ธุรกิจของร้านเชียนตันฟางครอบคลุมทุกซอกทุกมุมของอาณาจักรซินโยว เรียกได้ว่าเป็หนึ่งในสี่ร้านขายยารายใหญ่ในวงการปรุงยาเลยก็ว่าได้
รองผู้จัดการซุนอวิ๋นเฉิงที่กำลังอารมณ์ดีรีบเดินมาออกมาทันที เขาชื่นชอบการค้าขายล็อตใหญ่ เพราะจะทำให้เงินปันผลของเขาก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ซุนอวิ๋นเฉิงนั้นชอบทั้งตั๋วเงินและเหรียญทอง หรือแม้แต่หินิญญาก็ยังชอบ! ขอเพียงเกี่ยวข้องกับเงินๆทองๆแล้วเขาล้วนชอบทั้งนั้น!
แต่เมื่อเปิดประตูออกมา ก็พบเด็กหนุ่มอายุประมาณสิบสี่ย่างสิบห้าปี กำลังยืนอยู่ในห้องรับรองแขกอันหรูหราของเขา!
ลูกค้ารายใหญ่อยู่ที่ใดกัน? หรือว่าจะเป็เ้าเด็กน้อยนี่งั้นหรือ?
“ข้าชื่อซุนอวิ๋นเฉิง เป็รองผู้จัดการของร้านเชียนตันฟาง ไม่ทราบว่าอาจารย์ของเ้าอยู่ที่ไหนหรือ?” ซุนอวิ๋นเฉิงพูดพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย
เซียวหลิงอวิ๋นยิ้มอย่างใจเย็นและพูดเข้าประเด็นทันที "ข้ามีตำรับตำรับปรุงยาวิเศษอยู่ เป็ตำรับยาที่หายไปั้แ่ยุคโบราณ ข้าจึงอยากจะขอความร่วมมือกับร้านเชียนตันฟางของท่าน ข้าจะให้ตำรับยานี้แก่ท่าน ทว่าท่านต้องรับผิดชอบในการหาวัตถุดิบวัตถุดิบยาทั้งหมด แล้วเราจะแบ่งผลกำไรที่ได้กันครึ่งต่อครึ่งเป็อย่างไร!”
ตำรับยาตำรับเดียว แต่กลับขอส่วนแบ่งถึงครึ่งหนึ่ง นี่มันจะมากเกินไปแล้ว!
ทันใดนั้นใบหน้าของซุนอวิ๋นเฉิงพลันมืดดำลงทันที ร้านเชียนตันฟางดำเนินธุรกิจนี้มาเป็เวลาหลายพันปีแล้ว และตำรับยาวิเศษที่เขาได้มานั้นก็ไม่ใช่แค่สิบเดียว แต่ได้มาเป็ร้อย มีเพียงไม่กี่ตำรับยาเท่านั้นที่มีมูลค่าเพียงพอที่จะจ่ายเป็ส่วนแบ่งครึ่งหนึ่ง เ้าหนุ่มนี่คิดจะมาเล่นตลกกับข้างั้นหรือ?
หากไม่ใช่เพราะว่าเซียวหลิงอวิ๋นสวมเครื่องแบบศิษย์จากสำนักิญญาเมฆา ซุนอวิ๋นเฉิงคงตบหน้าเขาไปแล้ว!
“ฮ่าๆ น้องชาย เื่ของการค้าขายตำรับยาเนี่ย อย่าว่าแต่ทั้งเชียนตันฟางเลย เฉพาะผ่านมือข้าก็มีมาเป็สิบตำรับยาแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็การซื้อขายครั้งเดียวทั้งนั้น การขอส่วนแบ่งครึ่งต่อครึ่งและให้ร้านเรารับผิดชอบค่าวัตถุดิบยาให้ทั้งหมดเช่นนี้ ไม่เคยมีมาก่อน!”
“ดูเหมือนว่ารองผู้จัดการซุนคงไม่อยากทำธุรกิจนี้ ไม่เป็ไร เดี๋ยวข้าจะไปที่ร้านขายยาซื่อไห่แทน!” เซียวหลิงอวิ๋นกล่าวแล้วก้าวขาจะเดินจากไป!
