สือเจียงหย่วนสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นปกปิดผ้าพันแผลที่ไหล่ พลางกำชับคังอิงให้อยู่รอที่นี่ เขาจะไปเอากุญแจแล้วพาเธอไปที่บ้านของน้าคนรอง
หลังจากสือเจียงหย่วนออกไปแล้ว คังอิงมองห้องที่ว่างเปล่า จู่ๆ ก็รู้สึกเหงาขึ้นมา แต่จะว่าไปสือเจียงหย่วนก็ไม่ได้สนิทสนมกับเธอนักหรอกกระมัง?
ความรู้สึกนี้ช่างคลุมเครือและรุ่มร้อน คังอิงคิดถึงสถานภาพหญิงสาวที่หย่าร้างของตัวเอง แล้วเก็บความรู้สึกวาบหวามนี้ไว้ในใจ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอตอนนี้คือการเอาตัวรอดอยู่ที่นี่ คิดหาวิธีหาเงินและใช้ชีวิตอย่างอิสระ
มนุษย์เป็สัตว์สังคม แม้ว่า่สองสามวันที่ผ่านมาเธอจะตัดสินใจหย่าร้างเื่ใหญ่เช่นนี้ด้วยตัวเอง แต่แท้จริงแล้วเื่วุ่นวายที่บ้านเกิดของเธอนั้นมีอยู่มากมาย เพียงแต่ตอนนี้พวกเขาน่าจะยังไม่รู้ว่าคังอิงหย่าแล้ว ทุกอย่างจึงยังดูสงบสุข
หากคนในครอบครัวรู้ว่าเธอหย่ากับฟู่ซินหลางแล้ว ไม่รู้ว่าจะโวยวายกันขนาดไหน เพราะว่าเธอมีพ่อแม่แสนเข้มงวดอยู่ที่บ้าน จึงบ่มเพาะให้คังอิงมีนิสัยขี้ขลาด
ตอนนั้นเธอแต่งงานกับฟู่ซินหลางอย่างเร่งรีบ เป็เพราะ้าให้คังจวิ้นน้องชายของเธอแต่งภรรยา แต่เงินค่าสินสอดไม่พอ เธอจึงรีบรับค่าสินสอดจากบ้านของฟู่ซินหลางโดยไม่ถามถึงภูมิหลังครอบครัวและนิสัยใจคอของฝ่ายชาย คังอิงแต่งออกไปอย่างเรียบง่ายในทันที
หลังจากเธอแต่งงานได้ไม่ถึงสามวัน คังจวิ้นน้องชายของเธอก็ตกลงเื่การหมั้นหมายสำเร็จ เพราะได้เงินค่าสินสอดของเธอมาช่วย
ถ้าพูดให้ละเอียด คังอิงเป็ผู้หญิงที่ยอมทุ่มเททุกอย่างเพื่อน้องชายอย่างไม่คิด เธอเป็คนที่อุทิศตนให้กับคนอื่นโดยไม่สนใจตัวเองเลย
หลังจากสือเจียงหย่วนจากไป คังอิงก็นอนลงบนเตียง เตรียมตัวจะนอนหลับพักผ่อน เมื่อคืนเธอนอนบนโซฟาไม้ไม่ค่อยหลับ
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เธอนอนลงบนเตียง ก็ได้กลิ่นแปลกๆ ซึ่งเป็ของผู้ชาย มันต่างจากกลิ่นของเธอโดยสิ้นเชิง
คังอิงรู้ว่า นี่คงเป็กลิ่นของสือเจียงหย่วน ในฐานะนักธุรกิจหญิง คังอิงเคยชินกับการเป็คนเข้มแข็งมาตลอด ดังนั้นที่บริษัทไม่มีผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เธอได้ในระยะเอื้อมถึง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการทิ้งกลิ่นของตัวเองไว้บนเตียงเธอ คังอิงเป็ผู้หญิงที่อุทิศชีวิตให้แต่กับงานของตัวเอง
แต่เพราะความง่วง บวกกับกลิ่นนี้ไม่ได้เหม็น คังอิงจึงนอนต่อไป ทันทีที่ศีรษะของเธอัักับหมอน เธอก็หลับไปอย่างรวดเร็วภายใต้กลิ่นอายของผู้ชายคนนี้
คังอิงสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเคาะประตู แน่นอนว่าคนที่เคาะประตูก็คือสือเจียงหย่วน พอเห็นคังอิงที่กำลังขยี้ตาด้วยความง่วงงุนเดินมาเปิดประตู สือเจียงหย่วนก็รู้สึกเสียใจ เขาลืมไปว่าเมื่อคืนนี้คังอิงไม่ได้นอนหลับพักผ่อนเพื่อดูแลเขา
