หลินเฟิงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เขาออกจากภัตตาคารมา แม้เขาจะมีััที่หกที่สามารถรับรู้ได้ก่อนใคร แต่ผู้ที่อยู่ขอบเขตลี้ลับที่กำลังติดตามเขาอยู่นั้น หลินเฟิงไม่สามารถััอะไรจากเขาได้เลย
หลินเฟิงไม่รู้แม้กระทั่งว่า เมิ่งฉิงไม่เคยออกห่างจากเขาไปไหนเลย ั้แ่เขาออกมาจากสำนัก นางก็ติดตามเขามาโดยตลอด
ในขณะนั้นหลินเฟิงสวมหน้ากากสีเงินอีกครั้ง ซึ่งทำให้เขากลับมาเป็คนที่ดูมีความรู้สึกเย็นเยือก ไม่ได้มีเพียงเขาเท่านั้น แต่ป้าเตาที่อยู่ข้างๆ หลินเฟิงก็สวมหน้ากากเช่นกัน เขาได้สวมหน้ากากทองแดงทำให้ดูดุร้ายและป่าเถื่อนเป็อย่างยิ่ง
“ป้าเตา ทาสผู้ฝึกยุทธ์ในลานประลองเชลย นอกจากการประมูลในลานประมูลแล้ว ยังมีไปสถานที่อื่นๆ อีกหรือไม่?”
หลินเฟิงถามป้าเตาขณะเดินลงบันได
“ขอรับ” ป้าเตาครุ่นคิดสักครู่ จากนั้นก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ไม่จำเป็ต้องพูดถึงทาสผู้ฝึกยุทธ์ที่ตายไปแล้ว ทาสผู้ฝึกยุทธ์ที่เหลือล้วนมีแต่ทาสที่ยอดเยี่ยม สามารถฝึกให้เชื่องและรับใช้พวกเขา แต่บางครั้งก็ไม่สามารถควบคุมได้ พวกเขาจึงนำไปประมูล นอกจากนี้ยังมีทาสผู้ฝึกยุทธ์อีกหลายคนที่พวกเขานำไปขายให้กับผู้คนที่้า”
หลินเฟิงมองไปที่ป้าเตา คนคนนี้ไม่ต้องเอ่ยอะไรออกมาก็เห็นได้ชัดว่าเป็ทาสที่ดื้อรั้นและไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่ง
“แล้วพวกเขาเอาไปขายที่ไหนกัน?” หลินเฟิงถามต่อ
“ข้าก็รู้ไม่แน่ชัด” ป้าเตาส่ายหัวและกล่าวต่อว่า “ข้าไม่เคยมีโอกาสได้ยุ่งเกี่ยวกับเื่ของพวกเขาเลยขอรับ ได้รู้แต่สิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวข้าเอง”
หลินเฟิงเผยแววตาครุ่นคิดออกมา แต่กลับได้ยินอีเสวี่ยที่อยู่ข้างๆ กล่าวว่า “พวกเขานำทาสไปขายที่ตลาดค้าทาส ซึ่งที่นี่ไม่ได้เป็ความลับอะไร เหล่าชนชั้นสูงที่้าทาสผู้ฝึกยุทธ์ต่างเดินทางไปที่ตลาดค้าทาส และใช้หินหยวนซื้อทาสผู้ฝึกยุทธ์ได้ หรือจะใช้สิ่งของเพื่อแลกเปลี่ยนก็ย่อมได้”
“ตลาดค้าทาส?” หลินเฟิงประหลาดใจ คาดไม่ถึงว่าจะมีสถานที่เช่นนี้ด้วย
“อีเสวี่ยพาข้าไปที” หลินเฟิงกล่าวอย่างเฉยเมย
อี่เสวี่ยประหลาดใจและมองไปที่หลินเฟิง จากนั้นก็พยักหน้า “เ้าค่ะ”
จากนั้นอีเสวี่ยก็นำทางไปยังตลาด จากนั้นไม่นานพวกเขาก็มาถึงตลาดค้าทาส
พวกเขายืนอยู่ด้านนอกตลาดค้าทาส ม่านตาของหลินเฟิงหดลงเล็กน้อยเมื่อเห็นถนนกว้างใหญ่เบื้องหน้า
