เสี่ยวอีทำเฉยไม่ตอบ ถังชิงหรูเข้าใจนิสัยของมันดี แม้ว่าเสี่ยวอีจะเป็แค่ระบบ แต่ก็เป็ระบบที่เฉลียวฉลาดมาก ไม่แน่ว่าตอนนี้มันอาจจะกำลังตัดพ้อต่อว่านางอยู่ในใจก็เป็ได้
ว่าแต่ ระบบมีหัวใจด้วยหรือ?
พอได้รับคำเตือนจากเสี่ยวอี ถังชิงหรูก็ตัดสินใจว่าต่อไปจะพยายามใช้การแพทย์แผนโบราณในการรักษาคนไข้ให้มากที่สุด
ถังชิงหรูออกไปจากกระท่อมทรุดโทรมของเฉินิ ในหมู่บ้านไม่ว่ามองไปทางไหนก็เห็นแต่ความเสื่อมโทรม แห้งแล้งจนแม้แต่วัชพืชก็ยังอยู่ไม่รอด ผู้คนที่นี่ใช้ชีวิตอยู่กันได้อย่างไร สัตว์เลี้ยงอันใดก็ไม่มีสักตัว
แต่เบื้องหน้ามีลำธารเล็กสายหนึ่ง ลำธารสายนี้เชื่อมต่อไปถึงคูเมือง ดังนั้นจะต้องมีปลาอย่างแน่นอน
มีเด็กๆ กำลังจับปลาอยู่ที่นั่น ท่าทางของพวกเขาดูคล่องแคล่วเป็อย่างยิ่ง แค่เห็นก็รู้แล้วว่าคงทำเป็ประจำ ดูท่าปลาในลำธารแห่งนี้จะเป็อาหารหลักที่ช่วยต่อชีวิตให้กับพวกเขา
เด็กๆ เ่าั้แลดูสุขภาพแข็งแรงดี ไม่น่าจะใช่คนป่วย ก็แสดงว่ามิใช่ทุกคนในหมู่บ้านที่ติดโรค
"พวกเ้าจับปลากันได้หรือไม่" ถังชิงหรูยืนอยู่ริมลำธารมองเด็กเ่าั้ด้วยรอยยิ้ม
เด็กๆ เห็นคนแปลกหน้า สายตามีความหวาดระแวง แต่อย่างไรเสียพวกเขาก็ยังเด็ก ไม่คิดมากเหมือนผู้ใหญ่ ถังชิงหรูหน้าตาท่าทางใจดี พวกเขาเห็นว่านางดูไม่เหมือนคนชั่ว จึงลดความระแวดระวังลง เด็กอายุแปดเก้าขวบหนึ่งในนั้นกล่าวว่า "พวกเรามาจับปลาที่นี่ทุกวัน แต่ปลาเหล่านี้ฉลาดขึ้น จับไม่ได้ง่ายๆ พี่สาวเพิ่งมาใหม่หรือ ท่านเองก็ป่วยใช่หรือไม่"
ถังชิงหรูยิ้มน้อยๆ มองเด็กเ่าั้ พลางส่ายหน้าไปมา "ข้าไม่ได้ป่วย แต่เป็สหายของข้า ข้ารั้งอยู่เพื่อดูแลเขา"
เด็กๆ ได้ยินถังชิงหรูกล่าวเช่นนี้ สีหน้าของแต่ละคนต่างเผยความซาบซึ้งใจออกมา เด็กอีกคนเอ่ยว่า "พี่สาวช่างประเสริฐนัก แทบไม่มีผู้ใหญ่ร่างกายแข็งแรงคนไหนยอมอยู่ที่นี่เลย ทุกคนล้วนกลัวจะติดโรค พวกชาวบ้านที่มีสุขภาพแข็งแรงล้วนจากไปกันหมดแล้ว เหลือแต่คนป่วยกับเด็กอย่างพวกเรา"
"พวกเ้ากล้าหาญมาก ไม่หวาดกลัวโรคร้าย พี่สาวมีอะไรจะบอก ที่จริงข้าเป็หมอ เพิ่งเข้ามาอยู่ ยังไม่คุ้นเคยกับที่นี่ หากพวกเ้ายินดีล่ะก็ อีกสองวันข้าจะไปดูอาการป่วยให้คนในบ้านของพวกเ้า พี่สาวเป็หมอเทวดา ถึงตอนนี้ยังไม่มีโรคไหนที่รักษาไม่หาย" ถังชิงหรูทำตาปริบๆ กล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
