จุนห่าวรู้สึกว่านายพลของกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งพูดมากไร้สาระ ฉะนั้น เขาจึงเลือกปิดเขาไปตลอดกาล สำหรับการฆ่าคนที่มีพลังปราณต่ำกว่าเขาครึ่งหนึ่ง มิได้ต้องออกแรงแต่อย่างใด
“เ้า เ้า เ้าฆ่า เ้าฆ่านายพลของเรา?” สมาชิกปลายแถวคนหนึ่งในกลุ่มเอ่ยขึ้น เขาคิดไม่ถึงว่าชายรูปงามที่ดูธรรมดาเบื้องหน้าเขาจะโเี้เช่นนี้ ฆ่านายพลของเขาจริงๆ
“เขาพูดมากไร้สาระ เสียงก็ดังเกินไป” จุนห่าวเอ่ยอย่างไม่สนใจ
ฟังคำของจุนห่าว ในใจของฝูงชนก็สั่นไหว แค่เพราะว่าหงชิ่งหรูพูดมากเกินไป เขาถึงกับสังหารหงอวี้ชิ่ง ถ้าอย่างนั้น หงอวี้ชิ่งนับว่าตายอย่างเลวร้าย
“ช่างเป็คนหนุ่มที่โง่เขลานัก เ้าสังหารนายพลของเราในวันนี้ ก็ต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่! วันนี้ข้าต้องเอาเืของเ้ามาเซ่นไหว้ให้แก่ิญญาของท่านนายพลา แก้แค้นให้เขา” ชายชราที่มีลมปราณขั้นสิบเอ็ดพูดด้วยเสียงแหบๆ ชายชราคนนี้คือหงเทียนิ...นายพลรองของกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่ง หงเทียนิเป็ทาสรับใช้ของหงอวี้ชิ่ง หงเทียนิได้รับการช่วยเหลือจากปู่ทวดของหงอวี้ชิ่ง จึงเต็มใจที่จะเป็ทาส และเปลี่ยนเป็แซ่หงั้แ่นั้นมา จงรักภักดีต่อตระกูลหงมาก หลังจากการล่มสลายของตระกูลหงในปีนั้น หงเทียนิติดตามหงอวี้ชิ่งสองพี่น้องที่หลบหนีไปอยู่หมู่บ้านเล็กๆ เพื่อปกป้องพวกเขา กล่าวได้ว่า หงอวี้ชิ่งเลี้ยงดูหงเทียนิจนยิ่งใหญ่ การเห็นคนที่เป็เสมือนญาติถูกสังหารเช่นนี้ หงเทียนิไม่เป็เดือดเป็แค้น ถึงจะแปลก
“ต่อให้เ้าไม่ฆ่าข้า ข้าจะฆ่าพวกเ้าอยู่แล้ว หากตัดหญ้าโดยไม่ถอนราก สายลมพัดมาย่อมเกิดขึ้นใหม่” จุนห่าวพูดคำที่โหดร้ายที่สุดด้วยรอยยิ้ม พูดจบ หยุดสักพักหนึ่ง พูดกับที่ผู้คนโดยรอบที่เฝ้าดูอย่างคึกคักว่า “ทุกท่านโปรดไปจากที่นี่ หากไม่จากไป ข้าเกรงว่าจะโดนลูกหลง ข้าคงไม่รับผิดชอบไม่ไหว”
ฟังคำของจุนห่าว คนส่วนใหญ่ล้วนจากไป มีเพียงส่วนเล็กๆ ที่คิดว่าจุนห่าวแค่จะทำให้ตื่นใ หรือบางทีก็คิดว่าตัวเองมีพลังปราณมากพอ จึงไม่เคลื่อนไหวและอยู่ที่เดิม
ฟังคำของจุนห่าว หงเทียนิพูดด้วยเสียงแหบๆ ว่า “เ้าสัตว์ร้ายน้อย ในเมื่อเ้ากล้าพูดคำโง่ๆ ออกมา คิดจะปลิดชีพเรา เ้าไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน?” พูดพลางผายมือไปทางจุนห่าว การผายมือนี้หงเทียนิมิได้ยั้งมือแม้แต่น้อย ความโกรธทั้งหมดของเขารวมอยู่ในฝ่ามือนี้