โซฟาไม้ที่ทั้งเล็กทั้งแข็งนั่นจะนอนสบายได้ยังไง? เมื่อครู่เธอคงกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ ไม่น่าเลย รู้แบบนี้เขาน่าจะมาเคาะประตูช้ากว่านี้อีกหน่อย เพื่อให้คังอิงได้นอนพักอีกสักครู่
ในใจเขาคิดเช่นนั้น แต่สือเจียงหย่วนกลับไม่ได้พูดออกมา เขาทำได้เพียงขอโทษ “ขอโทษนะ ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังนอนหลับอยู่”
“ไม่เป็ไรค่ะ ฉันนอนพอแล้ว คนหนุ่มสาวนี่ดีจริงๆ แค่นอนพักแป๊บเดียว ก็รู้สึกว่าร่างกายมีพลังเต็มเปี่ยม”
คังอิงอดไม่ได้ที่จะโพล่งออกมา นี่เป็การชื่นชมร่างกายที่ยังอ่อนเยาว์ของเธอ
หลังจากฟังคำพูดนั้นแล้ว สือเจียงหย่วนก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เหมือนคำพูดของคังอิงจะมีบางอย่างผิดปกติ
สือเจียงหย่วนบอกคังอิงว่า “ผมเอากุญแจบ้านน้ารองมาแล้ว คุณคืนห้องนี้ แล้วไปบ้านน้ารองของผมเถอะ”
คังอิงไม่มีสัมภาระอะไรมากนัก นอกจากเสื้อผ้าที่เพิ่งซื้อมาใหม่ไม่กี่ตัวและเครื่องใช้ในห้องน้ำ บรรจุของพวกนั้นในกระเป๋าเดินทางใบนั้นก็เพียงพอแล้ว
คังอิงไม่สามารถหากระเป๋าเดินทางแบบมีล้อได้ที่ร้านค้ามิตรภาพ ในยุคนี้กระเป๋าเดินทางส่วนใหญ่ไม่มีล้อ ทำได้แค่หิ้วไปเท่านั้น จึงค่อนข้างลำบากอยู่บ้าง
เห็นแบบนั้นสือเจียงหย่วนก็ยื่นมือออกไปเพื่อช่วยเธอถือ แต่คังอิงปฏิเสธแล้วบอกว่า “แผลของคุณเพิ่งจะเย็บ ไม่ควรออกแรงมากเกินไป ไม่งั้นแผลจะปริได้ หมอที่รักษาคุณเมื่อวานถึงจะเป็หมอจากคลินิกเล็กๆ แต่ฝีมือทางการแพทย์เขาดี เขาบอกว่าพรุ่งนี้ให้ไปเปลี่ยนยาที่คลินิกของเขา อ้อ จริงสิ คลินิกของเขาอยู่ที่ถนนเหรินหมินหมายเลข 25 อีกห้าวันก็ตัดไหมได้ พอตัดไหมเสร็จก็คงไม่มีปัญหาอะไรแล้ว”
สือเจียงหย่วนเห็นคังอิงพึ่งพาตัวเองได้แบบนี้ก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อย เหล่าคุณหนูในเมืองหลวงมักจะรอให้พวกเขามีน้ำใจแบบสุภาพบุรุษ แต่คังอิงดูเหมือนจะไม่้าให้เขาช่วย
ก่อนหน้านี้สือเจียงหย่วนไม่ชอบพวกผู้หญิงเสแสร้งพวกนั้น แต่ตอนนี้พอเห็นคังอิงไม่้าความช่วยเหลือจากเขา ผู้หญิงที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวแบบนี้ ทำให้เขารู้สึกแปลกใหม่มาก
พอลงมาถึงชั้นล่าง คังอิงก็เห็นรถจี๊ปคันหนึ่งจอดอยู่หน้าโรงแรม พอเห็นสือเจียงหย่วนเดินตรงไปที่รถจี๊ป คังอิงก็รู้ทันทีว่ารถคันนี้เป็ของเขา เธอไม่คิดเลยว่าพอสือเจียงหย่วนกลับไปแล้ว จะขับรถจี๊ปออกมา
ในยุคนี้คนที่ขับรถได้ต่างก็เป็ชนชั้นสูงที่มีทั้งเงินและอำนาจ สถานภาพของสือเจียงหย่วนคงไม่ธรรมดาจริงๆ แต่คังอิงไม่ได้คิดที่จะเกาะสือเจียงหย่วน เธอเป็ผู้หญิงที่เป็ตัวของตัวเองมาั้แ่ชาติที่แล้ว จึงเห็นเื่ราวของผู้หญิงที่ยึดติดกับผู้ชายจนสูญเสียความเป็ตัวของตัวเองมามาก
