ตอนที่ 3
“เงินเหลือ งานก็ไม่ต้องทำ แล้วจะทำอะไรดีว่ะ เห้ออออ!”
ซานโน่ถอนหายใจด้วยความเซ็ง เขาไม่เคยต้องว่างแบบนี้มาก่อน วัน ๆ ทำแต่งานพอวันนึงไม่ต้องทำแล้ว ก็รู้สึกแปลก ๆ ดีเหมือนกัน ธุรกิจที่มีก็ให้คนอื่นบริหารโดยที่เขาไม่เคยต้องเข้าไปดูแล
ตลอดเวลาที่ผ่านมาของชีวิตเขาต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดมาโดยตลอด ต้องต่อสู้ ต้องเข่นฆ่า และที่สำคัญคือห้ามตาย จิตใจถูกกลืนกินทีล่ะนิดจนไม่เหลือความเป็มนุษย์ มือทั้งสองข้างเปื้อนไปด้วยเืของความตายและหัวใจที่มืดดำ แต่ค่าตอบแทนย่อมสูงเช่นกัน
เขาไม่เคยรู้เื่ราวในอดีต ไม่รู้ว่าพ่อแม่แท้ ๆ ของเขาเป็ใคร เคยมีความคิดอยากที่จะตามหา แต่อีกความคิดก็คิดขึ้นได้ว่าไม่รู้หาไปทำไม หาเจอแล้วมันจะเป็ยังไง จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไหม? ก็ไม่ ! ในเมื่อสตีฟบอกว่าพ่อแม่ของเขาเป็คนเอามาทิ้งเอาไว้ที่หน้าบริษัทแล้วก็ไปใช้ชีวิตด้วยกันที่ต่างประเทศ ไม่เคยกลับมาหาเขาสักครั้ง ครั้งเดียวก็ไม่มี เขาเลยไม่เคย้าอะไรจากคนพวกนั้น คนที่ทิ้งเขาไป !
บางครั้งการไม่รู้จักใครในอดีตนั่นคือดีที่สุดแล้วก็ได้สำหรับเขา
และตอนนี้เขาก็ไม่ต้องทำตามคำสั่งของใครอีกต่อไป แต่อิสระครั้งนี้แลกมาด้วยการถูกไล่ล่าและตราหน้าว่าเป็คนทรยศขององค์กรเพียงเพราะเขาทำงานพลาด และเขายังมีชีวิตรอด
ในแต่ล่ะวันเขาต้องจัดการคนจากองค์กรที่พยายามจะฆ่าเขาตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ทั้งที่เขาอยากอยู่แบบเงียบสงบบ้างแล้วแท้ ๆ แต่พวกองค์กรดูเหมือนจะไม่ยอมให้เป็อย่างนั้น แทบไม่ปล่อยให้เขาได้ว่างเลย หรือบางทีเขาคิดว่าคนในองค์กรคงล้นสตีฟจึงส่งมาให้เขาฆ่าเล่นเพื่อเป็การจำกัดประชากรไปในตัว
ซานโน่ยืนหลับตานิ่ง ๆ ที่ระเบียงของบ้านปล่อยให้ลมเย็นปะทะใบหน้าหล่อในยามค่ำคืน
ั้แ่จำความได้เขาก็เติบโตมาในองค์กรนี้แล้วตอนนั้นอายุน่าจะ 5 ขวบ ไม่มีความทรงจำใด ๆ ก่อนหน้านั้นหลงเหลืออยู่เลย สตีฟคือคนแรกที่เขารู้จักในตอนนั้น เขาถูกฝึกฝนเลี้ยงดูมาเพื่อฆ่าและรับใช้องค์กร ปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งเร้า เขาััได้ดีรวดเร็วแม้กระทั้งลมหายใจ
