ตำแหน่งของไช่เอี๋ยนในตอนนี้อยู่ห่างจากชายผมสั้นประมาณสองเมตรและห่างจากหยางเฉินประมาณหนึ่งเมตร
ชายผมสั้นปรากฏตัวพร้อมกับปืนเดสเสิร์ทอีเกิ้ลสีเงินล้อกับแสงไฟดูแวววาวเขาสามารถถือปืนนี้ด้วยมือเดียวบ่งบอกพละกำลังแขนของเขาได้เป็อย่างดี
สายตาของชายคนนี้จ้องมองไปยังเชือกที่พยุงตัวไช่เอี๋ยนด้วยสายตาเ้าเล่ห์แน่นอนว่าถ้าเขายิงเชือกเส้นนี้จนขาดไช่เอี๋ยนจะต้องตกลงไปข้างล่างกลายเป็ก้อนเนื้อแหลกเหลวกองหนึ่งอย่างแน่นอน
ในขณะที่ไช่เอี๋ยนหมดสิ้นหนทาง จะหนีก็ไม่ได้... จะไปก็ไม่พ้น เสียงโผงผางก็ดังขึ้นจากทางด้านล่าง
“ปลดเชือกซะ เร็วเข้า!”
เสียงของหยางเฉินทำให้ไช่เอี๋ยนได้สติและเมื่อมองลงไปด้านล่างเธอก็เห็นหยางเฉินยื่นแขนออกมานอกหน้าต่างพยายามรอรับเธออยู่
จากมุมดังกล่าว แม้จะเป็หญิงสาวตัวเล็กๆมันก็ไม่ง่ายเลยที่จะรับเธอไว้ได้ แม้จะเป็นักยกน้ำหนักระดับโลกก็ตามยิ่งไม่ต้องพูดถึงท่าทางที่ต้องโน้มตัวจากนอกหน้าต่างเช่นนี้
ไช่เอี๋ยนลังเล เพราะเธอรู้ดีว่าถ้าเธอทิ้งตัวลงไป อาจทำให้หยางเฉินพลอยตกลงไปกับเธอด้วยแน่นอนว่าหยางเฉินควรจะเข้าใจดี แต่ทำไมเขายังคงไม่ลังเลที่จะทำแบบนี้?
มีเจตนาร้ายแอบแฝงงั้นหรือ? เขาไม่จำเป็ที่จะต้องทำอะไรสุ่มเสี่ยงแบบนี้!?
อย่างไรก็ตามไช่เอี๋ยนไม่้ารับความช่วยเหลือเช่นนี้... ไม่ใช่เพราะเธอไม่ถูกชะตากับชายคนนี้แต่เป็เพราะเธอไม่้าทำร้ายผู้อื่น
"ปัง ปัง!"
ะุสองนัดแฉลบกระจกผ่านเชือกไปอย่างฉิวเฉียด ดูเหมือนชายผมสั้นจะตั้งใจยิงให้เชือกขาดแทนที่จะยิงไช่เอี๋ยนโดยตรง
หยางเฉินเห็นไช่เอี๋ยนยังคงนิ่งเงียบก็ส่งเสียงะโขึ้นมาอย่างเดือดดาล
"ทำไมไม่ปลดเชือกออก ขี้ขลาดจริงๆ!"
"นายพูดว่าอะไรนะ!?" ไช่เอี๋ยนได้ยินดังนั้นก็โกรธจนตัวสั่น
"ผมบอกว่าคุณขี้ขลาดตาขาว! กลัวคนจะรู้ว่าคุณมีน้ำหนักเกินรูปร่าง!" หยางเฉินะโยุโทสะ
ไช่เอี๋ยนโกรธจนอกแทบะเิ ผู้ชายคนนี้อยากตายไปกับเธอหรือยังไงกัน!
ในขณะที่ชายผมสั้นกำลังเล็งปืนมาที่ร่างของไช่เอี๋ยนโดยตรงเธอก็ปลดเข็มขัดออก และปล่อยร่างตัวเองให้ตกลงไปด้านล่าง!
ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจฝากชีวิตไว้กับหยางเฉิน!
อย่างไรก็ตามหยางเฉินกลับรับร่างของไช่เอี๋ยนได้อย่างง่ายดายก่อนที่จะรู้ตัวหยางเฉินก็อุ้มเธอเข้ามาในบันไดหนีไฟแล้ว
หยางเฉินอุ้มไช่เอี๋ยนค้างไว้อย่างนั้น จนเธอรู้สึกได้ถึงมืออันแข็งแกร่งกำลังบีบสะโพกและก้นของเธอเธอไม่อาจทำอย่างไรได้ และถึงกับครางออกมา แม้จะรู้ว่าไม่ใช่เวลาก็ตาม...
