ซ่งผิงใ เมื่อได้ยินที่จื่อเฉินพูด “เฉินเอ๋อร์ ที่เ้าอยากถอนหมั้นคงมิใช่เพราะโจวซู่ซินหรอกนะ!” โจวซู่ซินเป็สตรีที่งดงามที่สุดในหมู่บ้านโจว นางงามอย่างหาตัวจับยากเสียด้วย
“เฉินเอ๋อร์ ข้ารู้ว่าเ้ามีใจให้โจวซู่ซิน แต่สถานการณ์พวกเราตอนนี้ไม่เหมือนก่อนแล้ว ตระกูลโจวไม่มีทางให้ซู่ซินแต่งงานกับเ้า พ่อเองก็จนปัญญา!”
“ท่านพ่อ ข้าอยากถอนหมั้นมิใช่เพราะซู่ซิน” ซ่งจื่อเฉินมีนิสัยเคร่งขรึมั้แ่เด็ก เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างหดหู่ เหตุใดทุกคนถึงคิดว่าเขาชื่นชอบโจวซู่ซิน เขายอมรับว่านางงดงามยิ่งนัก แต่เกี่ยวอะไรกับเขาเล่า?พวกเราเป็เพียงสหายกันเท่านั้น
สำหรับสหายเห็นแก่ผลประโยชน์จนลืมคุณธรรมแบบนั้น เขาชอบไม่ลงหรอก ได้เห็นใบหน้าแท้จริงของคนเ่าั้ผ่านสภาพของเขาตอนนี้ถือว่าคุ้มค่าแล้ว ก่อนหน้านี้เคยคิดว่าโจวซู่ซินเป็แม่นางที่ดีควรค่าแก่การคบเป็สหาย แต่ภายหลังที่เขาล้มขาเจ็บ โจวซู่ซินก็ไปมาหาสู่เขาน้อยลงเหมือนกลัวว่าเขาจะทำให้นางลำบาก
“ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ไม่ยอมให้เ้าถอนหมั้น แม่นางซย่าไม่ด้อยไปกว่าโจวซู่ซิน งดงามกว่าเสียด้วยซ้ำ หากเ้าได้พบต้องชอบนางแน่” ซ่งผิงบอกลูกชายตามตรงว่าเขาไม่มีวันให้ถอนหมั้น
สตรีเ้าเล่ห์เช่นโจวซู่ซิน เขาไม่ทางปล่อยให้มาเป็ภรรยาของบุตรชายหรอก ตอนเฉินเอ๋อร์ยังไม่ล้มขาเจ็บ โจวซู่ซินขยันมาตีสนิทลูกรักเขาถึงบ้าน พอเกิดเื่นางก็ไม่ค่อยแวะมาอีก ได้ยินว่าตระกูลโจวอยากเกี่ยวดองกับตระกูลคหบดีหวังในตัวเมือง เฮอะ นางมักใหญ่ใฝ่สูงก็ปล่อยนางไปเถิด
งดงามดุจเทพธิดา จิตใจบริสุทธิ์อะไร ทั้งหมดเป็เพียงเื่ที่ตระกูลโจวปั้นแต่งโกหกปูทางให้โจวซู่ซินต่างหาก อย่าคิดว่าทุกคนจะโง่หลงเชื่อคำลวงนั่น
“เฉินเอ๋อร์ เ้ากับซย่าจิ่นเซวียนดวงชะตาสมพงศ์กันราวกับ์ลิขิต พวกเ้าเกิดมาคู่กัน เอาตามนี้ วันมะรืนข้าจะให้พี่ชายทั้งสามเข็นเ้าไปรับเ้าสาว ไม่แน่เ้าแต่งกับนางไป ขาอาจจะหายในเร็ววัน” ซ่งผิงตบไหล่บุตรชายให้ใช้ชีวิตอย่างสบายใจ ตราบใดที่เขายังอยู่ก็จะหาวิธีรักษาซ่งจื่อเฉินให้จงได้
ซ่งจื่อเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ท่านพ่อดีกับเขายิ่งนัก ชั่วชีวิตนี้คงตอบแทนบุญคุณไม่หมด ทั้งที่มิได้เป็พ่อแท้ๆ แต่กลับดูแลเขาเหมือนลูกในไส้ เฮ้อ ตอนนี้เขาเหมือนคนตายไปแล้วกึ่งหนึ่ง จะล้างแค้นแทนพ่อแม่ได้เช่นไร แล้วยิ่งศัตรูแข็งแกร่งกว่าเขาเสียด้วย......