“ประเดี๋ยวก่อนน้องชาย เ้าช่วยแสดงใบสั่งยาของเ้าให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่” เนื่องจากฉุกคิดอะไรบางอย่างได้ ซุนอวิ๋นเฉิงจึงพยายามรั้งให้อีกฝ่ายอยู่ต่อ หากว่าตำรับยานี้เป็ของจริง มันจะไม่กลายเป็ข้อได้เปรียบกับร้านยาซื่อไห่อันเป็คู่แข่งมาช้านานหรอกหรือ อย่างน้อยๆ ก็ขอให้เห็นก่อน แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีก็ย่อมได้!
“ตำรับยาหรือ? ได้สิ แต่ข้าเกรงว่าท่านอาจจะไม่เข้าใจก็ได้นะ รองผู้จัดการซุน!” เซียวหลิงอวิ๋นหยิบตำรับยาออกมาจากในกระเป๋าของตนอย่างไม่หวงแล้วยื่นให้!
ตำรับยานี้เขียนเอาไว้แค่วัตถุดิบยาที่ต้องใช้ ส่วนปริมาณและวิธีการปรุงยานั้นไม่มีระบุเอาไว้เป็ลายลักษณ์อักษร จึงไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะขโมยตำรับยาไป!
หลังจากรับตำรับยามาดูแล้ว ซุนอวิ๋นเฉิงยิ่งขมวดคิ้วหนักขึ้นไปอีก
มีแค่กระดาษและตัวหนังสือ นี่แค่หยิบกระดาษขึ้นมาสักแผ่นแล้วเขียนชื่อวัตถุดิบยาิญญาลงไปอย่างส่งเดชไม่ใช่รึไง? แบบนี้ยังจะเรียกว่าตำรับยาโบราณได้อีกหรือ?
เ้าเด็กโง่ หากคิดจะหลอกคน อย่างน้อยก็ควรใช้ม้วนหนังแกะสิ หากไม่มีม้วนหนังแกะ อย่างน้อยๆก็ควรจะใช้แผ่นกระดาษโบราณก็ยังดี นอกจากนี้ตัวหนังสือจะต้องเขียนอย่างประณีตและทรงพลัง ราวกับมีัและวิหคเพลิงออกมาเริงระบำได้ และจะต้องเขียนด้วยตัวอักษรโบราณด้วย!
การโกหกของเ้าเด็กนี่ชักจะฉาบฉวยเกินไปแล้ว!
ความโกรธเพิ่มขึ้นในใจเขา ขณะเงยหน้ามองที่เซียวหลิงอวิ๋น นึก้าที่จะต่อว่าอีกฝ่าย แต่ทันทีที่ดวงตาของเขาััได้ถึงการจ้องมองที่เยือกเย็นและเฉยเมยต่อท่าทีของเซียวหลิงอวิ๋นแล้ว ก็ทำให้อารมณ์โกรธส่วนใหญ่ในใจหายไปทันที ในขณะที่ในสมองของเขากำลังทำงานก็โพล่งออกมา "หมอยาหวัง ท่านช่วยมานี่หน่อย"
ไม่นานนักก็ชายชรารีบเดินเข้ามาดูตำรับยา ‘โบราณ’ แล้วกล่าวอย่างมั่นใจด้วยน้ำเสียงของผู้เชี่ยวชาญ "รองผู้จัดการ ข้าไม่เคยได้ยินหรือพบเห็นตำรับยาเช่นนี้มาก่อน ส่วนสรรพคุณของยาจะสามารถบำรุงร่างกายได้หรือไม่นั้น คงมีเพียงเ้าของตำรับยานี้เท่านั้นที่จะรู้ได้ แต่สิ่งเดียวที่ข้ามั่นใจคือ นี่เป็ตำรับยาของปลอมอย่างแน่นอน!”
ของปลอม! ชายชรามองมาที่เซียวหลิงอวิ๋นด้วยสายตาเหยียดหยาม เผยให้เห็นถึงคำว่า ‘ของปลอม’ อย่างไม่ปิดบังใดๆ!