เธอรู้สึกว่ามีเพียงอาชีพการงานของตนเองเท่านั้นที่เชื่อมั่นได้มากที่สุด ดังนั้นเธอจึงไม่มีความคิดจะพึ่งพาสือเจียงหย่วน
แต่ว่ามีรถก็สะดวกจริงๆ คังอิงยกกระเป๋าเดินทางไปวางไว้ท้ายรถจี๊ป พอขึ้นนั่งที่เบาะข้างคนขับแล้วเธอก็นึกขึ้นมาได้ทันทีว่า สือเจียงหย่วนมีแผลอยู่ที่แขนข้างหนึ่ง เขาขับรถมาที่นี่ได้อย่างไรกัน เธอจึงบอกเขา
“หรือให้ฉันขับรถให้คุณดีกว่า? แขนของคุณาเ็อยู่แบบนี้คงไม่สะดวกนัก การขับรถมือเดียวไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่”
สือเจียงหย่วนไม่คิดมาก่อนว่าคังอิงจะขับรถเป็ ในยุคนี้คนที่มีรถยนต์มีน้อยมาก ส่วนคนที่มีใบขับขี่นั้นยิ่งน้อยกว่า ยิ่งเป็ผู้หญิงที่ทั้งมีใบขับขี่ และยังขับรถเป็ ยิ่งนับว่าเป็เื่ที่พบเห็นได้ยากที่สุด
จริงๆ แล้ว ถึงสือเจียงหย่วนจะขับรถมือเดียว เขาก็สามารถขับรถได้เร็วราวกับรถแข่ง แต่คังอิงกลับบอกว่าเธอขับรถเป็ มันไปกระตุ้นต่อมความสนใจของเขาให้ตอบว่า
“เอาสิ คุณขับเลย”
สือเจียงหย่วนไว้ใจคังอิงอย่างไม่มีเหตุผล เขาไม่ได้ตรวจสอบเลยว่าอีกฝ่ายขับรถเป็จริงๆ หรือเปล่า เพียงแค่โยนกุญแจรถให้เธอ
รถจี๊ปคันนี้เป็รถเกียร์ธรรมดา ชาติก่อนตอนที่คังอิงไปสอบใบขับขี่ เธอก็สอบใบขับขี่แบบเกียร์ธรรมดา แต่ต่อมาเธอก็ขับรถเกียร์ออโต้มาตลอด ดังนั้นจึงทำให้การขับรถเกียร์ธรรมดาของเธอค่อนข้างติดขัด ตอนสตาร์ตเครื่อง แล้วเปลี่ยนเกียร์ครั้งแรก เครื่องยนต์ก็ดับไป
สือเจียงหย่วนหัวเราะ
คังอิงเห็นเขาหัวเราะ เธอก็อายจนพาลโกรธ “คุณคิดว่าฉันขับรถไม่เป็งั้นสิ?”
พอสตาร์ตเครื่องยนต์ครั้งที่สอง เธอก็สามารถควบคุมคลัตช์ คันเร่ง และเข้าเกียร์ได้อย่างคล่องแคล่ว เธอเหยียบคลัตช์และเปลี่ยนเกียร์ รถจึงค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไป
สือเจียงหย่วนดวงตาเป็ประกายขึ้น เขายิ้มแล้วกล่าวว่า “ไม่นึกว่าคุณจะขับรถเป็จริงๆ”
ในชาติก่อน ผู้หญิงที่ขับรถได้มีอยู่ทั่วไป แถมยังมีเื่ขำขันเกี่ยวกับผู้หญิงขับรถอยู่มากมาย คิดไม่ถึงว่าสือเจียงหย่วนจะมองเธอด้วยสายตาเหมือนเป็แฟนคลับตัวน้อยแบบนี้ ทำเอาคังอิงรู้สึกภูมิใจอยู่ในใจ
พอคังอิงเริ่มคุ้นเคยกับการขับรถแล้ว เธอก็พบว่ารถจี๊ปรุ่นเก่านี้ขับไม่ง่ายเลย อย่างแรกก็คือไม่มีระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ ทำให้พวงมาลัยแข็งมาก การขับรถเหมือนกับกำลังต่อสู้กับอะไรสักอย่าง เธอจึงต้องออกแรงแขนเต็มที่
นอกจากนี้เธอยังไม่คุ้นเคยกับถนนที่นี่อีกด้วย ต้องคอยให้สือเจียงหย่วนชี้แนะเส้นทาง ขับไปเบรกไปอย่างยากลำบาก กว่าจะมาถึงบ้านของน้ารองที่อยู่ห่างออกไปสามกิโลเมตร
ใจกลางอำเภอหลี่ว์มีพื้นที่เพียงสี่ตารางกิโลเมตร บ้านน้ารองของสือเจียงหย่วนตั้งอยู่บริเวณแนวเขตของพื้นที่สี่ตารางกิโลเมตรนั้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้