เพียงแต่...พวกนักรบเผ่าคนเถื่อนพยายามป้องกันอย่างสุดชีวิต พวกมันกลับไม่สนว่าจะาเ็ล้มตายอย่างไร ยังคงยืนเรียงหน้าตั้งรับการโจมตีระลอกแรกของพวกเขา แม้จะาเ็ล้มตายกันไปเป็จำนวนมากแต่ขบวนทัพกลับไม่ระส่ำระสายสับสนวุ่นวายขึ้นมาแต่อย่างใด ยังคงมีระเบียบแบบแผนดังเดิม ด้านที่ถูกโจมตีจนเปิดออกก็ถูกนักรบคนเถื่อนที่อยู่สองข้างเข้ามาเสริมทดแทน ที่าเ็พอจะยืนได้ก็ยืนขึ้นด้วยร่างที่สั่นสะท้าน ที่พิการหรือตายไปก็ถูกหามออกไปอย่างรวดเร็ว ขบวนทัพไม่ได้เกิดความสับสนวุ่นวาย พวกมันยังคงเป็ดั่งเสาหินใหญ่ที่ถูกปักตั้งเรียงรายขวางไว้เบื้องหน้าอยู่เช่นนั้น...
เห็นได้ชัดว่าพวกนักรบเผ่าคนเถื่อนกำลังใช้ชีวิตเพื่อถ่วงเวลา ใช้เืเนื้อเป็ๆ มาปิดกั้นทางหลบหนีของกองกำลังทั้งสี่ตระกูล
“ทุกคนโจมตีเข้าไปอีก โจมตีออกไปด้วยพลังทั้งหมดที่มี ตระกูลเฟิงบังคับกระบี่มุ่งโจมตีไปที่ดวงตา ตระกูลเยว่โจมตีไปที่ิญญา ส่วนคนที่เหลือปล่อยพลังปราณรบออกมาให้หมด!” เย่สือซานร้องคำรามออกมาด้วยสีหน้าดุร้าย โคจรพลังปราณรบปล่อยออกมาเต็มที่เปลี่ยนเป็หอกยาวขนาดใหญ่พุ่งโจมตีออกไป
“มารดามันเถอะ คิดจะเอาชีวิตข้าก็ต้องเอาชีวิตมาแลกก่อน” ด้านหลังของนักกระบี่ระดับขอบเขตจ้าวนักรบตระกูลเฟิงสองคนปรากฏกระบี่บินเล่มเล็กๆ ขึ้นมานับไม่ถ้วน กระบี่บินลอยแหวกอากาศออกไปด้วยความเย็นเฉียบ พุ่งตรงไปยังนักรบเผ่าคนเถื่อนที่ยืนอยู่เบื้องหน้า
เฟิงจื่อตื่นเต้นคึกคักเป็อย่างมาก ไม่ได้มีความรู้สึกหวาดกลัวหรือขลาดเขลาแม้แต่น้อย กระบี่สีดำเล่มใหญ่ของเขาราวกับห่วงโซ่คร่าชีวิตฉันนั้น กระชากชีวิตของนักรบเผ่าคนเถื่อนคนแล้วคนเล่า ดวงตาของเขาแดงก่ำดั่งสีเื หัวเราะฮ่าๆ ออกมาไม่หยุด “มารดามันเถอะ! บุรุษตายต้องตายอย่างองอาจ พี่น้องของข้าจัดการบดขยี้พวกมันอย่าให้เหลือ!”
