วานรแขนเหล็กเป็อสูรโบราณดึกดำบรรพ์ โลหิตอุดมไปด้วยพลังปราณน่าพรั่นพรึงเหนือคณนา จูชิงรีบเร่งขับเคลื่อน《เคล็ดวิชา์าหลัวโหว》กลั่นหลอมโลหิตของมันทันที
โลหิตของสัตว์อสูรมีประโยชน์ยิ่งยวดกับจอมยุทธ์ จอมยุทธ์ที่มีคุณสมบัติจะเลือกใช้เืของสัตว์อสูรกอปรกับสมุนไพรเพื่อเสริมแกร่งให้กับร่างกาย ล้างไขกระดูก
อสูรโบราณดึกดำบรรพ์มีเืมากกว่าสัตว์อสูรทั่วไป เืที่ถูกกลั่นหลอมของอสูรโบราณดึกดำบรรพ์นั้นช่วยเสริมแกร่งให้กับร่างกายของจอมยุทธ์ได้มากมายมหาศาล
จูชิงต้องขับเคลื่อนสามสิบหกโจวเทียนถึงจักหล่อหลอมโลหิตของวานรแขนเหล็กได้จนหมดสิ้น พลังปราณพุ่งทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุด แสงโลหิตเคลือบคลุมสรรพางค์กาย
“โลหิตของวานรแขนเหล็กมีสรรพคุณน่าอัศจรรย์ถึงเพียงนี้เชียวหรือ!” จูชิงใมาก
ครั้นเห็นดังนั้นจูชิงก็ใช้ฝ่ามือผ่าส่วนกลางลำต้นของต้นไม้ ดึงซีกไม้ออกมาซีกหนึ่ง จากนั้นก็ใช้ด้านแหลมของแท่งไม้แทงลงไปกรีดเอาเส้นเืของวานรแขนโลหิต
หินโลหิตค่อยๆ หล่อหลอมโลหิตแปรเปลี่ยนให้เป็หยดเืคริสตัลสองหยด
ภายในหยดเืบริสุทธิ์นั้นมิได้มีเพียงพลังปราณมหาศาลแค่อย่างเดียว แต่มันยังสามารถช่วยล้างไขกระดูกปรับ เปลี่ยนโครงสร้างร่างกาย ซึ่งเป็ประโยชน์ยวดยิ่งต่อการบำเพ็ญเพียร
จูชิงกลืนหยดโลหิตลงไปหยดหนึ่ง พลังปราณน่าครั่นคร้ามะเิภายในร่างกาย พลังลมปราณพุ่งทะลวงขึ้นสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง!
ยามนี้ลมปราณจำนวนมากกำลังหล่อเลี้ยงร่างกายของจูชิง เขาััได้อย่างชัดแจ้งว่าพลังกำลังเพิ่มพูน ทั้งยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ร่างกายของอสูรดึกดำบรรพ์เหนือชั้นยิ่งกว่าสัตว์อสูรทั่วไป แน่นอนว่าเืของอสูรดึกดำบรรพ์นั้นย่อมดีกว่าการใช้สมุนไพรหลายต่อหลายเท่า
“แคร่ก!” เกิดรอยแตกร้าวลุกลามทั่วตัวของจูชิงพร้อมเสียงสะท้อนก้องกังวานที่ดังเหมือนกับแก้วแตกเป็เสี่ยงๆ
ภาพที่สองที่สลักอยู่บนศิลาผนึกิญญาพิชิต์สั่นไหวเล็กน้อย ก่อนที่จักหายไปจากศิลาผนึกิญญาพิชิต์!
ม่านพลังบางเบาทะลักทลายออกมาจากในร่างกายของจูชิงเคลือบคลุมกายาไว้ชั้นหนึ่ง ผิวกายใหม่ประจักษ์ภายใต้ิัเดิมที่กำลังแหลกสลาย!