ผู้คนในกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งเห็นหงเทียนิจะลงมือ รู้สึกว่าต้องจุนห่าวตายแน่อย่างง่ายดาย นายพลรองของพวกเขาคือยอดฝีมือที่มีลมปราณขั้นสิบเอ็ด ขยับไปอีกขั้นก็คือลมปราณขั้นสิบสองแล้ว ความกลัวที่จุนห่าวนำมาให้พวกเขาเมื่อครู่นี้ แต่เมื่แหงเทียนิจะลงมือจึงหายไปสิ้น พวกเขาต่างรู้สึกฮึกเหิมขึ้น
เมื่อครู่นี้จุนห่าวเตือนผู้ชมให้ถอยห่าง อันที่จริง้าจะเตือนหานรุ่ยที่อยู่ในฝูงชน ยาพิษตัวนี้ เป็ครั้งแรกที่เขาปรุงมัน มีฤทธิ์เป็อย่างไรเขาก็ยังแน่ชัด ทว่าเขาคิดว่าพลังของมันต้องยิ่งใหญ่มากแน่
จุนห่าวปกป้องกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตมานานแล้ว หลังจากหงเทียนิผายมือขึ้น จุนห่าวหัวเราะเยาะและออกมืออย่างรวดเร็ว เขาอัดพลังปราณลงในหมัดขวาของเขา และตั้งท่าไปทางหงเทียนิ เขาอยากจะลองดูว่า หลังจากออกมาจากสระโลหิต พลังของเขามีมากขนาดไหน หงเทียนิผู้นี้จึงกลายเป็เป้าหมายการฝึกของจุนห่าว
ทุกคนรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นพฤติกรรมของจุนห่าว พวกเขาคาดไม่ถึงว่าจุนห่าวจะเผชิญหน้ากับหงเทียนิโดยตรง เหตุผลที่ผู้คนหลีกเลี่ยงกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่ง หนึ่งคือพวกเขามีบารมีขององค์ชายสาม สองก็คือกลุ่มของพวกเขามียอดฝีมือที่มีลมปราณขั้นสิบเอ็ดสองคน หงเทียนิก็คือหนึ่งยในสองนั้น และหงเทียนิยังจงรักภักดีต่อหงอวี้ชิ่ง ยิ่งเป็เหตุผลให้หงอวี้ชิ่งที่มีลมปราณขั้นที่ห้ารักษาตำแหน่งผู้นำอย่างมั่นคงได้ เวลานี้ทุกคนต่างไม่อยากดูจุนห่าวแล้ว เพราะคิดว่าจุนห่าวคงหมดสิ้นหนทางแล้ว
“ท่านพี่ ท่านว่าจุนห่าวจะรับฝ่ามือของหงเทียนิได้ไหม?” ฟางหย่าเอ่ยถามพลางกอดแขนอู๋โม่วหานแน่ เพราะจุนห่าวขายลูกสุนัขจื่อเหลยให้นาง นางจึงรู้สึกดีต่อจุห่าว ดังนั้นจึงไม่หวังให้จุนห่าวต้องเกิดเื่
อู๋โม่วหานเก็บรอยยิ้มที่เคยชินของเขา มองจุนห่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เขาก็กังวลเล็กน้อย อู๋โม่วหานอาจไม่รู้ว่ตัวว่า ตัวเองเห็นจุนห่าวเป็เพื่อนไปเสียแล้ว ฟังคำของฟางหย่า อู๋โม่วหานได้แต่ส่ายหัวแล้วไม่พูดอะไร
“ท่านพ่อ ท่านว่าคนๆ นั้นจะรับฝ่ามือของของหงเทียนิได้ไหม?” เหวินเจ๋อเยี่ยนมองจุนห่าวด้วยสายตาเปล่งประกาย แล้วเอ่ยขึ้น
“ข้าก็ไม่รู้ ตอนนี้ข้ามองเ้าหนุ่มผู้นี้ไม่ทะลุ เดิมทีคิดว่าเป็คนที่มุทะลุ ตอนนี้หรือ?” เหวินต้าไห่ส่ายหัวอย่างไตร่ตรองและพูดต่อว่า “ตอนนี้เขาทำให้ข้ารู้สึกว่า เขาคาดเดาคาดเดาอะไรไม่ได้ ชายหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาเลย” หยุดชั่วครู่หนึ่ง เขาก็พูดกับเหวินเจ๋อเยี่ยนอย่างเคร่งเครียดว่า “หากได้พบบุคคลนี้ในอนาคต เป็มิตรได้ก็ดี เป็มิตรไม่ได้ก็อย่าเป็อริ เ้าต้องเลี่ยงเขา”
