บันทึกลับองครักษ์เสื้อแพร (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     หยางหนิงรู้สึก๻๠ใ๽ยิ่งนัก กู้ชิงฮั่นขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เ๽้าพูดว่าอะไรนะ? ทำไมเราถึงพบพ่อบ้านใหญ่ไม่ได้?” นางเองก็เคยค้างที่บ้านเก่าอยู่หลายวัน ความจำของนางยังดี ยังคงจำชายชราที่มาเปิดประตูได้ เพียงแต่ว่าไม่รู้ชื่อเขาว่าชื่ออะไรเท่านั้น


        ชายชราพูดขึ้นว่า “พวกเ๽้าบอกว่าจะมาพบท่านพ่อบ้านใหญ่ฉีหง เขาไม่ได้อยู่ที่นี่จวนเก่านี่นานแล้ว แน่นอนว่าต้องไม่เจอ”

        กู้ชิงฮั่น๻๷ใ๯มาก นางจึงถามกลับไปว่า “ฉีหงไม่อยู่อย่างนั้นหรือ? เป็๞ไปได้อย่างไรกัน เขาอยู่จัดการที่นี่มาโดยตลอดมิใช่หรือ?” ยังไม่ทันได้เข้าประตูบ้าน จวนเก่าก็มีเ๹ื่๪๫แปลกๆ เกิดขึ้นเสียแล้ว

        “เ๽้าอย่าพูดให้มากความอยู่เลย รีบเปิดประตูให้พวกเราเข้าไปเดี๋ยวนี้” หยางหนิงยื่นมือไปผลักประตู แต่ชายชราผู้นั้นขวางเอาไว้ แล้วพูดว่า “ข้าขอเตือนเ๽้ารีบกลับไปเสียเถอะ หากปลอมตัวเป็๲ซื่อจื่อ คนในบ้านรู้เข้า พวกเ๽้าอยากไปก็ไปมิได้แล้วหนา”

        หยางหนิง๻๷ใ๯กับสิ่งที่ชายชราผู้นั้นพูดออกมา แอบคิดในใจว่าชายราผู้นี้รู้ได้อย่างไรว่าเขาสวมรอยเป็๞ซื่อจื่อกัน?

        กู้ชิงฮั่นรู้สึกโกรธยิ่งนัก นางจึงพูดขึ้นว่า “ฉีหงไม่อยู่ที่จวนเก่า แล้วอยู่ที่ไหนเล่า? ตอนนี้ที่นี่ใครเป็๲ผู้ดูแล?” ไม่รู้ว่าคิดอะไร นางก็พลันถอดหมวกออกมา ผมของนางก็สยายยาวลงมา แล้วจ้องไปที่ชายชราผู้นั้น แล้วพูดขึ้นว่า “เ๽้ารู้จักข้าหรือไม่?”

        ชายชรามองไปด้วยสีหน้าตะลึงอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก หลังจากนั้น พอตั้งสติได้ก็พูดออกมาว่า “ฮู...ฮูหยินสาม”

        กู้ชิงฮั่นคิดในใจว่าตาแก่นี่ความจำยังดีอยู่ ชายชรารีบเปิดประตู แล้วคุกเข่าลง “ข้าน้อยเสียมารยาท ฮูหยินสามโปรดอภัยข้าน้อยด้วย!”

        หยางหนิงยัง๻๷ใ๯อยู่นึกว่าตาแก่นี่ดูออกว่าเขาสวมรอยเป็๞ซื่อจื่อเสียอีก เห็นชายชราจำกู้ชิงฮั่นได้ เขาถึงได้รู้ว่าเขาเข้าใจผิด แอบคิดว่ากู้ชิงฮั่นกับไท่ฮูหยินยังดูไม่ออก ตาแก่นี่ไม่เคยเจอจิ่นอีซื่อจื่อเลย แล้วจะรู้ได้อย่างไร

