จุดบริเวณดังกล่าวเป็แนวต้นไม้สูงใหญ่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับป่าโบราณที่มีอายุหลายร้อยหลายพันปี กลิ่นอายของสมุนไพรระดับสูงรวมไปถึงลมปราณฟ้าดินบริสุทธิ์ไหลเวียนอย่างเข้มข้น เห็นได้ชัดว่าโดยรอบนี้มีความอุดมสมบูรณ์เป็อย่างมาก
มากไปกว่านั้นยังให้ความรู้สึกราวกับว่าตกอยู่ในสายตาดุร้ายไม่ประสงค์ดีที่มองมาจากทั่วทั้งสารทิศ หนิงอ้ายไม่รอช้ารีบสั่งการให้วิหคสอดแนมของตนออกมาอย่างไม่จำกัดในรัศมีพื้นที่โดยรอบ สำหรับเนตรเเห่ง์ในตอนนี้ที่หนิงอ้ายเป็ผู้ฝึกตนระดับเทวะิญญาขั้นต้นได้ส่งผลให้อาณุภาพยิ่งเหนือชั้นมากขึ้น
ดวงตาเรียวงามสีดำในรูปลักษณ์ปลอมเเปลงนี้แปรเปลี่ยนเป็สีทองอร่ามไปชั่วครู่ก่อนที่จะกลับมาเป็เป็ปกติ ญาณััได้ถูกขีดเค้นออกมาถึงขีดสุดจนสามารถรับรู้ในในระยะสองลี้อย่างชัดเจน หนิงอ้ายััได้ถึงสัตว์อสูรที่อยู่รายล้อมชวนให้น่าหวั่นเกรงอยู่ไม่น้อยสำหรับคนธรรมดาหรือผู้ฝึกตนทั่วไป
เเต่ด้วยเพราะเหวินหวู่ที่เป็ผู้ฝึกตนระดับราชันิญญาขั้นสูง ที่อีกเพียงครึ่งก้าวก็จะบรรลุถึงระดับเทพยุทธ์ิญญาเเล้วย่อมส่งผลให้อสูรร้ายต่าง ๆ เหล่านี้ไม่กล้าก้าวล้ำเข้ามาในบริเวณเพราะััได้ถึงการมีอยู่ของผู้ฝึกตนระดับสูง
เเต่ถึงอย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ย่อมไม่ส่งผลกระทบใดต่อเด็กหนุ่มทั้งสิ้นเนื่องจากความเชี่ยวชาญในการควบคุมลมปราณที่สามารถบัญชาการได้ตามใจนึก ชายชราจึงบอกให้ชาวบ้านสี่ห้าคนที่อยู่ไม่ไกลรีบกลับไปยังหมู่บ้านในทันที หนิงอ้ายได้ส่งวิหคสอดแนมติดตามชาวบ้านเหล่านี้ไปเผื่อที่ว่าหากเกิดสิ่งใดขึ้นตนจะได้ไปช่วยเหลือได้ทัน
หนิงอ้ายเห็นว่าอาจารย์ของตนกำลังต่อสู้กับสัตว์อสูรตัวหนึ่งที่มีขนาดใหญ่โตเป็อย่างมาก รูปลักษณ์ภายนอกไม่ต่างไปจากแมงมุมสีดำตัวใหญ่ที่มีมากถึงสิบหกขาที่เต็มไปด้วยขนปกคลุมชวนให้รู้สึกขนลุก ก่อนหน้านี้ใช่ว่าเขาจะรับรู้ว่าการเดินทางที่ราบรื่นผิดปกตินั้นเกิดจากฝีมือของชายชราผู้เป็อาจารย์ของตน ด้วยความประมาทชะล่าใจนี้เองจึงทำให้เขาััได้ถึงสัตว์อสูรนี้จนช้าเกินไป