“ของปลอมงั้นหรือ ฮ่าๆ เ้าก็แค่หมอยาชั้นต่ำที่สรุปแบบคิดทึกทักเอาเองว่าตำรับยานี้เป็ของปลอมโดยดูจากตัวหนังสือบนกระดาษ ข้าบอกได้คำเดียว ว่าเ้าเป็เพียงกบในบ่อน้ำที่ไม่รู้ว่าโลกนี้กว้างใหญ่กว้างใหญ่แค่ไหน”
กบในบ่อน้ำ! เคราแพะของหมอยาหวังกระตุกลุกชันด้วยความโกรธ กล่าวด้วยเสียงอันดังสนั่น "เ้าเด็กนี่ มันจะมากไปแล้วนะ คิดหลอกร้านเชียนตันฟางของเราด้วยตำรับยาจอมปลอมนี่ อย่าได้คิดว่าด้วยฐานะของเ้าที่เป็ถึงศิษย์ของสำนักิญญาเมฆาจะสามารถปกป้องเ้าได้ ข้าจะบอกให้รู้เอาไว้ วันนี้อย่าว่าแต่ศิษย์ของสำนักเลย ต่อให้เ้าเป็อาจารย์ในโรงเรียนมาเอง ข้าก็จะจับเ้าสั่งสอนเสีย เด็กๆ! รีบมาช่วยกันจับเ้าโจรน้อยนี่เร็ว!”
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าหมอยาแซ่หวังคนนี้มีอำนาจมากภายในร้านเชียนตันฟาง หลังจากออกคำสั่งไป มีทหารยามที่ทั้งตัวสูงและแข็งแรงสองคนรีบเข้ามาทันที!
“ฮ่าฮ่า ช่างกล้าเสียจริงที่จะจับกุมศิษย์สำนักเราไปสั่งสอน!” เสียงราบเรียบดังขึ้น!
“หยุดเดี๋ยวนี้!” เสียงะโดังสนั่นตามมาแทบจะพร้อมกัน!
เมื่อทหารยามทั้งสองคนที่กำลังรีบวิ่งไปหาเซียวหลิงอวิ๋นได้ยินเสียงะโดังสนั่นนี้แล้ว พวกเขาก็พากันตัวสั่น รีบหดมือที่เหยียดออกมาทันที
ก่อนจะพากันเดินถอยออกไปด้วยความอ้ำอึ้ง!
หลังจากนั้นก็มีชายสองคนเดินเข้ามา!
“คารวะท่านปรมาจารย์ คารวะผู้จัดการสาขา!” ซุนอวิ๋นเฉิงและหมอยาหวังต่างโค้งคำนับให้!
หืม ชายร่างอ้วนที่ยืนอยู่ทางซ้าย คือผู้าุโจ้าวเหวินจัวที่ประจำอยู่หอยาวิเศษของสำนักไม่ใช่หรือ? ตาอ้วนจ้าวคนนี้เป็คนใหญ่คนโตในสำนัก ชนิดที่ว่าแม้แต่ชื่อถิงเทียนเ้าสำนักิญญาเมฆายังเรียก ‘ศิษย์พี่จ้าว’ ด้วยความนับถือ
เซียวหลิงอวิ๋นจึงไม่รอช้ารีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อทักทาย "คารวะท่านผู้าุโ!"
“ดี!” จ้าวเหวินจัวพยักหน้าตอบ แล้วจ้องไปที่หมอยาหวังด้วยดวงตาหรี่เล็กของเขา อย่างหนาวเย็น: "ไหน ใครที่เพิ่งบอกว่าจะจับศิษย์ของสำนักเราไปสั่งสอนมิทราบ?"
เมื่อเผชิญหน้ากับจ้าวเหวินจัวที่เป็ถึงปรมาจารย์แล้ว เหงื่อบนใบหน้าของหมอยาหวังที่ยังไม่แม้แต่จะเปิดเส้นชีพจริญญาของตนเองได้ ก็เหงื่อออกเต็มใบหน้าและรีบก้มหน้าลงไปทันที "ระ...เรียนท่านปรมาจารย์ ศะ...ศิษย์ตัวน้อยจากสำนักของท่านเอาตำรับยาปลอมมา..."
“ตำรับยาปลอม? เ้าบอกได้อย่างนั้นหรือ?”
