เ้าาาม้าป่วยเสียแล้ว
เหล่าปานั่งทรุดลงไปกับพื้น
แม้เวลาล่วงเลยไประยะหนึ่งแล้ว เหล่าปาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้น
ชายหนุ่มนั่งทรุดลงพร้อมกับแผ่นหลังปูดนูน มองแล้วคล้ายกับเต่าตัวหนึ่งกำลังนั่งอยู่
ว่ากันแล้วแม้ฝีมือของเขาจะนับว่าไม่เลว แต่ก็ยังมีข้อจำกัดทางร่างกายที่ทำให้ต่างจากผู้อื่นอยู่ หากจะให้เขาไปเดินปล้นจี้ตลอดคืนแบบคนอื่น ย่อมต้องมีสักวันที่เขาไม่อาจกลับมาได้
เขาแค่อยากเลี้ยงม้า ไม่อยากไปจี้ปล้นชิงทรัพย์แบบผู้อื่น แม้ว่าการปล้นจะได้ผลตอบแทนไม่เลวก็เถอะ
เขากังวลมาตลอดว่าม้าจะป่วย จึงรีบแยกตัวที่ป่วยออกมาั้แ่เนิ่นๆ เพื่อจะได้ไม่ป่วยตามกันไปทั้งฝูง
เมื่อไม่กี่วันก่อนยังเพิ่งถูกนายท่านใหญ่ชมเพราะเื่นี้เสียด้วยซ้ำ
ว่ากันว่าม้า วัว กระทั่งแพะที่ตีนเขาต่างพากันตายยกฝูง
วันนี้อากาศแปรปรวนจนน่าแปลก
เ้าพวกม้าป่วยที่ถูกแยกไปก็ไม่รอดเช่นกัน
ดังนั้นเมื่อชายหนุ่มเห็นเ้าเทาเริ่มป่วยตามตัวอื่นไปก็อดเศร้าโศกไม่ได้ ทว่าบัดนี้กระทั่งาาม้าก็ป่วยไปด้วย...
อาลู่มองเหล่าปาที่นั่งทรุดอยู่บนพื้นก็ทำตัวไม่ถูกเช่นกัน มีเพียงแต่ทารกน้อยบนหลังตนที่ยังคงก่อกวนไม่หยุด
เฉินโย่วน้อยตอนนี้ ั้แ่นางพลิกตัว ปีนป่าย และนั่งเองได้ นางก็ไม่ยอมหยุดนิ่งง่ายๆ อีกต่อไป
อาลู่เห็นเหล่าม้าไม่ได้มีทีท่าจะโจมตีตน คงน่าจะเป็เพราะฉี่ม้าที่ราดมานั้นออกฤทธิ์แล้ว จึงได้วางทารกน้อยบนหลังตนลง ผลลัพธ์คือทารกน้อยเพียงได้แตะพื้น ก็รีบคลานไปหาเหล่าปาทันที
เหล่าปากำลังรู้สึกสิ้นหวัง หากเ้าาาม้าตายไปจริงๆ คาดว่าทั้งฝูงนี้ก็คงไม่รอด เมื่อไม่มีฝูงม้าแล้ว ชีวิตเขาเองก็คงหมดหวังว่าจะมีทางรอดต่อ
ทว่าอยู่ดีๆ แขนของเขาก็รู้สึกถึงมือที่ดึงอยู่
เหล่าปาก้มหน้าลงก็เห็นเ้าตัวน้อยน้องสาวอาลู่กำลังดึงแขนเสื้อตน พร้อมใบหน้ากลมสีดำๆ ที่กำลังยิ้มกว้าง
ชายหนุ่มนั้นไม่ได้รู้สึกรังเกียจแม่หนูนี่แม้แต่น้อย ทว่าตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะเย้าเล่นกับนาง เหล่าปาหัวคิ้วขมวดมุ่น ครู่ต่อมาก็เห็นเ้าตัวเล็กกำลังยื่นไข่มุกเม็ดหนึ่งให้กับตน ทั้งยังเบิกตากว้างรอดูท่าทีของเขา
ภายใต้แสงตะวันที่สาดลงมา ในมือคู่น้อยมีไข่มุกเม็ดงามมันวาวเม็ดหนึ่งกลิ้งอยู่ เหล่าปานั่งฟังเด็กหนุ่มบ่นพึมพำอยู่ครู่หนึ่ง เขารู้ว่าน้องสาวของเ้าเด็กหนุ่มชอบของแวววาวกว่าใคร ยามจะนอนยังต้องเอาออกมาเล่นก่อน คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะถึงขั้นมือเติบ ยกของรักให้กับตน
เหล่าปามองดวงตาของทารกน้อย ตาคู่นั้นใสบริสุทธิ์ไม่มีเจตนาใดแอบแฝง
แต่สุดท้ายเหล่าปาก็ไม่ได้รับไข่มุกของเฉินโย่วมา แต่กลับล้วงกระพรวนเงินน่ารักอันหนึ่งออกมาจากกระเป๋าตนแทน ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาเก็บมันไว้ที่ไหน เหตุใดจึงไม่เคยได้ยินเสียงของมันเลย