แน่นอนว่าจุดประสงค์ในการเดินทางครั้งนี้นอกจากที่เขาจะต้องไปสอบเลื่อนระดับเป็นักปรุงโอสถที่มีป้ายรับรองเเล้วนั้นการเดินทางครั้งนี้ไม่ต่างไปจากการฝึกฝนสักเท่าไหร่นัก ดังนั้นหนิงอ้ายจึงสงบจิตใจพร้อมตั้งรับในทันที
จิตสังหารอย่างรุนแรงที่หนิงอ้ายััได้ชี้ชัดว่าสัตว์อสูรดังกล่าวนี้เป็ถึงสัตว์อสูรระดับมายาขั้นสูงเทียบเท่าได้กับผู้ฝึกตนระดับเทวะิญญาขั้นสูงที่ครึ่งก้าวก็ถือได้ว่าเป็ผู้ฝึกตนระดับราชันิญญาแล้วเช่นกัน ิญญายุทธ์ของเด็กหนุ่มที่ถูกเรียกใช้ออกมาได้ปกคลุมไปทั่วทั้งตัวไม่ต่างไปจากเกราะป้องกันสักเท่าไหร่นัก อสูรตรงหน้าที่เห็นว่าชายชราตรงหน้ามีฝีมือมากกว่ามันถึงหนึ่งขั้นใหญ่ ดังนั้นมันจึงหันมาโจมตีเด็กหนุ่มในทันทีเมื่อััได้ถึงระดับพลังิญญาที่ต่ำกว่าที่คาดว่าน่าจะจัดการได้ง่ายดายกว่านั่นเอง
มหาบุปผชาติอัคคีเพลิงจำแลงลักษณ์!!!
ตู้ม!!!
สัตว์อสูรตรงหน้าสีดำที่มีขนาดตัวถึงสามเมตรคำรามดังขึ้น สิบหกขาคมกริบพุ่งตัวเข้ามาโจมตีด้วยความรวดเร็ว หนิงอ้ายจึงถอยหลังเพื่อรับเเรงกระแทก ดังกล่าวก่อนที่จะส่งเวทย์โจมตีโต้กลับไปประสานเข้ากับเคล็ดวิชาตัวเบาไป ร่างของหนึ่งสัตว์อสูรหนึ่งผู้ฝึกตนไหววูบเข้าหากันอย่างต่อเนื่อง
การต่อสู้อย่างเชี่ยวชาญที่ถูกประสานเข้ากับิญญายุทธ์ของหนิงอ้ายนั้นได้สร้างาแให้กับสัตว์อสูรตรงหน้าในทุกครั้งที่โจมตีราวกับว่าถูกคำนวนไว้เเล้ว อย่างไรแมงมุมสีดำก็ไม่เสียชื่อที่เป็ถึงสัตว์อสูรระดับสูง เพราะว่าส่วนของขาทั้งสิบหกที่แหลมคมราวกับหอกนั้นที่เคลือบไปด้วยปราณพิษเข้มข้นเอาไว้ได้ตวัดเข้าจู่โจมเด็กหนุ่มที่สามารถสร้างาแตรงเหนือด้านเเขนซ้ายของอีกฝ่ายได้สำเร็จ
"พิษของอสูรจักรพรรดิแมงมุมรัตติกาลเหมันต์เช่นข้าสามารถสังหารสิ่งมีชีวิตภายในเวลาไม่ถึงครึ่งเค่อ ร่างกายของผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์เช่นนี้นับว่ารสเลิศเป็อย่างยิ่งหลังจากที่สังหารเ้าเสร็จ ข้าก็จะสังหารตาเฒ่านั่นเป็รายต่อไป..." แมงมุมสีดำเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าตนนั้นได้ถูกพิษของตนไปเสียเเล้ว
กลิ่นคาวอันเป็เอกลักษณ์ของปราณธาตุพิษของสัตว์อสูรตรงหน้านั้นได้ตีขึ้นจมูกเด็กหนุ่มชวนให้รู้สึกคลื่นไส้ยิ่งนัก เเต่ถึงอย่างนั้นสองขาของเด็กหนุ่มนั้นยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคง
"เ้าคิดว่าพิษที่อ่อนด้อยเช่นนี้จะสามารถสังหารข้าได้ ช่างน่าขันยิ่งนัก!!" หนิงอ้ายะโกลับไปพร้อมกับหยิบโอสถรักษาในเเหวนมิติของตนเข้าปากในทันที
'อสูรจักรพรรดิแมงมุมรัตติกาลเหมันต์เป็สัตว์อสูรปราณธาตุพิษที่มีเกราะป้องกันแ่าเป็อย่างมาก การโจมตีจากทางด้านนอกโดยตรงไม่สามารถทำสิ่งใดได้มากนัก พิษร้ายไม่ต่างไปจากยากล่อมประสาทที่ทำให้เกิดภาพมายาไปชั่วขณะรู้สึกตัวอีกทีก็ไม่สามารถขยับร่างกายได้ หากเ้าโชคดีพอในตัวของเ้านี่น่าจะมีกระดูกิญญาให้เ้าได้ดูดซับ'
'แม้ว่าอาจจะไม่ได้มีระดับที่สูงมากเเต่ถึงอย่างนั้นก็สามารถเพิ่มความเข้มข้นของปราณธาตุพิษในร่างกายของเ้าได้เช่นกัน...' เสียงของท่านผู้เฒ่าดังขึ้นในหัวของเด็กหนุ่ม ข้อมูลนั้นตรงกับเนตรแห่ง์ของหนิงอ้ายที่ได้บอกให้รับรู้ในก่อนหน้าเช่นกัน
'บริเวณดวงตาทั้งสองข้างของมันคือจุดอ่อน เ้ารีบจัดการมันเสียหากยิ่งปล่อยผ่านเวลาไปมากกว่านี้เหล่าสมุนไพรระดับสูงที่ขึ้นอยู่โดยรอบจะถูกพิษร้ายของมันเเทรกซึมเข้าไปด้วย...'
หนิงอ้ายทำตามความแนะนำที่ได้รับมาอย่างไม่ลังเลใจแม้เเต่เพียงนิด พริบตานั้นบริเวณพื้นโดยรอบของเด็กหนุ่มได้ปรากฎเป็วงเเหวนเวทย์สีส้มประกายชี้ชัดได้ว่าเป็สัญลักษณ์เเทนผู้ฝึกตนระดับเทวะิญญาขั้นต้นเเล้ว ญาณััในร่างกายจะถูกรีดเค้นออกมาถึงขีดสุดก่อนที่จะส่งการโจมตีออกไปเป้าหมายนั่นคือสัตว์อสูรตรงหน้า
ิญญายุทธ์พัดหยกห้าเซียนวิถีเร้นลับ ทักษะิญญาที่หนึ่ง ลิ่มหยกห้ามัจจุราชเงามรณะ!!!
ตู้ม!!! ตู้ม!!! ตู้ม!!!
สิ้นเสียงของหนิงอ้ายนั้นร่างจำแลงอันเกิดจากกระดูกิญญาของอสูรราชินีแมงป่องแปดขามัจจุราชได้พุ่งเข้าโจมตีดวงตาทั้งสองข้างโดยทันที ส่งผลให้อีกฝ่ายนั้นส่งเสียงร้องดังด้วยความทรมานดังขึ้นไปทั่วทั้งบริเวณ หนิงอ้ายไม่รั้งรอให้ได้ตั้งตัวไปมากกว่านี้ เป้าหมายนั่นคือส่วนศีรษะที่ไร้ซึ่งดวงตาไปเเล้ว