“ไม่รีบลงมือ?” ซานโน่ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย เหมือนการทักทายพูดคุยเื่ดินฟ้าอากาศ โดยที่ไม่ได้สนใจบุคคลที่เข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของตนมากนัก และตอนนี้เขา้าพักผ่อน
“อย่าท้าทายเลย zero one ยังไงนายก็ต้องตาย” เพื่อนร่วมองค์กรรุ่นเดียวกันพูดอย่างผู้ชนะใช้มือจับปืนที่จ่อหัวซานโน่เอาไว้แน่น ระยะแค่นี้เขามั่นใจว่าไม่มีทางพลาด ยังไงเขาก็ต้องทำภารกิจสำเร็จถึงแม้คนตรงหน้าจะเป็ zero one ก็ตาม แต่คำสั่งก็คือคำสั่ง
“อย่าขยับจะดีกว่า” ซานโน่เอ่ยเตือนด้วยท่าทีสบายๆ ไม่ได้รู้สึกเสียเปรียบเลยสักนิด
“นายต่างหากล่ะที่ห้ามขยับคนทรยศ” เพื่อนร่วมองค์กรพูดขึ้นอย่างหัวเสีย ถึงเขาจะกลัว แต่เขาก็เกลียดที่โดนดูถูกแบบนี้
“หึ !” ซานโน่แสยะยิ้มมุมปาก
“ฉึบ ! ซ่าาาาาาา !! บอกแล้วว่าอย่าขยับ ฉันเตือนแล้วนายไม่ฟังเองนะ” เพียงการเคลื่อนไหวแค่นิดเดียว นิดเดียวเท่านั้น สิ้นเสียงขำในลำคอซานโน่ก็ใช้คารัมบิตสีดำทมิฬกรีดลงที่ต้นคอของฝ่ายตรงข้ามอย่างรวดเร็วและนุ่มนวลจนเส้นเอ็นขาดออกจากกันคอเกือบจะหลุดลงจากบ่า อีกฝ่ายไม่ทันแม้แต่ลั่นไกปืนด้วยซ้ำ ร่างนั้นก็ล้มทั้งยืนดวงตาเบิกโพรง เืสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณโดยรอบ เปื้อนเนื้อตัวของซานโน่เพียงเล็กน้อย ร่างนั้นกระตุกเกร็งเพียงไม่กี่ครั้งก็นิ่งไป เขาเดินข้ามศพอดีตเพื่อนร่วมองค์กรไปโดยที่ไม่รู้สึกอะไร หากเขาใจดีปล่อยกลับไปสุดท้ายมันก็ตายอยู่ดีนั่นคือบทลงโทษขั้นสูงสุดขององค์กร
ซานโน่เก็บคารัมบิตเข้ากระเป๋าตามเดิมแล้วเดินตรงไปขึ้นรถ Lamborghini Huracan Tecnica V10 5.2 NA คันโปรดแล้วขับออกไปคอนโดใจกลางเมือง ไม่ลืมโทรสั่งให้คนมาเก็บกวาดที่บ้าน เขาไม่ชอบให้บ้านเลอะ โดยเฉพาะเื
ll MONSTER ll
สำหรับซานโน่องค์กรนี้เป็ทั้งที่ให้ชีวิตใหม่ และเป็องค์กรที่บัดซบโสมม ชื่อขององค์กรเกิดจากตัวย่อของบอสแต่ล่ะทวีป แต่ล่ะทวีปจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันนักหากไม่มีความจำเป็จริง ๆ มีเพียงแค่บอสของแต่ละทวีปเท่านั้นที่ติดต่อกันอยู่บ่อยครั้ง ประชุมและนัดพบกัน
