ธุรกิจอาหารว่างของจางชุ่ยและเซี่ยฉางเจิงได้เปิดเผยอย่างแจ่มแจ้งแก่ตระกูลเซี่ยแล้ว
เซี่ยต้าจวินยังคงหลบหนีการตำหนิติเตียนไม่พ้นเขาไม่กล้าไปหมู่บ้านชีจิ่งตามหาอดีตภรรยาและลูกสาวเพื่อเรียกผลผลิตแม่เฒ่าเซี่ยจึงให้เขาไปทำงานพิเศษเล็กน้อยหาเงิน ช่วยเซี่ยจื่ออวี้เก็บเงินค่ายังชีพเซี่ยต้าจวินไร้ปฏิกิริยาตอบรับใดๆ อย่างไรเขาก็ไม่มีความสามารถอื่นแต่กำลังกายนั้นไม่ขาดแคลน ในหมู่คนรุ่นหลานแม่เฒ่าเซี่ยรักใคร่เอ็นดูเซี่ยจื่ออวี้ที่สุดส่วนในลูกชายสามคน เธอรักมากที่สุดย่อมต้องเป็ลูกชายคนสุดท้องเซี่ยหงปิงแน่นอน
ก่อนเซี่ยต้าจวินจะออกจากบ้าน เขาได้ยินมารดาออกคำสั่งไว้
“หงปิงก็ไม่ต้องออกไปแล้ว พี่ใหญ่กับพี่รองไปกันหมดงานในไร่ในนาห่างคนไม่ได้”
เซี่ยหงปิงตอบตกลงอย่างสดชื่น
ตอนนี้ก็มิใช่ฤดูกาลเพาะปลูก ในไร่นาไม่มีงานหนักอะไรอากาศไม่หนาวไม่ร้อน เป็่เวลาที่สบายที่สุดในหนึ่งปีหญิงชราเซี่ยลำเอียงไม่น้อย แค่้าให้เซี่ยหงปิงได้ใช้ชีวิตผ่อนคลายสักพัก
ทำไมจางชุ่ยถึงหวังดีแก้สถานการณ์แทนเซี่ยต้าจวินกัน?
โทรเลขของเซี่ยจื่ออวี้ส่งกลับมาแล้วกำชับจางชุ่ยและเซี่ยฉางเจิงอย่าไปสนเื่เซี่ยเสี่ยวหลานชั่วคราวจางชุ่ยไม่้าให้คนในบ้านสนใจเซี่ยเสี่ยวหลานและหลิวเฟินกว่าสองแม่ลูกนี้จะถูกบังคับออกจากบ้านไปช่างยากเย็นเหลือเกิน หากเซี่ยต้าจวินและทั้งสองคนมีโอกาสได้กลับมาพบปะกันมากจนหลิวเฟินพาเซี่ยเสี่ยวหลานกลับตระกูลเซี่ยอีกจะทำอย่างไร?
สตรีวัยกลางคนที่หย่าร้างแล้ว มีลูกโตติดสอยห้อยตามไปอยู่บ้านแม่เซี่ยเสี่ยวหลานก็ตะกละี้เีและมักใหญ่เป็หนึ่งชีวิตของสองแม่ลูกไม่รู้ว่ายากเย็นแสนเข็ญเท่าไร!
ตระกูลเซี่ยไม่้าหลานสาวคนอื่นในสายตาของแม่สามีมองเห็นแต่จื่ออวี้นั้นย่อมดีที่สุดทั้งบ้านล้วนส่งเสียเซี่ยจื่ออวี้เล่าเรียน นี่ถึงเป็เป้าหมายของจางชุ่ย
มีความคิดเช่นนี้ แม้แต่เซี่ยหงเซี๋ยก็รู้สึกเอือมระอา
หญิงสาวอายุสิบกว่าปี สามารถแนะนำคู่ครองให้ได้แล้วก่อนจางชุ่ยจะไปในเมือง ก็ได้เกริ่นถึงเื่นี้กับแม่เฒ่าเซี่ย
เซี่ยหงเซี๋ยคือหลานสาวผู้ไม่โดดเด่นที่สุดในบ้านเซี่ยจื่ออวี้เรียนหนังสือเก่ง เซี่ยเสี่ยวหลานหน้าตาสะสวยส่วนเซี่ยหงเซี๋ยไม่เข้าเค้าทั้งสองด้าน ทว่าหวังจินกุ้ยและเซี่ยหงเซี๋ย้าเฟ้นหาคนมีคุณสมบัติดีสักคนเป็เอกฉันท์ถ้าแม่เฒ่าเซี่ยไม่พูดถึงเื่นี้ก็ไม่เท่าไร แต่ลองได้พูดถึงเื่แต่งงานของเซี่ยหงเซี๋ยขึ้นมาก็จะถูกหวังจิ้นกุ้ยหาข้ออ้างไว้จนได้
“จื่ออวี้ก็เป็นักศึกษาแล้ว หงเซี๋ยจะแต่งงานกับพวกบ้านนอกในชนบทตามมีตามเกิดไม่ได้หรอก! พี่สะใภ้ใหญ่ อนุญาตหงเซี๋ยไปทำงานจุกจิกในร้านเถอะค่าแรงก็จ่ายไปนิดหน่อยพอ หลักๆ คืออยู่ใกล้โรงเรียนไม่แน่ว่าหงเซี๋ยของบ้านเราอาจจะมีโชคดีอย่างอื่นบ้าง...”
