ไม่รวมเฟ้ย !!!
อวี๋มู่จะบ้าตาย
ทำไม! ทำไมกัน!
โลกที่แล้วก็เสร็จเว่ยจวินหยางั้แ่เริ่มต้น มาโลกนี้ก็ยังเข้าตาปีศาจตัวนี้อีก ในหัวพวกจิตวิปริตนี่นอกจากมีแต่เื่บัดสีบัดเถลิงแล้ว จะคิดเื่อื่นบ้างได้ไหม???
“ไม่ยินยอมหรือ?”
เขาเลียริมฝีปาก แล้วเอ่ย “เช่นนั้นก็เท่ากับโกหกข้านะสิ”
“ข้าเกลียดคนโกหกที่สุด คนที่หลอกลวงข้าต้องได้รับโทษ…” เขาพิจารณา สุดท้ายจึงเอ่ย “หรือไม่ก็กินมือข้างหนึ่งของเ้าดีกว่า”
เด็กหนุ่มหรี่ตายิ้มแล้วเอ่ยถาม “เ้าชอบมือข้างซ้ายหรือข้างขวา”
อวี๋มู่ : “เื่นั้น ใต้เท้าเฟิงอวี้ ข้าไม่ใช่คน ข้าเป็ิญญา”
เพื่อชีวิตรอด ต้องยืดได้งอได้
เฟิงอวี้ชะงักไป แล้วยักคิ้ว “ิญญาก็เช่นกัน”
“…”
ซวยแล้ว!
อวี๋มู่กัดฟันกรอด พูดกับระบบ : ระบบ นายช่วยเปิดปลั๊กอินให้ฉันหน่อยได้ไหม ฉันอยากอัดเขา!
[เอ๋!!!] ระบบตื่นเต้นขึ้น เอ่ยเสียงดัง [อัดแบบไหน?? อัดยังไง?? เข้าข้างหน้า? เข้าข้างหลังครับ?]
อวี๋มู่ : …ช่างเถอะ
เขาลืมไปว่าระบบก็เหมือนกับวายร้ายพวกนี้ ในหัวมีแต่เื่หื่นกามลามก
เขายกมือยอมแพ้ “ใต้เท้าเฟิงอวี้ ได้โปรดปล่อยข้าไปเถิด”
เฟิงอวี้ยิ้มตาหยี “ถ้าอย่างนั้นจะร่วมรักหรือไม่? ”
“ได้ๆๆ ร่วมรักก็ร่วมรัก” หลังจากมีประสบการณ์กับเ้าลูกสุนัขเว่ยในโลกที่แล้วมา อวี๋มู่ก็ตัดสินใจลุยให้สุด
ในเมื่อเขา้าเช่นนั้น ก็ให้เขา เพราะคงไม่มีอะไรจะเสีย
เฟิงอวี้สำรวจท่าทีของเขา เอียงคออีกครั้ง ทำอวี๋มู่ใจเต้นรัวทันใด
“ข้าไม่เชื่อเ้าแล้ว”
กล่าวจบเขาก็คว้าข้อมืออวี๋มู่ขึ้นไป แล้วอ้าปากกว้าง
เขี้ยวแหลมคมทั้งบนและล่างเล่นเอาใจของอวี๋มู่ตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม เขาเกร็งไปทั้งตัว แต่กลับพบว่าไม่มีความรู้สึกเ็ป
จากนั้นแรงบีบตรงลำคอก็หายไป อวี๋มู่ถูกปล่อยตัวลงมา เขาเห็นเพียงเฟิงอวี้กำมือขวาของตัวเองไว้แล้วพินิจดู
นักบวชน้อยท่าทางยียวนวางหัวแม่มือข้างขวาเขาไว้ตรงริมฝีปากแล้วจูบไปหนึ่งที
พลันหัวเราะร่าเหมือนเด็กที่วางแผนชั่วร้ายได้สำเร็จ