ที่ตลาดค้าทาส ทั้งสองฝั่งของถนนสายหลักอันกว้างใหญ่มีกรงเหล็กที่มีทาสมากมายอยู่ในนั้น ในขณะที่เ้าของทาสก็นั่งอย่างไม่แยแสอยู่ด้านนอกกรงเหล็ก และรอผู้คนมาซื้อทาส
สถานที่แห่งนี้ ทาสผู้ฝึกยุทธ์จะถูกปฏิบัติไม่ต่างกับสัตว์ เป็สมบัติของตลาดค้าทาส และไม่มีสิทธิมนุษยชนใดๆ ทั้งสิ้น
ทาสเหล่านี้จะถูกนาบตราและเป็นักโทษา หรือนักโทษที่รอวันปะา หรือเป็คนที่มีความขัดแย้งกับตระกูลที่มีอิทธิพล อย่างเช่นเหตุการณ์ที่นิกายหยุนไห่ถูกทำลาย ผู้รอดชีวิตก็จะถูกต้วนเทียนหลางนาบตราและกลายเป็ทาสผู้ต่ำต้อย ถูกผู้คนรังแก แม้กระทั่งตายก็ไม่มีใครเหลียวแล
นอกจากนี้ตลาดค้าทาสแห่งนี้วุ่นวายอย่างมาก ผู้คนเดินพลุ่งพล่านบนถนนสายหลักอันกว้างใหญ่เพื่อเลือกดูทาส หากถูกใจก็ซื้อ และที่แห่งนี้มีแต่พวกคนชนชั้นสูงจำนวนมาก
พวกหลินเฟิงเดินเข้าไปในตลาดค้าทาส และกวาดสายตามองไปยังกรงเหล็กทั้งสองข้างถนน ทาสที่นี่มีทั้งรูปร่างผอมโซและกำยำ แม้กระทั่งทาสหญิงก็ยังมีรูปร่างที่ยั่วยวนอย่างมาก ซึ่งสามารถตอบสนองกามารมณ์ของคนที่้าได้
“นายท่านเฟิง ทาสที่นี่ส่วนใหญ่เป็ทาสผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ขอบเขตนักรบลมปราณ ส่วนทาสที่อยู่ขอบเขตแห่งจิติญญาจะมีราคาสูงมากกว่าหลายเท่า และจะถูกสงวนไว้กับตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง นอกจากนี้ท่านอยากไปดูใจกลางของตลาดค้าทาสหรือไม่?”
ในขณะนั้นอีเสวี่ยได้กล่าวอธิบายให้หลินเฟิงฟัง แม้นางจะไม่รู้ว่าเป้าหมายของหลินเฟิงคืออะไรและมาที่นี่ทำไม แต่ความแข็งแกร่งของหลินเฟิง หาก้าซื้อทาสผู้ฝึกยุทธ์ แน่นอนว่าจะต้องเลือกทาสที่อยู่ขอบเขตแห่งจิติญญา
“เอาล่ะ พาพวกข้าไปดูที”
หลินเฟิงตอบกลับและเริ่มเดินอีกครั้ง อย่างไรก็ตามหลินเฟิงกลับรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไร ทาสในลานประลองเชลยเ่าั้ต่างจดจ้องมาที่พวกเขา ทำให้เขาไม่สบายใจนัก นอกจากนี้ผู้ที่มาซื้อทาสต่างก็มีแววตาที่ทำให้รู้สึกถึงความเกลียดชัง
หลังจากนั้นไม่นาน หลินเฟิงก็มาถึงใจกลางของตลาดค้าทาส ที่แห่งนี้ไม่มีกรงเหล็กเหมือนที่อื่น แต่ที่นี่กลับมีตำหนักขนาดใหญ่ดูคล้ายกับปราสาทขนาดเล็ก
“นายท่าน ที่แห่งนี้คือสถานที่ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดค้าทาส ทาสผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตแห่งจิติญญานับเป็ร้อยละ 80 ล้วนสงวนสิทธิไว้กับพวกเขาแต่เพียงผู้เดียว”
