แอ๊ด!
"พี่ยังไม่ทันได้ฟังเลย ไหนลองเล่าใหม่ได้ไหม" ไคซี พี่สาวคนโตของตระกูลเพิ่งได้ทางมาจากฝั่งอเมริกาเหนือ ซึ่งต่อให้ใช้เครื่องบินเจ็ท อย่างน้อยก็ใช้เวลานานกว่าสิบสองชั่วโมงอยู่ดี ทำให้มาไม่ทันเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นทั้งหมด
"ผมจะเล่าแบบง่ายๆ เลยพี่ซี ไอ้ชาร์ถูกคู่หมั้นตัวเองนอกใจมาเป็ปีแต่ว่าไม่ยอมเลิกกับมันซึ่งเื่นี้มีแค่ผมที่รู้ แล้วก็พยายามตามสืบอยู่นานจนมีหลักฐานครบกะจะโทรไปบอกมันแต่มันดันไปเจอช็อตเด็ดเข้าพอดีเลยร้องไห้เสียใจเหมือนอกหักเพราะว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์โดนหักหลังมาก่อน เลยร้องไห้เสียใจเรียกแท๊กซี่ไปส่งที่ไหนไม่รู้ หลังจากนั้นให้มันเล่าเองแล้วกัน" ไคชัวร์เล่าไปได้สักพักก็ส่งไม้ต่อให้แฝดน้องแทนเพราะดูท่าเล่าต่อไปอาจจะทำให้ทะเลาะกันด้วยเื่ไร้สาระอีก
"หลังจากนั้นผมเจอแมวที่น่ารักมากและอยากให้มาเป็ครอบครัวเดียวกับพวกเรา แล้วที่สำคัญคือส่งใบทะเบียนจดสมรสอันนั้นไปต่างประเทศในรัฐที่ให้ผู้ชายจดทะเบียนด้วยกันแล้ว แต่ไม่รู้ว่ามันจะได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที ส่วนพี่เขาก็ดูเหมือนจะไม่ได้ปฏิเสธผมแบบตรงๆ ตอนนี้เลยตกลงว่าจะทำความรู้จักกันไปก่อนด้วยการที่ผมไปรับไปส่งที่มหาลัย" ไคชาร์เล่าไปยิ้มไปด้วยทำให้คนในบ้านรู้ว่าคนที่พูดถึงอยู่คือตัวจริงอย่างแน่นอน เหลือก็แค่ความรู้สึกของอีกคนต่างหากที่จะตกลงด้วยไหม
"ท่าทางจะชอบมากเลยนะนั่น หน้าแดง หูแดงไปหมดแล้ว" แม่ถึงกับอดแซวไม่ได้เพราะว่าไม่เคยเห็นลูกชายเป็แบบนี้มาก่อน
"ครับ พี่เขาน่ารักมากจริงๆ เื่อื่นก็ค่อยๆ เรียนรู้กันไปครับ"
"ถามได้ไหมว่าอีกฝ่ายชื่ออะไร" ไม่มีคำตอบออกมามีเพียงเอกสารมีทั้งประวัติรวมถึงข้อมูลส่วนตัวทุกสิ่งทุกอย่างของคนที่ไคชาร์ชอบ ทำให้ครอบครัวต่างอึ้งไปตามๆ กัน เกิดอาการเดดแอร์อย่างเห็นได้ชัด ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำเดียว
"จะอึ้งไปทำไมครับ คนที่มันเลือกก็ออกจะดีอยู่นะ" ไคชัวร์บอกพลางนั่งอ่านด้วยเพราะั้แ่จ้างมายังไม่ได้ดูเลยว่าเป็ใคร
"แถมยังเป็ฝาแฝดเหมือนพวกผมอีกต่างหาก เคมีน่าจะเข้ากันง่ายน่าดู"
"พ่อไม่ได้จะปิดกั้น แต่ว่าความสัมพันธ์แบบนี้อาจจะไม่มั่นคงสำหรับลูก ตำแหน่งในบริษัทอาจจะตกไปเป็ของคนอื่นหากไม่มีทายาทสืบทอด" คนเป็พ่อห่วงเื่การสืบทอดมากกว่า ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้ชอบผู้ชายด้วยกัน
"พ่อดูนี่ก่อนสิครับ เห็นตรงที่ระบุถึงความแปลกของจินฮวนไหม เขาบอกว่าร่างกายของคนๆ นี้สามารถให้กำเนิดลูกได้ครับ" ไคชาร์ชี้ลงไปให้ทุกคนในบ้านดูเพื่อคลายความกังวลนั้นลง แต่เหมือนจะใกันมากกว่าเดิมเสียอีก เอาไงดีล่ะทีนี้
"ถึงจะแปลกไปหน่อยแต่ยังไงที่บ้านก็ยังมีทายาทอยู่นะ" คนเป็แม่พูดพลางพัดไปมาเพื่อทำให้ตนเองใจเย็นลง ถึงจะรู้ว่ามีลูกหลานบางคนสามารถให้กำเนิดเด็กได้แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอกับตนเองแบบนี้ จะดีใจหรือเสียใจก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน
"จะกังวลอะไรกันคะ ลืมไปแล้วเหรอว่าหนูเป็ผู้หญิง สามารถให้กำเนิดทายาทได้นะคะ" ไคซีบอกพลางลูบท้องอันแบนราบของตนเอง เหมือนพ่อแม่จะกังวลมากเกินไปจนลืมว่าในตระกูลก็ยังมีลูกสาวอยู่นะ หรือคงกังวลเื่นามสกุลล่ะมั้ง
"ผมว่าไปหาอะไรกินกันดีกว่าครับ หิวจะแย่แล้ว" ไคชัวร์บอกพลางเดินนำหน้าไปเลย
ตรู๊ด... ตรู๊ด...
