คฤหาสน์ราชนาโยวงศ์ติชัย
11:00น.
เ้าหญิง อัยยญาดา...
“น้องหญิงคะ น้องหญิงลูก”เสียงของคุณแม่เอ่ยขึ้นพร้อมกับแรงสะกิดไหล่ฉัน ทำให้ฉันสะดุ้งใหลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเอง
“คะ คุณแม่”ฉันหันไปมองคุณแม่และเอ่ยขานท่าน
“ไม่สบายรึป่าวลูกมองหนูเหม่อๆนะ”คุณแม่นั่งลงบนเก้าอี้ใกล้ๆฉันพลางยื่นมือมาลูบผมฉันและเอ่ยถามฉันอย่างเป็ห่วง
“เปล่าค่ะ น้องหญิงแค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย^_^”ฉันหันไปตอบคุณแม่พลางยิ้มให้ท่าน ท่านก็ยื่นมือมาบีบแก้มฉันเบาๆด้วยความเอ็นดู
“เดี๋ยวอาทิตย์หน้าแม่ไม่อยู่นะคะลูก แม่ต้องไปเป็เพื่อนคุณพ่อเขาดูงานที่ต่างประเทศ”คุณแม่ของฉันเอ่ยขึ้น ฉันก็หันมามองหน้าท่านด้วยสีหน้าเศร้าเพราะั้แ่เกิดมาฉันไม่เคยอยู่ห่างจากคุณพ่อคุณแม่เลย มีก็แต่่ที่คุณพ่อส่งให้ฉันไปเรียนโรงเรียนประจำหญิงล้วนนั้นแหละ
“ไปกี่วันคะ?”ฉันเอ่ยถามคุณแม่ไปพลางขยับตัวเข้าไปแนบชิดกับท่านและเอนศีรษะซบลงไปบนไหล่ของคุณแม่
“ไปอาทิตย์หนึ่งค่ะลูก^_^”
“น้องหญิงต้องคิดถึงคุณแม่มากแน่ๆเลยค่ะ”ฉันเอ่ยบอกคุณแม่ไปอย่างออดอ้อนและเอื้อมมือของฉันไปโอบเอวบางของท่าน
“หนูจะมีเวลามาคิดถึงแม่เหรอจ๊ะ เพราะหนูก็ต้องไปเที่ยวเหมือนกันไม่ใช่เหรอจ๊ะ?”คุณแม่ลูบผมฉันพลางเอ่ยขึ้น คำพูดของคุณแม่ทำให้ฉันขมวดคิ้วงุนงงและเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าคุณแม่
“ก็คุณพ่ออนุญาตให้น้องหญิงไปเที่ยวกับเพื่อนๆได้จ๊ะ^_^”
“จริงๆเหรอคะคุณแม่^_^”
“จริงสิจ๊ะลูกรัก ถ้าคุณพ่อกับแม่อนุญาตแล้วตาชายก็ไม่มีสิทธิ์มาห้ามหนูจ๊ะเพราะตาชายเองยังแอบแม่ไปสนามแข่งรถทุกคืน”คุณแม่เอ่ยบอกฉันพลางทำนำ้เสียงดุๆเมื่อพูดถึงเื่ของพี่ชาย เพราะเมื่อคืนนี้รถของพี่ชายพังยับเยินเพราะพี่ชายไปแข่งมาเขาชนะมีและแถมยังได้เงินรางวัลกับรถและก็ผู้หญิงกลับมา แต่พี่ชายฉันเอารถไปบริจาคให้มูลนิธิเด็กกำพร้าพร้อมกับเงินรางวัลมอบให้มูลนิธิหมดเลย ส่วนผู้หญิงพี่ชายของฉันเขาไม่สนใจผู้หญิงอยู่แล้วล่ะเขาเลยไม่ได้รับข้อเสนอเื่ผู้หญิง
“แต่พี่ชายก็ทำทุกอย่างไปเพื่อช่วยเหลือมูลนิธินะคะคุณแม่”ฉันเอ่ยขึ้นพลางมองหน้าคุณแม่ ท่านก็ยิ้มให้ฉัน