“ฮ่าๆๆๆ ใอีกแล้วใช่ไหม!!” แล้วต่อว่าอวี๋มู่ “เ้ามันิญญาซื่อบื้อ! ”
“…”
เส้นเืตรงขมับของอวี๋มู่เต้นตุบๆ ฝืนทนอยู่สักพักกว่าจะข่มความอยากต่อยกับเฟิงอวี้สักตั้งลงได้
ทว่าเขาไม่ทันสังเกตว่าตอนที่เฟิงอวี้กำลังจ้องมองหัวแม่มือข้างขวาเขานั้น อีกฝ่ายมีท่าทีเช่นไร
เมื่อครู่เฟิงอวี้นั้นคิดอยากจะลงโทษอวี๋มู่สักนิดก็จริง แต่พอเข้าใกล้ริมฝีปาก ก็ยั้งไว้ เหมือนกับมีใครในหัวกำลังบอกเขาว่า เ้ากัดเขาไม่ได้ เ้าทำร้ายเขาไม่ได้
ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เขาฉงนและสนใจในตัวอวี๋มู่มากขึ้น
“เฮ้” เขาเกี่ยวคอของอวี๋มู่ แล้วเอ่ยอย่างยิ้มแย้มดูชอบใจ “เ้าช่างน่าสนใจจริงๆ ข้าชอบเ้ามาก”
จู่ๆ เขาก็สารภาพออกมา เล่นเอาอวี๋มู่ตะลึงงัน เขาเงยหน้าขึ้นมองบนศีรษะเฟิงอวี้ด้วยความสงสัย แต่กลับไม่เห็นหัวใจที่แสดงความประทับใจเพิ่มขึ้น นี่เท่ากับว่าความประทับใจยังไม่ได้เปลี่ยนแปลง
เขาอยากแน่ใจอีกรอบ อวี๋มู่เอ่ยถามระบบในใจ : ระบบ คะแนนความประทับใจของเขาเพิ่มขึ้นหรือยัง?
[เอ่อ ผมลองดูแล้ว] ระบบตอบเขา [...ยังดำหมดครับ]
“…”
เจอของแข็งเข้าให้แล้ว
สิ่งที่พูดกับสิ่งที่คิดในใจนั้นคนละเื่กันเลย
เขาพูดอย่างเอาใจ “ขอบพระคุณที่ใต้เท้าเฟิงชื่นชมขอรับ”
“อืม…” เฟิงอวี้เกี่ยวคอเขาไว้ พลางยื่นริมฝีปากเข้ามาใกล้แล้วเป่าลมเข้าหูของอวี๋มู่ ก่อนจะเอ่ย “ถ้าอย่างนั้น พวกเราเริ่มกันเถอะ มาร่วมรักกัน”
ท่าทีของอวี๋มู่แตกเปรี๊ยะ
*
กระนั้นสิบนาทีให้หลัง อวี๋มู่มองดูนักบวชน้อยที่ทับบนตัวเขา พลางพลิกตัวไปมาไม่ถึงจังหวะสำคัญสักที จู่ๆ ก็เหมือนคิดเื่สำคัญขึ้นมาได้
เฟิงอวี้ถูกจับขังที่เจดีย์เจิ้นเยานี่ั้แ่ห้าขวบ ถูกขังมาสิบสามปี ทุกวันนี้ยังต้องนั่งฟังเทศนา บทสวดมนต์ ละเจ็ดอารมณ์และความปรารถนาหกประการ ถ้าอย่างนั้นเขาไปฟังคำว่าร่วมรักมาจากไหนกัน?
แล้วเขาจะมีประสบการณ์ได้อย่างไร?
เขาเอียงคอหลบนักบวชน้อยที่ทำได้เพียงซุกไซร้ไปมา แล้วลองเลียบๆ เคียงๆ ถาม “ใต้เท้าเฟิงอวี้ ท่านได้ยินคำว่าร่วมรักมาจากไหนกันหรือ?”