M ย่อมาจาก Marajó ( มาราฌอ ) ดูแลในส่วนของทวีปแอฟริกา
O ย่อมาจาก Oahu ( โอวาฮู ) ดูแลในส่วนของทวีปอเมริกาเหนือ
N ย่อมาจาก Navarino ( นาบารีโน) ดูแลในส่วนของทวีปอเมริกาใต้
S ย่อมาจาก Steve ( สตีฟ ) ดูแลในส่วนของทวีปยุโรป
T ย่อมาจาก Tony ( โทนี่ ) ดูแลในส่วนของทวีปเอเชีย
E ย่อมาจาก Ethan ( อีธาน) ดูแลในส่วนของทวีปออสเตรเลีย
R ย่อมาจาก Ross ( รอสส์ ) ดูแลในส่วนของทวีปแอนตาร์กติก
ในแต่ล่ะทวีปองค์กรจะหล่อหลอมเด็ก ๆ ที่อยู่ในการดูแลจากทั่วสารทิศ ในแต่ล่ะรุ่นที่ถูกนำมาฝึกเพื่อเป็สายลับ ใน 1 รุ่น จะมี 100 คน เรียกได้ว่ามีทุกอาชีพ ไม่แม้แต่คนเก็บขยะ พนักงานการเงิน นักธุรกิจ นักการเมือง นักเรียน นักศึกษา ครู ทหาร พยาบาล หมอ ทุกคนถูกฝึกมาเป็อย่างดีเมื่อถึงเวลาจะถูกส่งไปแทรกซึมตามที่ต่าง ๆ ของโลก ทุกพื้นที่และทุกองค์กร เพื่อสร้างประโยชน์ในทุกด้านให้แก่องค์กร และในบางครั้งก็รับใช้รัฐบาลในทวีปนั้น ๆ ตามพื้นที่เขตรับผิดชอบ
และ ไวท์ ซานโน่ คาร์ล คือรุ่นที่ 25 หรือใคร ๆ ต่างรู้จักเขาในชื่อ zero one หลายคนต่างมองว่าเขาคือปีศาจแห่งองค์กรมืด ไม่ใช่แค่ ll MONSTER ll ที่กลัวเขา ถึงแม้จะเป็ผู้สร้างเขาคนนี้ขึ้นมาก็ตาม หลากหลายองค์กรต่างหวาดกลัวเพราะเขาล่วงรู้ความลับมากมายที่บุคคลภายนอกไม่ควรรับรู้ ความสามารถที่หลากหลาย การฆ่าที่ไร้ที่ติ หลบซ่อนในมุมมืดเพื่อกำจัดเหยื่อนั่นคือสิ่งที่เขาถนัดมากที่สุด ทุกคนต่างขนานนามว่าเขาคือ ปีศาจแห่ง ll MONSTER ll ยิ่งพอสตีฟขึ้นแบล็คลิสต์เขาทุกองค์กรต่าง้าเข้าหาเขามากขึ้น ทั้ง้าฆ่า ้าข้อมูลที่เขามี หรือแม้แต่้าเป็พันธมิตรเพราะเขามีประโยชน์ ใครได้เขาไปเป็พันธมิตร ศัตรูของพวกมันเ่าั้เรียกได้ว่า หายนะอยู่ตรงหน้า แต่เขาเลือกที่จะอยู่เงียบ ๆ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับองค์กรใด แต่ถ้าใครล้ำเส้นเขาก็พร้อมที่จะฆ่าทิ้งทุกเมื่อ กับสตีฟเขายังพอเข้าใจได้ว่ามันคือกฎเหล็กขององค์กร เข้าไปไม่ใช่เื่ยาก แต่ถ้าอยากออกจากองค์กรก็มีแต่ความตายเท่านั้น อย่างน้อยสตีฟก็ถือเป็ผู้มีพระคุณของเขาคนหนึ่ง หากไม่ยุ่มย่ามกับเขามากเกินไปก็คงปล่อยไว้ หรือไม่ก็ไม่ใช่ตอนนี้
ติ้ง !!