แรงกระแทกดังกล่าวนี้เพียงพอที่จะทำลายส่วนอื่นของร่างกายรวมไปถึงอวัยวะภายในให้ได้รับการบอบช้ำไปด้วย เพียงอึดใจเดียวร่างสูงใหญ่นั้นได้ล้มลงนอนแน่นิ่งสิ้นฤทธิ์อยู่ตรงพื้นด้วยการตัดสินใจลงมืออย่างเด็ดขาดนี้ไร้ซึ่งความปราณีใดใดทั้งสิ้น เพราะอย่างไรนั้นไม่ว่าจะเป็โลกเดิมหรือว่าในโลกนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่ต่างไปจากเเบบทดสอบที่เข้าต้องฝ่าฟันและก้าวข้ามผ่านทั้งนี้ก็เพื่อความเเข็งแกร่งของตนทั้งสิ้น
เหวินหวู่ที่ถอยห่างออกมาไม่ไกลมองภาพตรงหน้าด้วยความชื่นชม ศิษย์ของเขาคนนี้เรียกได้ว่ามีความเชี่ยวชาญทั้งการต่อสู้รวมไปถึงการหลอมสร้างปรุงโอสถเป็อย่างยิ่ง ถึงตนจะรู้ว่าเด็กหนุ่มมีฝีมือมากพอที่จะไม่เพลี่ยงพล้ำแก่อสูรระดับมายาตรงหน้านี้ได้
ถึงอย่างไรนั้นชายชรายังคงแผ่กลิ่นอายเฉพาะตัวออกมาเพื่อสะกดข่มให้สัตว์อสูรโดยรอบไม่ให้สอดมือหรือเข้าใกล้ในรัศมีสองลี้ดังกล่าว แม้ว่าภายนอกจะนิ่งสงบคล้ายกับไม่เป็กังวลเเต่ถึงอย่างนั้นหากเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้นเขาย่อมที่จะช่วยเหลือศิษย์ตัวน้อยของตนได้อย่างแน่นอน
"ยอดเยี่ยมมาก เ้าสามารถวิเคราะห์จุดอ่อนของศัตรูและสามารถรวบรัดจัดการได้อย่างรวดเร็ว สัตว์อสูรระดับมายาตัวนี้หากเทียบเเล้วก็ไม่ต่างไปจากผู้ฝึกตนระดับเทวะิญญาขั้นสูงอสูรจักรพรรดิแมงมุมรัตติกาลเหมันต์นี้นอกจากจะเป็สัตว์อสูรธาตุพิษเเล้วนั้นยังมีเกราะป้องกันที่ดีเยี่ยมเช่นกัน การรับมือกับผู้ฝึกตนหรือสัตว์อสูรนับได้ว่าไม่ง่ายดายสักเท่าไหร่นัก...."
"เเต่เมื่อครู่ที่เ้าเอาตัวเองเป็เหยื่อล่อจนได้รับาแที่มีพิษแฝงมาด้วยนั้น หากว่าก่อนหน้าเ้าไม่ได้ดูดซับกระดูกิญญาของอสรพิษาที่ไม่ต่างไปจากเ้าเเห่งพิษนั้นเ้าคงแย่ไปเสียเเล้ว สำหรับสัญชาติญาณกับการตัดสินใจที่เฉียบขาดน่าชื่นชมก็จริง เเต่ถึงอย่างนั้นเ้ายังต้องฝึกฝนอีกมาก อย่างไรก็ให้เป็เื่หลังจากนี้เเล้วกัน..." เหวินหวู่เอ่ยชมเด็กหนุ่มพร้อมกับให้คำแนะนำศิษย์ตัวน้อยของตนไปด้วยความหวังดี
ในใจยังคงสงสัยอยู่บ้าง กลิ่นอายสังหารของเด็กหนุ่มที่ไม่ควรเกิดขึ้นใน่อายุสิบห้าสิบหกปีเช่นนี้ไม่รู้ว่าลูกศิษย์ตัวน้อยของตนต้องพบเจอสิ่งใดมาบ้าง หวังเเต่เพียงว่าเด็กหนุ่มจะยังคงรักษาจิตใจที่บริสุทธิ์ของตนไม่ถลำลึกไปกับความดำมืดในจิตใจ...
