“โครม!”
เด็กคนหนึ่งที่ขวางหน้าเนี่ยเทียน ถูกเนี่ยเทียนชนจนล้มลงไปนอนกองบนพื้นในพริบตา
เด็กคนนั้นก็คือเนี่ยหยวน หลานของเนี่ยหนานซาน หลังจากเนี่ยหย่วนล้มก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้นก็ร้อง “แง แง” เสียงดังขึ้นมาทันที
เนี่ยเทียนไม่มองแม้แต่หางตา ถึงขนาดวิ่งข้ามเนี่ยหยวนไป โดยไม่คิดจะหลบแม้แต่น้อย
และเท้าขวาของเนี่ยเทียนก็ดันเหยียบมือของเนี่ยหยวนอย่างพอดิบพอดี ทำให้เสียงร้องของเนี่ยหยวนยิ่งร้องเสียงดังมากว่าเดิม
เนี่ยหนานซานที่เพิ่งจะเงียบสงบลงได้ รวมไปถึงเนี่ยชิวผู้เป็บิดาของเนี่ยหยวน ด้วยความสงสารลูกหลาน สีหน้าจึงดูเศร้าหมองลงทันใด
เพียงแต่ว่าการปะทะกันระหว่างการแย่งชิงอาวุธวิเศษของเด็กทุกคนที่เข้าร่วมงานฉลองจับฉลากนั้นถือเป็เื่ที่เกิดขึ้นปกติ แม้ว่าเนี่ยหนานซานและเนี่ยชิวจะเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ทว่าต่างก็ทนอดกลั้นเอาไว้ไม่ได้ จึงะเิอารมณ์ออกมา
“เนี่ยเทียน ระวังหน่อยสิ!” เนี่ยเฉี่ยนรีบห้ามปรามเสียงสูง
ทว่าดูเหมือนเนี่ยเทียนจะไม่ได้ยินเสียงเรียกของเนี่ยเฉี่ยนเลยแม้แต่น้อย หลังจากข้ามเนี่ยหยวนไปได้ก็พุ่งทะยานเข้าหาอาวุธวิเศษชิ้นหนึ่งที่อยู่ใกล้เขาอย่างเร็วที่สุดราวกับม้าบิน
ระหว่างทาง เด็กอีกคนของตระกูลเนี่ยกำลังมองถุงมือซึ่งเปล่งประกายแสงสีแดงด้วยดวงตาระยิบระยับ ขณะที่เด็กคนนั้นค่อยๆ ยื่นมือออกไปหา ปลายนิ้วของเขาก็ค่อยๆ ปล่อยแสงสีแดงออกมา
เห็นได้ชัดว่าธาตุในการฝึกฝนของเด็กคนนั้นสอดคล้องกับคลื่นพลังิญญาที่แฝงเร้นอยู่ในถุงมือทุกประการ
“นั่นคือบุญบารมีของเลี่ยงเอ๋อ!” คนในตระกูลเนี่ยคนหนึ่งมีสีหน้าตื่นเต้น ขึ้นมาทันที
หลิ่วเยี่ยนและคนอื่นๆ ของตระกูลเนี่ยทุกคนล้วนมองออกในคราเดียว ว่าเ้าถุงมือที่เปล่งประกายสีแดงชิ้นนั้นคืออาวุธวิเศษที่จำเป็สำหรับเนี่ยเลี่ยง
หลิ่วเยี่ยนพยักหน้าเล็กน้อย พูดเบาๆ “ธาตุไฟ...”
ยามนี้ทุกคนล้วนสังเกตเห็นว่า มือเล็กๆ ของเนี่ยเลี่ยงใกล้จะคว้าถุงมือนั้นเอาไว้ได้แล้ว
ทว่าเวลานี้เอง ขณะที่เนี่ยเลี่ยงกำลังจะคว้าถุงมือชิ้นนั้น เนี่ยเทียนซึ่งวิ่งทะยานมานั้น ก็ใช้พลังพุ่งโจมตีกระแทกเนี่ยเลี่ยงให้ล้มลงไปกองกับพื้นอีกคน
ยังไม่ทันที่เนี่ยเลี่ยงจะได้จะร้องไห้ออกมา เนี่ยเทียนก็คว้าถุงมือชิ้นนั้นเอาไว้ได้ก็หัวเราะโอ้อวดเสียงดัง
ขณะที่เนี่ยเทียนหัวเราะอย่างเบิกบาน เนี่ยเลี่ยงที่เพิ่งจะมีปฏิกิริยาตอบสนองก็เริ่มตะเบ็งเสียงกรีดร้อง “แง แง! ของข้า ของข้า...”