ในระหว่างที่คิดอะไรเพลิน ๆ ข้อความที่ส่งเข้ามามันเป็แอคเค้าท์ที่เขารู้จักดี แต่ที่ต้องแปลกใจคือข้อมูลที่อยู่ภายในนี้มากกว่า
ซานโน่มองภาพในโทรศัพท์อย่างพิจารณามันเป็ภาพครอบครัวหนึ่งที่มีพ่อแม่ที่ยิ้มให้กล้องอย่างมีความสุขโดยมีลูกน้อยหลับไหลอยู่ในอ้อมกอดของคนเป็แม่ ด้านหลังคนทั้งสามเป็บ้านหลังขนาดกลางปลูกดอกไม้รอบบ้านดูอบอุ่นสบายตา บอกให้รู้ว่าตอนที่ถ่ายภาพนี้ทุกคนกำลังมีความสุข
ด้านล่างรูปที่ส่งมา เขียนเอาไว้ว่า ครอบครัวของนาย
คิ้วของซานโน่ขมวดนิด ๆ แล้วคลายออก เขาครุ่นคิดเล็กน้อยเขาทั้งอยากรู้และไม่อยากจะสนใจในเวลาเดียวกันหากเป็คนอื่นส่งมาเขาคงปัดทิ้งแต่ในเมื่อเดเนียลเป็คนส่งมามันคงมีอะไร
หลังจากดูรูปในโทรศัพท์ซานโน่ก็กดโทรหาเดเนียลทันที เพียงไม่นานปลายสายก็กดรับเหมือนกับว่ากำลังรอสายจากเขาอยู่ก่อนแล้ว
“มึงได้มันมายังไง? ”
“บังเอิญเจอตอนทำภารกิจล่าสุด ตอนกูเข้าไปเอาเอกสารในห้องลับของสตีฟ เลยส่งให้มึงดู กูเห็น่นี้มึงว่าง ๆ เผื่อจะอยากรู้เื่ราวในอดีตของตัวเอง”
“บางอย่างมันก็ควรเป็แค่อดีต”
“แต่บางทีมึงอาจพบความจริง กูไม่คิดว่าครอบครัวมึงจะตั้งใจทิ้งมึงไว้ที่องค์กรอุบาทนี่หรอก และกูว่ามึงควรเปิดใจบ้างเผื่อครอบครัวมึงยังรอวันที่มึงกลับไปหา”
“อืม ถ้าว่างจะสืบดูล่ะกัน มึงได้มาแค่นี้ใช่ไหม?” ใบหน้าหล่อแสดงออกถึงความหน่ายใจ
“กูได้แค่นั้น อีกอย่างตอนนั้นกูรีบ แต่เซ้นต์ของกูคิดว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น”
“อืม ขอบใจมึงมาก”
“บาย โชคดี”
“เช่นกัน”
ซานโน่วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปยืนใต้ฝักบัวเปิดน้ำให้ไหลผ่านใบหน้าชโลมร่างกายและจิตใจอาบน้ำเสร็จก็ล้มตัวลงนอนไล่ความคิดเื่ไร้สาระพวกนี้ออกจากสมอง เขาหลับตาลงแล้วก็หลับไป
หากเื่นี้ไม่เป็อย่างที่เขาคิดละ ?!
ก๊อก ! ก๊อก ! ก๊อก !
ยังไม่ทันได้อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน ตื่นมาตอนเช้าก็มีเซอร์วิวจากองค์กรอีกแล้ว
“เห้อออออออ !!! เบื่อว่ะ” ซานโน่เดินข้ามศพที่นอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้นไปห้องครัวชงกาแฟมาหนึ่งแก้วพร้อมผลไม้สดอีกหนึ่งจานแล้วเดินไปเปิดคอมแฮกเข้าระบบกล้องวงจรปิดทั้งหมดของคอนโด
โทรศัพท์ที่ตั้งระบบสั่นเอาไว้สั่นไหวเบาๆ เขาเลิกคิ้วนิดๆเมื่อเห็นชื่อที่โทรเข้ามาซึ่งไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นเบอร์นี้นอกจากเื่งาน เขาแสยะยิ้มแล้วกดรับสาย
“ไง สบายดีไหม?” น้ำเสียงเย้ยหยันของตาแก่สตีฟดังมาตามสาย