ในเวลาเดียวกัน พลังปราณรบที่พุ่งออกไปโจมตีกวาดล้างไปเบื้องหน้า กระบี่มากมายนับไม่ถ้วนบินวนเวียนสลับไปมา เสียงะเิดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักรบเผ่าคนเถื่อนนับไม่ถ้วนล้มลงสู่พื้น แล้วก็มีอีกมากมายที่เข้ามาทดแทนในทันที ซากศพที่นอนระเกะระกะอยู่ด้านหน้าสุดในตอนนี้ไม่มีใครมาเก็บกวาด กองพะเนินทับถมกันจนเป็ูเา แต่ว่าแนวป้องกันก็ยังไม่ได้ถูกทำลายลงแต่อย่างใด
เย่สือซานปล่อยหอกยาวสีเขียวพุ่งโจมตีออกไปอีกครั้ง จากนั้นหันหน้ามองออกไปยังที่ห่างไกลที่อยู่ด้านหลัง เห็นกลุ่มควันลอยฟุ้งหลายสายที่กำลังตรงเข้ามา เขาถอนหายใจออกมาอย่างอับจนปัญญาแล้วจึงโบกมือส่งสัญญาณบอกผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบของแต่ละตระกูล สุดท้ายออกคำสั่งที่ไม่อยากจะพูดออกมามากที่สุดขึ้น “ทุกคนบุกโจมตีเข้าไป ดำเนินการแผนถอยร่นขั้นที่สอง”
แผนการถอยร่นขั้นที่สอง!
ทันทีที่ได้ยินคำนี้ เย่ชิงหานสีหน้าแข็งทื่อขึ้นมาทันที ฮวาเฉ่า เฟิงจื่อ เยว่ชิงเฉิง และเย่ชิงอู่ทั้งหมดสีหน้าล้วนเปลี่ยนเป็ไม่ดีขึ้นมา แผนถอยร่นขั้นที่สองคือ ทุกคนบุกทะลวงโจมตีไปข้างหน้า ต่อสู้แลกชีวิตเพื่อปกป้องให้ผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบพาเหล่านายน้อยกับคุณหนูของตระกูลหลบหนีไป หากดูจากสถานการณ์เบื้องหน้าในตอนนี้ นอกจากพวกตนเองกับผู้คุ้มกันระดับขอบเขตเ้านักรบที่รอดแล้ว คนอื่นๆ คงจะต้องจบชีวิตอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน
“ไม่! รออีกหน่อย รออีกสักหน่อย!” เย่ชิงหานส่ายหัวไปมาอย่างหนักหน่วง ซัดฝ่ามือพลังปราณรบขนาดใหญ่ออกไปใส่ศัตรูเบื้องหน้าอย่างบ้าคลั่ง เขารู้ดีว่านักรบระดับหัวกะทิของทั้งสี่ตระกูลที่มาอยู่ที่ล้วนเป็เพราะตนเอง เป็เพราะ้าที่จะช่วยเหลือเขาถึงได้มาอยู่ที่สนามรบตะลุมบอนแห่งนี้ ถึงได้ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ ถ้าหากทั้งสองร้อยคนต้องมาจบชีวิตเพราะตนเองเป็ต้นเหตุจริงๆ ละก็ จิตใจคงไม่สงบสุขไปตลอดชีวิต
ดังนั้น เขาจึงพูดออกมาด้วยสัญชาตญาณของจิตใต้สำนึก พร้อมทั้งซัดฝ่ามือพลังปราณรบที่มีเก็บสะสมไว้ไม่มากภายในร่างกายออกไปอย่างบ้าคลั่ง...
“เริ่มปฏิบัติการได้!”
เย่สือซานกวาดตามองนักรบลูกหลานของตระกูลเย่ด้วยสายตาราบเรียบ พยักหน้าให้กับเย่สือชี จากนั้นะโออกไปหายังข้างกายของเย่ชิงหานใช้มือข้างหนึ่งจับเขาไว้ โคจรพลังปราณรบอย่างเต็มกำลังพร้อมกับแผ่สนามพลังสีเขียวออกมา มืออีกข้างโบกสะบัดพร้อมกับร้องคำรามออกมา “ทุกคนบุกโจมตีเข้าไป!”