อีเสวี่ยกระซิบข้างหูหลินเฟิง ภายนอกประสาทได้มีร่างเงาหนึ่งกำลังจ้องมองหลินเฟิงและคนอื่นๆ แต่เมื่อเขาได้ยินอีเสวี่ยเรียกหลินเฟิงดังนั้น จึงกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มในทันที “นายท่านท่านนี้ ท่าน้าทาสผู้ฝึกยุทธ์หรือไม่ขอรับ? ข้ารับประกันได้เลยว่า ที่นี่ท่านจะสามารถเลือกทาสผู้ฝึกยุทธ์ที่ทำให้ท่านพอใจได้อย่างแน่นอน”
“พาข้าไปดูที” หลินเฟิงกล่าวอย่างเฉยเมย แววตาของเขาภายใต้หน้ากากเงินนั้นยังคงไร้ความหวาดกลัวใดๆ
“ได้ขอรับนายท่าน โปรดตามข้ามา” บนใบหน้าของคนผู้นั้นเผยรอยยิ้มสุภาพ จากนั้นก็พาพวกหลินเฟิงไปยังป้อมปราการ
ด้านในป้อมปราการนั้นกว้างขวางมาก มีกรงขังครึ่งหนึ่งที่ถูกล็อกไว้ ซึ่งด้านในล้วนเป็ทาสผู้ฝึกยุทธ์ พวกเขาทุกคนกำลังนั่งเอื่อยเฉื่อยอยู่ที่พื้น เมื่อเห็นพวกหลินเฟิงเดินเข้ามา แววตาของพวกเขาต่างจ้องมาที่หลินเฟิง จู่ๆ หลินเฟิงก็รู้สึกถึงลมปราณบางอย่าง
“นายท่าน ท่านสามารถเลือกทาสที่ท่าน้าได้ จำนวนโซ่ที่อยู่บนร่างกายของพวกมันจะแสดงถึงความแข็งแกร่ง ถ้ามีโซ่หนึ่งเส้นนั่นก็หมายความว่าอยู่ขอบเขตแห่งจิติญญาขั้นที่ 1 หากมีห้าเส้นนั่นก็คือขอบเขตแห่งจิติญญาขั้นที่ 5 ขอรับ”
คนนั้นกล่าวอธิบายให้หลินเฟิงฟังขณะยืนอยู่นอกประตูกรง หลินเฟิงมองจำนวนโซ่บนร่างกายทาสผู้ฝึกยุทธ์ มันบ่งบอกได้ความแข็งแกร่งของเหล่าทาสผู้ฝึกยุทธ์ได้
“ทาสที่อยู่ขอบเขตแห่งจิติญญามีมากกว่า 200 คน ทาสที่ร้ายกาจที่สุดก็จะอยู่ในขอบเขตแห่งจิติญญาขั้นที่ 6 เ้าของที่แห่งนี้เป็คนที่มีอิทธิพลมาก” หลินเฟิงกวาดสายตามองเหล่าทาสคร่าวๆ ทาสเหล่านี้มีมากกว่า 200 คน ล้วนอยู่ขอบเขตแห่งจิติญญา นอกจากนี้ก็ยังมีอายุไม่มาก หากสามารถจับรวมกลุ่มกันได้จะเป็กลุ่มที่มีอำนาจที่น่าหวาดกลัวอย่างมากจนสามารถสร้างนิกายขึ้นมาได้
“นายท่าน ท่านวางใจเถิด ทาสที่นี่ล้วนมาจากลานประลองเชลย บางคนก็เป็เชลยจากนิกายหยุนไห่ที่ถูกอ๋องเทียนหลางทำลายไป นิกายหยุนไห่เป็นิกายขนาดใหญ่ คนมากมายที่นี่ล้วนเป็ศิษย์สายใน แม้กระทั่งศิษย์หลักก็มี และพวกมันจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังเลยแม้แต่น้อย”
คนคนนั้นกล่าวโน้มน้าวอย่างมีมารยาท ทำให้ั์ตาของหลินเฟิงที่อยู่ภายใต้หน้ากากถึงกับตกตะลึง ศิษย์นิกายหยุนไห่? ในที่สุดเขาก็พบพวกพ้องของเขา!