รอยยิ้มบนใบหน้าจางชุ่ยเกือบดึงรั้งไว้ไม่อยู่
ร้านอาหารว่าง้าคนมากขนาดนั้นที่ไหน?
ขอตัวน้องชายกับภรรยามาช่วยงานได้นั่นก็เพราะจางชุ่ยต้องจุนเจือบ้านแม่ตนเอง
รูปลักษณ์ของเซี่ยหงเซี๋ยและเซี่ยเสี่ยวหลานห่างชั้นกันไกลโขแต่เื่ตะกละี้เีของสองสาวพี่น้องนี้กลับมีเท่าเทียมกันพอดี ต่อให้ร้านจะต้องจ้างคนมาทำงานก็ไม่มีทางจ้างเซี่ยหงเซี๋ย!
หญิงชราเซี่ยกลับรู้สึกสะกิดใจอยู่บ้าง
“ลุงใหญ่กับสะใภ้เขาก็ช่วยแล้ว หงเซี๋ยจะเอาค่าแรงอะไรอีก? สะใภ้ใหญ่ เธอพาหงเซี๋ยไปดูหน่อยสิถ้าน้องชายเธอ้าใช้งานเด็กมัน ก็ให้หลานอยู่ช่วยที่ร้านไป ดูแลแค่เื่กินก็พอแล้ว!”
เซี่ยหงเซี๋ยเบะปาก ไม่จ่ายเงินแต่ให้เธอทำงาน?
เธอดึงแขนของแม่เฒ่าเซี่ยไว้เพื่อออดอ้อนใจแม่เฒ่าเซี่ยคิดว่าเธอช่างหัวทึบเสียจริง ถ้าอยู่ที่ร้านจริงทุกคนล้วนเป็ญาติกัน อาของจื่ออวี้จะไม่ให้เงินค่าแรงได้หรือ?
“ถ้าหลานไม่อยากไป เช่นนั้นก็อยู่ที่บ้านนี่แหละ ค่อยๆ ดูตัวกับคนอื่นเขาไป”
เซี่ยหงเซี๋ยอ้าปาก หวังจิ้นกุ้ยจึงผลักเธอ “ฟังย่าลูกสิ! พี่สะใภ้ใหญ่หงเซี๋ยของฉันก็วานพี่แล้วนะ ถ้าไม่เชื่อฟังพี่กับพี่ใหญ่ไม่ต้องเกรงใจ ตีเธอหนักๆได้เลย!”
จางชุ่ยจุกอยู่ในอก
ตระกูลเซี่ยตอนนี้ยังคงเป็หญิงชราเซี่ยที่ติดสินใจทุกอย่างแม่สามีออกคำสั่งแล้วจางชุ่ยทำได้เพียงกล้ำกลืนฝืนทนพาเซี่ยหงเซี๋ยไปตัวเมืองด้วยกัน
ร้านอาหารว่างของจางชุ่ยนี้ทำเลดีเหลือเกิน
เขตอันชิ่งมีกลุ่มผู้บริโภคสองประเภทใหญ่หนึ่งคือคนจากโรงงานเครื่องจักรเกษตรและโรงงานเนื้อสัตว์ สองคือนักเรียนที่เรียนหนังสือ
เซี่ยนอีจงคือโรงเรียนมัธยมปลายที่ดีที่สุดในเขตอันชิ่ง
ผลการเรียนสมัยมัธยมต้นของเซี่ยจื่ออวี้ไม่ได้ดีจบมัธยมต้นแล้วยังเรียนซ้ำอีกหนึ่งปีถึงสอบติดเซี่ยนอีจงเดิมทีอายุขณะเรียนหนังสือก็ไม่น้อยแล้ว ปีนี้เข้ามหาวิทยาลัยกจึงอายุ 20 ปีแล้ว... ขนาด ‘นักเรียนดีเด่น’ เช่นเซี่ยจื่ออวี้คนนี้ยังต้องเรียนซ้ำถึงจะสอบติดเซี่ยนอีจงโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ถูกคนเมืองในมณฑลเหยียดหยามแต่สำหรับเขตอันชิ่งรวมไปถึงอีกหลายเขตโดยรอบถือว่าเป็โรงเรียนที่ดีมากแห่งหนึ่ง
นักเรียนของเซี่ยนอีจงส่วนหนึ่งฐานะค่อนข้างย่ำแย่อีกส่วนหนึ่งกลับไม่เลวร้าย เงินจำนวนมากไม่มี แต่ให้จ่ายแค่ค่าอาหารว่างยังพอควักเงินได้
ร้านอาหารว่างที่จางชุ่ยเปิดเกิดจากการฟังคำแนะนำของเซี่ยจื่ออวี้เลือกสถานที่บริเวณหน้าประตูเซี่ยนอีจง แม้ห่างจากประตูใหญ่ของโรงเรียนสามสิบเมตรแต่สะดวกต่อคนงานที่เข้าและเลิกงาน ไปทางซ้ายคือโรงงานเนื้อสัตว์ไปทางขวาคือโรงงานเครื่องจักรเกษตร นี่ก็คือทางแยกที่ฝูงชนมากันเหมือนท่าเรือทำการค้าขายที่ทรงคุณค่า ธุรกิจจะไม่เฟื่องฟูได้อย่างไร?