“ท่านพ่อ ชายคนนี้เก่งกาจขนาดนี้เลยหรือ? ถึงทำให้ท่านหวาดกลัว ดูจากอายุแล้วประมาณ 20 ปีได้ จะเก่งกาจขนาดไหน”
“แม้ว่าข้าจะชื่นชมความกล้าหาญของเขา แต่ข้าไม่คิดว่าเขาจะสามารถอยู่รอดได้ภายใต้เงื้อมมือของหงเทียนิ” เหวินเจ๋อเยี่ยนกล่าวกับเหวินต้าไห่
“เ้ารู้อะไรไหม โลกใบนี้กว้างใหญ่นัก ไม่เพียงมีแผ่นดินชางหลานของเรา ข้าได้ยินว่ายังมีอัจฉริยะที่บำเพ็ญเพียรถึงขั้นสิบสองด้วยอายุยังน้อยอยู่นอกแผ่นดิน” เหวินต้าไห่กล่าวกับเหวินเจ๋อเยี่ยนอย่างไม่ยินดีนัก
ฟังคำของเหวินต้าไห่ เหวินเจ๋อเยี่ยนกล่าวอย่างไตร่ตรองว่า “ท่านพ่อ ความหมายของท่านก็คือ ชายหนุ่มคนนี้มากจากแผ่นดินอื่น? หากเป็อย่างที่ท่านพูด กลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งคราวนี้เผลอไปเหยียบแผ่นเหล็กเสียแล้ว” คิดถึงตรงนี้ เหวินเจ๋อเยี่ยนยิ้ม
เหวินต้าไห่ยิ้มเช่นกัน และพูดกับเหวินเจ๋อเยี่ยนว่า “เราดูต่อไปก็พอแล้ว หากเป็ดังที่ข้าคิด เช่นนั้นกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่ง...” เหวินต้าไห่ไม่พูดต่อ ทว่าเหวินเจ๋อเยี่ยนก็เข้าใจความหมายในคำของเหวินต้าไห่
สองพ่อลูกยิ้มให้กันและทุกอย่างก็เงียบลง
“ท่านลุงเล็ก ท่านบอกว่าจุนห่าวผู้นี้คือสามีของหานรุ่ย แต่ข้ามองหายังไงก็ไม่เห็นหานรุ่ย” หยุนจ่านเฮ่อกล่าวพลางมองจุนห่าวที่ใช้พลังของวัยหนุ่มอยู่ ณ ตรงนั้น “ท่านว่าจุนห่าวผู้นี้จะรับฝ่ามือของของหงเทียนิได้ไหม?”
หยุนจิ่นมองจนุห่าวที่อยู่ ณ ตรงนั้นอย่างไม่วางตาเช่นกัน พูดอย่างไม่แน่ใจว่า “คงจะได้อยู่”
เวลานี้ มีเพียงหานรุ่ยที่ใจสงบนิ่ง เพราะเขามั่นใจในความแข็งแกร่งของจุนห่าว
คนที่อยู่ในเหตุการณ์เห็นหมัดมวยและฝ่ามือชนกันอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงปะทะระหว่างหมัดมวยและฝ่ามืออย่างดุเดือด จากนั้นก็เห็นจุนห่าว ยืนอยู่ครบถ้วน ณ ตรงนั้น ในขณะที่หงเทียนิถูกหมัดของจุนห่าวกระเด็นไป และอาเจียนเป็เือยู่ที่พื้น
ผลลัพธ์ดังกล่าวเกินความคาดหมายของทุกคน และเกินกว่าที่จุนห่าวคาดไว้ จุนห่าวคิดไม่ถึงว่าคนที่มีลมปราณขั้นสิบเอ็ดหนาแน่นเช่นนี้ ซึ่งพลังทั้งหมดที่มีจัดการเขา กลับไม่อาจฆ่าเขาได้
จุนห่าวเอ่ยกับหงเทียนิอย่างดูถูกว่า “ลมปราณขั้นสิบเอ็ด ได้แค่นี้เองหรือ ข้ายังคิดว่าเ้าคงห้ามหมัดได้บ้าง คิดไม่ถึงว่าแม้แต่หมัดเดียวของข้าก็รับมือไม่ไหว”