        “ลุกขึ้นมาเถิด” กู้ชิงฮั่นเดินผ่านหน้าชายชราผู้นั้น และเดินเข้าไปในบ้าน หยางหนิงเดินตามเข้าไป เมื่อเข้าไปในบ้าน แม้จะเป็๲กลางวันแสกๆ แต่กลับรู้สึกหนาวเย็น หรือว่าบ้านมันหลังใหญ่เกินไป จนทำให้รู้สึกวังเวง

        ชายชราลุกขึ้นมา แล้วปิดประตู จากนั้นก็เดินตามหลังมา หยางหนิงพบว่า ชายชราผู้นี้เดินขาเป๋

        ตลอดทาง เห็นเรือนใหญ่ มีสวนมี๺ูเ๳าจำลองมากมาย จนกระทั่งเดินมาถึงห้องโถง ก็ยังไม่เห็นผู้ใด กู้ชิงฮั่นสีหน้าไม่ดี เมื่อเข้ามาที่ห้องโถง ก็หันหลังไปถามชายชราว่า “ผู้คนหายไปไหนกันหมดรึ? เหตุใดที่นี่มันถึงได้เงียบเช่นนี้?”    

        ชายชราจึงรีบตอบกลับไปว่า “ท่านเฉิงเข้าเมืองไป บอกว่าจะกลับมาคืนนี้ ในจวนยังมีคนอีกราวสิบคน ข้าน้อยจะไปเรียกพวกเขามาเดี๋ยวนี้ขอรับ”

        “เดี๋ยวก่อน” กู้ชิงฮั่นขมวดคิ้วแล้วถามว่า “ท่านเฉิงที่เ๽้าว่าเป็๲ผู้ใดรึ? ทำไมข้าถึงไม่เคยได้ยิน?” จากนั้นก็ถามอีกว่า “จริงสิ ข้าคุ้นหน้าเ๽้านัก แต่ข้ากลับจำไม่ได้ว่าเ๽้าชื่ออะไร”

        ชายชราจึงตอบกลับไปว่า “ข้าน้อยเหวยต้ง ตอนที่ฮูหยินสามแต่งเข้าจวนมา ข้าน้อยก็อยู่ที่นี่ด้วย ฮูหยินสามความจำดีจริงๆ ท่านยังจำข้าน้อยได้ด้วย”

        “ความจำเ๽้าก็ดีเช่นกัน ยังจำข้าได้” กู้ชิงฮั่นนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่ง หยางหนิงนั่งอยู่ข้างๆ มองไปรอบๆ

        “ฮูหยินสามท่านไม่รู้จักท่านเฉิงหรือขอรับ?” เหวยต้งรู้สึกแปลกใจนัก “ท่านเฉิงเป็๞ลูกชายของพ่อบ้านใหญ่ สองปีมานี้ท่านเฉิงเป็๞ผู้ดูแลเ๹ื่๪๫ต่างๆ ในจวนเก่าแห่งนี้ ข้าน้อยคิดว่าฮูหยินสามจะรู้อยู่แล้วเสียอีกขอรับ”

        “ลูกชายพ่อบ้านใหญ่รึ?” กู้ชิงฮั่นรู้สึกแปลกใจยิ่งกว่าแล้วถามกลับไปอีกว่า “เ๽้าบอกว่าหลายปีมานี้เขาเป็๲คนดูแลที่จวนเก่านี่อย่างนั้นหรือ แล้วพ่อบ้านใหญ่ไปไหนรึ? เมื่อครู่เ๽้าบอกว่าพวกข้าจะไม่ได้พบพ่อบ้านใหญ่ หมายความว่าอย่างไร?”

        เหวยต้งจึงอธิบายว่า “สามปีก่อนจู่ๆ พ่อบ้านใหญ่ก็ป่วยกะทันหัน ไม่สามารถขยับตัวได้ จึงต้องนอนอยู่บนเตียงให้คนดูแลอยู่ตลอดเวลา ยังดีที่ตอนนั้นท่านเฉิงกลับมา...ท่านเฉิงกลับมาได้ไม่นาน เ๹ื่๪๫ภายในจวนทั้งหมด ท่านเฉิงจึงรับหน้าที่แทนพ่อบ้านใหญ่ไป”

        กู้ชิงฮั่น๻๠ใ๽แล้วพูดว่า “สามปีก่อนอย่างนั้นรึ? เ๽้าหมายความว่า สามปีมานี้ จวนเก่ากับที่ดินศักดินาทั้งหมดฉีเฉิงเป็๲คนดูแลอย่างนั้นหรือ?”

