“พี่...พี่สาว...เป็เพียงแค่เื่เข้าใจผิดกันเท่านั้น”
หลินเมิ้งหวู่ไร้ซึ่งท่าทางหยิ่งยโสโดยเฉพาะเมื่อได้เห็นเืสีแดงสดที่กำลังรินไหลออกจากปากของหงอวี้
“รู้ตัวว่าผิดแล้วใช่หรือไม่?”
เสียงหวานใสของหลินเมิ้งหยาดังขึ้นทว่ามันกลับเย็นะเืประหนึ่งเสียงที่ดังจากนรกก็มิปาน ขณะเดียวกัน เจียงหรูฉินและหลินเมิ้งหวู่ต่างรู้สึกหวาดผวา
“พระชายา ตบครบยี่สิบครั้งแล้วเ้าค่ะ ยังต้องตบต่อไปหรือไม่เ้าคะ?”
ผอจื่อที่รับหน้าที่ทรมานเอ่ยถามด้วยความลังเล
หงอวี้เป็หญิงสาวที่ฮ่องเต้ิส่งมอบให้กับท่านอ๋องดังนั้นนางจึงแสดงความโอหังดั่งเ้านาย
แม้แต่พระชายายังไร้ซึ่งกิริยาเช่นนั้นดังนั้นนางจึงลงมือสั่งสอนโดยไร้ซึ่งความปรานี
“วันนี้พอแค่นี้ หากนางหรือพวกเ้าทั้งสองยังกล้าก่อความวุ่นวายในจวนอวี้อีกอย่าหาว่าข้าไม่ไว้หน้าญาติพี่น้องเลย”
หลายวันมานี้นางได้ข่าวว่าหญิงสาวทั้งสองทำให้บรรยากาศในจวนกระอักกระอ่วนอีกครั้ง
อดทนไม่พูดอะไรเพื่อรอโอกาสที่เหมาะสม
และแล้วเวลาที่ว่าก็มาถึง
แม้เจียงหรูฉินและหลินเมิ้งหวู่จะยังไม่คิดยอมแพ้แต่ถึงกระนั้นกลับมิกล้าขัดขืนคำสั่งของหลินเมิ้งหยา
“นับแต่นี้เป็ต้นไปข้าไม่หวังที่จะเห็นพวกเ้าสองคนสร้างความวุ่นวายอันใดอีก”
ชายตามองทางหงอวี้ ใบหน้าเรียวเล็ก สายตาอาฆาตมิต่างอะไรกับงูพิษที่เลื้อยอยู่รอบตัวนาง
จู่ๆ หลินเมิ้งหยาก็หัวเราะ นางมิเคยเห็นนางในสายตาอยู่แล้ว
“ข้าไม่สนใจหรอกว่าเ้ามาที่จวนอวี้ด้วยจุดประสงค์อันใด จงจำเอาไว้หากเ้ากล้าคิดไม่ดีกับท่านอ๋อง ข้า...ไม่มีวันปล่อยเ้าเอาไว้แน่”
สายตาของหลินเมิ้งหยามองทะลุถึงหัวใจ นางมองฝ่ายตรงข้ามออกทั้งหมด
สะดุ้ง! ความหวาดกลัววาดขึ้นในหัวใจของหงอวี้นางกักเก็บความโกรธที่มีต่อหลินเมิ้งหยา
หรือว่านาง...
ไม่ ไม่มีทาง!
หากหลินเมิ้งหยารู้เื่ทุกอย่าง มันคงน่ากลัวเกินไป
“แยกย้ายกันไปเถิด ไม่มีอะไรให้ดูหรอก”
นางหมุนตัว พาสาวใช้กลับไปยังตำหนักหลิวซินเหลือเพียงหญิงสาวสามคนมองหน้ากัน
“นางเป็พี่สาวข้าจริงเหรอ?”
ขณะเดียว หัวใจของหลินเมิ้งหวู่พลันว้าวุ่น
ขนาดท่านแม่ยังสั่งสอนสาวใช้ไม่รุนแรงเท่าหลินเมิ้งหยาเลย
น่ากลัว! น่ากลัวเหลือเกิน!
สบตากับหญิงสาวอีกสองคน พวกนางล้วนรู้สึกเหมือนกัน
เกรงว่าพี่สาวคนนี้จะไม่ใช่ยัยโง่ที่ตนเองสามารถรังแกได้ง่ายๆในความทรงจำอีกแล้ว
“ท่านพี่สาม ปล่อยให้พี่สะใภ้สามจัดการเช่นนี้ดีแล้วหรือ?”
ภายในห้องอ่านหนังสือของหลงเทียนอวี้ หลังจากหลงชิงหานได้ยินเื่ที่พ่อบ้านเติ้งเล่าเขาส่ายหน้าพลางเอ่ย
“มีอะไรไม่ดี?”