“ก็ดี ชีวิตดี อิสระ ไม่ต้องฟังคำสั่งใครอยากทำไรก็ทำ” ซานโน่แสยะยิ้มตอบกลับไป
“ปากดี” สตีฟพูดเสียงเรียบ ในสายตาสตีฟซานโน่ก็แค่เด็กอวดดีที่มีพร์ในการฆ่าเท่านั้น
“โทรมามีอะไร ได้ข่าวว่าไม่มีความจำเป็ต้องติดต่อกันอยู่แล้วนี่”
“หึ แกก็ยังเป็แก ฉันจะไม่อ้อมค้อม งานสุดท้ายที่ให้แกไปทำฉันรู้ว่าข้อมูลยังอยู่ที่แก ส่งมันมาให้ฉันซะแล้วแกจะเป็อิสระซานโน่” สตีฟพูดด้วยน้ำเสียงที่เหนือกว่า
“หึ ตาแก่ ฉันไม่ได้โง่ ถึงให้ไปสุดท้ายก็ถูกตามฆ่าอยู่ดี” ซ่านโน่สวนกลับอย่างรู้ทันความคิดของอีกฝ่าย คงอยากได้ข้อมูลนั้นจนตัวสั่น ไม่ง่ายเลยกับการเข้าไปที่นั่นเพื่อเอาข้อมูลแล้วออกมาทั้งยังมีชีวิตรอด เพราะส่วนใหญ่คือกลับมาแบบเป็ศพ
“ลองคิดดูดี ๆ” สตีฟอยากให้อีกฝ่ายลองทบทวนข้อเสนอของเขาดูก่อน
“เสียเวลา” ซานโน่ตอบกลับแบบไม่ต้องคิด
“สรุปคือแกจะดื้อด้านไม่ให้ใช่ไหม?” สตีฟถามเสียงแข็ง
“ก็ไม่เห็นมีความจำเป็ หรือในนั้นมันจำเป็ โอ! ลืมไป ในชิฟอันนี้มันจำเป็สำหรับองค์กรนี่เน้อะ ว่าไหมครับอดีตบอส” ซานโน่พูดเย้าแย่ไม่ได้กลัวอีกฝ่ายสักนิด
“เตรียมตัวตั้งรับให้ดี ๆ ล่ะ” สตีฟพูดด้วยน้ำเสียงดุ
“หึ” ซานโน่แสยะยิ้มร้ายมุมปากแล้วกดวางสายทันที
ซานโน่นั่งมองศพที่นอนกองกับพื้นอย่างเบื่อหน่าย สำหรับเซอร์วิชใน่เช้าของวันนี้ตอนแรกก็ว่าจะใช้คารัมบิต แต่พอคิดไปคิดมาเดี๋ยวเืก็เปื้อนอีก ลำบากต้องทำความสะอาด เลยใช้มือจับมันหักคอเสียแทน ทำง่าย รวดเร็ว และสะอาด
“กรี๊ดดดดดดดดดดด !!!” เสียงกรีดร้องโวยวายดังมาจากชั้นล่าง
“มีคนะโตึก เรียกรถพยาบาลเร็ว” คนที่เดินผ่านไปมาต่างเข้ามามุงดู
“เกิดอะไรขึ้นครับ” ซานโน่ที่กำลังไปลานจอดรถก็ต้องเดินเข้าไปที่กลุ่มฝูงชนขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ
“ไม่ทราบเหมือนกันคะ ฉันกำลังจะออกจากตึกผู้ชายคนนี้ก็ะโลงมาพอดี” หญิงสาวผู้พบศพเป็คนแรกพูดขึ้นร้อนรนและเสียสติ ราวกับว่าเธอกำลังช็อคกับเหตุการณ์ตรงหน้า
“ใจเย็นก่อนนะครับ มีใครโทรหารถพยาบาลกับตำรวจหรือยัง?” ซานโน่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ห่างๆ
“โทรแล้วค่ะ โทรแล้ว”
“ครับ งั้นคุณไม่ต้องกังวลนะ”
สักพักตำรวจและรถพยาบาลก็มาถึง เก็บกู้ร่างไร้ิญญา ตำรวจได้ตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ สันนิษฐานว่าอาจเป็การคิดสั้นฆ่าตัวตายของผู้ตายเท่านั้น
่เย็นของวันซานโน่เดินเข้าร้านเบเกอรี่ใจกลางกรุงลอนดอน มีเ้าของร้านสุดหล่อยิ้มทักทายต้อนรับอย่างเป็มิตร
“รับอะไรดีครับ?”