“ชายมีวิธีอื่นที่จะช่วยมูลนิธิตั้งเยอะนะคะลูก พี่เขาไม่จำเป็ต้องเอาตัวเองไปเสี่ยงแบบนั้นเลย แม่ละเป็ห่วงพี่เขาซะเหลือเกิน”คุณแม่เอ่ยบอกฉันพลางทำสีหน้าเศร้าลงและนำ้เสียงเป็ห่วงของคุณแม่ทำให้ฉันเอื้อมมือไปโผลเข้ากอดท่านอีกครั้ง เราสองคนกิดกันอยู่เนิ่นนาน
“ว่าแต่น้องหญิงละจ๊ะมีใครเข้ามาทำความรู้จักกับหนูบ้างไหม?”คุณแม่เอ่ยถามฉัน ฉันก็หลบสายตาของคุณแม่
“ทำความรู้จักแบบไหนเหรอคะ?”ฉันเอ่ยถามคุณแม่ไปเผื่อว่าฉันจะได้ตอบท่านถูกเพราะฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าคุณแม่ถามถึงอะไร
“ทำความรู้จักแบบคนรัก น้องหญิงของแม่ทั้งสวยทั้งอ่อนโยนทั้งสดใสใครๆเห็นลูกก็ต้องหลงรักลูกแม่ทั้งนั้น^_^”
“ไม่จริงหรอกคะ”ฉันส่ายศีรษะรัวและตอบคุณแม่ไป
“แม่รู้ข่าวจากอาจารย์ที่โรงเรียนของหนูตลอดนะจ๊ะว่าทุกวันจะมีบรรดาหนุ่มๆที่โรงเรียนลูกมารอรับลูกที่หน้าประตูทางเข้าโรงเรียนทุกวัน^_^”คุณแม่เอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่นำ้เสียงและเเววตาของคุณแม่มองฉันอย่างแซวๆๆ ฉันก็ย่นจมูกใส่ท่าน ท่านก็ยิ้มและยื่นมือมาบีบจมูกฉันเล่นอย่างหมั่นเขี้ยว
“คุณแม่อย่าแซวน้องหญิงนะคะเพื่อนกันทั้งนั้นค่ะ พวกเขาไม่ได้คิดอะไรกับน้องหญิงหรอกค่ะ”ฉันเอ่ยบอกคุณแม่ไปตามความคิดของตัวเอง แต่แวบนั้นเองฉันก็นึกถึงใครคนหนึ่งที่เพิ่งมาส่งฉันที่บ้านเมื่อคืนนี้โดยที่ฉันเข้ามานอนในห้องได้อย่างปลอดภัยไม่มีใครรู้ว่าฉันหายไป
“จ้า ไม่แซวก็ได้จ้า”คุณแม่เอ่ยบอกฉันพลางยิ้มกว้างมืออบอุ่นของคุณแม่ลูบไหล่ฉันอย่างเเผ่วเบา ฉันก็มองหน้าท่านเราสองคนแม่ลูกยิ้มให้กัน
“อุ๊ยแม่ลืมว่าแม่มีเคสคุยปรึกษาเื่สุขภาพ!”อยู่ดีๆคุณแม่ที่ได้รับการเเจ้งเตือนจากโทรศัพท์จากใครสักคนคุณแม่ที่ชำเลืองสายตาไปมองจอโทรศัพท์ที่เด้งข้อความขึ้นมาท่านก็เอ่ยขึ้นด้วยความใ
“แม่ต้องรีบไป หนูอยู่บ้านดีๆนะคะเดี๋ยวคำ่ๆแม่จะกลับมาพร้อมกับขนมหวานนะจ๊ะ^_^”คุณแม่เอ่ยขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืนอย่างไว ฉันที่มองคุณแม่ด้วยสายตาละห้อยเพราะวันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านเลย พี่ชายไปเรียนหนังสือ คุณพ่อไปทำงานที่โรงพยาบาล ส่วนคุณแม่ก็กำลังจะไปคลีนิคปล่อยให้น้องเล็กของบ้านอยู่คนเดียวอย่างเหงาๆ
“หรือว่าหนูอยากไปกับแม่คะ?”
