กระนั้นโหยวเสี่ยวโม่จึงเล่าเื่ที่ค้นพบห้วงมิติหยดน้ำตาสีฟ้าครามอย่างละเอียด
ถึงอย่างไรความลับที่ใหญ่ที่สุดก็ถูกเปิดเผยต่อหน้าหลิงเซียวแล้ว พูดหรือไม่มีค่าเท่ากัน สู้เล่าให้เขาฟังทั้งหมดดีกว่า
ความจริงเื่ราวไม่ได้ซับซ้อนอะไร หยดน้ำตาสีฟ้าครามนี้มาโผล่บนหน้าอกได้ยังไง เขาก็ไม่รู้ ความอัศจรรย์ของน้ำทะเลสาบยิ่งไม่ต้องถามถึง เพราะเหตุนี้เพียงคำพูดไม่กี่คำก็เล่าจบแล้ว พูดจบก็แอบเหลือบมองสีหน้าหลิงเซียว อือ ท่าทีไม่เปลี่ยนไปเลย
“ความหมายของเ้าคือ หยดน้ำสีฟ้าครามนี่โผล่มาตอนเ้ากำลังอาบน้ำเหรอ? งั้นก่อนหน้านี้ที่เ้าอาบน้ำทำไมถึงไม่โผล่ออกมาล่ะ?”
ท่านท้าวหลิงไม่ถูกปั่นหัวง่ายๆ อยู่แล้ว พอเอ่ยปากก็จี้จุดอ่อนของโหยวเสี่ยวโม่ นี่เป็คำถามที่เขาเองไม่อาจหาคำตอบไม่ได้
อันที่จริงโหยวเสี่ยวโม่ไม่แน่ใจว่าหยดน้ำตาสีฟ้าครามนั้นปรากฏขึ้นตอนอาบน้ำหรือไม่ เพราะตอนนั้นเขาเองพึ่งจะข้ามมิติมายังโลกนี้ ยังไม่แน่ใจอะไรทั้งสิ้น จะให้ถอดเสื้อเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองมีปานส่วนไหนคงจะพิลึกเกินไป
ดังนั้นมีความเป็ไปได้สองแบบ หนึ่งคือหยดน้ำตาสีฟ้าครามมีมาั้แ่โหยวเสี่ยวโม่คนก่อนจะตาย สองคือมี่ที่เขาข้ามมิติมา
แต่ว่าการข้ามมิติเป็ความลับสุดยอดของโหยวเสี่ยวโม่ เขาสามารถบอกเื่หยดน้ำตาสีฟ้าครามกับหลิงเซียวได้ แต่เื่นี้ห้ามเด็ดขาด เนื่องจากเขากับหลิงเซียวยังไม่สนิทถึงขั้นจะแบ่งปันความลับที่สำคัญเช่นนี้กับเขาได้
“ข้าเองก็แน่ใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ถึงยังไงมันดันปรากฏขึ้นในวันนั้น หรืออาจจะไม่เกี่ยวกับการอาบน้ำก็ได้มั้ง”
โหยวเสี่ยวโม่มีจุดแข็งอยู่อย่างหนึ่งคือ เื่ที่ไม่้าพูด ตีให้ตายเช่นไรก็ไม่มีทางพูด แต่ก็จะไม่พูดให้ชัดเจนมากนัก เลี่ยงการหลุดปากพูดอะไรออกไป ฉะนั้นใช้ลูกไม้แบบคาบลูกคาบดอกให้เคลือบแคลง ถ้าอยู่กับเขานานมากพอจะค้นพบจุดนี้เอง
ทว่าหลิงเซียวที่พึ่งคลุกคลีกับเขาไม่นาน ในใจก็นึกว่าโหยวเสี่ยวโม่คงไม่กล้าโกหกเขา จึงเชื่อ
“มานี่” หลิงเซียวหรี่ตามองพร้อมกระดิกนิ้วเรียก
โหยวเสี่ยวโม่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงเดินยึกยักมาหาเขา ด้วยความรู้สึกผิดจึงไม่กล้ามองหลิงเซียวตรงๆ
“ถอดเสื้อออกซะ” รอเขาเดินมาถึง หลิงเซียวก็ออกคำสั่ง
“หา ถอดเสื้อ?” โหยวเสี่ยวโม่ทวนคำพูดพร้อมกุมคอเสื้อแน่น หน้าตาตื่นตระหนกมองหลิงเซียว
“ศิษย์น้องเล็ก เ้าฟังข้าไม่เข้าใจ หรืออยากให้ข้าช่วยถอด หือ?” หลิงเซียวนึกว่าเขาแกล้งโง่ น้ำเสียงไม่พอใจ โดยไม่ได้นึกถึงเลยว่าในหมู่ชายด้วยกันก็ไม่ควรแตะเนื้อต้องตัวกัน
โหยวเสี่ยวโม่สั่นระริก ชั่งน้ำหนักระหว่างถอดเองกับหลิงเซียวถอดให้ ท้ายสุดก็เลือกข้อแรก