เฟิงอวี้เงยหน้าขึ้นมองเขา เผยให้เห็นปานกลีบดอกไม้สีแดงเรียวยาวทิ่มตา “ก็เ้าเป็คนพูดเอง เ้าบอกว่าการร่วมรักคือความเปี่ยมสุข และยังพูดกับเ้าหย่งอวี้นั่นด้วยว่าจะพาเขาขึ้น์วิมาน”
อวี๋มู่ : “...”
นั่นไง! เ้าร่างเดิมนี่ตกลงเป็ตัวอะไรกันแน่!!
บัดสีบัดเถลิงจริงๆ!
ิญญาพิศวาส ิญญาพิศวาส ทำไมเขาต้องข้ามมิติมาเป็ิญญาพิศวาสด้วยนะ!
เหมือนได้ยินความในใจของเขา เฟิงอวี้เลียริมฝีปากล่าง แล้วจูบที่ปากเขาหนึ่งที เอ่ยด้วยความซื่อสัตย์เกินคาดคิด “เ้าเป็ิญญาพิศวาส เ้าน่าจะช่ำชองเื่นี้ เ้าสอนข้าหน่อยสิ”
เขายิ้มตาหยี “ในสายตาข้า การที่เ้าบ้าหย่งอวี้พูดว่าจะละกิเลสทั้งปวงนั่นล้วนเป็เื่ไร้สาระ เขาไม่้าความสุข แต่ข้า้า ดังนั้น เ้าสอนข้าหน่อยสิ ข้าหัวไวมาก ไม่นานเดี๋ยวก็เป็…”
[อ๋าๆๆๆๆ!!!!!] ระบบกรีดร้องเหมือนไก่ อวี๋มู่ตัวแข็งเกร็ง ยิ่งมีเสียงหมอนี่ก้องอยู่ในหัว ยิ่งตะลึงงันไปใหญ่
เฟิงอวี้จ้องมองเขาอยู่อย่างนั้น ใบหน้าเปี่ยมด้วยความหวัง หากเมินเฉยท่าทางอึดอัดของทั้งสองคน นี่มันเด็กช่างสงสัยที่กระตือรือร้นชัดๆ
อวี๋มู่เบ้ปาก รู้สึกอยากร้องไห้
“เ้าไม่อยากสอนหรือ? ” เฟิงอวี้เหลือบมองท่าทีเขา พร้อมกับเอียงคอ
ทันใดนั้นเอง อวี๋มู่ก็ได้สติ
่ระยะสั้นๆ ที่อยู่ด้วยกัน เขารู้คร่าวๆ แล้วว่าเวลาเฟิงอวี้เอียงคอนั้นหมายถึงเขากำลังโกรธ หากยังนิ่งอยู่ คนที่จะซวยคือตัวเองอย่างแน่นอน!
“ได้ขอรับ ใต้เท้าเฟิงอวี้ ข้าจะสอนท่านเอง”
อวี๋มู่รีบคิดคำนวณ จนได้แผนขั้นแรก
ในเมื่อเฟิงอวี้ไม่เคยรู้จักเื่พวกนี้ ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะหลอกไปตามนั้น ไม่ให้เขาทำจนถึงขั้นสุดท้ายก็ดีกว่าไม่ใช่หรือ?
