา สายตามองดู่ล่างของเฉิงจวิ้น ซึ่งตรงบริเวณนั้นมันผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด
แล้วเฉิงจวิ้นเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
หร่านซวี่จือสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย เขาหิ้วถังน้ำออกไปเทตรงูเา ระหว่างทางก็เจอกับเฉิงจวิ้นอีก
นี่ทำให้หร่านซวี่จือเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ ไม่ว่าอย่างไร เฉิงจวิ้นก็นับว่าเป็ว่าที่พี่เขยของเขา การที่เขาติดตามตนเองมากเกินไป มันไม่ค่อยปกติหรือเปล่านะ?
หร่านซวี่จือ: “สองสามสาม เฉิงจวิ้นเป็เกย์หรือเปล่า? ”
ระบบ: “ไม่ใช่ครับ”
หร่านซวี่จือ: “แล้วเขาเป็อะไร? ”
ระบบ: “คงเป็อาการวู่วามของชายหนุ่มที่พบเจอกับสาวงามน่ะครับ แม้จะดูแย่แต่ความตื่นเต้นก็ทำให้หักหลังศีลธรรมได้น่ะครับ”
หร่านซวี่จือ: “…”
ยังมีไป๋หลิงฮัวไม่ใช่หรือไง? ทำไมต้องหาเขา??
ระบบ: “เพราะคุณไม่ได้ระวังตัว ส่วนไป๋หลิงฮัวนั้นมีไหวพริบว่าคุณเยอะเลย”
ระบบ: “แน่นอน คนอื่นอาจจะไม่มีความคิดเช่นนั้น แต่คุณรันนั้นอ่อนไหวเกินไป”
หร่านซวี่จือ: “…อืม”
จำนวนครั้งที่เฉิงจวิ้นมาบ้านไป๋นั้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่หร่านซวี่จือมักจะหาข้ออ้างออกไปข้างนอกเพื่อแอบไปเจอหวังเฉิง แต่มีหนึ่งครั้งที่เฉิงจวิ้นมาตอนที่ทานข้าวกลางวันกันอยู่ และเวลานี้หร่านซวี่จือก็ไม่อาจออกไปได้
ชัดเจนว่าไป๋ซวงนั้นไม่รู้ความคิดของเฉิงจวิ้น ส่วนเฉิงจวิ้นเองก็ไม่ได้ทำอะไรเกินเลย แต่ถ้าจะให้พูด ก็คงจะเกิดเื่ได้ง่ายนัก
หร่านซวี่จือจึงอดทนไว้
“เสี่ยวหลิง ฉันจำได้ว่าแกเคยบอกว่าที่เสียบปลั๊กไฟพังไม่ใช่หรือ? ” ขณะที่ไป๋เหมยตักข้าวให้ไป๋หลิงก็เอ่ย “ให้พี่เฉิงไปช่วยดูสิ เขาเก่งเื่พวกนี้มากเลยนะ”
หร่านซวี่จือปฏิเสธ “ผมให้พี่หวังช่วยผมแล้วครับ เขาบอกว่าเขาจะมาตอนเย็น”
“พี่หวังอีกแล้ว” ไป๋เหมยไม่พอใจ “แกอย่าเอาแต่รบกวนคนอื่นเขาตลอดสิ เฉิงจวิ้นเป็คนกันเอง บ้านพี่หวังยุ่งขนาดนั้น รบกวนบ่อยครั้งเข้า เขาจะรำคาญเอานะ”
หร่านซวี่จือกินข้าวต่อไม่พูดจา
่บ่ายสาม สามสาวพี่น้องต่างก็ออกนอกบ้านไป มีเพียงหร่านซวี่จือที่อยู่บ้านคนเดียว
เฉิงจวิ้นนั้นทำท่าทีใสซื่อ เขาไปค้นหาอุปกรณ์เครื่องมือในโรงเก็บของบ้านไป๋ แล้วยกมาที่ห้องของหร่านซวี่จือ