เมื่อเย่สือซานเริ่มดำเนินการผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบคนอื่นๆ ก็ปฏิบัติตาม พาตัวนายน้อยและคุณหนูของตระกูลตนเอง เปิดสนามพลังพร้อมกับร้องตะคำรามออกมา “บุกโจมตีเข้าไป!”
“บุกเข้าไป! โจมตีทะลวงเข้าไป!”
นักรบระดับหัวกะทิทั้งสองร้อยคนร้องคำรามออกมาพร้อมๆ กัน ตระกูลให้ฝึกฝนชุบเลี้ยงมาหลายปี เหมือนดั่งคำที่ว่า ฝึกฝนและสร้างสมกำลังทหารเป็พันๆ วัน แต่จะใช้กำลังทหารออกรบชั่วเวลาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ตอนนี้คือเวลาที่พวกเขาจะต้องตอบแทนบุญคุณคืนให้ทางตระกูล ในเมื่อรู้ว่าไม่มีหนทางรอดอย่างแน่นอน ภายในใจที่พร้อมตายได้ทุกเมื่อ จิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความกระหายการสู้รบของทุกคนถูกปลดปล่อยออกมาเป็พลังรบอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทั้งกองกำลังราวกับสายน้ำที่ทำด้วยเหล็กกล้าไหลบ่าออกไปปะทะชนเข้ากับนักรบเผ่าคนเถื่อนที่อยู่เบื้องหน้าบังเกิดเสียงดังตูมตามขึ้น
“โฮก! โฮก!”
นักรบเผ่าคนเถื่อนรับรู้ได้ในทันที ที่ยังเหลืออยู่หลายร้อยคนรีบรวมตัวกันขึ้น ควงหมัดที่ใหญ่โตและกระบองใหญ่ั์ที่อยู่ในมือพุ่งเข้ารับมือกับนักรบของทั้งสี่ตระกูล
บรรยากาศสนามรบเดือดพล่านขึ้นในทันที ไม่ใช่เ้ารอดก็ข้าตาย มีเ้าไม่มีข้า มีข้าไม่มีศัตรู...
.................................
ปัง! ปัง!
ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังเข้าปะทะกันนัวเนียอยู่นั้น เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น กองกำลังของสี่ตระกูลที่กำลังพุ่งออกไปเข้าปะทะต้องหยุดชะงักลงในทันที ด้านหลังของกองกำลังนักรบเผ่าคนเถื่อนปรากฏพลังปราณรบจำนวนมากลอยขึ้นมาบนท้องฟ้า สีสันแวววาวหลากสีจนลานตา! พลังปราณรบเ่าั้พุ่งโจมตีเข้าใส่นักรบเผ่าคนเถื่อนที่กำลังจะพุ่งทะยานออกมาปะทะกับกองกำลังของทั้งสี่ตระกูล จากนั้นมีเงาสีดำหลายสายหนึ่งพุ่งเข้าไปยังใจกลางกองกำลังของนักรบเผ่าคนเถื่อน ดูราวกับหอกเหล็กกล้าที่แหลมคมเสียบลงไปอย่างรุนแรง ทำให้ขบวนทัพของนักรบเผ่าคนเถื่อนเกิดการระส่ำระสายขึ้น
“คนกันเอง! ทัพเสริมมาแล้ว แผนถอยร่นขั้นที่สองเปลี่ยนเป็ขั้นที่หนึ่ง มีข้าไม่มีศัตรู ทุกคนทะลวงบุกออกไป!” ดวงตาเย่สือซานปรากฏแววของความยินดีวาบผ่าน สนามพลังที่ปล่อยออกมาสีสันลานตายิ่งขึ้น
“เย่อี เป็พวกเย่อี! ฮ่าๆ รอดแล้ว ทุกคนฆ่ามัน!”