โลกที่แล้วถูกกระทำชำเรา ความรู้สึกแบบนั้นเขาไม่อยากลิ้มรสอีกแล้ว
*
เขาเดาไว้ไม่ผิด เฟิงอวี้ไม่รู้จริงๆ ด้วยว่าต้องทำขั้นตอนยังไงต่อ
ตอนที่อวี๋มู่ช่วยเขา เขาถูกกระตุ้นจนช้อนคางอวี๋มู่ขึ้นมาจูบ หนแล้วหนเล่า
จูบเหมือนเล่นๆ จนเยิ้มไปหมด
อวี๋มู่คิดเสียว่ากำลังโดนสุนัขเลีย ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้ก็โดนเลียมาไม่น้อย ตอนนี้แรงต้านทานของเขาเข้มแข็งขึ้นแล้ว
ในที่สุด เมื่อนักบวชน้อยอิ่มหนำใจแล้ว เขาก็นอนราบกับพื้น กอดอวี๋มู่แล้วเอ่ยพร้อมกับถอนหายใจ “ที่แท้นี่ก็คือการร่วมรักหรือ สบายจริงๆ”
ห้านาทีผ่านไป เฟิงอวี้ก็ลุกขึ้น จนจีวรเลื่อนหล่น เผยให้เห็นแผงหน้าอกกว้างขาวผุดผ่องสะอาดตา เขาใช้มือยันศีรษะไว้แล้วยิ้มให้กับอวี๋มู่ ั์ตามีประกายความคิดชั่วร้าย
“เฮ้ อวี๋มู่ เ้าว่าถ้าเ้าบ้าหย่งอวี้นั่นรู้ว่าข้าแอบมาทำเื่กิเลสตัณหากับเ้า เขาคงร้องไห้ขี้มูกโป่งแน่ ว่าไหม?”
ราวกับว่าจินตนาการภาพบางอย่างได้ เขาหัวเราะชอบใจ แต่ก็ส่ายหัว แล้วเอ่ย “เสียดายตอนนี้ยังให้เขารู้ไม่ได้ อย่างไรก็ตามข้ายังต้องปิดบังพวกลาหัวโล้นแล้วหนีออกไป หากตอนนี้เื่ราวเปิดเผย ก็เท่ากับว่าที่ทำมาทั้งหมดต้องสูญเปล่า”
ตอนนี้อวี๋มู่ยังจับทางนิสัยของเขาไม่ได้ จึงนิ่งเงียบสยบความเคลื่อนไหว
เฟิงอวี้นั้นไม่ได้ใส่ใจ เขาใช้นิ้วมือเรียวขาวลูบหนังตา จมูก และััหยุดอยู่ที่ริมฝีปาก
“เมื่อครู่เ้าทำได้ไม่เลว ข้าชอบมาก ต่อไปทุกวันเวลาห้าทุ่ม เ้าต้องขึ้นมา ข้าจะรอเ้า”
อวี๋มู่โล่งอก รู้ว่าตัวเองผ่านพ้นความโกลาหลนี้แล้ว เขาตอบรับ พร้อมกล่าวอำลากับเฟิงอวี้ แล้วจากไป
เพียงแต่จังหวะที่เพิ่งลุกขึ้นเฟิงอวี้ก็คว้ามือขวาเขาไว้ เขาหันไปมองด้วยความสงสัย ก็เห็นเฟิงอวี้ตาหยี เผยท่าทีครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยถาม “เ้าเข้าใกล้หย่งอวี้ เพราะชื่นชมข้าจริงหรือ? ”
อวี๋มู่เรียนรู้การลืมตาพูดความเท็จ “แน่นอน เพราะว่าชื่นชมท่าน”
เฟิงอวี้ถามอีก “แล้วสำหรับเ้า ข้าสำคัญมากหรือเปล่า? ”
อวี๋มู่พยักหน้า “สำคัญมาก”
“สำคัญแค่ไหน?” เฟิงอวี้เงยหน้ามองเขา พลางยกยิ้มชั่วร้าย “เพื่อข้าแล้ว ถึงขั้นิญญาแหลกสลายก็ยอมหรือ? ”
“??? ” อวี๋มู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็รีบเอ่ยพลัน “เพื่อใต้เท้าเฟิงอวี้ ข้าทำสิ่งใดก็ไม่เสียใจภายหลัง”
เฟิงอวี้จ้องเขาอย่างเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ปล่อยมือเขาแล้วหัวเราะจนไหล่สั่น “ฮ่าๆๆๆๆ เ้านี่ช่างน่าสนใจจริงๆ ”
เขาไม่ได้บอกว่าเชื่อ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อ ได้แต่โบกมือปล่อยอวี๋มู่ไป
อวี๋มู่ลงจากชั้นสิบแปดเอ่ยถามระบบ : ระบบ คะแนนความประทับใจของเขาเพิ่มขึ้นหรือเปล่า?
