ะโข้ามกำแพงออกไปแล้ว ฉินหลางก็โทรศัพท์หาฮานซานฉาง ให้คนรีบหาร้านขายยาจีนที่เปิดตอนกลางคืน
คนประเภทฮานซานฉาง ปกติก็มักจะอยู่ในสถานบันเทิงจนดึกๆ ดื่นๆ อยู่แล้ว หลังจากรับสายฉินหลางแล้ว ก็รีบขับรถออกมาด้วยตัวเอง ในขณะเดียวกัน ก็สั่งให้พวกลูกน้องแยกย้ายกันออกไปหา ทำเอาคนในวงการบางกลุ่มคิดว่าฮานซางฉางจะมี ‘ปฏิบัติการใหญ่’ อีกแล้ว ขนาดตำรวจที่ลาดตระเวนอยู่ก็ยังตื่นตระหนกกันยกใหญ่ ใครจะคิดว่าความจริงแล้วคนพวกนี้เขาแค่แยกย้ายกันตามหาร้านขายยาที่เปิดตอนกลางคืนเท่านั้น
คนเยอะก็ทำงานได้สะดวก เป็จริงดังคำพูดนี้ เพียงไม่นานฉินหลางก็หาร้านขายยาที่เปิดตอนกลางคืนเจอจนได้ จากนั้นก็จัดยาแก้หวัดหนึ่งชุด แล้วรีบปีนข้ามกำแพงกลับเข้าไปยังหอพักของเถารั่วเซียง
ทันทีที่ประตูห้องพักของเถารั่วเซียงเปิดออก ก็ทำเอาฉินหลางใจนยาที่อยู่ในมือเกือบร่วง ตัวแข็งทื่อราวกับเถารั่วเซียงนั้นเป็ ‘เมดูซ่า’ เสกเขากลายเป็หินไปแล้วซะอีก
“สวย…สวยเกินไปแล้ว!”
ฉินหลางแอบชื่นชมในใจ อดที่จะกลืนน้ำลายไม่ได้
ตอนนี้เถารั่วเซียงเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ สวมชุดนอนที่ทำจากเส้นไหมบางๆ และคลุมเสื้อเชิ้ตสีขาวทับอีกตัว เพื่อป้องกันไม่ให้ดูโป๊เกินไป สวมรองเท้าแตะที่มีขนฟูฟ่อง แต่ประเด็นสำคัญนั้นอยู่ที่รูปร่างของเถารั่วเซียง เพราะนั่นมันเรียกได้ว่า ‘อวบอิ่มจนปิดไม่อยู่’ ตอนแรกเธอตั้งใจเอาเสื้อเชิ้ตตัวนั้นมาคลุมไว้เพื่อปกปิดรูปร่างอวบอิ่มของเธอ แต่ด้วยร่องหน้าอกที่ปิดไม่อยู่ของเธอ ยิ่งเธอ้าที่จะปิด ก็ยิ่งให้ความรู้สึกว่ามันดึงดูดมากขึ้น ราวกับว่ามันกำลังจะ ‘ะเิ’ ออกมา บวกกับแก้มเธอ และริมฝีปากอมชมพูยามเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ผมที่ยังคงเปียกชุ่ม และขาเรียวยาวใต้กระโปรงนั่น…ทุกส่วนของร่างกายล้วนมีแรงดึงดูดมหาศาล ทำเอาฉินหลางยืนอึ้งอยู่กับที่
“ยืนนิ่งอยู่ทำไม รีบเข้ามาสิ แค่กๆ” เถารั่วเซียงเห็นฉินหลางยืนอึ้งอยู่อย่างนี้ ก็อดที่จะภาคภูมิใจไม่ได้ เพราะยังไงเสียนี่ก็เป็การยืนยันแล้วว่าเธอยังคงมีเสน่ห์มหาศาลอยู่
ในขณะที่ฉินหลางเพิ่งจะได้สติ พลางพูดขึ้นด้วยสีหน้าเจื่อนๆว่า “ผมไปต้มยา”
ผ่านไปครู่หนึ่ง ในห้องก็อบอวลไปด้วยกลิ่นยาจีน จากนั้นฉินหลางก็ยกยาจีนที่เพิ่งต้มเสร็จออกมา ส่งให้ถึงมือเถารั่วเซียงพลางพูดขึ้น “รีบดื่มตอนที่ยังร้อนอยู่ แล้วหลับสักตื่น พรุ่งนี้คุณก็หายดีแล้ว!”
“ขมจัง…ยานี่วิเศษขนาดนั้นเลย? ฉันได้ยินมาว่ายาจีนเห็นผลช้ามากไม่ใช่เหรอ?” เถารั่วเซียงดื่มไปแค่คำเดียวก็พูดขึ้น
“ผมเป็แพทย์แผนจีนที่เก่งมากๆ คุณจะเอาผมไปเทียบกับหมอธรรมดาๆ พวกนั้นได้ยังไง?” ฉินหลางสบถ “อย่ามัวแต่อึ้ง รีบดื่มให้หมด จะได้ไปนอนพักผ่อน!”