เด็กทุกคนต่างมองถังชิงหรูด้วยสีหน้าประหลาดใจ ดวงตาไร้เดียงสาแต่ละคู่ล้วนตื่นเต้นยินดีและเปี่ยมไปด้วยความหวัง ทว่าความรู้สึกแบบนั้นกลับอยู่ได้เพียงประเดี๋ยวประด๋าวก่อนหายไปในไม่ช้า เดิมทีเคยมีหมอมาตรวจรักษาแล้ว แต่ไม่มีหมอคนไหนสามารถรักษาโรคของพวกเขาได้ ถังชิงหรูอายุน้อยขนาดนี้ ทั้งยังเป็สตรี แม้แต่เด็กๆ ก็ยังไม่เชื่อถือนาง
ถังชิงหรูไม่พูดมาก คนยุคสมัยนี้ก็เป็เช่นนี้เอง ถ้าตอนเริ่มต้นนางมาเปิดแผงลอยโดยใช้สถานะสตรีก็คงไม่มีใครมาหานาง ตอนนี้คนเ่าั้ยังนึกว่านางเป็บุรุษ สมมุติว่านางกลับคืนมาใช้สถานะสตรี คนป่วยเ่าั้จะยังมาหานางอยู่หรือไม่?
"ท่าทางพวกเ้าคงยังจับปลากันไม่ได้สินะ พี่สาวเป็นักจับปลามือฉมัง พวกเ้าอยากชมการแสดงหรือไม่" ถังชิงหรูม้วนแขนเสื้อและถกชายกระโปรงขึ้นแล้วเดินลงมาในน้ำ
ทุกคนมองการเคลื่อนไหวของนางด้วยความตื่นตาตื่นใจ ถังชิงหรูจับปลาเ่าั้อย่างคล่องแคล่วและแม่นยำ ไม่ช้าก็ได้ปลามาได้ตัวหนึ่ง
วันนี้นางใช้ฝีมือของตนเองล้วนๆ ต่อไปต้องใช้แต้มจิตพิสัยจรรยาแพทย์อย่างประหยัด บางอย่างที่สามารถทำเองได้ก็จะไม่ใช้ระบบส่งเดช
"พี่สาวเก่งมากเลย" เด็กๆ ร้องด้วยความตื่นเต้น
เด็กห้าคน มีสามคนที่โตหน่อยอายุราวแปดเก้าขวบ ส่วนอีกสองคนอายุเพียงสี่ห้าขวบเท่านั้น ทั้งห้าล้วนเป็เด็กผู้ชาย
"ปลาตัวนี้ขอมอบให้เ้า" ถังชิงหรูพูดกับเด็กชายที่อายุน้อยสุด "เ้ามีนามว่าอันใด"
เด็กเ่าั้หน้าตาซูบผอมและซีดเซียว ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ใบหน้าแทบไม่มีเนื้อสักชั่ง
เขาได้ยินถังชิงหรูกล่าวเช่นนั้น ดวงตาก็ลุกวาวด้วยความดีใจ ตอบด้วยน้ำเสียงแ่เบา "ข้าชื่อ... เสี่ยวซี"
"เสี่ยวซี ปลาตัวนี้ขอมอบให้เ้า เ้าขึ้นไปบนฝั่งรอพวกเราก่อน" ถังชิงหรูบอกกับเสี่ยวซี
เด็กน้อยรีบวิ่งขึ้นไปบนฝั่ง ถังชิงหรูโยนปลาขึ้นไป เสี่ยวซีจับปลาตัวนั้นไว้แน่นไม่ปล่อย ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความอิ่มเอมใจ