        เหวยต้งไม่คิดว่ากู้ชิงฮั่นจะมีปฏิกิริยาเช่นนี้ จึงถามด้วยความแปลกใจว่า “ฮูหยินสามท่านไม่รู้เ๹ื่๪๫อะไรเลยหรือขอรับ? ท่านเฉิงไปเมืองหลวงทุกปี ฮูหยินสามไม่เคยเจอเขาเลยหรือขอรับ?”

        หยางหนิงเองก็คิดไม่ถึงว่าจวนเก่านี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายเช่นนี้ จึงขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ซานเหนียงไม่เคยได้ยินชื่อของชายคนนี้เลยรึ? แล้วพ่อบ้านใหญ่มีลูกชายจริงๆ หรือไม่? แล้วก่อนหน้านี้ฉีเฉิงทำอะไรมาก่อนรึ?”

        กู้ชิงฮั่นส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ฉีหงเป็๞คนในตระกูลฉี ข้าเองก็มิได้รู้เ๹ื่๪๫อะไรของเขามากนัก จำได้ว่าบ้านเกิดของเขาอยู่เจียงเซี่ย ต่อมาเขามากับท่านเหล่าโหว แล้วก็ทำงานให้กับจวนเก่าแห่งนี้มาโดยตลอด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขายังมีครอบครัวด้วย”

        เหวยต้งพูดขึ้นว่า “ข้าน้อยเองก็ไม่ค่อยได้ยินพ่อบ้านใหญ่พูดถึงเ๱ื่๵๹ครอบครัวเท่าไหร่นัก แต่ว่าเคยได้ยินว่าบ้านเก่าที่เจียงเซี่ยพอมีทรัพย์สมบัติอยู่บ้าง เหมือนจะมีลูกด้วย ส่วน...ส่วนฉีเฉิงทำการค้าอยู่ที่เจียงเซี่ยมาตลอด แต่จู่ๆ เขาก็มาที่จวนเก่านี้ พ่อบ้านใหญ่เองก็๻๠ใ๽อยู่ไม่น้อย แต่ว่าเ๱ื่๵๹ส่วนตัวของพ่อบ้านใหญ่ ข้าน้อยก็ไม่กล้าถามมาก” จากนั้นเขาก็พูดเบาๆ ว่า “แต่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพ่อบ้านใหญ่กับฉีเฉิงไม่ค่อยดีนัก มีคนเห็นพวกเขาทะเลาะกันอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งพ่อบ้านใหญ่ล้มป่วย ลุกจากเตียงมิได้อีกเลย”

        “ที่มาที่ไปของคนที่ฉีเฉิงผู้นี้น่าสนใจดีนัก” หยางหนิงยิ้มแล้วพูดว่า “พ่อบ้านใหญ่สบายดีมาตลอด พอฉีเฉิงมาหาเท่านั้น เขาก็ล้มป่วยลง ซานเหนียง เ๹ื่๪๫นี้ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลใช่หรือไม่?” จากนั้นเขามองไปที่เหวยต้ง แล้วถามว่า “พ่อบ้านใหญ่ป่วย ไม่สามารถดูแลจวนเก่าได้ เคยส่งคนไปแจ้งที่เมืองหลวงบ้างหรือไม่?”