หมอยาหวังรีบลงไปก้มหัวคำนับ: "ขะ...เขาบอกว่ามันเป็ตำรับยาโบราณ..."
“ศิษย์คนนี้ ไหนเ้าลองเอาตำรับยานั้นมาหาข้าดูหน่อยซิ!”
จ้าวเหวินจัวมองไปยังตำรับยาวิเศษที่เซียวหลิงอวิ๋นส่งให้ และขมวดคิ้วเล็กน้อย: ยาบำรุง [หยกไหมไหมโลหิต] ข้าไม่เคยได้ยินยาบำรุงชื่อนี้มาก่อน แต่เป็ยาโบราณไม่ผิดแน่ เ้าเด็กคนนี้ไม่น่าล่วงรู้ด้วยตนเองได้ แต่ไม่ว่ามันจะเป็ของจริงหรือไม่ ก็ไม่ควรที่จะมาที่ร้านอย่างเชียนตันฟางนี่!
“เ้าปรุงยาบำรุง [หยกไหมโลหิต] นี้ขึ้นได้อย่างนั้นหรือ?” ทันทีที่จ้าวเหวินจัวกล่าวเช่นนี้ออกมา เขาก็รู้สึกว่าคิดผิด เพียงมองผ่านๆ เขาก็มองออกได้ทันทีว่าเซียวหลิงอวิ๋นคนนี้เป็แค่เพียงนักยุทธ์ระดับสี่ คนในระดับนี้จะปรุงยาวิเศษขึ้นมาได้อย่างไร เขาควรจะถามอีกฝ่ายว่ารู้วิธีปรุงยานี้หรือไม่ต่างหาก
“ข้าปรุงได้!” เซียวหลิงอวิ๋นพยักหน้า!
เขาปรุงได้! จ้าวเหวินจัวเบิกตากว้าง!
“ให้คนเอาวัตถุดิบยาิญญาตามตำรับนี้มาเอามาอย่างละห้าชุดเลย ไม่สิ ไปเอามาให้อย่างละสิบชุด!” แม้จะอยู่ในฐานะแขก จ้าวเหวินจัวก็ยังออกคำสั่งโดยไม่ลังเล!
วัตถุดิบยาอย่างละสิบชุด เซียวหลิงอวิ๋นดีใจมาก! เมื่อมองไปที่ใบหน้าอ้วนท้วนของจ้าวเหวินจัวแล้ว ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกน่ารักมากขึ้นไปอีก!
หนึ่งชั่วยามต่อมา เซียวหลิงอวิ๋นก็เดินออกไปพร้อมกับขวดยาขวดเล็กสามขวด!
เขามอบขวดยาวิเศษขวดหนึ่งให้กับผู้จัดการสาขา อีกหนึ่งขวดให้กับจ้าวเหวินจัว และขวดสุดท้ายเก็บเอาไว้ในแขนเสื้อของตนเอง!
“ยาบำรุง [หยกไหมโลหิต] นี้ช่างคู่ควรแก่การเป็ยาวิเศษโบราณจริงๆ ไม่เพียงแต่วัตถุดิบยาจะราคาถูกกว่ายาบำรุงร่างกายที่ขายกันตามท้องตลาดเท่านั้น แต่ประสิทธิภาพของมันยังดีกว่าถึงสามส่วน ลำพังประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นมาถึงสามส่วนนี้ก็สามารถทำให้นักยุทธ์มีร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้น และสามารถทนต่ออาการเ็ปได้มากขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสในการเปิดเส้นลมปราณได้สำเร็จมากขึ้นไปอีก เมื่อใดที่ยา [หยกไหมโลหิต] นี้วางขายในตลาด จะต้องทำให้เกิดพายุโหมในหมู่นักยุทธ์ขึ้นแน่ๆ และภายในไม่กี่ปียาบำรุง [หยกไหมโลหิต] นี้ก็จะครองพื้นที่ตลาดยาบำรุงร่างกายทั้งหมดแน่! ถึงเวลานั้นนี่จะไม่ใช่เพียงยาบำรุงสำหรับนักยุทธ์เท่านั้น แต่ในอนาคตทั่วทั้งอาณาจักรซินโยวของเราก็จะเข้าสู่ยุคทองของการบำเพ็ญเพียร เพราะยา [หยกไหมโลหิต] นี้!”
