เขาวางแผนคิดคดมาทั้งชีวิต วางแผนร้ายกาจ ทำร้ายคนมานับไม่ถ้วน เลี้ยงลูกชายหลานชายตัวเองให้เสียคน กลายเป็อันธพาลทำความยุ่งยากแก่นครลู่ิ สุดท้ายก็ต้องมาตายสภาพนี้
ถือว่าสาสมกับความผิด
เ่ิูเก็บกระบี่ฉ่าวชาง
ตอนแรกก็ว่าจะถอดเอาเสื้อผ้าหลิวหยวนชั่งมาใส่อยู่หรอก แต่โดนฟันจนขาดกระจุยหมดแล้ว คงใส่ต่อไม่ได้อีก
เ่ิูครุ่นคิด เขาค้นหาย่ามสารพัดนึกเก็บของจากศพของหลิวหยวนชั่ง มันไม่ถูกผนึกไว้แต่อย่างใด แต่ละใบล้วนมีเสื้อผ้าสำหรับเตรียมใส่ เ่ิูลองหยิบมาสวมดู ถึงแม้จะไม่ค่อยพอดีเท่าไหร่ แต่ยังดีที่ใช้ปกปิดร่างกายได้ ไม่ต้องเปลือยกายล่อนจ้อนอีกแล้ว
เขามองย่ามสารพัดนึกใบอื่น ข้างในเป็ทรัพย์สมบัติทั้งนั้น จำพวกหญ้าิญญาหรืออะไรเทือกๆ นั้น
นอกจากนั้นแล้ว ก็มีกล่องหยกกล่องหนึ่ง มันน่าจะมีค่ามาก ทำขึ้นด้วยความประณีต งดงามเพริศแพร้ว ้าสลักกระบวนอักขระอยู่
“ไม่รู้ว่าข้างในเป็อะไรกันนะ?”
เ่ิูลองเปิดกล่องหยกออกดู พบว่ารูปแบบกระบวนอักขระบนนกล่องนั้นสวยและพิเศษ น่าจะใส่ระบบทำลายตัวเองไว้ด้วย หากเปิดกระบวนอักขระนี้ออกมิได้ แต่เลือกที่จะใช้ความรุนแรงเปิดกล่อง ของข้างในนั้นต้องถูกทำลายอย่างแน่นอน
“หลิวหยวนชั่งรักกล่องหยกนี่ถึงเพียงนี้ ข้างในต้องเป็ของสำคัญแน่ กลับไปหายอดฝีมือกระบวนอักขระที่ไว้ใจได้มาเปิดคราวหลังดีกว่า”
เ่ิูเก็บกล่องหยกไว้ในหม้อทองเหลืองยอดเมฆา
เขาพลิกย่ามใบอื่นๆ ดู เด็กหนุ่มพบก้อนหยกขนาดเท่านิ้วหัวแม่โป้งอันหนึ่ง
เทียบกับาายาหงส์ฟ้าอย่างเิ่ิ๋แล้ว หลิวหยวนชั่งรันทดกว่าเสียหน่อย ร่างกายไม่ได้มีแหวนเก็บของระดับนั้นไว้ ก้อนหยกนี้หายากนัก เ่ิูเห็นอักษรหัวเชือกสามตัว พอพินิจมองแล้ว ไม่แคล้วเป็ชื่อเิ่ิ๋
หยกก้อนนี้ต้องเป็ของเิ่ิ๋แน่
“อืม? ทำไมหลิวหยวนชั่งถึงมีของๆ เิ่ิ๋อยู่ได้ล่ะ?”
เ่ิูนิ่งเล็กน้อย
เขาสำรวจตรวจตราแล้วจึงพบว่าก้อนหยกนี้ไม่มีระบบต่อต้านอะไรเลย พอจ่อมจมสมาธิลงไปพักหนึ่ง ใบหน้าก็ปรากฏแววยินดี
“นึกไม่ถึงเลย ว่าในก้อนหยกนี้จะเก็บตำรายาไว้อยู่จริงๆ”
ในก้อนหยกมักใช้เก็บของจำพวกข้อมูลหรือกลยุทธ์ลับทางวรยุทธ์ที่สำคัญเอาไว้ มีเพียงผู้แข็งแกร่งแท้จริงเท่านั้นถึงจะรู้การสลักเสลาลงไปในก้อนหยก คนเยี่ยงเิ่ิ๋ทำได้ หลิวหยวนชั่งยังขาดไปไม่หน่อย สิ่งที่ทำให้เ่ิูยินดีก็คือ ในก้อนหยกนี้มิได้มีระบบหวงห้าม ไม่ต่างอะไรกับของไร้เ้าของ
“หรือจะกลายเป็ว่าหลิวหยวนชั่งร่วมมือกับเิ่ิ๋?”