ใบหน้าของหลงเทียนอวี้ยังคงไร้อารมณ์ ราวกับเขามิได้ใส่ใจกับเื่นี้เลยแม้แต่น้อย
“ท่านและข้าต่างก็รู้ว่าเหตุผลที่ฮ่องเต้ิส่งสาวงามเ่าั้มาเป็อย่างดีพวกเขามิได้หวังดีอย่างแน่นอน ที่พวกเรารับพวกนางเอาไว้ก็เพื่อล่อเสือออกจากถ้ำแต่การกระทำของพี่สะใภ้สามในเวลานี้จะมิเป็การแหวกหญ้าให้งูตื่นกระนั้นหรือ?”
ใบหน้าจริงจังของหลงชิงหานแสดงให้เห็นถึงความสงสัย
แม้เขาและหูเทียนเป่ยจะเป็เพื่อนที่ดีต่อกันแต่ฮ่องเต้ิมีความเห็นต่าง แม้ทั้งสองจะรู้แต่ก็มิพูดออกมา
“ไม่หรอก บางทีการกระทำของนางในครั้งนี้ก็เพื่อบีบให้อีกฝ่ายเผยความลับออกมา”
หลังจากรู้จักกันมานาน หลงเทียนอวี้เข้าใจการกระทำของหลินเมิ้งหยาเป็อย่างดี
นางกระทำทุกสิ่งอย่างอย่างมีเหตุผลเสมอไม่มีทางเลยที่นางจะลงโทษหงอวี้เพียงเพราะความโกรธชั่วครู่
“ข้ามิเห็นด้วย ไม่ว่าหญิงสาวจะฉลาดขนาดไหนแต่ถ้าลองได้หึงหวงขึ้นมา พวกนางจะน่ากลัวมากเลยทีเดียว!”
สีหน้ากลับมาทะเล้นดั่งเดิมอีกครั้งเขารู้สึกเสมอว่าพี่สามปฏิบัติกับพี่สะใภ้แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
อาจบอกไม่ได้ว่าตรงไหนที่แตกต่างแต่หากจะบอกว่าทั้งสองรู้สึกต่อกันเหมือนหญิงสาวชายหนุ่มทั่วไปก็คงมิใช่
หากพี่สามที่เ็าดุจน้ำแข็งของเขาถูกผู้หญิงทำให้รู้สึกหวั่นไหวแล้วละก็...
์โปรด น่ากลัวชะมัด!
เขาส่ายหน้า กักเก็บความคิดฟุ้งซ่านของตนเองเอาไว้ในสมอง
หลงชิงหานหันไปให้ความสนใจกับจดหมายแผ่นบางบนโต๊ะอ่านหนังสือของหลงเทียนอวี้
“ค่าจ้างของทหารที่ถูกปล้นไปเมื่อปีที่แล้วทำให้เสด็จพ่อกริ้วมากแต่กลับมิอาจจับมือใครดมได้ คิดไม่ถึงเลยว่าเบาะแสจะปรากฏในอีกหนึ่งปีให้หลัง”
ในกระดาษแผ่นนั้นคือข้อมูลที่หลงเทียนอวี้ได้รับมาจากการตรวจสอบ
เงินค่าจ้างของทหารเ่าั้ล้วนเป็เงินที่ถูกแจกจ่ายโดยกระทรวงการคลังแม้เขาจะส่งคนไปค้นหาติดตามร่องรอยของเงินที่หายไป แต่กลับไร้ซึ่งเบาะแสใดๆให้เห็น
ทว่าข้อมูลที่ได้รับมานั้นหลุดออกมาจากปากของช่างเงิน
คิ้วของหลงเทียนอวี้ขมวดแน่น ก่อนจะย่อยข้อมูลจากกระดาษแผ่นนี้
ช่างเงินพูดคุยเื่นี้กับสหายคนสนิทว่าเขาเคยช่วยเหลือคนกลุ่มหนึ่งหลอมเงินมากมายมหาศาล
แต่เงินที่ถูกหลอมเหลวกลับถูกพวกเขาเ่าั้เอาไปอีกทั้งยังไม่รู้ด้วยว่าเอาไปทำอะไร
แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือเงินทองเ่าั้ล้วนมีคำว่าจุนเสี่ยง1ประทับไว้
หากมิใช่เพราะช่างเงินคนนั้นดวงแข็งได้เจอกับคนที่เคยรู้จักกันมาก่อนในนั้นแล้วปล่อยตัวออกมาละก็ป่านนี้เขาคงกลายเป็ผุยผงไปแล้ว
เงินเ่าั้ล้วนเป็เงินค่าจ้างของทหารที่ถูกปล้นไปทั้งสิ้นคิดไม่ถึงเลยว่ามันจะถูกหลอมไปแล้ว
เพราะเหตุนี้ ไม่ว่าจะหาอย่างไรก็หาไม่เจอ
“ช่างเงินคนนี้ดวงแข็งยิ่งนัก พี่สาม ท่านหาเขาเจอแล้วหรือไม่?”