"เสียงปืนจะทำให้ทุกคนแห่กันมาที่นี่คุณลงไปข้างล่างก่อนเถอะ ผมจะหยุดพวกเขาไว้เอง"
ทันใดนั้นเองเสียงฝีเท้าคนจำนวนมากก็ดังมาจาก้า!
ไช่เอี๋ยนไม่มีเวลาต่อต้านหยางเฉินเธอถูกหยางเฉินพลักลงไปด้านล่างจนเกือบสะดุดล้มตกบันได
"ผมรู้คุณฉลาดพอที่จะไม่ลากทุกคนไปตายพร้อมกัน!"
หยางเฉินกล่าวพลางวิ่งขึ้นบันได เพื่อเข้าปะทะกับชายชุดดำที่เปิดประตูหนีไฟออกมาอย่างเมามัน!
เมื่อเห็นหยางเฉินซัดชายชุดดำร่วงภายในหมัดเดียวดวงตาของเธอก็วาวโรจน์ขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้...
เธอสงสัยว่าทำไมหยางเฉินถึงทำเช่นนี้ แต่เธอก็ยังไม่มีโอกาสได้ถามเขาสักที!?
เพราะเธอเป็เพื่อนของหลินรั่วซีงั้นหรือ? มันคุ้มแล้วเหรอที่จะเสี่ยงชีวิต!
ในขณะนั้นเองไช่เอี๋ยนก็ตระหนักได้ว่า หยางเฉินพูดถูกต้องคนเพียงคนเดียวไม่สามารถจัดทุกเื่ได้ดังนั้นเธอจึงรีบวิ่งลงบันไดไปอย่างรวดเร็ว
แต่เมื่อลงมาได้เพียงไม่กี่ขั้นเสียงปืนก็ดังขึ้นเสียก่อน
"ปัง ปัง ปัง..."
ไช่เอี๋ยนรู้สึกหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจแต่เมื่อเห็นนายตำรวจเจ็ดแปดคนวิ่งเข้ามาสนับสนุนพอดี เธอก็ะโสั่งการเสียงดังว่า
"ขึ้นไปข้างบนกับฉันบอกทุกคนด้วยว่าให้ปิดล้อมที่นี่อย่าให้ใครสามารถเข้าออกได้ เร็วเข้า"
จากเสียงปืนที่ดังขึ้นทำให้ไช่เอี๋ยนรู้สึกกังวลเป็อย่างมากหน้าที่ของเธอคือต้องแน่ใจว่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ทุกคนจะปลอดภัย
ในขณะที่นำกำลังตำรวจวิ่งขึ้นบันไดไปชั้นบนนั้นไช่เอี๋ยนคิดแต่เพียงเื่เดียว คือตอนนี้หยางเฉินจะเป็อย่างไรบ้าง!?
แต่เมื่อมาถึงที่ชั้นที่หยางเฉินต่อสู้กับชายชุดดำไช่เอี๋ยนและตำรวจทุกคนต่างตกตะลึงกับภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า...
ตามขั้นบันไดเต็มไปด้วยซากศพนอนเกลื่อนกลาด! เืสีแดงสดเจิ่งนองเต็มพื้นใบหน้าของชายชุดดำบิดเบี้ยวน่าเกลียดบ่งบอกได้เป็อย่างดี ว่าก่อนตายเขาจะต้องเจอกับสิ่งที่น่าหวาดหวั่นที่สุดในชีวิต
ไช่เอี๋ยนไม่เห็นร่างหยางเฉินในกลุ่มคนพวกนี้ ก็รู้สึกยินดีส่วนหนึ่งเธอรีบนำกำลังตำรวจผลักประตูเข้าไปด้านใน แล้วพวกเธอก็ต้องพบกับความตกตะลึงอีกครั้ง
บนพรมของห้องโถงเต็มไปด้วยร่างของชายชุดดำ ที่ในมือยังคงถือปืนไว้บนศีรษะของทุกคนมีรูะุอยู่ พร้อมเืที่หลั่งไหลออกมาไม่หยุด
และผู้ชายที่ไช่เอี๋ยนไม่มีวันลืมใบหน้า คนที่เกือบจะฆ่าเธอแล้วที่ด้านนอกของตึกชายผมสั้นกับปืนเดสเสิร์ทอีเกิ้ลที่ตอนนี้กลายเป็ศพไปแล้วเช่นกัน
แต่หยางเฉินไม่อยู่ที่นี่!
ตอนนี้ไช่เอี๋ยนรู้สึกเย็นวาบไปถึงหนังศีรษะ เหงื่อเย็นไหลออกมาไม่หยุดนี่ไม่ใช่การปะทะกันด้วยมือเปล่า แต่เป็การต่อสู้ด้วยะุปืน!?
เธอคิดไม่ออกว่าคนคนหนึ่งจะมีความสามารถที่ใกล้เคียงกับจอห์นวิคได้อย่างไร...