ปลั๊กที่พังนั้นมันซ่อนอยู่ตรงรอยแยกของเตียง และถัดจากบริเวณนั้นคือหลอดไฟ ไม่รู้ว่าทำไมเวลาเสียบปลั๊กแล้วด้านข้างมักจะหลวม หลอดไฟจึงสว่างบ้างดับบ้างเป็พักๆ
หร่านซวี่จือกวาดเสื้อผ้ากับผ้าห่มกองไปไว้อีกทาง เฉิงจวิ้นถอดรองเท้าแล้วเลิกแขนเสื้อขึ้น เขาโน้มตัวลงมาดูเต้าเสียบตรงรอยแยกของเตียง
หร่านซวี่จือนั่งดูอยู่ข้างๆ มองเห็นเฉิงจวิ้นซ่อมเต้าเสียบอย่างตั้งใจ ร่างกายที่เกร็งอยู่ตลอดเวลาก็เริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย
คงเพราะเขาอ่อนไหวเกินไป
หลายโลกก่อนหน้านี้คนที่ชอบหร่านซวี่จือล้วนเป็ผู้ชาย ทำให้เขารู้สึกสงสัยเป็อย่างยิ่ง เวลามองใครก็เหมือนเกย์หมด บวกกับร่างเดิมของโลกนี้รูปร่างหน้าตาของเขาสวยเกินไป แถมยังมีเื่จ้าวผิงก่อนหน้านี้ เพียงแค่แตะต้องตัวเขาเล็กน้อยเขาก็กังวลว่าอีกฝ่ายจะคิดอะไรไม่ดีหรือเปล่า
เฉิงจวิ้นใช้ไขควงไขด้านในอยู่พักหนึ่ง มีเหงื่อซึมเต็มตัวแล้วลุกขึ้น หร่านซวี่จือยื่นศีรษะชะเง้อมองเล็กน้อย “เสร็จแล้วหรือครับ? ”
เฉิงจวิ้นตอบรับอืมแล้วพลิกตัวคลานมาทางขอบเตียง เหมือนจะลงจากเตียง
หร่านซวี่จือก็คลานลงมาขอบเตียง ในขณะที่มือกำลังแตะขอบเตียงอยู่ ทันใดนั้นด้านหลังก็หนักอึ้ง แรงมหาศาลนั้นทำให้ริมฝีปากของหร่านซวี่จือกระแทกกับตอไม้ที่ตั้งขึ้นมาตรงขอบเตียงและก็มีกลิ่นเืคลุ้งอยู่ในปากทันใด
หร่านซวี่จือะโเด้งลุกขึ้นมาทันทีแล้วใช้สองมือปิดปาก พลางพลิกตัวลงบนเตียง เขาเจ็บจนพูดไม่ได้
เฉิงจวิ้นสะดุ้ง มือเท้าลนลานรีบพยุงเขาขึ้น พลางเอ่ย “ขอโทษด้วย ขอโทษ เมื่อครู่มือเกาะไม่มั่นคง”
“เสี่ยวหลิงนายเอามือออก ให้ฉันช่วยดูหน่อย” เฉิงจวิ้นใช้มือขวาจับข้อมือของหร่านซวี่จือที่กำลังปิดปาก ขณะโน้มน้าวก็ใช้เรี่ยวแรงมหาศาลดึงมือของหร่านซวี่จือออก
ริมฝีปากล่างของหร่านซวี่จือนั้นเป็แผล ริมฝีปากบางนั้นมีเืไหลออกมาด้านนอก ริมฝีปากล่างก็มีเืสีแดงเปื้อนเต็มไปหมด
“ไม่ต้อง” หร่านซวี่จือชักข้อมือกลับมาจากเฉิงจวิ้นแล้วใช้นิ้วมือเช็ดเืสดๆ ตรงริมฝีปาก คิ้วสวยนั้นขมวดแน่น สีหน้าของเขาซีดเผือดแทบจะเป็สีเดียวกันกับสีผนัง