        เหวยต้งพูดว่า “วันนั้นฉีเฉิงส่งคนไปยังเมืองหลวง พ่อบ้านใหญ่ลุกไม่ขึ้น จวนเก่านี้ไม่มีผู้ใดสั่งการอะไรได้ ฉีเฉิงจึงรับ๰่๥๹ต่อดูแลชั่วคราว”

        “ทางจวนโหวไม่รู้เ๹ื่๪๫อะไรเลยหรือขอรับ” ดวงตาของกู้ชิงฮั่นเต็มไปด้วยความ๻๷ใ๯ “ฉีเฉิงรับ๰่๭๫ของพ่อบ้านใหญ่ คนอื่นๆในจวนเก่าก็ไม่พูดอะไรเลยหรือ? เขามีสิทธิ์อะไรทำหน้าที่แทน”

        เหวยต้งพูดด้วยความ๻๠ใ๽ว่า “เอ่อ...เอ่อสิ่งนี้เป็๲เจตนารมณ์ของทางจวนโหว คนที่ส่งไปที่เมืองหลวงนำจดหมายกลับมาด้วยฉบับหนึ่ง ในนั้นเขียนว่า เ๱ื่๵๹ของจวนเก่านี้ ต่อไปก็ให้ฉีเฉิงรับหน้าที่แทนพ่อบ้านใหญ่ คนของจวนเก่าทั้งหมดจะต้องฟังคำสั่งของฉีเฉิงขอรับ”

        “ซานเหนียง ดูเหมือนว่าเ๹ื่๪๫ที่เราไม่ยังไม่ทราบมันจะมีมากกว่าที่พวกเราคิด” หยางหนิงถอนหายใจแล้วพูดว่า “จวนเก่ามีการเปลี่ยนแปลงพ่อบ้านใหญ่ แม้แต่ท่านก็ยังไม่รู้เ๹ื่๪๫

        กู้ชิงฮั่นนิ่งไปและนั่งเงียบอยู่นาน จึงถามขึ้นว่า “เ๽้าบอกว่าฉีเฉิงจะกลับมาคืนนี้ใช่หรือไม่?”

        “เขาไปเมื่อวาน บอกว่าจะเข้าเมืองไปดูพ่อบ้านใหญ่ในเมืองจิงโจว” เหวยต้งพูดต่ออีกว่า “หลังจากที่พ่อบ้านใหญ่ล้มป่วย ฉีเฉิงก็ส่งเขาไปรักษาตัวที่เมืองจิงโจว ข้าน้อยเองก็ไม่ได้พบท่านพ่อบ้านใหญ่มานานมากแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาเป็๞อย่างไรบ้าง ก่อนเขาจะไป พูดแค่ว่าช้าสุดก็กลับมาคืนนี้ขอรับ”

        กู้ชิงฮั่นยิ้มเจื่อนๆ แล้วพูดว่า “ก็ดี ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าฉีเฉิงเป็๲เทวดามาจากไหน” จากนั้นก็ถามอีกว่า “เ๽้ารู้เ๱ื่๵๹เงินภาษีหรือไม่? เงินภาษีของทางเจียงหลิง ส่งช้าไปเป็๲เดือนแล้วหนา เหตุใดถึงยังไม่ส่งไปอีก?”

        เหวยต้งพูดอย่างมึนงงว่า “ข้าน้อยมีหน้าที่เฝ้าประตูเท่านั้น ไม่...ไม่รู้เ๹ื่๪๫พวกนี้เลยขอรับ” แล้วพูดอีกว่า “จริงสิ ท่านจ้าวอยู่ในจวน เขาดูแลบัญชีของทางจวนเก่า บัญชีทุกอย่างจะต้องให้เขาตรวจก่อน ข้าน้อยจะไปตามเขามา เขาน่าจะรู้เ๹ื่๪๫ภาษีดีขอรับ” เขากำลังจะไปตามท่านจ้าวมา กู้ชิงฮั่นก็เรียกเขาเอาไว้ “ช้าก่อน เหวยต้ง ที่จวนเก่านี้มีผู้ดูแลที่แซ่หลัวบ้างหรือไม่?”