"โชคดีของเ้า กระดูกิญญาชิ้นนี้หากได้ประสานเข้ากับร่างกายไปเเล้วย่อมส่งเสริมปราณธาตุพิษในตัวให้มีความเข้มข้นไปอีกไม่น้อย อีกทั้งเ้ายังสามารถเรียกใช้เกราะป้องกันที่เจือปนไปด้วยปราณพิษออกมาได้เช่นกันหลังจากนี้ ถือได้ว่าคุ้มค่าเสียจริง..." เหวินหวู่เอ่ยขึ้นพร้อมกับลูบหัวของหนิงอ้ายด้วยความเอ็นดู ก่อนที่จะใช้ลมปราณของตนดึงเอาส่วนของกระดูกิญญาออกมาจากร่างไร้ิญญาของสัตว์อสูรตรงหน้าที่ตายตกไปด้วยฝีมือศิษย์ของตน
"ท่านอาจารย์ข้าขอเก็บร่างไร้ิญญานี้ด้วยได้หรือไม่ขอรับ??" หนิงอ้ายเอ่ยถามชายชราผู้เป็อาจารย์ของตนด้วยเพราะคิดว่าร่างไร้ิญญาของสัตว์อสูรระดับมายาตัวนี้คงมีประโยชน์กับเจียวซิ่นสัตว์อสูรในพันธะไม่น้อย
"เ้าสามารถเก็บร่างไร้ิญญาของมันไปได้ หากให้อาจารย์แนะนำเ้าจงเก็บพิษของมันไว้สักเล็กน้อย ถึงแม้อสูรจักรพรรดิแมงมุมรัตติกาลเหมันต์นี้จะมีพิษไหลเวียนอยู่ก็จริง เเต่ถึงอย่างไรเืพิษนี้ก็สามารถปรุงโอสถออกมาได้เช่นกัน..." เหวินหวู่เอ่ยออกมาพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย
"ท่านอาจารย์จะสอนข้าปรุงโอสถพิษด้วยอย่างนั้นใช่หรือไม่ขอรับ??" หนิงอ้ายร้องดังขึ้นด้วยความดีใจ
เขาไม่คาดคิดว่าเหวินหวู่ผู้เป็อาจารย์ถึงกับจะสอนวิชาปรุงโอสถพิษให้ด้วย ในยุทธภพนี้แม้ทุกคนจะขนานนามว่าอีกฝ่ายเป็ปรมจารย์โอสถก็จริง เเต่อีกฉายาที่เหล่าศัตรูต่างหวั่นเกรงด้วยเพราะว่าเหวินหวู่นั้นมีชื่อว่าปรมจารย์หมื่นพิษนั่นเอง
"การที่เลือกเ้าให้เป็ศิษย์สืบทอดของตำหนักนั้น อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญคือข้า้ารับเ้าเป็ศิษย์สายตรงเพื่อสืบทอดตำแหน่งผู้ใช้พิษคนต่อไป ซึ่งนับวันเ้าก็ยิ่งพิสูจน์ให้เห็นเเล้วว่าข้าตัดสินใจได้ถูกต้องเเล้ว หวังว่าเ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง..." เหวินหวู่เอ่ยขึ้นด้วยความหนักเเน่น
"ขอบคุณท่านอาจารย์ที่เมตตาศิษย์คนนี้ ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง..." หนิงอ้ายตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่หนักเเน่นไปไม่แพ้กัน
"อาจารย์ว่าเ้ารีบไปเก็บร่างไริญญาและพิษของจักรพรรดิแมงมุมรัตติกาลเหมันต์เสีย การปะทะกันเมื่อครู่อาจจะสร้างความสนใจกับสัตว์อสูรก็เป็ไปได้ เมื่อไปถึงหมู่บ้านไร้นามเเล้วเ้าค่อยทำการดูดซับกระดูกิญญาชิ้นนี้ก็เเล้วกัน..."