เซี่ยหงเซี๋ยสวมเสื้อผ้าที่ดีที่สุดของตนเองตามจางชุ่ยเดินทางเข้าตัวเมือง
ป้ายร้าน ‘จางจี้อาหารว่าง’ เห็นได้ั้แ่ไกลลิบ เทียบกับแผงอาหารว่างเ่าั้แล้วร้านอาหารว่างจางจี้จำนวนสองคูหาดูใหญ่โตโอ่อ่ามาก
มันก็ไม่ใช่ริเริ่มแล้วโอ่อ่าเช่นนี้เลย ตอนแรกจางชุ่ยและเซี่ยฉางเจิงมีต้นทุนน้อยเซี่ยจื่ออวี้เรียนหนังสือที่โรงเรียนไม่จำเป็ต้องให้จางชุ่ยดูแลด้วยซ้ำเธอก็แค่จัดแผงขายข้างนอก ผ่านการพัฒนาไปสามปี จางจี้ถึงได้มีขนาดเท่าปัจจุบันจากแผงลอยเล็กๆ ในตอนแรกจนกลายเป็หน้าร้าน จากจางชุ่ยยุ่งวุ่นวายอยู่คนเดียวจนจ้างอาของเซี่ยจื่ออวี้และอาสะใภ้มาช่วยงาน...จางชุ่ยมองร้าน ‘จางจี้อาหารว่าง’ จิตใจเบิกบานเสียจริงๆ
“พี่สะใภ้ พี่มาแล้วหรือ ครึ่งเดือนมานี้...”
น้องสะใภ้ของจางชุ่ยเดินออกมา ตั้งใจจะอวดผลงานต่อหน้าจางชุ่ยรวมถึงจะรายงานสถานการณ์ธุรกิจใน่ที่ผ่านมาด้วย
เมื่อเห็นเซี่ยหงเซี๋ย เธอก็หุบปากทันที
“หงเซี๋ยลูกสาวสะใภ้สาม เธอก็ไม่เจอมาหลายปีแล้วสินะ?”
“อาสะใภ้ ฉันคือหงเซี๋ยเอง!”
น้องสะใภ้ของจางชุ่ยกลืนคำพูดลงท้องไป ก่อนหน้านี้เคยตกลงกันแล้วถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่น ห้ามพูดว่าจางชุ่ยคือเถ้าแก่เนี้ย
เซี่ยหงเซี๋ยต้องเป็คนนอกอยู่แล้ว
“หงเซี๋ยโตขนาดนี้แล้วหรือ? ยังไม่ได้กินอะไรสินะ เข้ามานั่งก่อน เดี๋ยวอาเอาซาลาเปาให้เธอสองลูก”
เธอดันเซี่ยหงเซี๋ยเข้าร้านพลางมองจางชุ่ย
จางชุ่ยถอนหายใจ “ย่าของจื่ออวี้บอกว่าเซี่ยหงเซี๋ยอายุไม่น้อยแล้วอยากให้หลานมาช่วยงานในร้าน ฉันก็ไม่รู้ว่าพวกเธอหาคนอยู่หรือไม่ เลยพาเขามาสักหน่อย”
เซี่ยหงเซี๋ยก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเอง สายตาแอบจับจ้องสภาพการณ์ภายในร้าน
ร้านสองคูหาจัดโต๊ะไว้เจ็ดแปดตัว บนผนังติดรายการราคาหลากหลาย่เวลาเร่งรับประทานเร่งด่วนของตอนเช้าได้ผ่านไปแล้วบนโต๊ะจึงกองด้วยชามและตะเกียบที่เก็บไม่ทัน
“อาสะใภ้ ให้ฉันอยู่เถอะ ฉันรับรองว่าจะตั้งใจทำงาน”
เซี่ยหงเซี๋ยมีความฉลาดเฉลียวเล็กๆน้องสะใภ้ของจางชุ่ยเรียกเธอกินซาลาเปา เซี่ยหงเซี๋ยไม่ได้ฟังอีกทั้งกลับถกแขนเสื้อไปทำงานแล้ว
น้องสะใภ้ของจางชุ่ยไม่อาจไล่เธอออกไปได้
ใจของน้องสะใภ้จางชุ่ยก็มีความสงสัยปนริษยา คงไม่ใช่เพราะพี่สะใภ้ไม่วางใจให้เธอและสามีดูแลร้านมิใช่ว่าจงใจพาแมวมองจากตระกูลเซี่ยมาหรือ?