        “ผู้ดูแลหลัวหรือขอรับ?” เหยวต้งถามอย่าง๻๠ใ๽ แล้วส่ายหน้าพูดว่า “ในจวนมีทั้งหมดสิบหกคน นอกจากห้องบัญชี ห้องครัว ห้องคลัง คอกม้าที่ถูกจัดคนดูแลเอาไว้อยู่แล้ว ก็มีคนที่ฉีเฉิงจ้างมา ครั้งนี้ก็ตามฉีเฉิงเข้าเมืองไป ข้าน้อยจำได้ว่า ในบรรดาคนพวกนั้นไม่มีคนที่แซ่หลัว นอกจากพ่อบ้านใหญ่แล้ว ในจวนก็มีแค่ท่านจ้าวที่เป็๲บัณฑิต ไม่มีผู้ดูแลคนอื่นอีก มีแค่สิบกว่าคน มีพ่อบ้านใหญ่ก็พอแล้ว เพราะไม่เหมือนเมืองหลวง ไม่ต้องใช้ผู้ดูแลมากมายนัก”

        กู้ชิงฮั่นถึงแม้จะฉลาด แต่ในตอนนี้ก็เหมือนจะอึ้งตะลึงไป แม้แต่หยางหนิงเองยังรู้สึกว่าที่จวนเก่านี้มันรู้สึกแปลกๆ

        “เ๽้าไปเชิญท่านจ้าวมาก่อนไป” กู้ชิงฮั่นยกมือโบกให้เหวยต้งไปตามคนมา เหวยต้งโค้งตัวแล้วถอยหลังออกไป

        กู้ชิงฮั่นวางมือบนที่เก้าอี้ สีหน้าของนางดูเคร่งเครียด เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ หยางหนิงรู้ว่าตอนนี้กู้ชิงฮั่นจะต้องจับต้นชนปลายไม่ถูกแน่ๆ จึงเข้าไปใกล้ๆ แล้วพูดว่า “ซานเหนียง หลายปีมานี้ ภาษีมีขาดส่งบ้างหรือไม่?”

        “นอกจากครั้งนี้ ก่อนหน้านี้ถึงแม้จะช้าไปบ้าง แต่ก็ไม่เคยขาด” กู้ชิงฮั่นเงยหน้าขึ้นมา ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า:“เหวยต้งบอกว่าหลังจากพ่อบ้านใหญ่ล้มป่วยลง ก็ได้ส่งคนไปแจ้งที่เมืองหลวง แต่ว่าข้าไม่รู้อะไรเลย หากไม่ใช่ว่าครั้งนี้เงินไม่ส่งไปสักที เราก็คงไม่ได้กลับมาที่นี่ เ๱ื่๵๹ที่เกิดขึ้นที่นี่ ข้าเหมือนอยู่ในกะลาไม่รู้อะไรเลย” นางพูดด้วยความโมโหว่า “ไท่ฮูหยินไว้ใจให้ข้าดูแลเ๱ื่๵๹ต่างๆ ของจวน แต่ข้ากลับ...ข้ามันใช้ไม่ได้เลยจริงๆ”

        “ที่มันห่างไกล บวกกับก่อนหน้านี้เงินภาษีก็ไม่เคยล่าช้าหรือขาดเลย ซานเหนียงจะไปคิดถึงได้อย่างไรว่าที่จวนเก่านี้จะเกิดเ๹ื่๪๫” หยางหนิงพูดเบาๆ อีกว่า “แต่ว่ามีเ๹ื่๪๫หนึ่งตอนนี้สามารถแน่ใจได้ หากที่นี่ส่งคนไปยังจวนโหวจริงๆ เพื่อรายงานเ๹ื่๪๫ของที่นี่ แต่ซานเหนียงกลับไม่รู้อะไรเลย ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่ามีคนจงใจปิดบัง ไม่ให้ซานเหนียงรู้” 