“ท่านพ่อ ข้าตกลงจะแต่งงานขอรับ” ซ่งจื่อเฉินเห็นท่านพ่อเสียใจเลยรับปากยอมแต่งงาน
“เด็กดี เ้าคิดได้เช่นนี้ข้าก็วางใจแล้ว” ซ่งผิงตื้นตัน เขาจับมือลูกชายพลางเอ่ยนุ่มนวล “ข้าให้คนไปเสาะหาท่านหมอเลื่องชื่อทั่วสารทิศ ขาเ้าต้องหายแน่ เฉินเอ๋อร์อย่าได้ยอมแพ้เล่า”
พวกเขายังไม่ทันได้ล้างหนี้แค้น จะยอมแพ้ได้อย่างไร ต่อใหต้องเอาชีวิตแก่ๆ ของเขาไปเสี่ยงก็ต้องรักษาเฉินเอ๋อร์ให้ได้ เฉินเอ๋อร์โดดเด่นถึงเพียงนี้ไม่ควรมาติดอยู่ในหมู่บ้านสกุลโจวเล็กๆ แห่งนี้
“ท่านพ่อ ข้าฝังเข็มตัวเองตามวิธีฝังเข็มและรมยาในตำราแพทย์ หลายวันนี้รู้สึกดีขึ้นแล้ว ท่านพ่อวางใจเถิดขอรับ เมื่อใดที่ข้าหาย ข้าจะเข้าร่วมการสอบคัดเลือก่วสันต์ชิงตำแหน่งจอหงวน [1] มาให้ได้ขอรับ” ซ่งจื่อเฉินได้รับคุณวุฒิถงเชิงแล้ว การสอบคัดเลือก่วสันต์จัดขึ้นทุกๆ สามปี ขอเพียงสอบติด เขาจะได้เป็ขุนนางในราชสำนัก เข้าใกล้ศัตรูไปอีกก้าวหนึ่ง
“ข้าเข้าใจเ้าแล้ว พวกเราต้องมั่นใจและพยายามรักษาขาเ้าให้หายทันปีหน้า” ลูกชายเต็มไปด้วยความมั่นใจ ซ่งผิงมีความสุขมาก เขารู้ว่าจื่อเฉินกำลังปลอบใจเขาอยู่ เขาไม่มีทางทอดทิ้งลูก ต่อให้สละทั้งชีวิตก็ต้องปกป้องลูกคนนี้ไว้ให้ได้
“เ้าพักผ่อนเถิด ข้าค่อยมาหาเ้าคราหลัง” ซ่งผิงจัดการให้ลูกชายเสร็จจึงเดินออกจากห้องไป
ซ่งจื่อเฉินเอนพิงเตียงไม้คิดไม่ตก ซย่าจิ่นเซวียนเป็คนเช่นไร?นางโดนบังคับแต่งงานหรือมีจุดประสงค์อื่น?
ขณะซ่งจื่อเฉินครุ่นคิด จิ่นเซวียนก็ถึงบ้านท่านอาเล็กพอดี
“เซวียนเซวียน ข้าว่าจะไปหาเ้าพอดี” จิ่นเซวียนเพิ่งเข้ามาในเรือนก็เห็นท่านอาเก็บบวบที่ปลูกใต้ร้านอยู่
ท่านอาเล็กซย่าชุนอวิ๋นไม่ได้สูงโปร่งเท่าจิ่นเซวียน นางสูงประมาณหนึ่งร้อยห้าสิบ หากมิใช่เพราะแผลเป็บนหน้าผาก นางก็นับเป็สาวงามคนหนึ่ง
นางจำได้ว่าท่านอาเล็กและท่านอาเขยมีรักที่อิสระ เมื่อท่านอาเขยพร้อมจึงหาแม่สื่อมาสู่ขอท่านอาเล็ก
ปีนั้นตอนท่านอาเล็กแต่งกับท่านอาเขยหูเหยียนซูโดนท่านย่าคัดค้านอย่างรุนแรง ท่านย่าชั่วร้ายดูแคลนคนบ้านหู คิดว่าคนบ้านหูไม่ได้เื่ได้ราว ไม่คู่ควรเป็ญาติกับนาง
ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่าท่านอาเล็กสายตาไม่เลว ท่านอาเขยไม่เพียงหล่อเหลายังมากความสามารถ หลังแต่งงานกันเขาไม่เคยให้ท่านอาเล็กทำงาน และรักนางมากจึงพาปัญหาต่างๆ มาให้นางด้วยเหตุนี้
โดยเฉพาะเหล่าพี่สะใภ้ของท่านอาเล็ก ชอบมาแขวะนางตอนว่าง บอกท่านอาเล็กหน้าตาขี้เหร่ไม่คู่ควรกับน้องสามีของพวกนาง
“ท่านอาเล็ก บ้านท่านมีอะไรกินหรือไม่เ้าคะ?หาอะไรให้ข้าทานหน่อยเถิดเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนเอ่ยปากถามซย่าชุนอวิ๋นว่ามีอะไรทานบ้าง ตอนนี้นางหิวจนท้องร้องจ๊อกๆ
“เดี๋ยวข้าไปทำข้าวผัดไข่ให้เ้า” ซย่าชุนอวิ๋นออกมาจากใต้ร้านบวบ วางบวบในมือลงบนโต๊ะหิน แล้วเข้าห้องครัวไปทำอาหารให้จิ่นเซวียน
จิ่นเซวียนเดินตามซย่าชุนอวิ๋นเข้าครัว นางมิได้เจอลูกพี่ลูกน้องหานเอ๋อร์นานแล้วเลยถามหา
“ท่านอาเล็ก หานเอ๋อร์น้อยเล่าเ้าคะ?”