เย่ชิงหานมองดูกลุ่มคนชุดดำเบื้องหน้าที่ราวกับฝูงราชสีห์กระโจนเข้าใส่ฝูงแกะเนื้อ มองดูพวกเย่อีที่อยู่เบื้องหน้าหันโจมตีไปทางใดล้วนไร้คู่ต่อกร ใบหน้าของเขาพลันแสดงความดีใจอย่างบ้าคลั่งขึ้น จากนั้นพุ่งตามหลังเย่สือซานออกไปใช้วิชาท่าเท้าเคลื่อนย้ายไร้รูปลักษณ์กระโจนเข้าไปในกลุ่มนักรับเผ่าคนเถื่อนด้วยอีกคน
ด้วยกำลังช่วยเหลือที่แข็งกร้าวของพวกเย่อี ในที่สุดก็ทำให้นักรบเผ่าคนเถื่อนที่พลังใจในการสู้รบที่มีต่ำอยู่แล้วเริ่มจะเกิดการระส่ำระสายชุลมุนวุ่นวายขึ้น กองกำลังของทั้งสี่ตระกูลภายใต้การนำของเย่สือซานและนักรบระดับของเขตจ้าวนักรบคนอื่นๆ ที่ร่วมมือกันโจมตีออกไป ทำให้กองกำลังนักรบเผ่าคนเถื่อนที่ตั้งรับอยู่ถูกตีแตกไปสองฝั่งจนระส่ำระสายขึ้นมา เพียงแต่ภายใต้เสียงร้องคำรามสั่งการของนักรบเผ่าเคนเถื่อนระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนทั้งสี่ ทำให้นักรบเผ่าคนเถื่อนคนอื่นๆ ยังคงฝืนทนต่อสู้รับมืออยู่ต่อ
“สือซาน พวกเ้าจะมาต่อสู้อีกเพื่ออะไร? อยากจะตายทั้งหมดที่นี่หรืออย่างไร? รีบฝ่าวงล้อมออกไป เดี๋ยวพวกข้าจะรั้งท้ายให้เอง!”
เย่อีควงดาบฆ่าม้าที่อยู่ในมือ คมดาบสีม่วงฟันนักรบคนเถื่อนคนหนึ่งปลิวกระเด็นลอยออกไป จากนั้นเงยหน้าขึ้นมาร้องะโด่าเย่สือซานที่กำลังต่อสู้อย่างเืขึ้นหน้าอยู่
“อืม!” เย่สือซานถูกเย่อีด่าออกมาด้วยความไม่พอใจ เขาชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะเข้าใจความหมายในแววตาที่เดือดดาลของเย่อี จากนั้นร้องออกไปด้วยความลังเล “พี่ใหญ่? พี่ซาน! พี่จิ่ว! พี่สืออี!”
มองเห็นความลังเลและคำร้องเรียกที่กระบิดกระบวนอืดอาดยืดยาดของเย่สือซาน เย่อีเดือดดาลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ใช้ดาบฆ่าม้าฟันนักรบเผ่าคนเถื่อนคนหนึ่งที่อยู่ใต้เท้าขาดออกเป็สองท่อน จากนั้นถลึงตามองเขาแล้วร้องออกมาด้วยความเดือดดาล “ยังไม่รีบไปอีก! นักรบระดับหัวกะทิตายอยู่ที่นี่ทั้งหมดทางตระกูลก็ว่าอะไรเ้าไม่ได้ แต่ถ้าหากพวกนายน้อยและคุณหนูเป็อะไรไปพวกเราทั้งหมดแม้ตายก็ทดแทนไม่ได้! ยังไม่รีบไสหัวไปให้เร็วอีก!”
“สือซานรีบไป ข้าเย่จิ่วรอบนี้จะมาคิดบัญชีกับเยาขาข่า กลับไปเดี๋ยวเราค่อยมาดื่มกัน!” แขนเสื้อข้างซ้ายของเย่จิ่วว่างเปล่า มือข้างขวาถือดาบใหญ่สีทองดำควงสะบัดฟาดฟันไปมา บุคลิกลักษณะองอาจห้าวหาญ ร้องบอกเย่สือซานพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้