ในห้อง เนี่ยเทียนเล่าประสบการณ์ที่เขาพบเจอในโลกมายามรกตให้กับเนี่ยตงไห่และเนี่ยเฉี่ยนฟังอย่างง่ายๆ หนึ่งรอบ
การประลองของโลกมายามรกตส่งผลกระทบต่อเขาสูงมาก เขาไม่เพียงแต่ฝ่าทะลุขอบเขต ขณะเดียวกันสติปัญญาของเขาก็ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น
เมื่อเทียบกับครึ่งปีก่อน เขาจึงดูสุขุมและเป็ผู้ใหญ่ขึ้นมาเยอะมาก เขารู้ว่าเื่ไหนไม่จำเป็ต้องเล่าให้เนี่ยตงไห่และเนี่ยเฉี่ยนฟัง และเขาก็รู้ด้วยพวกเขาสองคน้ารู้เื่ใด
เื่ที่ฆ่าหยวนเฟิงและอวิ๋นซงเขาปกปิดแม้แต่เนี่ยตงไห่และเนี่ยเฉี่ยน เื่ที่เจอกับงูเหลือมน้ำแข็งั์ในทะเลทราย เขาก็จงใจไม่พูดมันออกไป
แม้แต่การต่อสู้หลายครั้งระหว่างเขากับนางมารอวี๋ถง รวมไปถึงเนื้อสัตว์วิเศษที่ช่วยเขาได้มากมหาศาล เขาก็ยังปกปิดไว้หมดไม่ได้เล่าให้ฟัง
ทว่าเื่ที่เขาฝ่าทะลุจากหลอมลมปราณขั้นหกไปสู่หลอมลมปราณขั้นแปด เขากลับเล่าอย่างตรงไปตรงมา
เขารู้ดีว่าเื่ที่เนี่ยตงไห่และเนี่ยเฉี่ยนให้ความสนใจมากที่สุด อยากฟังมากที่สุดก็คือเื่พวกนี้
แล้วก็เป็ดังคาด
“เ้าว่าอะไรนะ? ตอนนี้เ้าอยู่ขั้นหลอมลมปราณแปดแล้ว?” เนี่ยเฉี่ยนดีใจขึ้นมาโดยพลัน
เนี่ยตงไห่เองก็แอบเผยความประทับใจทางสีหน้า ดวงตาสาดประกายตื่นตะลึง แม้แต่ร่างกายก็ยังสั่นน้อยๆ
เนี่ยเทียนยิ้มแป้น “ใช่แล้ว หากไม่มีอุบัติเหตุอะไรล่ะก็ ข้าน่าจะฝ่าทะลุหลอมลมปราณขั้นเก้าได้ก่อนอายุสิบห้า จากนั้นก็ถูกสำนักหลิงอวิ๋นรับขึ้นเขา”
“ดีเหลือเกินแล้ว!” เนี่ยเฉี่ยนปลาบปลื้มอย่างมาก
ตอนนี้เนี่ยเทียนอายุแค่สิบเอ็ดปีเท่านั้น ใน่อายุเท่านี้ก็สามารถฝ่าทะลุหลอมลมปราณขั้นแปดได้ นี่ทำให้นางตระหนักได้ว่าความหวังที่นางฝากไว้กับเนี่ยเทียนนั้นสามารถเป็จริงได้อย่างแน่นอน
แต่ไหนแต่ไรมา นางคอยกรอกความคิดหนึ่งให้กับเนี่ยเทียนอยู่ตลอดเวลา---ขอแค่กลายเป็ลูกศิษย์ของสำนักหลิงอวิ๋นก็จะมีโอกาสลืมตาอ้าปากได้
หลายปีมานี้ความพยายามมากมายที่นางทุ่มเททำลงไปก็เพราะหวังว่าสักวันหนึ่งเนี่ยเทียนจะฝ่าทะลุหลอมลมปราณเก้าได้ก่อนอายุสิบห้า และกลายเป็ลูกศิษย์ที่แท้จริงของสำนักหลิงอวิ๋นอย่างราบรื่น
ลูกหลานทุกคนของตระกูลเนี่ยล้วนมองการเข้าสำนักหลิงอวิ๋นเป็เกียรติยศอย่างหนึ่ง ล้วนมองว่านั่นต่างหากถึงจะเป็กุญแจสำคัญที่จะเปลี่ยนชะตาชีวิตของคนในตระกูลได้
การที่เนี่ยเป่ยชวนสามารถนั่งอยู่บนตำแหน่งประมุขตระกูลเนี่ย นอกจากเนี่ยตงไห่ได้รับาเ็สาหัสแล้ว ยังมีเนี่ยหันเป็ปัจจัยสำคัญด้วย
เนี่ยหัน ในฐานะที่เป็หลานชายคนโตของเนี่ยเป่ยชวน ตอนอายุสิบห้าก็เหยียบย่างสู่หลอมลมปราณขั้นเก้าได้สำเร็จ นับแต่นั้นจึงถูกสำนักหลิงอวิ๋นรับขึ้นูเาไป
ขอแค่เนี่ยหันสามารถเติบโตอยู่ในสำนักหลิงอวิ๋นได้อย่างมั่นคง ตระกูลเนี่ยก็จะพลอยได้รับผลประโยชน์ไปด้วย หากวันหนึ่งเนี่ยหันมีตำแหน่งสูงส่งในสำนักหลิงอวิ๋น ถ้าเช่นนั้นตระกูลเนี่ย... ก็ย่อมกลายมาเป็ส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของสำนักหลิงอวิ๋น
ปีนั้นที่เนี่ยตงไห่สามารถยึดกุมตระกูลเนี่ยไว้ได้อย่างแ่า เนี่ยจิ่นมารดาของเขาก็เป็ปัจจัยสำคัญที่แยกไม่ออก
เนี่ยเทียนเพิ่งจะอายุสิบเอ็ดปีก็ได้เลื่อนขั้นไปถึงหลอมลมปราณแปด ในสายตาของเนี่ยเฉี่ยน มีความเป็ไปได้มากที่เขาจะเข้าสำนักหลิงอวิ๋นได้เร็วยิ่งกว่าเนี่ยหัน
บางที ผ่านไปอีกสักปีสองปี เนี่ยเทียนก็อาจสามารถได้เข้าไปอยู่ในสำนักหลิงอวิ๋น เปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตจากเดิมไปอย่างสิ้นเชิง
“ท่านตา ตอนที่ข้ากลับมาได้ยินว่าในตระกูลมีเื่กันหนักเลยหรือ?” เนี่ยเทียนถามหยั่งเชิง
เนี่ยตงไห่ขมวดคิ้วน้อยๆ กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “เมื่อเทียบกับเื่ที่เ้าฝ่าทะลุหลอมลมปราณขั้นแปดแล้ว นั่นเป็เพียงแค่เื่เล็กน้อยเท่านั้น เื่ในตระกูล เ้าไม่ต้องสนใจ ข้าย่อมหาวิธีการมาแก้ไขได้ ขอแค่เ้าตั้งใจฝึกบำเพ็ญตบะก็พอ”
“ข้า ข้าหวังว่าจะช่วยได้บ้าง” เนี่ยเทียนพูด
“ตอนนี้ เ้ายังช่วยอะไรไม่ได้หรอก” เนี่ยตงไห่ส่ายหัว “รอวันหนึ่งที่เ้าได้กลายเป็ลูกศิษย์สำนักหลิงอวิ๋นอย่างแท้จริง เ้าถึงจะมีสิทธิ์ออกเสียงในตระกูล”
พูดถึงเื่ในตระกูล สีหน้าเนี่ยเฉี่ยนก็เปลี่ยนมาเป็มืดมน พลันเงียบขรึม
เนี่ยเทียนอยากจะช่วย แต่ก็ไม่รู้ว่าควรใช้วิธีการใดถึงจะทำให้เนี่ยเป่ยชวนและผู้าุโเ่าั้ในตระกูลไม่ซักไซ้เอาความรับผิดชอบจากเนี่ยเฉี่ยนและเนี่ยตงไห่อีก
‘ฐานะ เพราะฐานะต่ำต้อยเกินไป...’ เนี่ยเทียนแอบครุ่นคิดอยู่กับตัวเอง
“วันนี้เ้าไปพักผ่อนให้ดีเถอะ ต่อไปก็ไม่ต้องคิดอะไรอีกแล้ว ตั้งใจฝึกบำเพ็ญตบะก็พอ” เนี่ยตงไห่ปลอบใจเขา “รอเ้าฝ่าทะลุหลอมลมปราณขั้นเก้าจนถูกสำนักหลิงอวิ๋นรับตัวไปอย่างเป็ทางการเมื่อไหร่ ต่อไปเื่ในตระกูลเนี่ย เ้าถึงจะมีสิทธิ์ออกเสียงอย่างแท้จริง ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลานั้น”
“อ้อ” เนี่ยเทียนพยักหน้า
และเวลานี้เอง
เนี่ยเป่ยชวนประมุขของตระกูลเนี่ยกำลังเรียกผู้าุโหลายคนในตระกูลมาปรึกษาเื่ของตระกูลเนี่ยกันอยู่ในห้องโถงใหญ่
พวกเขาปรึกษากันอยู่พักใหญ่ก็ได้ข้อสรุปว่าจะบีบให้เนี่ยตงไห่และเนี่ยเฉี่ยนเป็ฝ่ายไปยอมรับความผิดกับสำนักหลิงอวิ๋น และต้องรับผิดชอบเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในเหมืองแร่ทั้งหมด
ผู้าุโหลายคนในตระกูลเนี่ยเองก็มีความเห็นตรงกัน เตรียมตัวร่วมมือกันไปบีบให้เนี่ยตงไห่ยินยอม
“เนี่ยเทียนกลับมาแล้ว!”
“เขาช่างโชคช่วยจริงๆ แม้แต่หยวนเฟิงแห่งหุบเขาเทาและอวิ๋นซงจากตระกูลอวิ๋นยังตายอนาถอยู่ในโลกมายามรกต ทว่าเขาดันกลับมาอย่างปลอดภัย”
“คิดไม่ถึงจริงๆ นะนี่”
ไม่นานข่าวเื่ที่เนี่ยเทียนกลับมาก็แพร่มาถึงห้องโถงใหญ่ประชุมงาน
ในตำหนัก ผู้าุโเ่าั้ในตระกูลเนี่ยพอได้ยินข่าวที่เนี่ยเทียนกลับมาจากโลกมายามรกตได้สำเร็จ ต่างก็พากันประหลาดใจ
อันที่จริง แต่ไหนแต่ไรมา ในสายตาของพวกเขา เนี่ยเทียนไม่ถือว่าเป็คนตระกูลเนี่ยอย่างแท้จริง
เพราะว่า เนี่ยเทียนไม่เคยได้เจอหน้าบิดาแท้ๆ จึงไม่ถือว่าแซ่เนี่ย
ในหัวใจของพวกเขา มีเพียงเด็กที่บิดาแซ่เนี่ยเท่านั้นถึงจะถือว่าเป็คนของตระกูลเนี่ยอย่างแท้จริง
และเนี่ยเทียนก็ไม่ได้อยู่ในข้อนี้
ด้วยเหตุนี้ เนื่องด้วยพวกเขาไม่ได้ยอมรับตัวตนของเนี่ยเทียนอย่างแท้จริง ดังนั้นเนี่ยเทียนจะเป็หรือจะตายอยู่ในโลกมายามรกต พวกเขาจึงไม่คิดจะใส่ใจ
เวลานี้ ต่อให้รู้ว่าเนี่ยเทียนมีชีวิตรอดกลับมา พวกเขาก็แค่แปลกใจเท่านั้น ในใจไร้ซึ่งความรู้สึกยินดีใดๆ
“เ้าเด็กนั่นดวงแข็งจริงๆ” ผู้าุโในตระกูลคนหนึ่งที่ชื่อว่าเนี่ยเหย้าแค่ตกตะลึงเล็กน้อย ทว่าหลังจากนั้นก็โยนเื่ที่เนี่ยเทียนกลับมาทิ้งไปจากสมอง กล่าว “ในโลกมายามรกต ผู้ประลองของทั้งสี่สำนักล้วนตายอนาถด้วยน้ำมือของสำนักภูตผีและสำนักโลหิต ตอนนี้คนมากมายในสำนักหลิงอวิ๋นย่อมอารมณ์เสียมากแน่นอน หากพวกเราไม่รีบแสดงท่าที เป็ฝ่ายยอมรับความผิดพลาดของพวกเราเอง มีแต่จะทำให้ไฟโทสะของสำนักหลิงอวิ๋นเดือดพล่านมากขึ้น”
เนี่ยเป่ยชวนสีหน้ามืดทะมึน กล่าว “ถูกต้อง จะถ่วงเวลาเช่นนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว!”
“อย่างไรเสียเนี่ยตงไห่ก็าเ็หนักยากที่จะหายดี มีเวลาเหลืออยู่อีกไม่มาก ต่อไปก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรตระกูลเนี่ยได้” ผู้าุโอีกคนที่ชื่อเนี่ยเฟยอวิ๋นสีหน้ามืดดำ กล่าวด้วยความเืเย็น “เพื่อให้ตระกูลเนี่ยสามารถผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างราบรื่น เขาจำเป็ต้องเสียสละ อีกอย่างเนี่ยเฉี่ยนก็เป็ต้นเหตุของเื่นี้ด้วย!”
เนี่ยเฟยอวิ๋นเป็ผู้ที่สนับสนุนเนี่ยเป่ยชวนมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ตอนที่เนี่ยตงไห่ยังอยู่ในตำแหน่ง เคยมีเื่มีราวกับเขามาก่อน แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ปล่อยผ่านเื่นี้ไปง่ายๆ
คนอื่นๆ ในตระกูลเนี่ย แม้ว่ามีบางคนที่ใจจะไม่ยินดี แต่กลับยังคงพยักหน้าเบาๆ
เพราะพวกเขารู้ว่าการเปลี่ยนแปลงที่เขาเหมืองแร่ อย่างไรก็ต้องมีคำอธิบายให้กับสำนักหลิงอวิ๋น ในเมื่อทุกคนล้วนหันหัวหอกเข้าหาพ่อลูกเนี่ยตงไห่ เนี่ยเฉี่ยน เพื่อผลประโยชน์ของตระกูลเนี่ย พวกเขาจึงทำได้เพียงคล้อยตามกันไป
“เอาเป็พรุ่งนี้ก็แล้วกัน พรุ่งนี้เรียกพวกเขาพ่อลูกมา ให้พวกเขาเป็ฝ่ายยอมรับโทษทัณฑ์ด้วยตัวเอง” เนี่ยเป่ยชวนกล่าวอย่างเ็า
......
คืนนั้น
เนี่ยเทียนแอบเอากระดูกสัตว์ชิ้นนั้นที่ซ่อนเอาไว้ออกมาจากอิฐก้อนหนึ่งบนผนัง ลูบคลำเล่นไม่ยอมวางมือ
แผ่กระแสจิตเส้นหนึ่งแทรกซึมเข้าไปด้านใน ััได้ถึงเืสดหยดนั้นที่อยู่ในกระดูกสัตว์ เนี่ยเทียนก็พลันรู้สึกจิตใจสงบสุขขึ้นมา
กระดูกสัตว์ที่ห่างจากเขาไปครึ่งปีไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง ทว่าเมื่อเขาถือกระดูกสัตว์เอาไว้ในมือ เขากลับแอบััได้ว่าดูเหมือนกระดูกสัตว์จะคิดถึงเขาอยู่มาก
ไม่ได้คิดอะไรให้มากความ เขาที่ผ่านเหตุการณ์โหดร้ายในโลกมายามรกตมา หลังจากที่กลับมาถึงตระกูลเนี่ยจึงได้นอนหลับผ่อนคลายอย่างแท้จริง
วันที่สอง เขาเริ่มฝึกบำเพ็ญตบะด้วยความยากลำบากอย่างที่เคยทำอีกครั้ง
ตอนเที่ยง ขณะที่เขากำลังฝึกบำเพ็ญตบะก็ได้ยินเสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้นมากะทันหัน
ด้วยความสงสัย เขาจึงลงจากหอเรือนมาเปิดประตู มองเห็นอู๋เทาขุนนางต่างเมืองของตระกูลเนี่ยยืนอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าซับซ้อน จึงกล่าวว่า “ท่านอู๋ ท่านมาทำอะไรหรือ?”
อู๋เทาหันไปมองรอบๆ อยู่ครู่หนึ่ง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีคนอื่นอยู่ถึงได้พูดขึ้นเบาๆ “ท่านประมุขและพวกผู้าุโในตระกูลปรึกษาธุระกันอยู่ในห้องโถงเมื่อ่เช้า เห็นพ้องต้องกันว่าจะให้ท่านตาและท่านป้าใหญ่ของเ้าเป็ฝ่ายไปรับผิดที่สำนักหลิงอวิ๋น เวลานี้ท่านตาและท่านป้าใหญ่ของเ้าไปรออยู่ที่หน้าประตูใหญ่ตามคำเรียกร้องของพวกเขา และใกล้จะออกเดินทางแล้ว”
พูดประโยคนี้จบ อู๋เทามีท่าทางประหม่าอย่างเห็นได้ชัด กล่าว “อย่าบอกใครว่าข้ามาที่นี่ อย่าบอกใครว่าเจอข้า”
หลังจากเขาเล่าเื่ให้ฟังอย่างชัดเจนแล้วก็รีบร้อนจากไป ไม่กล้าอยู่นาน
“เนี่ยเป่ยชวน!” ดวงตาเนี่ยเทียนฉายชัดถึงความเดือดดาล
เดิมทีเขานึกว่าด้วยชื่อเสียงที่สั่งสมมาหลายปีของท่านตาเขา รวมไปถึงการที่ท่านอุทิศตนเพื่อตระกูลมาหลายปี เนี่ยเป่ยชวนคงไม่กล้ากำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้
เขานึกว่าเนี่ยเป่ยชวนจะจัดการเื่นี้ได้อย่างเหมาะสม
เขานึกไม่ถึงจริงๆ ว่าเขาเพิ่งจะกลับมาได้เพียงคืนเดียว เนี่ยเป่ยชวนจะลงมือเหี้ยมโหดทันที
เขาวิ่งเหยาะๆ พุ่งไปทางประตูใหญ่ของตระกูลเนี่ยด้วยสีหน้าเย็นเยียบ
“เอ๊ะ นั่นมันเนี่ยเทียนไม่ใช่หรือ?”
“เขารู้ข่าวได้อย่างไร?”
“รู้แล้วจะอย่างไรเล่า? เขาไม่ใช่ลูกศิษย์สำนักหลิงอวิ๋นเสียหน่อย ต่อให้เขามีชีวิตรอดกลับมาจากโลกมายามรกตแล้วอย่างไร? เขาจะเปลี่ยนแปลงคำตัดสินใจของผู้าุโในตระกูลและท่านประมุขที่มีร่วมกันได้หรือ?”
“เขาไม่ใช่เนี่ยเสียนเสียหน่อย เขามิอาจทำให้ผู้าุโเ่าั้เกรงใจเขาได้”
“ถูกต้อง”
คนในตระกูลเนี่ยหลายคนพอเห็นเขาต่างก็พึมพำกันเสียงเบา รู้สึกว่าต่อให้เขาไปที่ประตูใหญ่ตอนนี้ก็ทำได้เพียงไปส่งเนี่ยตงไห่และเนี่ยเฉี่ยนเท่านั้น
----