เ่ิูค่อยๆ เข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว
การเดินทางของเขาคราวนี้มาในเส้นทางลับของกองทัพ คนธรรมดาไม่มีทางแกะรอยตามได้ เิ่ิ๋แม้จะเป็ถึงาายาหงส์ฟ้าผู้น่าเคารพ แต่หนึ่ง เขาไม่ใช่คนของกองทัพ สอง หุบเขากวางตัดนี้มิใช่ทางของหงส์ฟ้า อิทธิพลของเขาจึงเข้ามาไม่ถึง ้าตามหาเขา มีแต่จะต้องพึ่งไอ้แก่หลิวหยวนชั่งนี่เท่านั้น สองคนนี้น่าจะรวมหัวกันวางแผนไว้นานแล้ว ต่างคนต่างก็มีจิตใจชั่วช้าพอๆ กัน
ก้อนหยกก้อนนี้ บางทีอาจเป็สิ่งที่เิ่ิ๋ใช้ซื้อหลิวหยวนชั่ง
ตำรายาที่เก็บงำไว้ด้านในนี้เป็ของที่มีแต่ปรมาจารย์ยาขั้นสูงเท่านั้นถึงจะััถึงมันได้ จอมยุทธ์ธรรมดามองไม่เห็น เป็สมบัติล้ำค่าอย่างหนึ่งเลยล่ะ
ความจริงแล้วเ่ิูก็ทายไม่ผิดเลย
เิ่ิ๋พึ่งตำรายานี้ในการซื้อหลิวหยวนชั่ง ให้หลิวหยวนชั่งจัดแจงในกองทัพให้จงดี เสี่ยงภัยให้ได้มาซึ่งแผนที่เส้นทางเดินทัพที่พวกเ่ิูเดินทางมา ลอบฆ่าเอากลางทาง
จะว่าไป เ่ิูนี่ก็ช่างโชคดีเสียนี่กระไร
ตอนเิ่ิ๋ให้ตำรายาแก่หลิวหยวนชั่งนั้น ลบล้างระบบหวงห้ามบนก้อนหยกออก แต่ยังไม่ทันได้ติดตั้งระบบหวงห้าม บัดนี้ก้อนหยกไร้ซึ่งเ้านาย ดังนั้นเ่ิูก็สามารถมองเห็นข้อมูลภายในได้ตามอำเภอใจ
“ฮ่าๆ าายาหงส์ฟ้าท่านนี้ช่างใจกว้างเสียเหลือเกิน ไม่เพียงส่งพลังกับหม้อทองเหลืองยอดเมฆาให้ข้าเท่านั้น ยังมอบตำรายาเล่มหนึ่งให้ข้าอีก เป็เทพประทานทรัพย์โดยแท้ วะฮะฮ่า...”
เ่ิูหัวเราะทั้งแววตาและใบหน้า
ตำรายาเล่มนี้ขจัดปัญหาใหญ่ของเขาโดยแท้
หลังจากได้ยาจากหลี่ฉือเจินมาวันนั้น เ่ิูก็นึกอยากลองปรุงยาด้วยตัวเองมาโดยตลอด ทว่าไม่อาจพึ่งพาพื้นฐานอันอ่อนด้อยของตัวเองได้ เมื่อไม่มีผู้สั่งสอน การปรุงยาหาใช่สิ่งที่คนไม่รู้จะฝันหวานอยากทำก็ทำได้ ตอนนี้ดีนัก มีตำรายากับหม้อยาเสียอย่าง เหลือแค่ฝึกฝนทุกวัน ไม่ช้าก็เร็วย่อมจะกลายเป็ครูยาได้เป็แน่
เมื่อค้นของบนศพหลิวหยวนชั่งจนหมดเกลี้ยง เ่ิูก็ขุดผนังน้ำแข็งเป็รู จัดการยัดศพไว้ข้างใน
“เ้าอุตส่าห์ให้สมบัติข้ามากมายเพียงนี้ ข้าฝังเ้า ชาติหน้าฉันใด จงเกิดมาเป็คนดีเสียเถอะนะ”
เ่ิูว่า
ผ่านการสู้ศึกเมื่อครู่แล้ว กระบวนอักขระในโพรงน้ำแข็งพากันเสื่อมสภาพไปตามๆ กัน
เ้าหมาหัวโตยังคงฝังหัวหลับป้อแป้อยู่มุมไกลออกไป
เ่ิูเดินเข้าไปอุ้มมันขึ้นมา ลูบไล้แรงๆ
ใครจะนึกว่าเ้าหมาตะกละนี่จะนอนไม่ยอมตื่น
“เอ๋? หลับลึกถึงเพียงนี้? ไม่ชอบมาพากลเอาเลย อย่างกับจำศีลหน้าหนาวแน่ะ” เ่ิูมองมันครู่หนึ่ง เห็นเ้ากินล้างกินผลาญหายใจยาวถี่เป็จังหวะ หัวใจเต้นช้านับครั้งได้ ร่างกายอุ่นสม่ำเสมอ สภาพเช่นนี้เหมือนว่าเลือกจะนอนจำศีลในเหมันต์อันยาวนานไปแล้ว
หมาจำศีลได้ด้วยหรือ?