“เค้กบลูเบอร์รี่ไส้เนยถั่วท๊อปด้วยสตอเบอรี่เคลือบด้วยช๊อคโกแลต”
ขนมที่เขาสั่งไปนั้นความจริงมันไม่มีเมนูนี้ในร้านหรอก เป็เพียงโค๊ทลับระหว่างเ้าของร้านและเขาเท่านั้น
“ได้ครับ งั้นเชิญทางนี้” ซานโน่เดินตามเ้าของร้านเข้าไปยังห้องลับที่อยู่ด้านหลัง ห้องนี้จัดได้ว่ามีมาตราการป้องกันดีเยี่ยม
ภายในห้องลับเป็คลังแสงขนาดย่อมแต่ก็มีอาวุธแทบทุกประเภท แต่ก็ไม่เท่ากับคลังใหญ่ที่เขาเคยไปเยือน 2-3 ครั้งเมื่อหลายปีก่อน
“วันนี้คุณรับอะไรดีครับ?”
“Colt m1911 สีดำ” ซานโน่บอกสินค้าที่ตัวเอง้า
“ครับ นี่ครับ ว่าแต่ทำไมวันนี้เลือกรุ่นนี้ ปกติคุณไม่ใช้?” เ้าของร้านยื่นปืนให้ซานโน่พร้อมถามอย่างแปลกใจเพราะส่วนใหญ่ลูกค้าประจำของเขาคนนี้มักจะมาซื้อคารัมบิตหรือไม่ก็ไรเฟิลเสียมากกว่า
“ไม่ทำไม” ซานโน่ลูบปืนที่อยู่ในมือมองอย่างพิจารณา
“่นี้คุณดูยุ่ง ๆ นะครับ” เ้าของร้านถามปนหยอกล้อแต่อดห่วงไม่ได้ อย่างน้อยก็ทำธุรกิจกันมานาน
“อืม แลกมาซึ่งอิสระ” ซานโน่ตอบแบบไม่ได้ใส่ใจนัก
“ผมรับจ้างเก็บกวาดนะ ถ้าคุณสนใจ” เ้าของร้านบอกอย่างขำขัน เขารู้ว่าซานโน่จัดการเองได้แต่เขาเองก็พร้อมช่วยเสมอ
“ยังไม่ถึงขั้นต้องใช้บริการร้านคุณหรอกเวสเตอร์” ซานโน่ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“ครับ ผมก็คิดว่าอย่างนั้น”
“ไว้จะมาใหม่” ซานโน่เอ่ยลาพร้อมยื่นเงินให้
“ขอบคุณครับ แล้วมาใช้บริการอีกน่ะครับ”
เวสเตอร์มองลูกค้าสุดหล่อเดินออกจากร้านจนลับสายตา ในสายตาเขาซานโน่ก็ยังคงเป็คนที่เ็าและพูดน้อยเหมือนเดิมั้แ่วันแรกที่เจอ ที่เปลี่ยนไปคือหล่อขึ้น หลาย ๆ อย่างในตัวทำให้ซานโน่ดูมีเสน่ห์น่าดึงดูด ความจริงไม่ใช่ซานโน่หรอกที่น่าเป็ห่วง เขาคิดว่าองค์กรต่างหากที่กำลังตกที่นั่งลำบากไม่น้อยหากทำให้ซานโน่โกรธ
เวสเตอร์คือพ่อค้าอาวุธที่ถือว่าไว้ใจได้ในระดับหนึ่งแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เขาไม่เคยฝักใฝ่ฝ่ายใดหรือเข้าพวกไหน ตระกูลของเวสเตอร์เป็ตระกูลค้าอาวุธมาอย่างยาวนานมีอิทธิพลพอตัวอยู่เหมือนกัน ส่วนร้านเบเกอรี่นั้นเป็ของภรรยาที่มีคลังแสงอยู่ในห้องลับด้านหลัง ซานโน่รู้จักกับเวสเตอร์ั้แ่เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ทั้งคู่ติดต่อซื้อขาย และบางครั้งก็ช่วยเหลือกันและกัน