“ไม่ค่ะ น้องหญิงอยู่บ้านดีกว่าค่ะ^_^”ฉันรีบตอบคุณแม่ไปอย่างไวเพราะที่คลีนิคของคุณแม่มีผู้ป่วยมากมายและแต่ละคนที่มีหาคุณแม่ก็จะมากันในสภาพที่มีเืท่วมตัวบ้างล่ะ หัวแตกต้องเย็บบ้างล่ะ เพราะว่าที่คลีนิคของคุณแม่ฉันรักษาทุกโรค และรับทำแผลทุกที่โดยที่เสียค่าใช้จ่ายถูกกว่าที่โรงพยาบาลเกือบเท่าตัว
“จ๊ะอยู่บ้านดีๆนะจ๊ะ^_^”
“ค่ะ รับทราบค่ะ^_^”ฉันตอบคุณแม่ไปและเดินคล้องแขนท่านไปส่งท่านขึ้นรถโดยมีคนขับรถกำลังรอเปิดประตูรถให้คุณแม่อยู่
“น้องหญิงนะเดี๋ยวพรุ่งนี้เราไปทำบุญกันไหมคะลูก ่นี้แม่เป็ห่วงหนูแปลกๆยังไงชอบกล”คุณแม่ที่กำลังจะเดินขึ้นรถหรูคันสีขาวที่จอดรอท่านอยู่ก็หันมาเอ่ยบอกฉัน ทั้งแววตาและนำ้เสียงของท่านบ่งบอกว่าท่านเป็ห่วงฉันมากจริงๆ
“ได้ค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้น้องหญิงจะตื่นขึ้นมานึ่งขนมตาลแต่เช้าเพื่อเอาไปถวายพระนะคะ”
“จ๊ะ^_^”คุณแม่ยิ้มให้ฉันและยื่นมือมาโอบร่างของฉัน
“ฟอด ฟอด แม่ไปทำงานก่อนนะจ๊ะ”คุณแม่หอมแก้มทั้งสองข้างของฉันพลางเอ่ยขึ้น
“ค่ะ น้องหญิงจะรอขนมหวานร้านโปรดนะคะ”
“จ๊ะลูกรัก^_^”คุณแม่ขานรับฉันและท่านก็เดินขึ้นรถยนต์คันหรูของท่านไป ฉันก็ยืนโบกมือบ๊ายบายให้ท่านจนรถขับเคลื่อนออกนอกตัวรั้วบ้านไปแล้ว
“ไปทำการบ้านต่อดีกว่า”ฉันพึมพำขึ้นและเดินกลับไปที่เดิม ที่โต๊ะนั่งเล่นที่สวนหลังบ้านของฉันเพราะฉันเองก็ทำการบ้านอยู่แต่บังเอิญหัวใจของฉันมันกำลังสื่อบอกว่ามันกำลังเหงาในใจยังไงแปลกๆเหมือนกำลังคิดถึงใครสักคนอยู่
“น้องหญิงครับ”เสียงเรียกอันคุ้นหูของฉันดังขึ้นจากทางประตูหลังบ้านที่อยู่ติดกับถนนที่รถยนต์สามารถขับผ่านได้
“คุณหมอแทน?!”ฉันที่หันไปทันทีก็พบกับผู้ชายร่างสูงที่สวมสูทสีดำเป็ระเบียบเรียบร้อยกำลังยืนยิ้มให้ฉันอยู่มือทั้งสองข้างของเขากำลังเกาะขอบประตูรั้วอยู่ ฉันรีบเดินเข้าไปหาเขาอย่างไว
“คุณหมอแทนมาทำอะไรที่นี้คะ?”ฉันเอ่ยถามคุณหมอแทนไปด้วยความสงสัย
“ก็วันนี้โรงเรียนของน้องหญิงหยุดผมรู้ว่าวันนี้ผมคงไม่ได้เจอน้องหญิงที่โรงพยาบาลเลยมาหาน้องหญิงที่บ้านของน้องหญิงแทนยังไงละครับ^_^”คุณหมอแทนเอ่ยขึ้นพร้อมกับจ้องมองหน้าของฉัน ฉันก็ยิ้มเขินๆกับคำพูดของเขา ที่เขามาหาฉันที่นี้ก็เพราะเขาเองก็คิดถึงฉันเหมือนกันใช่ไหม ก็คุณหมอแทนเคยบอกฉันหนิว่าใจเราตรงกัน