เ่ิูไม่รู้จะพูดอะไรดี
เขาขยี้หัวโตๆ นั่นอย่างแรงอีกครั้ง แต่ยังคงปลุกมันไม่ตื่น ทำได้แค่ยอมแพ้ชั่วคราวเท่านั้น
“นี่มันเื่พรรค์ไหนกันเนี่ย สัตว์าชาวบ้านเขาเรี่ยวแรงต่อสู้ถมเถ อย่างน้อยยังทำแอ๊บแบ๊วได้ด้วย ทำไมถึงต้องส่งให้ข้ามาเจอกับเ้าที่ทำได้แต่กินกับนอนกัน!”
เ่ิูจะยิ้มก็ไม่ได้จะร้องไห้ก็ไม่ออก
ทว่าเมื่อมั่นใจว่าหมาบื้อปลอดภัยแล้ว เขากลับเบาใจลงมาก
“ปัญหาต่อไปก็คือ จะทำยังไงให้ออกจากโพรงน้ำแข็งอย่างกับเขาวงกตนี่ได้”
เ่ิูคิดกลับไปกลับมา เขาจำทางมาไม่ได้จริงๆ
“โพรงน้ำแข็งใต้ดินแห่งนี้เส้นทางคดเคี้ยวมาก ซับซ้อนอย่างกับใยแมงมุม ถ้าเดินผิดแม้แต่ก้าวเดียวจะไม่มีวันออกไปได้ ตอนที่ทหารรักษาปราการพาข้ามาก่อนหน้าก็เดินไม่เลือกทาง บวกกับเิ่ิ๋ที่เลือกที่นี่โดยไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน หากหลับหูหลับตาเดินมีหวังได้หลงอยู่ในนี้ไปตลอดกาล”
เ่ิูคิดวางแผนในหัวอย่างรวดเร็ว
“แต่ว่า ข้า้าแค่รู้ทิศทางขึ้น้า กลับขึ้นไปทางนั้นรวดเดียวก็ออกจากที่นี่ได้แล้ว โพรงน้ำแข็งใต้ดินนี่อย่างมากก็อยู่ลึกมาร้อยเมตร”
คิดไปคิดมา เ่ิูก็นึกวิธีออก
เขากลับไม่รีบร้อนอีกแล้ว เพียงนั่งพักผ่อนบนพื้น ควบคุมจัดการกำลังภายในให้เข้าจุดสูงสุด ถึงเรียกคัมภีร์ทองแดง ท่วงทำนองยุคเทพมารขึ้นมาเปิด
พัฒนารวดเดียวถึงน้ำพุิญญาตาที่สิบห้า นี่ก็หมายความว่า เ่ิูในตอนนี้สามารถเปิดคัมภีร์อ่านได้สิบห้าหน้านั่นเอง
ในบรรดาสิบห้าหน้าอันมากมายนี้ สิบหน้าแรกเ่ิูได้อ่านไปตอนโดนขังไว้ในหม้อทองเหลืองยอดเมฆาแล้ว
และเหตุที่เ่ิูสามารถหลอกเิ่ิ๋และหนีออกมาจากหม้อยาได้อย่างผีไม่เห็นผี ก็เป็เพราะพึ่งพาหน้าหนึ่งในคัมภีร์นี้ด้วย
หน้านี้อยู่ในประเภทใหญ่หนึ่งในสามคือ ท่วงทำนองของวิเศษ
ไม่เหมือนกับหน้าก่อนๆ ที่เ่ิูเคยเปิดได้ ในหน้านี้ แม้ไม่มีทั้งวิชาอย่างกระบวนยุทธ์ทหารเอกหนึ่งนิรันดร์ หรือของประหลาดเฉกเช่นผู้พิทักษ์ทะลุปรุโปร่ง แต่มีอักขระตัวใหญ่ของสมัยเทพมารอยู่
เขาลองใส่พลังเข้าไปในอักขระนี้ จากนั้นจึงได้รู้พลังที่อักขระนี้
ล่องหน!