หลังจากที่ย้ำเตือนเสร็จหมดแล้ว ฉินหลางก็เตรียมตัวกลับ
เห็นฉินหลางเดินตากฝนไปซื้อยาให้ตัวเองท่ามกลางลมหนาว แน่นอนว่าเถารั่วเซียงต้องซาบซึ้งใจเป็ธรรมดาอยู่แล้ว เธอหันไปพูดกับฉินหลางว่า “อย่าเพิ่งรีบกลับ นายอาบน้ำอุ่นที่นี่ก่อนเถอะ ในหอพักนักเรียนไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น”
ปกติแล้วฉินหลางอาบน้ำเย็นที่หออยู่เป็ประจำ แต่ข้อเสนอนี้ของเถารั่วเซียงล่อตาล่อใจเหลือเกิน แค่คิดว่าในห้องอาบน้ำอาจจะยังมีกลิ่นกายหอมเย้ายวนของเถารั่วเซียงอยู่ หัวใจฉินหลางก็เต้นไม่เป็จังหวะแล้ว แต่ว่าเขากลับตอบว่า “มันไม่ค่อยดีมั้งครับ มันจะเกิดผลกระทบที่ไม่ดีกับคุณหรือเปล่า?”
เถารั่วเซียงพิจารณาอีกครั้งด้วยท่าทีจริงจัง จากนั้นพยักหน้าพลางพูดขึ้น “ก็จริง เหมือนว่ามันจะไม่ค่อยดีจริงๆ ด้วยสิ”
ทันใดนั้นฉินหลางรู้สึกเหมือนโดนน้ำเย็นสาดใส่หน้า คิดในใจว่าตัวเองไม่น่าพูดพล่อยๆ เลย ทำไมต้องพูดว่าอาจจะเกิดผลกระทบที่ไม่ดีด้วย
ใครจะรู้ว่าอยู่ดีๆ เถารั่วเซียงก็ยิ้มเ้าเล่ห์พลางพูดขึ้น “น้าเถาของนายจะสนใจเื่พวกนี้ได้ไง รีบไสหัวเข้าไปอาบน้ำได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องไปเรียนสาย—แค่กๆ”
ฉินหลางดีใจ รีบเข้าไปในห้องอาบน้ำ แต่เสียดายที่ในห้องอาบน้ำกลับหลงเหลือเพียงกลิ่นครีมอาบน้ำเท่านั้น มีกลิ่นกายหอมเย้ายวนในตำนานซะที่ไหนล่ะ แต่ทว่าเมื่อคิดว่าที่นี่เป็ห้องอาบน้ำส่วนตัวของเถารั่วเซียง แล้วผ้าขนหนูพวกนี้ก็ล้วนเป็ผ้าขนหนูที่เธอเคยใช้ ฉินหลางก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา ขนาดน้องชายฉินหลางยังตั้งโด่ขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
มองดูน้องชายที่ตื่นเต้นจนเกินหน้าเกินตา ฉินหลางอาบน้ำไปด้วยพลางพูดขึ้นเบาๆ “เ้าตัวเล็ก ต่อให้นายตื่นเต้นไปก็เปล่าประโยชน์ ฉันไม่ใช่อีตาจ้าวเหว่ย เพราะฉะนั้นฉันไม่มีทางจะตำให้นายตรงนี้แน่นอน”
ตากฝนแล้วมาอาบน้ำอุ่นตามนี่รู้สึกดีอย่าบอกใครเลยจริงๆด้วย
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ฉินหลางเห็นมีเสื้อผ้าสะอาดวางอยู่บนเก้าอี้หน้าประตูห้องอาบน้ำ ข้างบนมีรูปสัญลักษณ์ของชีจง นี่น่าจะเป็ชุดที่แจกให้อาจารย์ใส่ในงานกีฬา ดังนั้นจึงค่อนข้างจะหลวม ซึ่งแน่นอนว่าปกติเถารั่วเซียงไม่ใส่เสื้อผ้าตัวหลวมแบบนี้อยู่แล้ว ทว่ามันก็เลยเป็โชคดีของฉินหลาง
หลังจากที่ฉินหลางเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว เขาหันไปมองเถารั่วเซียงอีกครั้ง ปรากฏว่าเธอหลับอยู่บนโซฟาแล้ว บนตัวเธอมีเพียงผ้าห่มบางๆ คลุมอยู่เท่านั้น
ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ดูไปแล้วเถารั่วเซียงคงจะเหนื่อยล้ามาก ถึงได้เผลอหลับอยู่บนโซฟา
ทว่าในอีกแง่มุมหนึ่ง ก็แสดงให้เห็นว่าเธอเชื่อใจฉินหลางมาก ถ้าหากเธอไม่เชื่อใจฉินหลาง เธอไม่มีทางให้ฉินหลางอาบน้ำในห้องของเธอแน่นอน ยิ่งไม่มีทางนอนหลับอย่างสบายใจอย่างนี้แน่ นั่นมันไม่เท่ากับชักศึกเข้าบ้านแล้วเหรอ