เสื้อผ้าบนตัวเขายังคงเป็สองชุดก่อนหน้านี้ เป็เนื้อผ้าเรียบและสุภาพ
อากาศไม่หนาวนัก จึงไม่จำเป็ต้องใส่หลายตัว โหยวเสี่ยวโม่เอื่อยเฉื่อยครู่เดียวท่อนบนก็ถูกเปลือยออก
รูปร่างผอมบางขาวนวล แสงพร่างพราวที่สะท้อนบนผิวน้ำจากทะเลสาบ ผิวเนียนอิ่มน้ำประกายแวววาว ดูอ่อนเยาว์ยิ่งกว่าเด็กแรกเกิดเสียอีก คงเพราะด้วยความเขินอาย บนตัวโหยวเสี่ยวโม่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็อมสีชมพู ต้นคอขึ้นไปนั้นแดงก่ำแต่เนิ่น
หลิงเซียวไม่ทันสังเกตสภาพอับจนของเขา ความสนใจล้วนถูกตรึงไว้โดยหยดน้ำสีฟ้าตรงหน้าอกเขา
หยดน้ำตาสีฟ้าครามเปล่งความแวววาวสวยงามยิ่งกว่าตอนที่โหยวเสี่ยวโม่เคยเห็น สีสันดึงดูดยิ่งนัก การจดจ้องเป็เวลานานอาจทำให้คนตกเข้าสู่ภวังค์โลกแห่งความฝันก็ไม่ปาน ทว่าไม่ได้รวมถึงหลิงเซียว เห็นเพียงเขาจดจ้องหยดน้ำตาสีฟ้าครามพักใหญ่แต่สีหน้าเรียบเฉย
“ศิษย์พี่หลิง หยดน้ำตานี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” โหยวเสี่ยวโม่เอ่ยถามพร้อมหน้าแดง
ถูกชายหนุ่มจ้องมองหน้าอกแบบนี้ แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้คิดอะไรก็ตาม แต่ก็รู้สึกเกร็งอยู่ดี โดยเฉพาะคนที่หน้าบางอย่างโหยวเสี่ยวโม่
หลิงเซียวเงยหน้าขึ้นสบตาเขาแวบหนึ่ง สายตาคลุมเครือเพลิดเพลินอยู่บนร่างขาวๆ ของเขารอบนึง ทันใดนั้นก็เอ่ยถามหน้าตาย “ช่างเป็ห้วงมิติที่น่าพิศวง น่าจะมีคนจงใจฝากมันไว้บนตัวเ้า เมื่อถึงเวลาจะถูกเปิดออกมา”
“งั้นจะเป็ใครได้ล่ะ?” โหยวเสี่ยวโม่โพล่งถามอย่างใ
ถ้าเขาคนนั้นมีเจตนาชั่วร้าย หยดน้ำตานี้เปรียบเสมือนะเิเวลาเช่นนั้นหรือ?
“ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็ใคร เขาฝากของสำคัญเช่นนี้ไว้กับตัวเ้า ถ้าไม่ใช่คนสนิทของเ้าเห็นทีจะไม่ใช่ แต่ข้อดีนั้นมากอยู่ ทว่าเทียบกันแล้วข้อเสียก็ไม่น้อยเช่นกัน” หลิงเซียวมองปราดเดียวก็รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
“ข้อเสียคืออะไร?” โหยวเสี่ยวโม่เอ่ยถามหน้านิ่วคิ้วขมวด เขารู้ได้ทันทีว่าไม่มีของฟรีในโลกนี้
หลิงเซียวโน้มตัวลงมาหน้าเขา ยิ้มบางพร้อมเอ่ย “เ้าลองคิดดู ถ้ามีคนรู้ว่าบนตัวเ้านั้นซ่อนเครื่องมือทำผิดกฎเช่นนี้ ไม่เพียงแต่เพาะปลูกหญ้าเซียนได้ ทั้งยังเร่งการเจริญเติบโตได้ ถึงตอนนั้นผู้คนจะบ้าคลั่งระส่ำระสายเพราะมันแค่ไหน แม้นสำนักเทียนซินที่ขึ้นชื่อว่าเป็หนึ่งก็คงอยากมันไว้ จากนั้นฆ่าเ้าปิดปากเสีย!”
ประโยคสุดท้ายเขาเอ่ยเสียงแ่เบา โหยวเสี่ยวโม่รู้สึกถึงเงามือที่มองไม่เห็นกำลังบีบคอเขาอยู่
ครั้นจึงโพล่งถามสีหน้าเป็ทุกข์ “เช่นนั้น ข้าควรทำอย่างไร ศิษย์พี่หลิง ฮือๆ ข้ายังไม่อยากตาย”
หลิงเซียวหลุดขำ หงายหน้าขึ้นฟ้าหัวเราะเสียงดัง