เฉินโย่วน้อยเมื่อได้รับกระพรวนจากเหล่าปาก็ดีใจออกนอกหน้า มือคู่น้อยเขย่าไปมา เสียงใสกรุ๊งกริ๊งฟังรื่นหูของมันก็ดังขึ้น
เมื่อได้ยินเสียงกระพรวนที่คุ้นเคย เหล่าปาพลันลุกขึ้น
เขาจะต้องมีชีวิตต่อ ยังต้องแก้แค้นแทนลูกเมียให้สำเร็จ แม้จะเป็ความฝันที่แทบเป็ไปไม่ได้ แต่มันก็เป็เพียงสิ่งเดียวที่เขาทำได้
เหล่าเดินไปทางาาม้าด้วยฝีเท้ามั่นคง อาลู่เห็นดังนั้นก็เดินตามไปเช่นกัน
ในใจชายหนุ่มพลันรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อยว่าเ้าาาม้าจะพยศ โดยเฉพาะตอนที่มันกำลังป่วย
เขายังจำตอนที่นายท่านสองที่ไม่รู้ไปฟังคำยุยงของใครมา เขารั้นจะฝึกเ้าาาม้าเสียให้ได้ ทว่าสุดท้ายก็ถูกเ้าม้าพยศดีดจนกลายเป็คนพิกลพิการ
บัดนี้บนเขาจึงเหลือเพียงนายท่านใหญ่ และนายท่านสาม
ชายหนุ่มลองหยั่งเชิงเ้าม้าโดยการเดินเข้าไปใกล้อย่างระแวดระวังก่อน เขาแสร้งเดินเข้าไปราวกับไร้ตัวตน กระทั่งหายแรงก็ยังไม่กล้า
อาลู่คิดว่าเ้าม้าตัวนี้เดิมทีก็คุ้นเคยกันอยู่แล้ว ทว่าเมื่อดูท่าทีระมัดระวังทุกฝีก้าวของท่านอาปา ก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามเข้าไป ได้แต่ค่อยๆ เดินตามหลังชายหนุ่มไป
ฝีเท้าทั้งเบา และมั่นคงค่อยๆ ย่างเข้าใกล้เ้าม้าาาสีนิล
าาม้าทำท่าราวกับว่าคนทั้งสองที่กำลังเดินมานั้นไม่ควรค่าให้สนใจ มันยังคงก้มหน้ากินหญ้าต่อช้าๆ
เหล่าปาตั้งใจจะจูงเ้าาาม้าไป ให้มันไปอยู่ไกลจากที่นี่เสียหน่อย อย่างน้อยยังพอป้องกันไม่ให้มันไปแพร่โรคใส่ตัวอื่นได้
ทว่าอารมณ์ของเ้าม้าสีนิลโดยปกติก็ย่ำแย่อยู่ตลอด เขาจึงไม่แน่ใจนักว่าจะจับมันได้
เฉินโย่วน้อยเมื่อเห็นพี่ชายทอดทิ้งตนเดินไปกับเหล่าปา นางยังคิดว่าเขาแค่หยอกนางเล่น จึงใช้สองมือสองเท้าน้อยๆ ค่อยๆ คลานตามพี่ชายไป
หลัวอู๋เลี่ยงเดินมาถึงปากทางคอดน้ำเต้า
เมื่อคืนนายท่านใหญ่ถึงกับถามนางว่าถ้านางชอบเ้าหนูน้อยคนนี้มาก ก็อุ้มกลับมาเลี้ยงเสียก็สิ้นเื่
ทว่านางก็ไม่ได้ตอบตกลง
ลำพังตัวนางเองยังแทบปกป้องไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าให้ปกป้องทารกน้อยอีกคน นางขอแค่ได้มาเล่นกับเ้าหนูน้อยคนนี้เพื่อคลายเบื่อก็เพียงพอ
วันนี้เดิมทีนางก็ไม่ได้อยากมานัก เพียงแต่เมื่อถึงเวลาก็อดไม่ไหว จึงได้แต่ทอดน่องเดินมาอยู่ดี
แต่กระนั้นเมื่อนางเดินมาถึงทางคอดน้ำเต้าแล้วไม่เจอเ้าทารกน้อยอยู่ตรงนี้ ในใจนางก็พลันรู้สึกว่างเปล่าเสียจนแทบจะได้ยินเสียงก้องภายใน
ทว่าเมื่อนางเดินต่อไปอีกสองสามก้าวก็เห็นฉากตรงหน้า
เหล่าปากับอาลู่ค่อยๆ ย่างเข้าไปหาเ้าม้าสีนิลช้าๆ ทว่าเ้าหนูน้อยที่คลานตามมานั้นใช้ทั้งมือทั้งเท้าคลานไปข้างหน้าราวกับควบ เพียงประเดี๋ยวก็นำหน้าพวกเขาเสียแล้ว ซ้ำยังคลานไปตรงหน้าของเ้าม้าสีนิล
ม้าหนึ่งตัวกับทารกวัยแบเบาะหนึ่งคนประจันหน้ากัน
เมื่อลมพัดไหวก็มีเสียงกระพรวนดังแว่ว