มองดูท่าหลับของเถารั่วเซียง ฉินหลางไม่อยากจะรบกวน แต่ก็จะปล่อยให้เธอหลับอยู่บนโซฟาไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นฉินหลางจึงทำใจกล้าอุ้มเธอขึ้น แล้วนำตัวเธอไปวางบนเตียง จากนั้นก็ห่มผ้าให้เธอ ต่อให้ในใจเขาจะมีความคิดเลวทรามราวกับสัตว์เดรัจฉาน แต่ฉินหลางกลับไม่ได้ทำมันออกมา เขารีบออกไปจากห้องนอนของเถารั่วเซียง ปิดทีวีกับประตู พลางวิ่งออกจากหอพักของเถารั่วเซียงราวกับกำลังหนีตาย
ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา ฉินหลางกลัวว่าตัวเองจะทนไม่ไหวพุ่งกลับไปน่ะสิ
แรงดึงดูดที่เถารั่วเซียงมีต่อฉินหลาง นั่นมันไม่น้อยเลย แต่ในเมื่อเถารั่วเซียงเชื่อใจเขามากขนาดนั้น ฉินหลางก็จะต้องไม่แอบฉวยโอกาสทำอะไรเธอเช่นกัน ไม่อย่างนั้น ก็ผิดใจทั้งที่ทั้งคู่เคยผ่านความเป็ความตายมาด้วยกันน่ะสิ
เช้าวันที่สอง ลมหยุดพัดและฝนก็หยุดตกแล้ว
อากาศตอนเช้าในฤดูใบไม้ผลิ นอกจากจะสดชื่นไร้ที่ติแล้ว ยังมีกลิ่นหอมจางๆ ของดอกไม้นานาชนิด
อากาศแทรกเข้ามาจากร่องหน้าต่าง เถารั่วเซียงเพิ่งจะสังเกตว่าตัวเองหลับจนถึงเช้าอีกวันแล้ว รู้สึกโล่งสบายไปทั้งตัว ไม่มีความรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนตอนไม่สบายอีกแล้ว
“แย่แล้ว!”
เธอดีดตัวขึ้นมาจากที่นอน เถารั่วเซียงนึกขึ้นได้ว่าตอนเช้าตัวเองยังมีสอนอยู่ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าตอนนี้เธอสายแล้ว เป็เพราะโทรศัพท์มือถือของเธอไม่ปลุกงั้นเหรอ?
เถารั่วเซียงหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างที่นอนขึ้นมาดู เพิ่งจะเห็นว่านาฬิกาปลุกได้ถูกยกเลิกไปแล้ว
“ฉินหลาง—เ้าหมอนี่!”
เถารั่วเซียงนึกขึ้นได้ว่าต้องเป็ฝีมือของฉินหลางแน่นอน ตอนนี้เธอสายไปครึ่งชั่วโมงแล้ว ถึงจะรีบไปสอนตอนนี้ก็ไม่มีความหมายอะไรแล้ว นึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนนี้เหมือนว่าเธอจะหลับอยู่บนโซฟา ฉินหลางเป็คนย้ายเธอเข้าไปนอนในห้องนอนเหรอ? แต่ดูเหมือนว่าเ้าหมอนั่นจะไม่ได้ทำอะไรที่เกินเลย
เถารั่วเซียงพูดในใจ ถือว่านายโชคดีไป ทว่าในขณะเดียวกันก็รู้สึกแปลกใจ ไม่รู้ว่าตัวเองเชื่อใจอีตานี่มากขนาดนี้ั้แ่เมื่อไหร่?
“เฮ้อ ถ้าฉันไม่ใช่อาจารย์ของเขา อาจจะไม่ต้องมีเื่รบกวนจิตใจอย่างนี้ก็ได้” เถารั่วเซียงนอนพิงอยู่บนหมอน พูดเองเออเองขึ้นคนเดียว
ในเมื่อคาบนี้ก็ไปสอนไม่ทันเมื่อ หลับต่ออีกสักงีบดีกว่า จะได้ถือโอกาสนี้คิดด้วยว่าต่อไปจะจัดการกับความสัมพันธ์ของเธอกับฉินหลางยังไง แม้ว่าอาจารย์เถาจะจบมหาวิทยาลัยแล้ว แต่เนื่องจากสาเหตุบางอย่าง ทำให้ประสบการณ์ในเื่ความรักของเธอยังคงเป็ผ้าขาวอยู่ ดังนั้นฉินหลางจึงทำให้เธอรู้สึกกระวนกระวายใจไม่น้อยเลยจริงๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้