“นางนอนหลับอยู่” ใบหน้าซย่าชุนอวิ๋นเต็มไปด้วยความสุขเมื่อเอ่ยถึงลูกสาว นางกับสามีแต่งกันได้สามปี มีลูกสาวอายุสองขวบเต็มแล้ว แม้จะเป็ลูกสาวแต่สามีก็รักดั่งไข่ในหิน นางช่างโชคดีที่ได้พบบุรุษที่ดี
“เซวียนเซวียน สัญญาหมั้นของเ้ากับซ่งจื่อเฉินยังอยู่หรือไม่?พ่อเ้าว่าอย่างไรบ้าง?” ความสุขของจิ่นเซวียนสำคัญที่สุด ซย่าชุดอวิ๋นไม่ชอบการกระทำของท่านแม่มาโดยตลอด นางคิดว่าการที่ท่านแม่ทำเช่นนี้จะทำลายชื่อเสียงของท่านพ่อ
แม้บ้านซย่าของพวกเขาจะไม่เหมือนครอบครัวใหญ่ในเมืองท้องถิ่นพวกนั้น แต่ก็เป็ถึงครอบครัวใหญ่ในหมู่บ้านซย่า
เฮ้อ!นางเคยเกลี้ยกล่อมท่านแม่กับพี่ใหญ่แล้วแต่พวกเขาไม่ฟังนางเลย
“ท่านอา เปล่าประโยชน์เ้าค่ะ ต่อให้ท่านพ่อยกเลิกสัญญาหมั้น บ้านซ่งคงไม่ยอม” จิ่นเซวียนยิ้มขมขื่น นี่คือทั้งชีวิตของนาง!
“เฮ้อ ข้าสงสารเ้านัก แม้ซ่งจื่อเฉินจะเป็อัจฉริยะแต่เขาไม่อาจให้ความสุขแก่เ้าได้ เ้าแต่งเข้าไปต้องคอยปรนนิบัติเขาตลอด” ซย่าชุดอวิ๋นก่อไฟทำอาหารพลางถอนหายใจมองจิ่นเซวียน
“ท่านอา ข้าบอกท่านตามตรงนะเ้าคะ ข้าไม่ชอบครอบครัวเวลานี้เลยเ้าค่ะ ดังนั้นแทนที่ข้าจะอยู่บ้านโดนพวกเขารังแก สู้ให้ข้าแต่งกับซ่งจื่อเฉินไปเสียดีกว่าเ้าค่ะ” หลังท่านปู่จากไป นางก็ไม่เคยทานอาหารอิ่มท้องเลยสักมื้อ ไม่แปลกที่นางจะผอมเช่นนี้
หลังก่อไฟเสร็จ ซย่าชุนอวิ๋นจึงเร่งผัดข้าวผัดไข่ให้จิ่นเซวียน
“เ้าค่อยๆ กินเถิด ระวังสำลักเล่า” จิ่นเซวียนทำสิ่งใดไม่ได้ แค่มีกินนางก็พอใจแล้ว
นางหยิบช้อนเล็กตักข้าวเข้าปากคำใหญ่ ข้าวผัดไข่ของท่านอาเล็กหอมมาก
“เ้ามาถูกเวลาพอดี คืนนี้ข้าจะได้ฆ่าไก่บำรุงร่างกายให้เ้า” ซย่าชุนอวิ๋นจัดผมให้จิ่นเซวียนอย่างเอ็นดู นางสงสารเด็กไม่มีแม่คนนี้นัก
“มีของกินเพียงเท่านี้ก็พอแล้ว ไม่ต้องลำบากท่านอาเล็กหรอกเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนค่อนข้างเกรงใจ ทุกครั้งที่มาที่นี่ท่านอาเล็กจะทำของอร่อยให้นางทานเสมอ บ้านท่านอาเล็กเองก็ถือเป็ครอบครัวใหญ่ในหมู่บ้านซย่า
สิ่งเหล่านี้เป็ผลมาจากการทำงานหนักของท่านอาเขย ก่อนแยกบ้านท่านอาเขยโดนพวกพี่ชายเอาเปรียบมาตลอด พอแยกตัวออกมาชีวิตเลยสบายขึ้น
คนอื่นทานเนื้อใน่ปีใหม่หรือเทศกาลแต่ครอบครัวของพวกเขามีเนื้อให้ทานไม่ขาด และทุกฤดูกาลเปลี่ยนผันเขาก็จะซื้อของขวัญให้ท่านอาเล็กด้วย บุรุษใส่ใจครอบครัวเช่นนี้หาได้ยากนัก
“ในเมื่อหนีการแต่งงานไม่ได้ ก็ต้องแต่งออกอย่างยิ่งใหญ่ เซวียนเซวียน ก่อนท่านปูสิ้นลม เขาฝากข้าดูแลของสิ่งหนึ่งให้เ้า เ้านั่งรอก่อนข้าจะไปหยิบมาให้”
เชิงอรรถ
[1] จอหงวน หมายถึง ตำแหน่งราชบัณฑิตซึ่งได้คะแนนอันดับหนึ่งในการสอบขุนนางของประเทศจีนสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้