ทั้งผู้จัดการสาขา, รองผู้จัดการ และหมอยาหวังล้วนพากันตกตะลึง การที่เซียวหลิงอวิ๋นสามารถปรุงยาบำรุงร่างกายนี้ขึ้นมาได้ทำให้พวกเขาใมากพออยู่แล้ว แต่สิ่งที่จ้าวเหวินจัวกล่าวเมื่อสักครู่นี้ทำให้ทั้งสามคนต้องตกตะลึงโดยสิ้นเชิง
ครั้นทั้งสามกลับมามีสติอีกครั้ง ก็มองไปที่ขวดยา [หยกไหมโลหิต] ทันใดนั้นดวงตาของพวกเขาก็เปล่งแสงสว่างวาบทันที!
ยาวิเศษ!
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสามารถในการครองตลาดยาบำรุงทั้งหมดของยาบำรุง [หยกไหมโลหิต] นี้ ซึ่งจะสามารถเพิ่มโอกาสที่นักยุทธ์จะสามารถเปิดเส้นลมปราณ กระทั่งกลายเป็ผู้บำเพ็ญเพียรที่แท้จริงของโลกใบนี้ได้!
หรือว่านี่คือ? ยาวิเศษ ยาวิเศษที่แท้จริง!
ในอาณาจักรซินโยวแห่งนี้ พลังิญญาฟ้าดินค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ ทำให้แทบทุกคนสามารถบรรลุจนไปถึงขอบเขตของนักยุทธ์ระดับเก้าได้ แต่ผู้ที่สามารถเปิดเส้นชีพจริญญา สร้างการไหลเวียนของพลังิญญา และกลายเป็ผู้ใช้พลังิญญาอย่างแท้จริงนั้นหาได้ยากยิ่ง!
หยิบยกสำนักิญญาเมฆามาเป็ตัวอย่างก็ได้ เหล่าศิษย์ที่มาอยู่ที่นี่ล้วนถูกเลือกเฟ้นมาเป็อย่างดี แต่จากจำนวนศิษย์ทั้งหมดหกหมื่นถึงเจ็ดหมื่นคน กลับมีผู้ใช้พลังิญญาไม่ถึงห้าร้อยคนด้วยซ้ำ!
มีคนจำนวนมากที่เต็มใจใช้ทรัพย์สินทั้งหมดของตนเพียงเพื่อเปิดเส้นชีพจริญญานี้! เพื่อให้ตนกลายเป็ผู้ใช้พลังิญญา!
ในอาณาจักรซินโยวแห่งนี้ประกอบไปด้วยหลายสิบแคว้นทั้งเล็กและใหญ่ และยังมีแว่นแคว้นเล็กๆ อีกมากมาย แม้แต่ระดับแม่ทัพยังเป็เพียงผู้ใช้พลังิญญาระดับสูงเท่านั้น! หากระดับปรมาจารย์อย่างจ้าวเหวินจัวคิดเข้าสู่ทางโลกแล้ว ต่อให้เป็เ้าเมืองของแคว้นใหญ่ๆ อย่างแคว้นมู่อวิ๋นหรือแคว้นต้าเซี่ยก็ยังยินดีที่จะต้อนรับเขา!
“นี่ น้องชาย ร้านเราตกลงกับคำขอของเ้านะ เชียนตันฟางของเรายินดีตกลงส่วนแบ่งครึ่งต่อครึ่ง และจะรับผิดชอบในส่วนของวัตถุดิบยาทั้งหมดด้วย เ้าสามารถลงนามในสัญญากับร้านเราได้ทันที!” ซุนอวิ๋นเฉิงมองเซียวหลิงอวิ๋นด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“ครึ่งต่อครึ่ง ช่างไร้ยางอายสิ้นดี ตำรับยาวิเศษเช่นนี้ถือเป็สมบัติล้ำค่าเจ็ดต่อสามหรือแปดต่อสองก็ยังไม่ถือว่ามากเกินไปเลย!” ก่อนที่เซียวหลิงอวิ๋นจะทันได้พูดต่อ จ้าวเหวินซัวก็โพล่งออกมาก่อน ราวกับแม่แก่ที่ออกมาปกป้องลูกไก่!