หนิงอ้ายเเยกตัวไปจัดการตามที่อาจารย์ของตนได้แนะนำในทันที ส่วนทางฝั่งของเหวินหวู่ได้ทำการเก็บสมุนไพรระดับสูงที่ขึ้นอยู่โดยรอบ โดยยังคงส่งกลิ่นอายอันเเข็งแกร่งของผู้ฝึกตนระดับเทวะิญญาขั้นสูงครึ่งก้าวระดับเทพยุทธ์ิญญาเพื่อข่มขวัญเหล่าสัตว์อสูรโดยรอบไม่ให้ย่างกรายเข้ามาเมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย หนึ่งอาจารย์หนึ่งศิษย์จึงใช้วิชาตัวเบาเฉพาะของตนมุ่งไปทางหมู่บ้านไร้นามที่อยู่ในอีกฝั่งหนึ่งด้วยความรวดเร็ว
เพียงไม่กี่เค่อบุรุษต่างวัยทั้งสองคนก็มาถึงหน้าหมู่บ้านไร้นามเเห่งนี้ ด้วยเพราะก่อนหน้าชาวบ้านที่ถูกช่วยเหลือโดยฝีมือของพวกเขาได้มาถึงหมู่บ้านด้วยความปลอดภัย ทั้งสี่ห้าคนรวมไปถึงสมาชิกในครอบครัวต่างเข้ามาก้มกราบเพื่อขอบคุณในหนี้ชีวิตครั้งนี้ หากว่าชายชราและเด็กหนุ่มเข้าไปช่วยไม่ทันเเล้วพวกตนคงได้ตกตายไปอย่างแน่นอน เหวินหวู่ได้มอบโอสถรักษาให้กับอีกฝ่ายไปก่อนที่จะขอเเยกตัวคุยกับหัวหน้าหมู่บ้านที่ยืนรออยู่ไปไม่ไกลนัก
ดูจากท่าทางการพูดคุยนั้นหนิงอ้ายคาดเดาว่าอีกฝ่ายคงไม่ล่วงรู้ถึงฐานะที่เเท้จริงของอาจารย์ คงคิดเพียงว่าอีกฝ่ายเป็สุดยอดฝีมือเพียงเท่านั้น ในโลกยุทธภพของผู้ฝึกตนความเเข็งแกร่งต่างเป็ตัวชี้วัดที่ควรแก่การเคารพนับถือจากคนทั่วไป หรือเพียงเเค่สามารถเข้าสู่วิถีของผู้ฝึกตนแม้จะเป็เพียงระดับก่อเกิดิญญาก็ถือว่าเหนือชั้นกว่าคนธรรมดาทั่วไปเเล้ว อีกทั้งฐานะนักปรุงโอสถระดับเจ็ดของอีกฝ่ายถือว่าเป็ตัวตนระดับสูงสุดของนักปรุงโอสถในมหาทวีป ทว่าชายชราผู้เป็อาจารย์ของเขาคงไม่ได้เปิดเผยตัวตนไป
หลังจากที่พูดคุยกัน หัวหน้าหมู่บ้านได้เชื้อเชิญให้เหวินหวู่กับหนิงอ้ายไปพักที่เรือนของตนเเต่ทว่าก็ได้รับการปฏิเสธไป เหวินหวู่ได้มอบโอสถพื้นฐานหลายสิบขวดให้กับอีกฝ่าย พร้อมกับฝากให้กำชับคนในหมู่บ้านว่าหากไม่มีเื่จำเป็ไม่ควรที่จะไปในเขตป่ารอยต่อระหว่างป่าชั้นในกับป่าชั้นนอกดังกล่าว บริเวณนั้นเป็ที่อาศัยของสัตว์อสูรหลายเผ่าพันธุ์
ก่อนที่จะจากไปนั้นเหวินหวู่ได้เพิ่มพลังลมปราณไปตามหลักหมุดค่ายกลที่เคยได้วางไว้ในก่อนหน้า เมื่อเห็นเช่นนั้นเเล้วหนิงอ้ายจึงถ่ายเทพลังลมปราณของตนเขาเสริมไปพร้อมกันในทันที ซึ่งนี่จึงทำให้มั่นใจได้ว่าค่ายกลป้องกันนี้ยังคงอยู่ไปอีกหลายสิบปีอย่างแน่นอน
เหวินหวู่เอ่ยขึ้นกับหนิงอ้ายว่าหลังจากนี้ตนจะเพิ่มภารกิจล่าสัตว์อสูรโดยรอบของหมู่บ้านไร้นามแห่งนี้ เชื่อว่าหากได้มีการบรรจุภารกิจนี้ลงไปในอาคารส่วนกลางของสำนักเเล้วย่อมมีศิษย์สายใน ศิษย์สายนอกไม่น้อยที่สนใจในภารกิจนี้ หากเป็เช่นนั้นจริงหมู่บ้านไร้นามเเห่งนี้ก็จะได้รับการปกป้องดูเเลไปอีกทางหนึ่งนับได้ว่าเป็การเเก้ปัญหาในระยะยาวไปด้วยเช่นกัน...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้