สุดท้ายเธอก็เข้าใจแล้วว่า เหตุใดพี่สาวของเธอจึงไม่อนุญาตให้เธอไปข้องแวะกับชายคนนั้น...
"สารวัตรครับ! จะทำอย่างไรต่อดีครับ" นายตำรวจนายหนึ่งเอ่ยถามหลังจากเห็นสถานการณ์กลายเป็เช่นนี้แล้ว
ไช่เอี๋ยนสูดลมหายใจลึก เพื่อสงบจิตใจแล้วจึงเอ่ยขึ้นว่า
"ปิดล้อมที่นี่ อย่าให้ทุกคนรู้ความจริงบอกไปว่าคนพวกนี้ตายเพราะขัดผลประโยชน์กันเอง"
เ้าหน้าที่ตำรวจนายนั้นมีข้อสงสัยมากมายแต่จิตสำนึกของเขาบอกว่าไม่ควรเอ่ยถามมันออกไป
ไช่เอี๋ยนมองไปที่ร่างของชายชุดดำ และเผยให้เห็นรอยยิ้มมุมปากพูดกับตัวเองว่า
"คนเลว หายไปโดยไม่บอกสักคำทำให้ฉันเป็ห่วงซะตั้งนาน..."
ในขณะเดียวกันหยางเฉินที่มุ่งหน้าไปยังศูนย์นวดเท้าและกำลังแทะโลมพนักงานนวดที่สวมชุดกี่เพ้าสีแดงด้วยสายตานั้น ก็เหลือบไปเห็นโจวกวางเหนียนพ่อของโจวตงเฉิง หัวหน้าแก๊งตงซิ่งเข้าพอดี
"คุณหยางมาที่นี่เพื่อผ่อนคลายเท้าเหมือนกันเหรอครับ?" โจวกวางเหนียนถามอย่างสุภาพ
อันที่จริงหยางเฉินไม่อยากพูดคุยทักทายกับโจวกวางเหนียนสักเท่าไร และการเห็นเขาอยู่ที่นี่ก็แสดงว่ากลุ่มชายชุดดำที่มีเื่กับไช่เอี๋ยนและตำรวจนั้นเป็พรรคพวกของเขานั่นเอง
"คุณโจวชอบเก็บสะสมซากศพเหรอครับ?" หยางเฉินถาม
โจวกวางเหนียนถามอย่างสับสน
"ศพอะไรหรือครับ?"
"ผมแค่พูดไปเรื่อยน่ะครับ ไม่มีอะไรหรอก" หยางเฉินยิ้มและเตรียมตัวที่จะออกจากที่นี่
ในขณะที่หยางเฉินกำลังจะเดินหนีนั้น โจวกวางเหนียนก็เอ่ยขัดขึ้นเสียก่อน
"ผมมีคำพูดประโยคหนึ่งอยากให้คุณหยางเก็บไปพิจารณา"
"หือ?" หยางเฉินหันกลับมาด้วยสีหน้าไม่แยแส
โจวกวางเหนียนกล่าวต่อว่า
"ปลาเล็กย่อมเป็เหยื่อของปลาใหญ่ ออกไปจากที่นี่แล้วอย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเื่นี้ "
"คำพูดของคุณดูสวนทางกับความเป็จริงยังไงไม่รู้นะครับ" หยางเฉินแสร้งทำสีหน้ากังวล
"นั่น... เป็ไปไม่ได้" ใบหน้าของโจวกวางเหนียนบิดเบี้ยวไปในทันที
หยางเฉินหัวเราะออกมาเสียงดัง
"ผมกำลังรอคุณอยู่นะครับ"
หยางเฉินกล่าวเสร็จก็หันหลังเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีก
หลังจากหยางเฉินไปแล้ว บอดี้การ์ดคนหนึ่งก็เอ่ยถามขึ้นว่า
"ท่านประธานครับ ไอ้สารเลวนี้มันจะเหิมเกริมมากไปแล้วมันทำลายธุรกิจของพวกเรา มิหนำซ้ำยังฆ่าแขกของเราอีกมันกล้าทำถึงขนาดนี้ทำไมประธานยังปล่อยมันไว้อีกล่ะครับ!?"
"แกจะฆ่ามันได้ยังไง?" โจวกวางเหนียนถามด้วยความโมโห
บอดี้การ์ดผู้นั้นเงียบปากไปในทันที เขารู้ตัวว่าไม่มีความสามารถที่จะทำแบบนั้นได้
"ชายผู้นี้ไม่ธรรมดาเราจะต้องวางแผนให้รัดกุมที่สุด" โจวกวางเหนียนหัวเราะขึ้นในลำคอ
"มาเร็ว ลงไปข้างล่างไปดูสภาพเ้าพวกโง่นั่นหน่อย ข้าโจวกวางเหนียนไม่ใช่คนเลวร้ายแต่เป็นักธุรกิจที่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด"