ต่อหน้าคู่แม่ลูกที่ร่วมกันแสดงความรักต่อกัน ทว่าซูเฟยซื่อที่อยู่ฝั่งตรงข้าม กลับถูกหัวเราะเยาะว่าเป็ลูกไม่มีแม่
ซูเฟยซื่อถูกท่าทางของอีกฝ่ายบาดตาจนาเ็ เื่ที่นางเสียใจชั่วชีวิต และเื่ที่เป็จุดอ่อนคุกคามในชีวิตนางล้วนเป็ญาติสนิท
นางเคยเป็สมบัติล้ำค่าหัวแก้วหัวแหวนในใจบิดามารดา เคยทำตัวออดอ้อนกับบิดามารดาแบบนี้มาก่อนด้วย
แต่ตอนนี้กลับไม่มีอะไรเหลือแล้ว
คนเ่าั้ที่รักและปกป้องนาง อนุญาตให้นางออดอ้อนราวกับเด็กน้อยได้ ต่างไม่มีชีวิตอยู่แล้ว แต่นั่นเป็เพราะใครเล่า?
คาดไม่ถึงว่าตัวต้นเหตุของเื่นี้ จะยังกล้าแสดงความรักระหว่างแม่ลูกอันลึกซึ้งต่อหน้านาง
เห็นได้ชัดว่าซูจิ้งเถียนกับนางแซ่หลี่กำลังเล่นกับไฟเข้าแล้ว!
ฮืม ซูเฟยซื่อค่อยๆ แสยะยิ้มมุมปาก เจตนาสังหารในดวงตาดุจดาบเหล็กที่พร้อมทิ่มแทงร่างของซูจิ้งเถียน
ข่มขู่จนซูจิ้งเถียนกลายเป็ตะลึงงันไป รีบเบนสายตาหลบไม่กล้าสบตากับซูเฟยซื่อ
แววตาอำมหิตน่าหวาดหวั่นนั้น ทำไมซูเฟยซื่อจึงมีสายตาแบบนี้?
“แม่ใหญ่ น้องสี่ ไม่ใช่ว่าข้าไม่คำนึงถึงความรักฉันเครือญาติ แต่ในเมื่อท่านพ่อมอบครอบครัวนี้ให้ข้าปกครอง ข้าต้องจัดการให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตามคำกล่าวที่ว่ารัชทายาททำผิดมีโทษฐานเดียวกันสามัญชน แม้เถียนเอ๋อร์จะเป็น้องสาวของข้า แต่นางทำผิด ข้าก็ต้องลงโทษ” ซูเฟยซื่อกล่าวจบ จึงได้ขยิบตาให้ซางจื่อคราหนึ่ง
ซางจื่อได้รับคำบัญชารีบก้าวไปข้างหน้าจะจับซูจิ้งเถียน ซูจิ้งเถียนใจนรีบมุดเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของนางแซ่หลี่ “ท่านแม่ช่วยข้าด้วยเ้าค่ะ ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย เหตุใดจึงต้องถูกลงโทษอีก”
นางแซ่หลี่คาดไม่ถึงว่าซูเฟยซื่อจะกล้าพูดต่อหน้านางว่าจะลงโทษซูจิ้งเถียน ได้ฟังก็เดือดดาลไม่อาจทนไหว “เฟยซื่อ เถียนเอ๋อร์เพียงตบจือฉินไปหนึ่งฉาด เื่เล็กแค่นี้ต้องลงโทษด้วยหรือ? ทำเื่เล็กให้เป็เื่ใหญ่เกินไปแล้ว! นอกจากนี้ข้าเป็แม่แท้ๆ ของเถียนเอ๋อร์ ก็ต่อให้นางทำผิดก็ควรให้ข้าลงโทษเองถึงจะถูก เ้าซึ่งเป็พี่สาว มีสิทธิ์กระทำเอาเองได้ั้แ่เมื่อไรกัน?”
ปกป้องลูก? เกรงว่ามือของเ้าคงไม่ยิ่งใหญ่พอจะปกป้องไว้นางได้แล้ว!
ซูเฟยซื่อปรับสีหน้าให้เหมาะสม กล่าวอย่างจริงจังว่า “วาจาของแม่ใหญ่นี่หมายความว่าอย่างไร? ข้ารู้ว่าแม่ใหญ่ไม่ยอมรับที่ท่านพ่อให้ข้าปกครองครอบครัวมาตลอด รู้ด้วยว่าแม่ใหญ่ไม่คิดมอบสัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชีให้ข้าด้วย ข้าไม่ถือสาสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้แผ่นดินมีกฎหมาย ครอบครัวย่อมมีกฎระเบียบครอบครัว ในเมื่อซูจิ้งเถียนได้ทำผิดก็ต้องถูกลงโทษค่ะ”
“ใคร… ใครบอกว่าข้าไม่คิดมอบสัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชีให้เ้า เฟยซื่อ เ้าปรักปรำแม่ใหญ่ไปแล้วจริงๆ” นางแซ่หลี่ใมาก รีบไอแห้งๆ อย่างน่าสงสารอีกสองครั้ง
ทว่าลูกไม้นี้ไม่อาจทำอะไรซูเฟยซื่อได้ เพียงเอ่ยปากน้ำเสียงเ็า “แม่ใหญ่อยากให้ข้าเชิญหมอหลวงมาทันทีหรือไม่เ้าคะ? เป็หมอท่านนั้นที่มาตรวจสอบชีพจรการตั้งครรภ์ท่านครั้งที่แล้ว ท่านคิดเห็นอย่างไรเ้าคะ?”
นึกถึงหมอหลวงคนนั้นที่เปิดโปงครรภ์เท็จของนาง นางแซ่หลี่ก็กัดฟันกรอด ไหนเลยยังกล้าให้ซูเฟยซื่อไปเชิญมาอีก
“เฟยซื่อ เ้าคิดพยายามบีบคั้นข้ากับเถียนเอ๋อร์เพื่อสาวรับใช้คนหนึ่งงั้นหรือ?” นางแซ่หลี่กล่าวอย่างสลดหดหู่ ท่าทีทั้งปวดใจทั้งชิงชัง
ซูจิ้งเถียนเห็นเช่นนี้รีบก้มหน้าผสมโรง “นั่นสิเ้าคะ เป็แค่สาวรับใช้เล็กๆ คนหนึ่ง ครั้งนี้คุณหนูสามก็ปล่อยข้าผ่านไปเถิด”
โอ้ ถึงเวลางัดกลยุทธ์ยอมเจ็บเนื้อขึ้นป้ายความรักฉันญาติแล้วสินะ? สองแม่ลูกคู่นี้เ้าเล่ห์นักนะ!
“สาวใช้เล็กๆ คนหนึ่งหรือ? เถียนเอ๋อร์ลืม หรือว่าแม่ใหญ่ก็ลืมเหมือนกัน? ในวันนั้นเป็เพราะอะไรที่ทำให้ท่านอ๋องเก้าพันปีโกรธ ทั้งยังเกือบทำลายชื่อเสียงของจวนอัครมหาเสนาบดีไป?” ต่อให้เล่นลูกไม้แบบไหน ก็ล้วนไม่มีประโยชน์สำหรับนาง
“นี่...” ร่างของนางแซ่หลี่สั่นเทิ้มอย่างไม่อาจควบคุม เมื่อคิดถึงเื่ในวันนั้น
เห็นได้ชัดว่าภาพลักษณ์ที่น่ากลัวของอวี้เสวียนจีได้ฝังรากลึกในก้นบึ้งหัวใจของนางแล้ว
“ในเมื่อเถียนเอ๋อร์ตีจือฉินครั้งหนึ่ง เช่นนั้นก็คืนจือฉินสิบครั้งนับเป็บทลงโทษก็แล้วกัน” ซูเฟยซื่อพูดช้าๆ
ประโยคดังกล่าวราวกับเข็มที่ทิ่มแทงซูจิ้งเถียน นี่อะไร? คิดไม่ถึงว่าจะให้สาวใช้ต่ำต้อยคนหนึ่งตบหน้านาง?
ไม่ นางไม่เอา นางไม่ยอม!
แต่ซางจื่อไม่สนใจแววต่อต้านในดวงตาของซูจิ้งเถียนทั้งสิ้น เอื้อมมือไปคว้าตัวนาง
“นี่แน่ะ! อย่ามาแตะต้องข้านะ นังคนรับใช้ต่ำต้อยสารเลว อย่าเอามือสกปรกของเ้า...” ซูจิ้งเถียนดิ้นรนด่าทอ
แต่ไม่รอให้นางพูดจบ ซูเฟยซื่อก็ได้พูดออกมาประโยคหนึ่งด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “ในฐานะที่เป็คุณหนูสี่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลับเอ่ยคำหยาบคายสกปรกออกมาเต็มปาก ไร้ซึ่งความเป็กุลสตรีจากตระกูลใหญ่ ตบหน้าเพิ่มอีกสิบครั้ง”
ซูจิ้งเถียนได้ยินวาจานี้เกือบจะโง่เซ่อไป อะไร? ตบหน้าเพิ่มอีกสิบครั้ง? ไม่ใช่ว่าโดนตบหน้ายี่สิบครั้งแล้วหรือ?
หลังจากถูกตบจนหน้าบวม แล้วนางจะสามารถพบผู้คนได้อีกหรือ?
“ซูเฟยซื่อ เ้าอาศัยอำนาจส่วนรวมแก้แค้นส่วนตัว ข้าจะฟ้องท่านพ่อ ข้าต้องฟ้องท่านพ่อเื่นี้แน่ๆ”
เอาซูเต๋อเหยียนข่มขู่นาง? นางกลัวที่ไหน ซูเฟยซื่อยักไหล่สบายๆ “รอตบเสร็จแล้ว เ้าก็ไปฟ้องเถอะ ถ้าท่านพ่อบอกว่าเป็ข้าทำผิด ข้าก็ยินดีจะลงโทษตัวเอง”
ซูจิ้งเถียนอึ้งตะลึงลาน ตอนนี้ซูเต๋อเหยียนยังคงโกรธเื่การตั้งครรภ์เท็จของนางแซ่หลี่ แม่ลูกคู่นี้ล้วนเป็เสนียดในสายตาเขาทั้งสิ้น
ถ้าไม่ได้เพราะเห็นแก่หน้าของซูจิ้งโหยว พวกนางทั้งสองคงถูกไล่ออกไปตั้งนานแล้ว
ถึงจะไปฟ้องซูเต๋อเหยียนจริงๆ ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ล้วนเป็นางที่ไร้เหตุผล ไม่เพียงแต่ซูเต๋อเหยียนจะไม่ช่วยนางเท่านั้น แต่ยังช่วยซูเฟยซื่อมาสั่งสอนนางอีก
“ไม่ ต่อให้ข้าทำผิด เ้าก็ไม่สามารถลงโทษข้า ไม่...” ขณะที่ซูจิ้งเถียนยังคิดดิ้นรน ซางจื่อก็ลงมือหยิกถูกเส้นชีพจรของอีกฝ่ายอย่างแรงไปทีหนึ่ง จนร่างของนางไร้เรี่ยวแรงไปหมด ได้แต่ร้องไห้ให้ซางจื่อลากออกไป
ซางจื่อโยนซูจิ้งเถียนไปตรงหน้าจือฉิน การกระทำครั้งนี้กลับทำเอาจือฉินใสะดุ้งโหยง “นี่...”
“คุณหนูบอกว่าคุณหนูสี่ตบเ้าไปครั้งหนึ่ง ก็ลงโทษคุณหนูสี่ให้เ้าตบสิบครั้ง ประกอบกับเมื่อครู่ที่คุณหนูสี่กล่าววาจาหยาบคายไร้มารยาท รวมทั้งหมดเป็ยี่สิบครั้ง” ซางจื่ออธิบาย
จือฉินงงสักพัก ในที่สุดมีสติกลับมา “ให้บ่าวตีคุณหนูสี่หรือเ้าคะ?”
ไม่ได้ฟังผิดแน่นะ สาวใช้ตีเ้านาย? นี่เป็เื่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“เ้ากล้าตี อย่างเ้ากล้าตีข้า...” ซูจิ้งเถียนเห็นจือฉินเป็ลูกพลับนุ่ม เมื่อครู่คิดข่มขู่นาง จึงถูกซางจื่อหยิกอีกครั้ง เ็ปจนเกือบจะร้องไห้
ซูเฟยซื่ออยู่ด้านหลังดูการเคลื่อนไหวน้อยๆ ของซางจื่อ ก็เพลิดเพลินใจสุดพรรณนา ข้าละถูกใจคนที่อวี้เสวียนจีส่งมาให้จริงๆ
นางให้คนย้ายตั่งตัวหนึ่งลงไปไว้กลางลาน แล้วเอ่ยปากต่อจื่อฉิน “ข้าให้เ้าตี เ้าก็ตี อย่าได้ยั้งมือเชียว”
“นี่...” จือฉินลังเลสักพัก ในที่สุดก็กัดฟันพยักหน้า “เ้าค่ะ”
ชีวิตนี้ก็ไม่เคยตบใครมาก่อน หลังจากง้างมืออยู่สักพัก หาท่าที่ดีสำหรับตัวเองได้ก็ฟาดลงไป
โชคดีที่ซูจิ้งเถียนก็ไม่เคยมีประสบการณ์ถูกคนตบมาก่อนเช่นกัน หลังจากลูกตบนี้ เสียงโหยหวนก็ดังตามมาทันที “โอ้ย”
เมื่อจือฉินได้ยินเสียงกรีดร้องของซูจิ้งเถียน นางกลับรู้สึกสบายใจอย่างน่าประหลาด ช่างดีอะไรอย่างนี้ เื่ที่คุณหนูมอบหมายให้ ในที่สุดก็มีเื่หนึ่งที่สามารถจัดการได้เรียบร้อย
คิดมาถึงตรงนี้ ก็รีบตบหน้าซูจิ้งเถียนอีกสองครั้ง
เห็นท่าทางเ็ปจนดิ้นพล่านของซูจิ้งเถียน นางถึงเข้าใจแจ่มแจ้งว่า การตบหน้าคนที่แท้ก็เป็ความสุขความเพลิดเพลินในรูปแบบนี้เอง
จือฉินยิ่งตบยิ่งคล่องมือ เสียงโหยหวนของซูจิ้งเถียนคาดว่าคงไม่หยุดลงเร็วๆ นี้แน่
นางแซ่หลี่ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในห้อง ได้ยินเสียงร้องบุตรสาวแว่วมา ใจพลันกระตุกวูบ แต่เพราะนางเป็คนไข้คนหนึ่ง จึงมิอาจเผยพิรุธ
ขณะที่ตบถึงครั้งที่สิบ แก้มสองข้างของซูจิ้งเถียนก็บวมเป่งหมดสภาพ ซูเฟยซื่อเห็นนางแซ่หลี่ยังไม่ออกมา ก็ผุดลุกขึ้นทันที “เอาล่ะ สิบครั้งของจือฉินตบเสร็จแล้ว ที่เหลือสิบครั้งเป็ส่วนที่พี่สาวสอนน้องสาว ย่อมต้องให้ข้าลงมือตีเอง”
จือฉินได้ยินอย่างนั้น ก็รีบวางมือเดินถอยออกไปด้านข้าง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้