ซานโน่เดินออกจากร้านเบอเกอรี่ชื่อดัง ตรงกลับคอนโดไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปยังไนท์คลับแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ดนตรีเปิดคลอเบา ๆ บวกกับเหล้าที่อยู่ในมือทำให้เขาผ่อนคลาย
“นี่ของคุณครับ” บริกรหนุ่มเดินมาที่โต๊ะแล้วเสิร์ฟเครื่องดื่ม
“ผมไม่ได้สั่ง” ซานโน่พูดขึ้นเมื่อเห็นชนิดของเครื่องดื่มเพราะเขาดื่มแค่ออนเดอะร๊อคเท่านั้น และเขาก็มีเครื่องมืออยู่ในมือ
“คุณผู้หญิงท่านนั้นสั่งให้คุณครับ” บริกรหนุ่มรีบบอก พอหันตามไปก็เจอหญิงสาวสุดสวยคนหนึ่งในชุดเดรชสีแดงสดยื่นแก้วของตัวเองขึ้นเพื่อเป็การทักทาย
“ครับ” ซานโน่ยกแก้วขึ้นมาถือเอาไว้แล้วยกแก้วขึ้นทักทายหญิงสาวแสนสวยที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากเขามากนัก ก่อนจะยกเหล้าขึ้นดื่มในชั่วพริบตาเขาหย่อนเข็มขนาดเล็กลงไปในแก้วเมื่อเห็นว่าปกติก็เหล้ายกขึ้นดื่มจนหมดแก้ว
หญิงสาวคลี่ยิ้มหวานด้วยความดีใจเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เธอหมายปองไม่ได้ปฏิเสธเธอ
(เข็มชนิดพิเศษเมื่อตรวจหาสารพิษเรียบร้อยแล้วมันจะสลายหายไปเอง แต่หากเข็มยังคงอยู่เท่ากับว่าของชนิดนั้นมียาพิษ)
นั่งดื่มไปสักพักเธอก็ขอมานั่งด้วยซึ่งเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกมาด้วยกันที่ลานจอดรถเดินตรงไปที่ตรอกซึ่งอยู่ไม่ไกลจากรถมากนัก
“มาคะฉันจะพาคุณขึ้น์ รับรองว่าคุณจะติดใจไม่มีวันลืมเลยคะ” หญิงสาวผลักซานโน่พิงราบไปกับฝาผนัง ใช้มือข้างหนึ่งวางไปที่ฝาผนังคล่อมตัวของซานโน่เอาไว้ส่วนอีกข้างนิ้วเรียวก็ค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามหน้าอกแกร่งอย่างยั่วยวนพูดจาด้วยน้ำเสียงหวาน ๆ
“หึ ผมว่าน่าจะลงนรกมากกว่ามั้งครับคนสวย?” ซานโน่ไม่ได้ขยับหนีแม้แต่น้อย เธออยากจะทำอะไรเขาปล่อยให้เธอได้ทำเต็มที่ หญิงสาวยกยิ้มอย่างชอบใจ
“์สิค่ะ ก็เรากำลังจะสนุกกัน” หญิงสาวพูดต่อ มือเรียวลูบวน ๆ ไปที่แก่นกาย
“ผมว่าคุณอยู่นิ่ง ๆ จะดีกว่า” ซานโน่พูดขึ้นอีกครั้งพร้อมคารัมบิตที่จ่อตรงเส้นเืใหญ่ที่คอของหญิงสาวคนนั้น ทำให้เธอชะงักนิ่ง เงยหน้าขึ้นสบตากับั์ตาที่มีแต่ความเ็าและว่างเปล่า จิตสังหารที่แผ่กระจายไปทั่วทำให้เธอสั่นกลัวไม่น้อย
“ทำไม?” เธอถามอย่างไม่เข้าใจ เธอทำทุกอย่างอย่างเป็ปกติที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรที่เธอคิดว่าเขาจะรู้ตัว แต่แล้วทำไม่กัน หรือเธอพลาดอะไรไป