เด็กคนอื่นๆ ต่างมองถังชิงหรูอย่างมีความหวัง เด็กที่อายุมากสุดกล่าวว่า "พี่สาว ข้าชื่อเฉิงจื่อ นี่คือหู่เอ๋อร์ เสี่ยวเยว่ แล้วก็เสี่ยวโก๋วจื่อ"
ถังชิงหรูลูบศีรษะของเฉิงจื่อเบาๆ เด็กคนนี้ท่าทางมีไหวพริบ ดวงตาของเขาสดใสมีชีวิตชีวา แค่ดูก็รู้แล้วว่าเป็เด็กที่มีความคิดอ่าน
"เฉิงจื่อ เ้าพาน้องๆ ขึ้นไปรอข้าก่อนเถิด" ถังชิงหรูกล่าวกับพวกเขา "ข้ารับรองว่าทุกคนจะได้ปลากลับไปคนละตัว"
พวกเด็กๆ ต่างโห่ร้องด้วยความดีใจ
ถังชิงหรูเห็นพวกเขามีความสุข ใบหน้าก็อาบย้อมไปด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน แสงสายัณห์กำลังจะลับขอบฟ้า ในหมู่บ้านเงียบสงัด ชวนให้ผู้คนรู้สึกวังเวง
ผ่านไปครู่หนึ่ง ถังชิงหรูก็จับปลามาได้อีกหลายตัว เด็กแต่ละคนต่างได้กลับบ้านไปคนละสองตัว พวกเขาจับปลามัดไว้แล้วหันมาอำลานาง ก่อนอุ้มปลากลับบ้าน
ถังชิงหรูนึกขึ้นได้ว่าเฉินิคงหิวแย่แล้ว ไม่กล้าอยู่ที่นั่นนานเกินไป ยามกลับไปถึงกระท่อมไม้ เห็นเฉินินั่งอยู่บนเตียง สายตาเต็มไปด้วยการตัดพ้อ
นางเห็นเขาทำสีหน้าเช่นนั้นก็หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก ยามนี้เขาช่างดูเหมือนสตรีที่ถูกทอดทิ้งไม่มีผิด
"ข้าจะไปทำให้เสร็จเดี๋ยวนี้ ท่านรออีกสักครู่" ถังชิงหรูเอาปลาเข้าไปในครัว แต่พอไปถึงที่นั่นก็เห็นแต่ความว่างเปล่า ความรู้สึกท้อแท้ผุดขึ้นมาในใจ
นางลืมดูสถานการณ์ของที่นี่ก่อนได้อย่างไร คนเ่าั้้าให้เฉินิฆ่าตัวตาย ไหนเลยจะเตรียมเครื่องครัวไว้ให้ อีกอย่างต่อให้มีเตรียมไว้ คุณชายสูงศักดิ์อย่างเขาจะใช้เป็หรือเปล่าก็ไม่รู้ ดังนั้นถึงจะมีครัวก็ไร้ประโยชน์ เดิมทีคิดไว้ว่าจะต้มน้ำแกงให้เขา ตอนนี้เห็นทีจะไม่ได้ทำแล้ว
"พี่สาว..." เสียงของเฉิงจื่อดังมาจากด้านนอก
ถังชิงหรูจำเด็กคนนั้นได้แม่น แค่ได้ยินเสียงก็รู้ว่าเป็เขา จึงรีบเดินออกไป
เฉินจื่อหิ้วหม้อมาด้วยใบหนึ่ง ด้านหลังของเขามีเด็กตามมาด้วยอีกสามสี่คน แต่ละคนล้วนหยิบของมาคนละชิ้น
"พี่สาว พวกเราเดาว่าท่านเพิ่งมา คงไม่มีเครื่องครัวแน่ๆ ของเหล่านี้เอามาจากบ้านที่ไม่มีคนอยู่ พี่สาวเอาไปใช้ก่อนเถิด" เฉิงจื่อเอ่ยวาจาอย่างเขินอาย
"ถังชิงหรูมองพวกเขาด้วยสีหน้าตกตะลึง พลางเอ่ยด้วยความดีใจ "ขอบใจพวกเ้ามาก ข้ากำลังกลุ้มอยู่พอดี ไม่นึกว่าพวกเ้าจะส่งของมาให้ ไยพวกเ้าถึงเฉลียวฉลาดกันขนาดนี้"