“ลงนามในสัญญาหรือ พวกท่านจะลงนามในสัญญากับตำรับยาปลอมงั้นหรือ” เซียวหลิงอวิ๋นยังไม่ลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ เขาคลี่ยิ้มบาง พลางเอ่ยตบหน้าอีกฝ่าย!
“อะแฮ่ม น้องชาย ตัวข้าช่างตามืดบอดและโง่เขลายิ่งนัก ต้องขอโทษน้องชายด้วยจริงๆ!” หมอยาหวังเอ่ยด้วยสีหน้าละอายใจ
“แค่กล่าวคำขอโทษเองหรือ? ตาเฒ่าเช่นเ้าหน้าทนเกินไปแล้ว หากผู้าุโจ้าวไม่มา ข้าก็คงมือเท้าหักและถูกโยนออกจากร้านเชียนตันฟางไปแล้ว หากคิดจะขอโทษข้า เ้าต้องตบหน้าตนเองอย่างจริงใจสามครั้ง และเอ่ยยอมรับความผิดพลาดของตนเองจากใจจริงเช่นเดียวกัน!”
ตะ ตบหน้าตนเอง! หมอยาหวังทำได้แค่พร่ำคำสบถอย่างตกตะลึงอยู่ในหัวของเขาเท่านั้น ความรู้สึกอับอายและความโกรธพุ่งขึ้นมา แต่จ้าวเหวินจัวก็อยู่ที่นี่ด้วย ดังนั้นตัวเขาจึงไม่กล้าทำผิดพลาดอีก ได้แต่หันไปมองผู้จัดการสาขาเท่านั้นที่พอจะช่วยได้
แต่สิ่งที่ทำให้หมอยาหวังต้องรู้สึกเย็นะเื คือผู้จัดการสาขาไม่ได้หันมามองเขาเลย หนำซ้ำยังพูดอย่างเ็าด้วยว่า "หวังลี่ ในเมื่อเ้า้ายอมรับความผิดพลาดของเ้า ก็จงทำอย่างจริงใจอย่าได้แก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น!"
เมื่อผู้จัดการสาขาพูดอย่างหนักแน่นว่าตัวเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงการตบนี้ได้ หมอยาหวังก็ใจสลายทันที ‘เผียะๆๆ’ เขาตบหน้าตัวเองรัวไปถึงหกหรือเจ็ดครั้งด้วยซ้ำ!
แรงการตบทุกครั้งล้วนเป็ของแท้ ไม่มีแม้แต่ความเมตตาใดๆ หลังจากที่ตบไปรอบหนึ่งแล้ว ใบหน้าที่แก่และผอมซูบจากเดิมก็กลายเป็สีแดงและบวมเป่ง!
อย่างไรก็ตาม คำพูดต่อมาของเซียวหลิงอวิ๋นทำให้หมอยาหวังแทบล้มลงไปกองกับพื้น "ข้าบอกว่าตบแค่สามครั้ง การที่เ้าตบหน้าตัวเองไปเจ็ดครั้งรวดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? เ้าไม่พอใจข้าและไม่อยากยอมรับความผิดพลาดของตัวเองอย่างนั้นหรือ? หากเ้าไม่จริงใจเช่นนี้ การทำธุรกิจของเราคงไม่จำเป็อีกต่อไปแล้ว!”
ไม่ใช่ว่าการตบเกินจำนวนนับเป็ความจริงใจหรอกหรือ?
“ผู้เฒ่าหวัง นี่หมายความว่าอย่างไร? เ้าไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดอย่างนั้นหรือ?” เพื่อที่จะได้รับตำรับยาวิเศษนี้แล้ว ซุนอวิ๋นเฉิงก็ไม่สนใจ ถึงแม้ว่าหมอยาชั้นสามในร้านตนจะต้องรับมีดแทนตัวเอง!
“เผียะๆๆ!” หมอยาหวังยกแขนตัวเองขึ้นอีกครั้งอย่างเศร้าสลด แล้วตบหน้าตัวเองที่บวมเป่งอยู่แล้วอีกสามครั้ง!