ครึ่งชั่วยามผ่านไป ในที่สุดจูชิงก็ผลัดเปลี่ยนกายาสำเร็จ ิัแห้งแข็งกระด้างร่วงกระจัดกระจายทั่วทั้งพื้นดิน
บนผิวกายใหม่นั้นมีม่านพลังโลหิตคลอบคลุมกายา อักขระลึกลับพริบพราวสลัวเลือนลาง
“ลมปราณปัดป้อง!” ข้อมูลบางอย่างปรากฏในหัวของจูชิง
《เคล็ดวิชา์าหลัวโหว》ภาพที่สองของคัมภีร์หลอมกายาก็คือลมปราณปัดป้อง ใช้ลมปราณกลั่นหลอมกายาสร้างม่านพลังปกคลุมกายาเพื่อเพิ่มความสามารถในการป้องกัน
เมื่อมีลมปราณปัดป้อง มิว่าศัสตราวุธใดก็ทิ้งร่องรอยไว้บนร่างกายเขามิได้!
จูชิงกำหมัดแน่น ไม่ว่าจักเป็ร่างกายหรือพลังลมปราณเขาล้วนแข็งแกร่งขึ้นมากอย่างน่าใจหาย ถ้าหากเขาต้องประมือกับวานรแขนเหล็กตอนนี้อีกครา เขาไม่มีทางเสียเปรียบอย่างแน่นอน
อสูรดึกดำบรรพ์แกร่งกล้ายิ่งกว่าจอมยุทธ์ในระดับเดียวกันหลายขุม ทว่าจอมยุทธ์นั้นมีวิทยายุทธ์และศัสตราวุธ ทั้งยังมีวิชาบางวิชาที่ช่วยเสริมแกร่งให้กับผู้ใช้ได้ในชั่วขณะหนึ่ง!
ถึงจูชิงจักเป็ขั้นหลอมกายาสองชั้นฟ้า หากแต่ภายใต้การคุ้มครองของลมปราณปัดป้อง พลังการป้องกันของเขาย่อมมิด้อยกว่าจอมยุทธ์ขั้นหลอมกายาเจ็ดชั้นฟ้าหรือแปดชั้นฟ้า เมื่อร่วมกับอักขระาหลัวโหว เพียงประมือกับวานรแขนเหล็กหาใช่เื่ใหญ่อันใดไม่
“ภาพทุกภาพของศิลาผนึกิญญาพิชิต์นั้นเป็วิทยายุทธ์ ถ้าเ้าฝึกปรือวิทยายุทธ์ทั้งหกจนแตกฉาน เ้าก็จักเป็ผู้ไร้เทียมทานในขั้นหลอมกายา” เฒ่าปีศาจพูดด้วยความคึกคะนอง
“เป็ผู้ไร้เทียมทานในขั้นหลอมกายามีความหมายอะไร ท้ายที่สุดแล้วก็สู้ขั้นเคลื่อนย้ายลมปราณไม่ได้อยู่ดี” จูชิงกลอกตา
“แค่กๆๆ!” เดิมทีเฒ่าปีศาจนึกว่าจูชิงจักชื่นชมเขาสักหน่อยที่อุตส่าห์สอนเคล็ดวิชาให้ คิดไม่ถึงเลยว่าจักพูดจาเช่นนี้ออกมา
ั้แ่สมัยโบราณมาจนถึงปัจจุบัน จักมีสักกี่คนที่กล้าเรียกตัวเองว่าเป็ผู้ไร้เทียมทาน ถึงเป็แค่ขั้นหลอมกายาแล้วอย่างไร เป็ผู้ไร้ทานเทียมในขั้นหลอมกายาได้ก็นับว่าสุดยอดมากแล้ว แต่จูชิงกลับบอกว่าไม่มีความหมาย
“โฮกกกก!” ครั้นจู่ๆ พลันเกิดเสียงคำรามดังลั่นสนั่นป่า!
จูชิงหน้าเปลี่ยนสี เสียงคำรามนั่นเป็เสียงของวานรแขนเหล็กเป็แน่แท้ ทั้งดูเหมือนว่าพวกมันกำลังเป็โทสะ!
“หาข้าเจอแล้วงั้นหรือ?” จูชิงตื่นตะลึงไปชั่วขณะ แต่ก็สงบนิ่งได้อย่างรวดเร็ว ถ้าถูกวานรแขนเหล็กเจอตัวเข้าเขาจักต้องโดนรุมทึ้งเป็แน่ จากเสียงที่ได้ยินก็คาดว่าน่าจักอยู่ไม่ไกลจากที่นี่
“ครืนนน!” ทันใดนั้น พื้นสั่นะเืคล้ายกับถูกบางสิ่งบางอย่างกระแทก
จูชิงขับเคลื่อนพลังลมปราณเพื่อทำให้ร่างกายคงเสถียร พริ้วกายขึ้นไปบนต้นไม้
ในมุมสูงเช่นนี้เขาเห็นวานรแขนเหล็กนับร้อยรวมตัวกันอยู่ริมหนองน้ำ ะโโหนต้นไม้ไปมา
เป้าหมายของพวกมันก็คือจามรีตัวหนึ่งที่กายปกคลุมด้วยเกล็ดหนา ตัวใหญ่ั์หลายสิบฟุต เมื่อเทียบขนาดตัวกับวานรแขนเหล็กแล้ว วานรแขนเหล็กดูตัวเล็กกว่าหลายเท่า
ครั้นจูชิงเห็นจามรี เขาสูดลมหายใจเข้าลึกอย่างอดมิได้ จามรีตัวนั้นมิใช่สัตว์อสูรที่เขาสามารถต่อกรได้อย่างแน่นอน
เพราะยามนี้ภาพที่จูชิงเห็นแม้เป็แขนเหล็กของวานรแขนเหล็กยังทำได้เพียงแค่สร้างรอยขีดข่วนเล็กๆ บนเกราะเกล็ดหนานั่น จามรีกระทืบพื้นหนึ่งครั้งวานรแขนเหล็กตัวหนึ่งกระเด็นลอยขึ้นฟ้า ครั้นแล้วจามรีก็ยกเท้ากระทืบร่างของวานรแขนเหล็กที่ร่วงตกลงมาแหลกเป็จุณ
ทว่าวานรแขนเหล็กมิได้กลัวตายแต่อย่างใด พวกมันบุกโจมตีระลอกแล้วระลอกเล่า เมื่อวานรแขนเหล็กตายไปตัวหนึ่ง วานรแขนเหล็กตัวใหม่ก็เข้ามาแทนที่
“วานรแขนเหล็กมีความบาดหมางอะไรกับจามรี?” จูชิงครุ่นคิดในใจ
ขณะนั้นจูชิงพลันเหลือบไปเห็นดอกบัวสีน้ำเงินบานสะพรั่งอยู่ในหนองน้ำด้านหลังของจามรี!
ไอเย็นแผ่ซ่านออกมาจากบริเวณรอบๆ ดอกบัว แต่ที่น่าแปลกก็คือน้ำในหนองน้ำกลับไม่กลายเป็น้ำแข็ง!
ดูท่าเป้าหมายของวานรแขนเหล็กก็คือดอกบัวสีน้ำเงินนั่น ทว่าเพราะจามรีอยู่ พวกวานรแขนเหล็กจึงไม่สามารถเข้าไปใกล้หนองน้ำได้เลย
ระหว่างที่จูชิงกำลังประหลาดใจ จู่ๆ ก็มีเงาดำพุ่งทะลวงผ่านแนวป้องกันของจามรีได้!
มันก็คือวานรแขนเหล็ก ทว่าขนาดตัวของมันนั้นใหญ่ยิ่งกว่าวานรแขนเหล็กทั่วไปโดยสิ้นเชิง ทั้งความเร็วก็ยังเร็วกว่าหลายเท่าตัว!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้