“หึ ไม่เห็นมีอะไรอยาก” ซานโน่ยกยิ้ม
“ตอนแรกฉันก็อยากขึ้น์กับคุณ ในเมื่อคุณรู้แล้ว ก็ตาย ๆ ไปซะ” ในเมื่อรู้ว่ายังไงอีกฝ่ายก็ไม่ปล่อยให้เธอรอดไปได้ เธอรีบใช้เข็มที่ซ่อนอยู่ในเสื้อออกมาหมายจะปักเข้าไปในส่วนใดก็ได้ของร่างกายซานโน่ แค่นิดเดียวอีกฝ่ายก็จะตาย เพราะเข็มที่เธอเตรียมเอาไว้เป็เข็มอาบยาพิษ แค่ 3 วินาทีก็ทำให้ร่างกายเป็อัมพาต ไปทั่วร่างและสิ้นลมหายใจในไม่กี่วินาทีต่อมา
“ฉึบ เธอสิตาย” คารัมบิตกรีดลงบนต้นคอขาวตัดเส้นเืใหญ่และหลอดลมในฉับเดียว เืไหลทะลักจำนวนมากเธอทิ้งเข็มโดยอัตโนมัติรีบใช้มือกุมาแทันที
“อึก” ร่างของหญิงสาวที่ไม่รู้จักชื่อร่วงหล่นลงพื้นไม่ต่างกับผลไม้ที่หล่นจากต้น ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็สิ้นใจ
หึ การเดินก็รู้ว่าถูกฝึกมา ธรรมชาติของมนุษย์ไม่มีมนุษย์คนไหนเขาเดินเป็จังหวะแบบเดียวกันเป๊ะ ๆ หากไม่ได้ถูกฝึกฝนมาเป็อย่างดี จริงอยู่ที่เธอทำทุกอย่างเป็ปกติ แต่ปฏิกิริยาของร่างกายไม่สามารถโกหกกันได้
ซานโน่ยกร่างสายลับสาวทิ้งไว้ที่กองขยะใกล้ ๆ เดินไปล้างมือที่หลังคลับแล้วกลับเข้าไปนั่งดื่มต่อราวกับว่าไม่เคยมีเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้เกิดขึ้น
สัปดาห์ที่ผ่านมาเขาฆ่าไปแล้วเกือบ 20 ศพ แต่ล่ะคนเข้าหาเขาด้วยวิธีที่แตกต่าง จะบอกว่าเซนต์ก็คงไม่ใช่ ต้องบอกว่าประสบการณ์มากกว่า ทำให้เขาสามารถแยกแยะได้ แม้เพียงปฏิกิริยาผิดปกติเล็กน้อยเขาก็รู้ได้ทันทีนั่นคือเหตุผลว่าทำไมตอนนี้เขายังมีชีวิตอยู่โดยไร้ซึ่งรอยขีดข่วน หรืออาจเป็เพราะองค์กรยังไม่ส่งนักฆ่าระดับสูงมาจัดการเขากันแน่
ปืนแต่ละชนิดของซานโน่คืออาวุธที่ผลิตโดยองกรค์แทบทั้งสิ้น ไม่แปลกที่จะอนุภาพทำลายล้างสูงและปกปิดเรียบเนียน อาวุธบางชนิดสามารถปลิดชีพเหยื่อโดยไม่มีร่องรอยใด ๆ หลงเหลืออยู่
ปืนไรเฟิลที่ซานโน่ชอบใช้ก็เช่นกัน เป็ปืนที่พัฒนาจากห้องสร้างอาวุธขององค์กร ซึ่งประสิทธิภาพของมันมีอนุภาพทำลายล้างสูง ยิงไกลได้ถึง 2.4 ไมล์ ตัวลำกล้องล๊อกเป้าสามารถคำนวณแรงลม ความชื้นได้ในตัวโดยที่ไม่ต้องมีคู่หูคอยชี้เป้า
นี่เป็อีกหนึ่งเหตุผลว่าทำไมที่ผ่านมา เขาทำงานคนเดียว
“Hi ! zero one เราเจอกันอีกแล้ว ”
“มีอะไร?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้