หลงเทียนอวี้ส่ายหน้า สีหน้าแข็งทื่อ
“ตอนที่พบตัวเขา เขากลายเป็ร่างไร้ลมหายใจไปแล้วอีกอย่างคนที่ถูกส่งไปตามมาเล่าว่าขณะที่พวกเขากำลังไล่ล่าชายคนนี้พวกเขาถูกขัดขวางโดยคนบางกลุ่ม”
ดูเหมือน คนที่กำลังตามหาเงินค่าจ้างทหารอยู่จะมิใช่เพียงพวกเขาเท่านั้น
เขาครุ่นคิดคนที่ปล้นเงินเ่าั้ไปจะต้องรู้ว่ามีปลาหลุดจากแหตัวนั้นแน่
“เช่นนั้น พวกเราไม่มีเบาะแสอื่นใดอีกแล้ว?”
หลงชิงหานถอนหายใจ พวกเขาหาเบาะแสชิ้นนี้ได้ยากยิ่งทว่าเบาะแสกลับถูกตัดขาดไปแล้ว ไม่ว่าใครต่างก็รู้สึกหดหู่ด้วยกันทั้งสิ้น
“ไม่ หากเราตามรอยเบาะแสนี้ไปต่อข้าเชื่อว่าพวกเราจะต้องเจอเบาะแสอื่นอย่างแน่นอน”
หลงเทียนอวี้ฟาดกระดาษแผ่นนั้นลงบนโต๊ะ ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งขรึมถมึงทึง
ปีก่อน ผู้ทำหน้าที่ดูแลเสบียงอาหารบังเอิญเป็คนของเขา
เหตุเพราะเื่นี้ เขาจึงถูกเสด็จพ่อตำหนิ
ใครที่กล้าวางแผนร้ายใส่เขา เขาจะทำให้คนเ่าั้ต้องชดใช้!
“พี่สามพูดมีเหตุผล ข้าจะเป็ผู้ไปตรวจสอบด้วยตัวของข้าเอง”
หลงเทียนอวี้กลับส่ายหน้า
“เื่นี้ต้องถูกตรวจสอบอย่างแน่นอน แต่ยังไม่ใช่ในตอนนี้อย่าลืมว่าฮ่องเต้ิยังอยู่ในเมืองหลวงเมื่อคืนเขากับฮองเฮาและไท่จื่อสนทนาพาทีเข้ากันได้ดีเป็ปี่เป็ขลุ่ยเห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังสมรู้ร่วมคิดกัน”
หลงชิงหายพยักหน้าลง เกรงว่าเื่การดูตัวจะเป็แผนการที่ถูกวางเอาไว้อย่างดีแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น เื่นี้ยังเกี่ยวข้องกับพี่สะใภ้สามอีกด้วยเกรงว่าคราวนี้พี่สามจะต้องลำบากใจไม่น้อย
แอบชำเลืองมอง โชคดีเหลือเกินที่เขายังไม่แต่งตั้งชายา
หากมีชายาที่ชอบสร้างเื่เช่นเดียวกับพี่สะใภ้สามแล้วละก็เช่นนั้นเขายินยอมอยู่อย่างโดดเดี่ยวไปชั่วชีวิต
วิธีการของหลินเมิ้งหยาได้ผลมากทีเดียว
หลังจากลงโทษหงอวี้ไปวันนั้น ทั้งสามคนสงบเสงี่ยมมากขึ้น
บรรยากาศภายในจวนพลันเงียบสงบหลินเมิ้งหยาขดตัวอยู่แต่ในบ้านเสมือนหนอนไหมในรังอีกครั้ง
แน่นอนว่าตำหนักหลิวซินของนางคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆ
“เฮ้อ...”
มองดูสวนดอกไม้ หลินจงอวี้ ป๋ายจื่อ ป๋ายจีและหลินเมิ้งหยาพากันถอนหายใจ
“เป็อะไรไป? เหตุใดจึงไม่แจ่มใสร่าเริงเหมือนอย่างทุกที หรือใครทำให้เ้าขุ่นเคืองพูดออกมา เหยียจะไปฆ่ามันเอง”
หลินเมิ้งหยาถลึงตาใส่เ้าจิ้งจอกชอบสังหารผู้อื่นตรงหน้าก่อนจะเปลี่ยนท่าทางการนั่ง ทว่าสายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าร่าเริงแจ่มใสของป๋ายจื่อ
“อ๋อ ข้าเข้าใจแล้วกำลังกังวลเื่ของเ้าหนูน้อยป๋ายจื่อใช่หรือไม่?”