น้องสะใภ้ของจางชุ่ยแซ่เจียง ชื่อเจียงเหลียนเซียง
ธุรกิจร้านอาหารว่างเป็ไปด้วยดีทุกวันจะมีเงินสดผ่านจากมือของเจียงเหลียนเซียงและสามีโดยเฉพาะเมื่อจางชุ่ยกลับหมู่บ้านต้าเหอไปครึ่งเดือนในมือเจียงเหลียนเซียงและสามีจางหม่านฝูสามารถฉวยเงินบางส่วนได้เจียงเหลียนเซียงกระหายให้พี่สาวสามีอยู่ในชนบทตลอดไปอย่าได้กลับมาร้านจางจี้อาหารว่างอยู่ในกำมือ ช่างเป็แม่ไก่ทองคำที่ออกไข่ได้จริงๆ
ด้วยความสงสัยเจือริษยาเช่นนี้ เจียงเหลียนเซียงจึงไม่สะดวกจะออกปากไล่เซี่ยหงเซี๋ยไป
จางชุ่ยครุ่นคิด น้องสะใภ้คนนี้ไม่ฉลาดเอาเสียเลยถ้าตัวเองทำตัวร้ายกาจปฏิเสธเซี่ยหงเซี๋ยไม่ได้เจียงเหลียนเซียงโกหกมั่วซั่วไปเรื่อยสองประโยคก็พอแล้วไม่ใช่หรือ? ถ้ามิใช่เพราะเห็นแก่น้องชายของเธอจางหม่านฝู เธอจะวานเจียงเหลียนเซียงมาช่วยงานได้อย่างไร!
เซี่ยฉางเจิงมาก่อนจางชุ่ยไปหนึ่งวันเขาไปจับจ่ายวัตถุดิบที่ร้านอาหารว่างต้องใช้ั้แ่เช้าตรู่กลับมาร้านเห็นเซี่ยหงเซี๋ย เซี่ยฉางเจิงลองคิดๆ ดูและติดสินใจรับเซี่ยหงเซี๋ยไว้
เซี่ยหงเซี๋ยทั้งเกียจคร้านทั้งตะกละ ทว่าก็ยังเป็คนสกุลเซี่ย
ป้ายร้านอาหารว่างคือจางจี้ ในใจเซี่ยฉางเจิงรู้เหตุผลดีอยู่แล้วแต่ยังคงรู้สึกไม่ค่อยดีนัก น้องชายภรรยาจางหม่านฝูถอนขนห่านที่ผ่านมือเซี่ยฉางเจิงรับเซี่ยหงเซี๋ยเอาไว้ ทำให้จางหม่านฝูกับภรรยามีความเกรงกลัวบ้างดังนั้นด้วยปัจจัยต่างๆ เซี่ยหงเซี๋ยจึงได้คอยช่วยงานอยู่ร้านขายอาหารว่างแม้เซี่ยฉางเจิงจะรับหลานสาวไว้ แต่ก็เป็ผีขี้เหนียวไม่มีใครเคยเอ่ยว่าจะให้เงินเดือนแก่เซี่ยหงเซี๋ยเลย
เซี่ยหงเซี๋ยตรากตรำได้เพียงหนึ่งวันก็ออกลายเดิมเสียแล้วทำงานเชื่องช้าเฉื่อยชา ทว่าปากคอนั้นอ่อนหวานไม่เบาโดยเฉพาะกับนักเรียนชายจากเซี่ยนอีจงที่มารับประทานอาหารว่าง เธออัธยาศัยดีอย่างถึงที่สุด!