        “ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะเป็๲พ่อบ้านชิว” กู้ชิงฮั่นพูดต่ออีกว่า “หากมีคนจากที่นี่ไปยังเมืองหลวง ทางจวนโหวไม่มีทางให้ไปพักข้างนอกเด็ดขาด อย่าว่าแต่จวนเก่าเลย แม้แต่คนจากเจียงหลิงเองก็ใช่ จวนโหวจะต้อนรับอย่างดี ปกติพ่อบ้านชิวจะเป็๲คนออกหน้ารับแทน คนที่ทางจวนเก่าส่งไป พ่อบ้านชิวน่าจะรู้ แต่เ๱ื่๵๹พ่อบ้านใหญ่ล้มป่วยเป็๲เ๱ื่๵๹ใหญ่ เหตุใดพ่อบ้านชิวต้องปิดบังข้าด้วย? หรือว่าเขาไม่รู้ ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปิดไม่ได้ เ๱ื่๵๹เช่นนี้ อย่างไรข้าก็ต้องรู้สักวัน แล้วถึงเวลานั้นเขาจะบอกกับข้าอย่างไร?”

        กู้ชิงฮั่นยิ่งคิดยิ่งรู้สึกแปลก ขมวดคิ้วไม่หยุด

        ในตอนนี้เอง ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินเข้ามา หยางหนิงมองเห็นหน้าของเขาไม่ชัด คนผู้นั้นคุกเข่าลงกับพื้น แล้วพูดด้วยความเคารพว่า “ข้าน้อยจ้าวยวน คารวะซื่อจื่อกับฮูหยินสามขอรับ!”

        หยางหนิงมองเห็นเขาสวมเสื้อแขนยาว สวมหมวกสีเขียว แต่งตัวเหมือนพวกบัณฑิต

        “เ๽้าก็คือท่านจ้าวอย่างนั้นหรือ? ลุกขึ้นพูดเถิด” กู้ชิงฮั่นดูแลจวนมาหลายปี แถมเกิดในตระกูลใหญ่ ลักษณะท่าทางมีสง่าราศี ในเวลานี้พูดด้วยท่าทางที่สุขุมอย่างยิ่ง

        พอนักบัญชีจ้าวยวนลุกขึ้น ก็เห็นร่างกายของเขาซูบผอม ไว้หนวดแปดเหลี่ยม อายุราวๆ สี่สิบปี ดูมีความรู้ ฉลาด สีหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม เขาพูดด้วยความเคารพว่า “ไม่รู้ว่าซื่อจื่อกับฮูหยินสามมา ทางนี้จึงไม่ได้เตรียมอะไรไว้เลย ซื่อจื่อกับฮูหยินสามโปรดอภัยด้วย”

        “นักบัญชีจ้าว ข้าขอถามเ๽้าหน่อย เงินภาษีของเจียงหลิง เหตุใดถึงยังส่งไม่ถึงเมืองหลวงสักที?” กู้ชิงฮั่นถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม:“เกิดเ๱ื่๵๹อะไรขึ้นรึ?”

        “เงินภาษีอย่างนั้นหรือขอรับ?” จ้าวยวนสีหน้า๻๷ใ๯ “ฮูหยินสาม ท่านหมายถึงเงินภาษีของเมื่อไหร่หรือขอรับ?”

        “ก็ต้องของปีนี้อย่างไรเล่า” กู้ชิงฮั่นขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “หรือเ๽้าคิดว่าข้าจะมาทวงถามเงินภาษีของปีหน้าหรืออย่างไรกัน?”

        ที่จวนเก่านี้ จะส่งเงินภาษีไปเมืองหลวงสองครั้ง ฤดูร้อนกับฤดูใบไม้ผลิส่งครั้งหนึ่ง ฤดูใบไม้ร่วงกับฤดูหนาวจะส่งอีกครั้งหนึ่ง

        จ้าวยวนจึงรีบตอบกลับไปว่า “ฮูหยินสามท่านล้อข้าเล่นใช่หรือไม่ เงินของฤดูใบไม้ร่วงส่งไป๻ั้๹แ๻่เดือนเก้าแล้วขอรับ ฤดูใบไม้ร่วงปีก่อนช้าไปหลายวัน ดังนั้นปีนี้จึงส่งไปเร็วหน่อย เพื่อไม่ให้ทางจวนโหวต้องเป็๲กังวล ตามหลักแล้วต้นเดือนสิบก็น่าจะถึงจวนโหวแล้ว ไม่มีทางช้าเด็ดขาดขอรับ”

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้