อักขระนี้เป็อักขระล่องหน
พลานุภาพของมันใกล้เคียงกับอักขระทลายภพ สามารถผูกมัดอากาศที่มองไม่เห็น เปิดภพเคลื่อนย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ใครก็ตามที่มีอักขระทลายภพไว้ใน ย่อมจะสามารถออกจากที่อันตรายมากมายได้ แม้แต่ผู้แข็งแกร่งขั้นสุดยังไม่อาจต้านทานมันได้เลย
อักขระล่องหน แน่นอนว่ามีพลังล่องหน
เ่ิูเองก็พึ่งพลังล่องหนนี้หนีออกมาจากสมบัติ ซึ่งก็คือหม้อทองเหลืองยอดเมฆา
เิ่ิ๋ต่อให้ฝันก็ฝันไม่เห็นว่าเ่ิูจะมีของที่เหมือนอักขระทลายภพนี้อยู่กับตัว ถึงได้ไร้การป้องกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ หนำซ้ำยังก้มหน้าก้มตาค้นของในหม้ออย่างโง่ๆ ผลคือโดนเขาถีบหล่นลงหม้อยาไปนั่นเอง
อักขระล่องหนมอบหลักประกันอันจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงนับไม่ถ้วนให้แก่เด็กหนุ่ม
หากยกทฤษฎีทุกบทมา อย่างไรก็คงต้องบอกเป็เสียงเดียวกันว่าคุ้มค่าจะเสี่ยงชีวิต
เ่ิูยิ่งคิดว่าความเหนือชั้นของท่วงทำนองเทพมารเล่มนี้มากกว่าความคาดการณ์ในแง่ดีของเขาโขนัก
“นอกจากหน้าอักขระล่องหนแล้ว ยังมีอีกสิบหน้าที่ยังไม่ได้แปลหมดจด น่าจะมีของล้ำค่าอยู่อีกมาก แต่ว่า ตอนนี้ไม่มีเวลาแล้ว ต้องรีบออกไปจากที่นี่ ไปยังด่านโยวเยี่ยนถึงจะเป็การดี”
เ่ิูกอดเ้าหมาหัวโตไว้ในอ้อมอก กำลังภายในท่วมท้นแทรกซึมเข้าไปในหน้าอักขระล่องหน
“หายตัว!”
เพียงะโแจ่มชัด ร่างกายของเ่ิูฉับพลันหายไปจากพื้นดิน
ห่างจากการใช้อักขระล่องหนครั้งแรกมาเดือนหนึ่งแล้ว พอให้ใช้รอบต่อไปได้แล้ว
บวกกับพลังในยามนี้ของเ่ิู เมื่อกระตุ้นอักขระล่องหนย่อมจะสามารถเคลื่อนย้ายไปที่ในรัศมีห้าลี้ ระยะทางห้าพันเมตร เขาเลือกจะหายตัวสู่้า เพื่อการันตีว่าจะออกจากขอบเขตูเาน้ำแข็ง และเดินทางกลับที่หมายได้อย่างแน่นอน
ความจริงได้ประจักษ์แก่สายตา เ่ิูตัดสินใจไม่ผิดพลาด
โพรงน้ำแข็งอยู่ใต้ดินไปห้าร้อยเมตรถึงหนึ่งพันเมตร การล่องหนครั้งที่สองของเขาคราวนี้ ขึ้นมาได้ถึงสี่พันเมตร
อากาศบริสุทธิ์ปะทะใบหน้า
ลมแรงเหน็บหนาวโชยพัด ชวนให้คนสบายกายเหลือจะเอ่ย
ตะวันรอนส่องประกายจากแดนไกล แสงอาทิตย์อบอุ่นฉาบไล้เรือนกาย ทั้งสี่ทิศคือความสว่างไสว
เ่ิูะโลั่นอย่างอดไม่อยู่
จมอยู่ในโพรงน้ำแข็งมืดมิดไร้แสงตะวันมาหนึ่งเดือนเต็ม สูบเอาแต่อากาศแห้งๆ เปราะบางทั้งยังเก่าแก่เข้าปอดลูกเดียว บัดนี้เมื่อได้กลับมาสภาพแวดล้อมเดิมที่เคยอยู่มา เ่ิูรู้สึกราวกับเกิดใหม่
วายุรุนแรงขยับไหว ทะเลเมฆราวเกลียวคลื่น
“รอดแล้วสินะ...”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้