ฟังคำของจุนห่าว หงเทียนิแค้นจนอาเจียนเือย่างแรง ดวงตาคู่นั้นจดจ้องจุนห่าวราวกับมีดอันแหลมคม อยากจะทิ่มแทงจุนห่าวให้ตายซะ หงเทียนิคิดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะมีลมปราณขั้นที่สิบ ในเมื่อเขาถูกบีบบังคับให้มาถึงจุดนี้ ไม่ผิด คราวนี้จุนห่าวมิได้ปกปิดพลังปราณ คนที่พลังปราณสูงกว่าจุนห่าวเท่านั้น ที่มองเห็นพลังปราณของเขาได้
จุนห่าวพูดไม่พอใจว่า “จ้องอะไรนักหนา เ้าไปอยู่กับนายพลของเ้าเถิด เชื่อว่าเขาคงยังไม่ไปไกล เ้ารีบตามไปก็ยังทัน” จากนั้นก็ยกมือขึ้น และควักกริชออกมา เขวี้ยงไปยังทรวงอกของหงเทียนิ หงเทียนิเสียชีวิตทันที
“ใต้เท้า เ้าเป็ใครกันแน่? เหตุใดถึงมาหาเื่กลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งของเรา” คนที่มีลมปราณขั้นสิบเอ็ดในกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งอีกคนกล่าว เขาคือผู้าุโกิตติมศักดิ์...หลี่หมิน
“แค่เห็นพวกเ้าแล้วขัดตา” จุนห่าวยกริมฝีปากพร้อมพูดด้วยรอยยิ้ม ถึงแม้จุนห่าวจะยิ้ม ทว่าดวงตาของเขากลับเ็า
“ใต้เท้า เที่ยวระรานเก่งนัก เห็นกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งของเราแล้วขัดตา จึงปลิดชีพพวกเรา ถ้าอย่างนั้นจากนี้ไป ท่านเห็นใครแล้วขัดตา มิต้องปลิดชีพทุกคนหรือ ใต้เท้า ทำเช่นนี้ไม่เกรงกลัวว่าผู้คนจะโกรธแค้นหรือ?” หลี่หมินรู้ว่าเื่ในวันนี้ไม่อาจดีกว่านี้แล้ว ทว่าเขายังไม่อยากตาย ดังนั้นจึงจงใจยั่วยุให้ทุกคนโกรธจุนห่าว และโจมตีเป็กลุ่ม หากถามหลี่หมินว่าเหตุใดถึงไม่ลงมือกับจุนห่าว เขาต้องพูดแน่ว่า แม้แต่หงเทียนิที่มีพลังปราณสูงกว่าเขายังถูกจุนห่าวฆ่าตาย เขาไปก็คงทำได้แค่ส่งอาหารให้ เมื่อเทียบระหว่างกระดูกกับชีวิต ไม่คุ้มค่าที่จะพูดถึง เขาบำเพ็ญเพียรมาถึงตรงนี้ไม่ง่ายเลย เขาไม่อยากตายเหมือนอย่างหงเทียนิ เขายังสนุกกับชีวิตไม่พอ เหตุผลที่เขาเข้าร่วมกับกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่ง ก็เป็เพราะเงื่อนไขที่หงอวี้ชิ่งเสนอให้เขา ช่างดีเหลือเกิน แต่ทว่า เขาคิดไม่ถึงว่า หงอวี้ชิ่งจะอายุสั้น และเสียชีวิตในอีกหนึ่งปีต่อมา ทั้งยังทำให้เขาเดือดร้อนอีก
หลี่มินพูดจบ เขาก็มองไปรอบๆ และลดการแสดงออกต่อสายตาผู้คน เขากลอกตา พร้อมกล่าวกับผู้ชมอย่างขุ่นเคืองว่า “ทุกคนได้เห็นแล้ว เป็เพราะกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งของเราขัดหูขัดตาเขาในวันนี้ จึงฆ่านายพลและนายพลรองของเรา เห็นได้ว่านี่คือนักฆ่า เขาเป็ปีศาจร้าย เราทุกคนควรฆ่าปีศาจร้ายนี้ด้วยบัญชา์ ต้องสังหารปีศาจร้ายผู้นี้”
หลังจากได้รับคำแนะนำจากหลี่หมิน พวกทหารรับจ้างสิงโตคลั่งจึงะโเสียงดังว่า “ฆ่าปีศาจร้ายนี้ เป็บัญชา์ ฆ่าปีศาจร้ายนี้ เป็บัญชา์” กลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งต่างคำราม เสียงคำรามดั่งสนั่นหวั่นไหวทั่วท้องฟ้า