(จินฮวน)
"ฮัลโหลครับ ผมโทรไปรบกวนหรือเปล่า"
"ไม่รบกวนเลย ตอนนี้กำลังรอของกินอยู่ มีอะไรหรือเปล่า" จินฮวนตอบตามความจริงเพราะว่ามารอพี่ชายฝาแฝดตรงนี้แล้วรอไปกินข้าวด้วยกันและตอนนี้ก็มานั่งรออาหารตามที่บอกไปทุกประการ
"ผมจะโทรมาบอกว่าเคลียร์ตัวเองเรียบร้อยแล้ว ไม่น่ามีปัญหาอะไรถ้าในอนาคตพวกเราจะคบกันครับ" เสียงทุ้มต่ำบอกด้วยน้ำเสียงสดใสซึ่งต่างจากปลายสายที่กำลังดื่มน้ำถึงกับสำลักออกมา บางทีความน่ากลัวของคนที่อายุน้อยกว่าคือนึกจะพูดก็พูดออกมา ไม่ได้คิดเลยว่าแต่ละคำมันแฝงด้วยความหมายมากมาย จะรู้ตัวบ้างไหม
"จินฮวน พี่ขอคุยกับมันหน่อย" จินฮานบอกเสียงเข้มพลางชี้ไปที่โทรศัพท์
"ครับ มีคนอยากคุยด้วยนะ" จินฮวนบอกก่อนจะส่งโทรศัพท์ให้กับพี่ชายตนเอง
"ฮัลโหล กูคิดว่ามึงน่าจะเดาได้ว่าใครกำลังพูดด้วย" จินฮานพูดเสียงเข้มแบบไม่มีความเกรงใจอะไรทั้งนั้น ใครกันที่มันกล้ามาขอจีบน้องชายของเขา แล้วทำไมตอนนั้นถึงไม่รู้เื่กัน
"ครับ" จะเป็ใครไปได้นอกจากพี่ชายฝาแฝดสุดหวงน้องชายขนาดนี้ มีอยู่คนเดียวทำไมถึงจะไม่รู้จักกันล่ะ
"บอกชื่อมาเดี๋ยวนี้ ถ้ายังไม่อยากตาย แล้วถ้ามึงเดินทางกลับเกาหลีมาเมื่อไหร่ล่ะก็...อย่าลืมมาหากูด้วยนะ"
"ได้ครับ เดี๋ยวผมจะไปหา"
ติ๊ด!
ช่างน่ากลัวสมกับเป็พี่จินฮานจริงๆ แตกต่างจากพี่จินฮวนมากที่น่ารัก สดใส น่าดูแล แตกต่างจากอีกคนที่เหมือนจะไปรบกับใครอยู่ตลอดเวลา ถูกเรียกตัวไปแบบนี้แปลว่ารู้แล้วสินะว่าเกิดเื่อะไรขึ้น จะอธิบายยังไงต่อดีล่ะทีนี้ ถึงจะจัดการปัญหาทางบ้านได้แต่อีกบ้านมันพาลให้เครียดกว่าเดิมอีกนะ
"ทำไมทำหน้าเครียด กูช่วยเคลียร์ให้หมดแล้วมันน่าจะจบแล้วไหม" พี่ชายฝาแฝดถามด้วยน้ำเสียงกึ่งรำคาญ เพราะทุกครั้งที่มันเป็แบบนี้ทีไรมันเดือดร้อนเขาตลอด ถึงได้น่ารำคาญยังไงล่ะ!
"พี่ชายฝาแฝดของพี่เขาอยากเจอผม และก็ดุกับที่ไปตามสืบมาจริงๆ แค่คิดก็เหมือนจะกินอะไรไม่เข้าแล้ว"
"ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวกูไปด้วยเลย จะได้รู้ว่าอะไรเป็อะไร ทำความรู้จักกันไปในตัว"
"โอเค ถ้างั้นมากินอาหารกันเถอะ"
อีกด้านหนึ่งทางร้านอาหารเกาหลี
"ทำไมพี่ฮานพูดไม่เพราะแบบนั้น ยังไม่ทันจะรู้จักกันเลยด้วยซ้ำ" เสียงทุ้มนุ่มแสดงท่าทีไม่พอใจทันทีเพราะพี่ชายของตนเองทำไม่ถูก การตัดสินคนด้วยวิถีของตนเองเป็สิ่งที่ไม่ถูกต้อง เราต้องเรียนรู้ก่อนว่าเขาเป็คนยังไงถึงค่อยมาตัดสินใจ ไม่ใช่มาทำตัวแบบนี้ มันไม่ถูกต้องเลยสักนิดเดียว
"ทำไมพูดแบบนั้น พี่ก็แค่เป็ห่วงนะ" จินฮานไม่คิดว่าน้องชายจะโกรธเลยทำตัวไม่ถูก ถึงอีกฝ่ายจะใจดีมากและไม่ค่อยโกรธอะไรใครง่ายๆ แต่ถ้าลองได้โกรธแล้วบอกเลยว่าหายยากมาก
"พี่ฮานไม่มีเหตุผล ผมจะกลับบ้านแล้ว" และจินฮวนก็กลับบ้านอย่างที่พูดจริงๆ ร่างสูงโปร่งเดินไม่กี่ก้าวก็ออกมาเรียกรถแล้วขึ้นแท๊กซี่กลับบ้านทันที ไม่รอให้พี่ชายได้พูดอะไรกลับเลยด้วยซ้ำ งานนี้บอกได้เลยว่าต้องง้อกันอีกยาว