เฉิงจวิ้นคนนี้ซุ่มซ่าม ผ้าปูเตียงไม่ใช้ก้อนน้ำแข็งจะลื่นได้ง่ายดายเพียงนั้นเชียวหรือ พื้นที่กว้างขนาดนั้นแล้วยังล้มมาทางนี้อีก แม้ว่าหร่านซวี่จือจะซื่อแค่ไหนก็คงรู้ว่านี่คือแผนของเฉิงจวิ้น แต่เนื่องจากเขาาุโกว่า หร่านซวี่จือจึงไม่สามารถเคืองโกรธได้
“พี่เฉิง พี่ลงไปก่อน” หร่านซวี่จือน้ำเสียงแข็งขึ้นเล็กน้อย
เฉิงจวิ้นเหมือนไม่ได้ยิน ขณะที่ยิ้มก็ยื่นมือมาเพราะเขาอยากจะเช็ดรอยเืบนหน้าอกของหร่านซวี่จือ
“เสี่ยวหลิง เสื้อผ้านายเปื้อนเืด้วย…”
เรี่ยวแรงของเขาค่อนข้างเยอะ คนที่ทำงานใช้แรงงานในชนบทกับนักศึกษาที่ร่ำเรียนในเมืองนั้นต่างกัน หร่านซวี่จือจึงไม่อาจหลุดพ้นไปได้
ว่ากันด้วยเหตุผล ไม่ว่าหวังเฉิงจะอ่อนแออย่างไร แต่จากที่ดูมวลกล้ามเนื้อแล้ว เรี่ยวแรงก็ไม่ได้น้อยกว่าเฉิงจวิ้นเท่าไหร่ เวลาที่หวังเฉิงกับหร่านซวี่จือทะเลาะกัน หร่านซวี่จือเพียงแค่สะบัดก็หลุดจากมือของหวังเฉิงได้แล้วและยังสามารถไล่ตีได้อีกด้วย
ดูจากเช่นนี้แล้ว ที่แท้หวังเฉิงนั้นก็ยอมเขามาโดยตลอด
เฉิงจวิ้นยื่นมือข้างหนึ่งเข้าไปเช็ดรอยเืตรงคอเสื้อบนหน้าอกของหร่านซวี่จือ ส่วนมืออีกข้างก็คว้าแขนของเขาไว้แน่น
เส้นเืตรงขมับของหร่านซวี่จือเริ่มปูด คงเพราะแรงของเขานั้นไม่สามารถหลุดพ้นได้
“เฉิงจวิ้น! ” หร่านซวี่จือได้แต่เร่งเสียงสูงขึ้นไม่น้อยแล้วดิ้นรนพร้อมกับะโ “นายทำอะไรน่ะ! ”
เฉิงจวิ้นเลิกเสื้อเชิ้ตของหร่านซวี่จือขึ้น เผยให้เห็นผิวพรรณขาวผุดผ่องอยู่ให้เห็น
หน้าผากของเขามีเหงื่อซึมไหลเย็น สมองสับสน เบื้องหน้ามีเพียงเอวบางและผิวพรรณขาวนวลเนียนดูนุ่มนิ่มของเด็กหนุ่ม
วินาทีถัดมา ประตูไม้ห้องนอนก็ดังขึ้น
“เสี่ยวหลิง! พี่หวังให้ฉันมาถามว่ากระเป๋าคราวก่อนอยู่…”
เมื่อสิ้นเสียง ไป๋ซวงกับไป๋หลิงฮัวก็เปิดประตูเข้ามา ในขณะเดียวกันนั้นก็เห็นหวังเฉิงที่หน้าไร้ความรู้สึกอยู่ด้านหลัง
มือของเฉิงจวิ้นล้วงอยู่ในเสื้อของหร่านซวี่จือและมองมาทางประตูด้วยท่าทีตื่นใ
ผมของหร่านซวี่จือนั้นยุ่งเหยิงแถมขอบตาก็แดงก่ำ
ขณะที่ไป๋ซวงยืนตะลึงอยู่นั้น หวังเฉิงก็พุ่งตัวเข้ามาแล้วหิ้วคอเสื้อของเฉิงจวิ้นกระแทกเขาลงไปกับพื้น แต่คงกระแทกเข้ากับขวดแก้วจึงเกิดเสียงดัง ‘เพล้ง’
ไป๋ซวงส่งเสียงกรีดร้องราวกับปอดและหัวใจจะฉีก เธอพุ่งตัวเข้าไปหาเฉิงจวิ้นราวกับบ้าคลั่งไปแล้ว
หวังเฉิงเลิกเสื้อของหร่านซวี่จือขึ้น เห็นรอยนิ้วมือบนเอวเ่าั้ทำให้เขาถึงกับโมโหจนตัวสั่น