ชิงหูตระหนักได้ในทันที เทชาลงแก้ว ก่อนจะวางลงตรงหน้าหลินเมิ้งหยา
นับั้แ่วันที่ยาพิษในร่างกายของเขาถูกกำจัดร่างกายที่เคยถูกสะกดเอาไว้กลับมาเป็ปกติดังเดิม
ร่างกายของเขาเสมือนชายหนุ่มอายุยี่สิบห้ายี่สิบหกปีทว่าความเย้ายวนที่เคยมีกลับจางหายไปค่อนข้างมากแต่ถึงกระนั้นความโเี้อำมหิตยังคงซึมลึกอยู่ในกระดูกดำ
เขาเป็มือสังหารมานานหลายสิบปี ใช่ว่าเื่นี้คิดจะลืมก็สามารถลืมกันได้ง่ายๆ
“ใช่แล้ว หรือไม่เ้าก็ไปฆ่าองค์ชายรัชทายาทของฮ่องเต้ิสิ”
หลินเมิ้งหยาไม่มีอารมณ์เล่น นางถลึงตาใส่ชิงหู ทว่าเขาที่เห็นเช่นนั้นกลับส่งเสียงหัวเราะลั่น
เสียงหัวเราะของเ้านี่แปลกยิ่งนัก ราวกับว่าเื่เล็กๆ น้อยๆก็สามารถทำให้เขาหัวเราะดีใจราวกับดอกไม้เบ่งบานได้
“ข้าก็สงสัยอยู่ว่าเหตุใดเ้าจึงนอนไม่ค่อยหลับสามวันติดคิดจะฆ่าเขานั้นไม่ยากเลย รอประเดี๋ยว เหยียจะไปเด็ดหัวเขามาให้เ้าเดี๋ยวนี้”
ชิงหูกลับไม่รู้สึกว่าเื่นี้เป็เื่ยุ่งยากหลังจากหลินเมิ้งหยาจิบนมอุ่นๆ แล้ว นางส่งเสียงเอื่อยเฉื่อย
“ได้สิ ไปเลย เมื่อใดที่คนทั้งเมืองตามล่าตัวเ้า ข้าจะขังเ้าเอาไว้แล้วจับส่งให้ทางการเพื่อเอาไปแลกเงิน”
นางตวัดสายตาสำรวจสีหน้าชิงหู
ราวกับเขาไม่ใช่คน แต่เป็เงินกองใหญ่
เมื่อถูกสายตาไม่ประสงค์ดีจับจ้อง จู่ๆ ชิงหูยกมือขึ้นปิดหน้าอกก่อนจะสบตาหลินเมิ้งหยาเสมือนนางเป็คนโรคจิต
“เ้า...จะทำอะไรเหยีย?”
เขาส่งเสียงยั่วยวน อีกเพียงนิดเดียวหลินเมิ้งหยาเกือบจะสำลักนมตาย
เ้านี่ไม่รู้จักคำว่าหน้าด้านใช่หรือไม่?
“ข้าควรพูดกับนางดีหรือไม่? เกรงว่าหากพูดกับนาง ด้วยอุปนิสัยของป๋ายจื่อแล้วนางจะต้องใและโมโหเป็อย่างมาก”
ทางฝั่งฮ่องเต้ิส่งคนมาเร่งหลายครั้งแล้ว
ตอนนี้หลินเมิ้งหยาต้องให้คำตอบกับอีกฝ่าย
ทว่านางเข้าใจดีที่สุด สาเหตุที่หูเทียนเป่ยเอ่ยว่าชอบสาวใช้ของนางนั่นก็เพราะเขามิถูกใจหญิงผู้ดีมีชาติตระกูลเ่าั้
ยิ่งไปกว่านั้นไม่ว่าจะเป็หญิงสาวสามัญชนหรือลูกขุนนางชั้นสูงก็ล้วนได้ขึ้นครองตำแหน่งชายาเพราะสถานะของเขาได้เหมือนกัน
แม้หูเทียนเป่ยหาได้มีความทะเยอทะยานเฉกเช่นพระบิดาของเขาแต่เขากลับเป็คนมีพร์เป็อย่างมาก
เขาไม่มีทางยอมให้ใครควบคุมตนเองง่ายๆ
นิ้วเรียวยาวนวดคลึงหน้าผากของตนเองป๋ายจื่อหาใช่คนที่นางจะยอมเสียสละไปให้กับผู้อื่นได้
ช่าง...ยุ่งยากจริงๆ
“หากให้ข้าเสนอความคิดเห็นแล้วละก็ เ้าส่งป๋ายจื่อไปแต่งงานเถิดชายาขององค์ชายรัชทายาท แค่ได้ฟังก็ดูมีอำนาจมากทีเดียว”
*************************
1 จุนเสี่ยง คือเงินค่าจ้างทหาร