ระบบถอนหายใจ [ยังดำสนิทครับ ไม่เปลี่ยนเลย]
อวี๋มู่ก็ถอนหายใจด้วย รู้สึกได้ว่าภารกิจในโลกนี้เริ่มเข้าสู่ความยากขึ้นอีกระดับ ้าให้จบไปอย่างรวดเร็วเหมือนโลกที่แล้วคงเป็ไปได้ยาก
พอนึกถึงเว่ยจวินหยาง เขาก็เ็ปใจอีกครั้ง จึงรีบนวดหน้าอก แต่นวดไปสองครั้งก็เพิ่งรู้ตัวว่ามือตัวเองไปจับอะไรมาเมื่อครู่ สีหน้าพลันซีดเผือดลงกว่าเดิม
แม้ว่าระบบจะบอกกับเขาว่าการทำแบบนี้เท่ากับเพิ่มพลังให้กับิญญาพิศวาส อีกทั้งบนตัวิญญานั้นไม่สกปรก แต่อวี๋มู่ก็ยังรู้สึกขัดแย้งลึกๆ อยู่ในใจ จนอยากล้างออก
เจดีย์เจิ้นเยาทุกชั้นมีบ่อน้ำ มีลักษณะเป็หินเขียวหล่อขึ้นมา ด้านในขุดรู และมีวางหินกรองน้ำไว้หนึ่งชั้น จึงไม่มีวันสกปรกหรือแห้งเหือด
อวี๋มู่หยุดที่ชั้นสิบเจ็ด เขายื่นมือลงไป แต่ล้างได้สองที ก็เห็นในน้ำมีใบหน้าคนปรากฏขึ้น ใบหน้านั้นมีสีเขียว กำลังเบิกตาขาวโพลนสองข้าง อ้าปากหมายจะงับขึ้นมาจากใต้น้ำ
“เอ๊ย!!” อวี๋มู่ถอยหลังทันใด เขาเซไปหลายก้าวจนก้นล้มจ้ำเบ้าลงกับพื้น
บ่อน้ำนั้นยังคงกระเพื่อมอยู่ ชายหนุ่มสวมชุดขาวคลานออกมาจากด้านใน เสื้อผ้าและผมเผ้าของเขาเปียกปอน และมีน้ำหยด ไม่นานนักก็มากองอยู่ตรงพื้น
ิญญาน้ำใช้ดอกกล้วยไม้ชี้มาที่เขา แล้วเอ่ยด้วยเสียงแหลมเล็ก “โธ่เอ๊ย ทำไมถึงใง่ายขนาดนี้กัน? เ้าเป็ิญญานะ ทำไมยังกลัวิญญาด้วยกันอีก?”
อวี๋มู่กลืนน้ำลาย แล้วเอ่ย “ไม่ทราบว่าเ้าคือใครกัน? พวกเรารู้จักกันหรือ? ”
“เ้าไม่รู้จักข้า แต่ข้ารู้จักเ้า เ้าคือิญญาพิศวาสที่วันๆ เอาแต่ดึงดูดนักบวชน้อยไม่ใช่หรือไง! ” ิญญาน้ำเดินมาข้างหน้าเขา แล้วเอ่ยถามด้วยท่าทางตื่นเต้น “นี่ ข้าถามหน่อย เ้ารอดมาจากเงื้อมมืออสูรฟ้าได้อย่างไรกัน? ”
เขาเอ่ยต่อ “คงไม่ใช่เพราะเ้าอสูรฟ้านั่นชอบแบบเ้า แล้วโดนเ้าจัดการแล้วหรอกนะ? ”
-----------------------------------------------------------------------------------------------------