"พวกเราไม่ได้ทำอันใดเลย พี่สาวยังอุตส่าห์แบ่งปลาที่ท่านจับด้วยความยากลำบากมาให้ นี่คือสิ่งที่พวกเราสมควรทำอยู่แล้ว" เสี่ยวเยว่เด็กชายขี้อายตัวน้อยเอ่ยกับถังชิงหรู ยังกล่าวไม่ทันจบพวงแก้มก็แดงซ่านประหนึ่งผลตำลึงสุก
"ไหนๆ ก็มากันแล้ว อยู่กินข้าวด้วยกันเสียเลยสิ" ถังชิงหรูเชื้อเชิญพวกเขาอย่างอบอุ่น
เด็กๆ ต่างโบกไม้โบกมือ วางของกองไว้ที่พื้น หลังจากนั้นก็หันมากล่าวอำลา "พวกเราต้องกลับบ้านก่อน พี่สาวรีบไปทำธุระเถิดขอรับ"
ถังชิงหรูมองเด็กเ่าั้เดินไกลออกไป แววตาอาบย้อมไปด้วยความพึงพอใจ พวกเขา... ช่างน่าเอ็นดูยิ่งนัก
เมื่อครั้งที่นางเพิ่งมาถึงใหม่ๆ ได้อยู่อาศัยในหมู่บ้านสกุลฉิน และได้พบฉินเหยาบุตรสาวคนดีประจำตระกูลนั้น ก็ถูกพวกเขายั่วโทสะจนต้องออกมาจากหมู่บ้าน แท้จริงแล้วกับคนในหมู่บ้านนี้ นางหาได้้าประกาศว่าตนเองมีความสามารถเพื่อให้เป็ที่ยอมรับ แต่เด็กๆ เ่าั้ทำให้นางรู้ว่าคนดียังมีอยู่ทุกหนแห่ง
นางเก็บเครื่องครัวเ่าั้เข้าไปในห้องครัว
แม้ว่าจะมีเครื่องครัวแล้ว แต่ก็ยังต้องล้างทำความสะอาดอยู่เป็เวลานาน สาละวนอยู่จนมืดค่ำถึงมีของกิน
เด็กเ่าั้เปี่ยมไปด้วยน้ำใจไมตรี แม้แต่ถ้วยชามและตะเกียบล้วนเตรียมให้พร้อมสรรพ โบราณว่าไว้ เด็กที่เกิดในครอบครัวยากจนมักรู้ความเร็ว พวกเขาถึงได้มีความคิดรอบคอบเหมือนผู้ใหญ่
เฉินิหิวจนเกือบเป็ลมแล้ว แต่ได้ยินเสียงมาจากห้องด้านข้าง และเห็นเงาร่างที่กำลังทำงานตัวเป็เกลียว เขาจึงพยายามอดทนไว้ จนกระทั่งได้กลิ่นหอมของน้ำแกงปลาโชยมา เขาถึงรู้สึกกระชุ่มกระชวยอีกครั้ง เพียงแต่ร่างกายยังอ่อนแอมาก สีหน้าจึงง่วงงุนเหมือนอยากจะนอนหลับ
ถังชิงหรูใช้เข็มทองเจาะเืให้เขา ที่เขามีอาการเช่นนี้ เพราะติดโรคมาก็เป็สาเหตุหนึ่ง ทว่าสาเหตุหลักกลับมาจากความกลัดกลุ้มและโทสะที่รุมเร้าอยู่ในหัวใจ
"ข้าใกล้ตายแล้วใช่หรือไม่" เฉินิรู้สึกย่ำแย่อย่างมาก
"ท่านไม่ได้ใกล้ตายหรอก แต่เหนื่อยล้ามาก ้าพักผ่อน ท่านนอนหลับให้สบายสักงีบเถิด" ถังชิงหรูช่วยฝังเข็มให้ เพื่อให้เขาหลับสบายขึ้น
ด้วยสภาพร่างกายของเขายามนี้ ควรพักผ่อนให้มากเป็ดีที่สุด ประกอบกับ่นี้จิตใจมีแต่ความวิตกกังวล ร่างกายจึงรับไม่ไหว
หลังจากเฉินิหลับแล้ว ถังชิงหรูก็เริ่มตรวจชีพจรให้เขา ไวรัสชนิดนี้ร้ายกาจนัก ทำให้ผู้ชายแข็งแรงคนหนึ่งกลายเป็แบบนี้ไปได้ โรคติดต่อแบบนี้ในสมัยโบราณคงจะเรียกได้ว่าเป็โรคระบาดกระมัง ดังนั้นหมู่บ้านนี้ถึงมีแต่เข้าได้ออกไม่ได้ หากโรคระบาดแพร่กระจายไปเป็วงกว้าง แว่นแคว้นคงถึงกาลวิบัติ พวกเขาไม่กล้าเอาชีวิตของตนเองมาเสี่ยง
พรุ่งนี้ต้องคิดหาวิธีค้นหาต้นตอของโรคระบาด หากไร้ที่มา โรคร้ายก็คงไม่แพร่กระจายรวดเร็วขนาดนี้ อะไรคือสาเหตุแท้จริงที่ทำให้พวกเขาติดโรค
ถังชิงหรูอ่อนล้ามาก นางหลับอยู่ข้างกายเฉินิ เพื่อรักษาสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง นางกินยาต้านไวรัสเอาไว้ก่อน ป้องกันไม่ให้ตนเองติดเชื้อไปด้วย
ยามดึกสงัด เฉินิซึ่งนอนอยู่บนเตียงลืมตาขึ้น เห็นหญิงสาวนอนฟุบอยู่ข้างกาย ดวงหน้าจิ้มลิ้มอยู่ห่างจากเขาเพียงหนึ่งฝ่ามือ เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกนิด เพื่อให้ได้แนบชิดสนิทนาง ลมหายใจของถังชิงหรูกระชั้นถี่ หัวคิ้วขมวดเป็เกลียว คล้ายมีบางอย่างทำให้หนักใจ ชั่วขณะนั้นหัวใจของเขาพลันจมดิ่ง
แสงจันทร์สาดส่องผ่านกรอบหน้าต่าง ดวงหน้าน้อยงามพิลาสเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้ม หรือว่าแม้แต่ในความฝันนางก็ยังเป็ห่วงเขาอยู่ ยายเด็กโง่เอ๊ย เ้าช่างแสนดียิ่งนัก พระเชษฐาตรัสไว้ถูกต้อง นางเป็สตรีที่ดีงาม ชาวประชา้าหมอที่เปี่ยมไปด้วยคุณธรรมและมีจิตเมตตาเช่นนี้
"ข้าไม่อยากให้เ้าต้องเข้ามาพัวพันด้วยจริงๆ" เฉินิลูบดวงหน้าน้อยอย่างทะนุถนอม "ข้าจะตายไม่ได้ หากข้าตาย พระเชษฐาก็จะเหลือตัวคนเดียวไร้คนช่วยเหลือ จะต้องโดดเดี่ยวมากเป็แน่"
เฉินิซึ่งจมอยู่กับความหดหู่มาหลายวันแววตามั่นคงเด็ดเดี่ยวขึ้น พลังอันแข็งแกร่งหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายที่อ่อนล้า จากเดิมทีที่รู้สึกไม่เห็นอนาคตข้างหน้า ไม่มีหนทางจะก้าวเดินต่อไป แต่ยามนี้เขาคิดได้แล้ว เพื่อพระเชษฐากับสตรีเบาปัญญาผู้นี้ เขาจะไม่ยอมแพ้เป็อันขาด
เมิ่งหลิง... เ้านึกว่าทำแบบนี้จะสามารถเอาชนะข้าได้งั้นหรือ
หึ ไม่ง่ายขนาดนั้น!