ครั้งก่อนได้ยินต้วนเทียนหลางเอ่ยว่าศิษย์จากนิกายหยุนไห่ถูกส่งตัวมาที่ลานประลองเชลย หลินเฟิงก็หวังว่าจะสามารถตามหาศิษย์นิกายหยุนไห่ได้เร็ววัน ซึ่งนี่เป็เหตุผลว่าทำให้เขามาถึงที่นี่
“ฮ่าๆๆ ศิษย์นิกายหยุนไห่ ไม่เลวนี่ ครั้งนี้ข้าวางแผนจะไปล่าสัตว์อสูรปีศาจที่ป่าทุรกันดาร ข้าจึง้าทาสเพื่อเปิดทางให้ ดูเหมือนว่าข้าจะมาพบสถานที่ดีๆ แห่งนี้เข้าให้แล้ว”
หลินเฟิงดูยิ้มแย้ม จึงทำให้สายตาของเหล่าทาสเยือกเย็นและจ้องหลินเฟิงเขม็ง เขา้าใช้ทาสเพื่อเปิดทางให้จากสัตว์อสูรปีศาจที่แข็งแกร่ง นั่นเท่ากับว่าส่งพวกเขาไปตาย ช่างสารเลวอะไรขนาดนี้!
“ฮ่าๆๆ นายท่านช่างมาถูกจังหวะจริงๆ” ชายคนนั้นกล่าวขณะยิ้ม แต่ภายในใจกลับกำลังด่าทอหลินเฟิง เขาไม่รู้ว่าหลินเฟิงเป็ลูกหลานจากตระกูลขุนนางไหน คาดไม่ถึงว่าจะโง่เขลาเช่นนี้ที่บอกเป้าหมายออกมาหมดเปลือก
“ทาสที่อยู่ที่นี่ราคาเท่าไร?” หลินเฟิงถาม
“ทาสที่อยู่ขอบเขตแห่งจิติญญาขั้นที่ 1 มีราคาอยู่ที่ 10 หินหยวนระดับกลาง ขั้นที่ 2 ราคา 30 หินหยวนระดับกลาง ขั้นที่ 3 ราคา 80 หินหยวนระดับกลาง ขั้นที่ 4 ราคา 200 หินหยวนระดับกลาง ขั้นที่ 5 ราคา 500 หินหยวนระดับกลาง และขั้นที่ 6 ราคา 1,000 หินหยวนระดับกลาง”
หลินเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นมองไปยังเหล่าทาสผู้ฝึกยุทธ์และกล่าวว่า “ผู้ที่เป็ศิษย์นิกายหยุนไห่จงยืนขึ้นและตามข้ามาซะ”
คนที่อยู่ข้างๆ ได้ยินดังนั้น ในใจก็ด่าทอหลินเฟิงอีกครั้ง โง่เขลายิ่งนัก!
เหล่าทาสผู้ฝึกยุทธ์ต่างเหลือบมองหลินเฟิงอย่างไม่แยแส ในเมื่อพวกเขาต่างรู้ดีว่านั่นคือหนทางสู่ความตาย แล้วใครจะยอมติดตามเขาไปกัน? ใบหน้าพวกเขานั้นไร้ป้ายที่บ่งบอกว่าเป็ศิษย์นิกายหยุนไห่ และตัวเองก็ไม่ได้เอ่ยออกมาว่าเป็ แต่กระนั้นใครเล่าจะรู้ว่าพวกเขาเป็ศิษย์นิกายหยุนไห่?
แม้แต่ป้าเตาและอีเสวี่ยที่อยู่ข้างๆ ก็ไม่เข้าใจการกระทำของหลินเฟิง
อย่างไรก็ตามแววตาของหลินเฟิงยังคงสงบนิ่ง จากนั้นเขาหยิบแหวนขึ้นมาสวมนิ้ว
เมื่อหลินเฟิงสวมแหวนซึ่งดูเหมือนแหวนหินธรรมดาๆ ที่ไม่ดึงดูดสายตาใคร แต่เมื่อเหล่าทาสผู้ฝึกยุทธ์เห็นแหวนหินวงนี้ ภายในใจกลับรู้สึกตกตะลึง
แหวนหินวงนี้ที่ดูธรรมดาไม่ดึงดูดสายตาใครๆ แต่ทว่าเหล่าทาสผู้ฝึกยุทธ์นี้ มีจำนวนไม่น้อยที่เคยเห็นแหวนวงนี้มาก่อน เพราะเมื่อนานมาแล้ว แหวนหินวงนี้ได้ถูกสวมอยู่บนนิ้วของหนานกงหลิง ผู้เป็อดีตประมุขของนิกายหยุนไห่