จุนห่าวมองทุกคนในกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่ง รู้สึกขบขันในใจ เขาเคยเป็ทหารที่ซื่อสัตย์ เป็ทหารรบของประชาชน และปกป้องบ้านเมือง เวลานี้กลับกลายเป็ปีศาจร้ายฆ่าคน จุนห่าวนึกคิด ช่างแปรเปลี่ยนไปตามเวลาจริงๆ ฟังเสียงคำรามพวกเขา ดวงตาของจุนห่าวเ็า นี่คือการจงใจจะทำให้ผู้คนโกรธ แต่ทว่า ต่อให้เขาจะได้รับฉายาว่าปีศาจร้าย เขาก็จะไม่ปล่อยคนเหล่านี้ คนเหล่านี้ต้องตายในวันนี้
จุนห่าวหยิบยาพิษที่เตรียมไว้ล่วงหน้า แล้วพูดอย่างไม่แยแสว่า “พวกเ้าน่ารำคาญนัก ไปอยู่กับนายพลของพวกเ้าละกัน”
จากนั้นเขาก็ขว้างยาเข้าไปท่ามกลางกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่ง ยาพิษขวดนี้ทำขึ้นเป็พิเศษ มันจะแตกเมื่อััร่างกายมนุษย์ ยานี้มีพิษสูงมาก ตราบใดที่แตะมันเพียงเล็กน้อย เืจะออกทางทวารทั้งเจ็ดจนตาย จุนห่าวขว้างยาเข้าไปท่ามกลางกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งติดต่อกันสองสามขวด จนกระทั่งไม่มีใครยืนหยัดไหว คนที่ถูกวางยาพิษกำลังกลิ้งอยู่บนพื้นด้วยความเ็ป เสียงคำรามยังคงดำเนินไปทั่วทวารทั้งเจ็ด พื้นดินกลายเป็สีแดงกว้าง สถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นรกของมนุษย์
จุนห่าวมองอย่างเฉยเมย ใบหน้าของเขาสงบนิ่ง ไม่มีความผันผวนในหัวใจของเขา จุนห่าวสวมชุดดำยืนตรงด้วยมือไขว้หน้าหลังอยู่เบื้องหน้าภาพสีแดงสด ราวกับว่าปีศาจยังมีชีวิตอยู่ ฉากในขณะนี้จะอยู่ในหัวใจของผู้อยู่ในเหตุการณ์ตลอดไป
เวลานี้คนที่เข้าร่วมในการประมูลก็รู้ทันทีว่า เสียงที่พวกเขาได้ยินเมื่อครู่นี้ช่างคุ้นหูนัก คนๆ นี้ที่แท้ก็คือม้ามืดในการประมูลที่แย่งประมูลกับองค์ชายสามโดยเฉพาะ สิ่งกระตุ้นที่หลี่หมินยกขึ้นมาเมื่อครู่นี้ เบาลงไปเล็กน้อย
ดังนั้นการหาเื่กลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งนั้น นั่นก็เพราะความเกลียดชังที่มีต่อองค์ชายสาม กลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งได้รับผลกระทบจากองค์ชายสามเสียแล้ว พวกเขาคิดอย่างลึกซึ้งว่า หงอวี้ซิ่งมีวันนี้ได้เพราะองค์ชายสาม และก็ตายเพราะองค์ชายสาม ช่างเป็วงจรเสียจริง
ส่วนหงอวี้หรูที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน มองด้วยดวงตาที่ขมขื่น จากนั้นก็หันหลังหนีไป จุนห่าวรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เขามองไปในทิศทางของหงอวี้หรู เห็นเพียงเงาด้านหลังของหงอวี้หรู จุนห่าวจดจำเงานี้ แล้วหันกลับมา