ใบหน้าลำพองใจและเสียงหัวเราะสนุกสนานของเนี่ยเทียน ใบหน้าตะลึงและเสียงร้องไห้ของเนี่ยเลี่ยง กลายเป็การเปรียบเทียบอย่างเห็นได้ชัด
“สารเลว!” เนี่ยเว่ยบิดาของเนี่ยเลี่ยง ยอดฝีมือผู้เป็ญาติในตระกูลเนี่ย สีหน้าเคร่งขรึม หลังจากด่าๆ ด้วยเสียต่ำหนึ่งคำ ก็พูดขึ้นมาอย่างอดไม่ไหว “ถุงมือชิ้นนั้นไม่สอดคล้องกับธาตุในการฝึกของเนี่ยเทียน บนร่างของเนี่ยเทียนไม่มีคลื่นพลังิญญาที่สอดคล้องกับอาวุธวิเศษแม้แต่เส้นเดียว ต่อให้เขาแย่งเอาอาวุธไปได้แล้วจะมีประโยชน์อันใดกัน?”
หลิ่วเยี่ยนจากสำนักหลิงอวิ๋น มองเห็นว่าเนี่ยเทียนแย่งชิงถุงมือจากมือของเนี่ยเลี่ยงไป ก็แย้มยิ้มชอบใจ
เขาหลุดหัวเราะออกมา ขณะที่กำลังจะเอ่ยปากพูดปลอบใจ กลับพบว่าเนี่ยเทียนที่เมื่อครู่นี้เพิ่งจะแย่งถุงมือไปได้ หลังจากหัวเราะอย่างเบิกบานใจแล้วก็พุ่งร่างเข้าใส่อาวุธอีกชิ้นที่อยู่ใกล้ทันที
ขณะที่เนี่ยเลี่ยงกำลังทั้งร้องทั้งะโอยู่นั้น เนี่ยเทียนที่สวมถุงมือสีแดงไว้บนมือเสร็จสรรพก็ทะยานเข้าหากระบี่เล่มสั้นสีฟ้าทันที
ยามนี้ เด็กอีกคนของตระกูลเนี่ย ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม คว้าจับกระบี่สั้นเล่มนั้นเอาไว้ได้แล้ว และขณะที่เขาคว้ากระบี่สั้นสีฟ้าเล่มนั้นไว้ในมือ คลื่นแสงสีฟ้าสดใสก็พลันกะพริบวาบขึ้นมาระหว่างิัของเขาที่ััเข้ากับตัวกระบี่สั้นเล่มนั้น
เขาอ้าปากกว้าง สีหน้าปลื้มปิติ กำลังจะใช้เสียงหัวเราะมาแสดงถึงความยินดีในหัวใจ เนี่ยเทียนกลับพุ่งเข้าใส่ราวพายุคลั่ง
เนี่ยเทียนที่เห็นได้ชัดว่ารูปร่างแข็งแกร่งกว่ามาก หัวเราะฮ่าๆๆ เอื้อมมือออกไปแย่งกระบี่สั้นสีฟ้าที่เขาจับไว้แน่นมาครอง
เด็กที่อาวุธวิเศษหลุดออกจากมือ หลังจากอึ้งไปครู่ก็พยายามจะคว้ากระบี่สั้นคืนมาจากมือเนี่ยเทียน แต่กลับถูกเนี่ยเทียนผลักออกไปจนล้มลงบนพื้น
“แง แง!”
เสียงร้องแหลมบาดหูของเด็กอีกคนดังขึ้นมาในโถงใหญ่ของตระกูลเนี่ย
“บังอาจ! เ้าเด็กร้ายกาจผู้นี้บังอาจเกินไปแล้ว!” ญาติอีกคนของตระกูลเนี่ยหนวดกระดิก เบิกตาถลน โกรธจนแทบอยากจะพุ่งเข้าไปในสนามเสียเดี๋ยวนี้
เนี่ยเทียนที่ติดใจรสชาติของการแย่งชิง ไม่ได้สนใจเขาแม้แต่นิด ยังคงวิ่งไปทั่วสนามราวกับรอบกายไร้ผู้คน ภายในระยะเวลาสั้นๆ ก็แย่งชิงเอาอาวุธวิเศษทั้งหมดที่เหลืออยู่อย่างมีด พัด กระดูกสัตว์ ไม้เท้า และไข่มุกมาครองได้ทั้งหมด
คนในตระกูลเนี่ยที่เข้าร่วมงานฉลองจับฉลากหลายคน ยามนี้ล้วนเบิกตากว้างอ้าปากค้าง สายตาที่มองเนี่ยเทียนราวกับสายตาที่ใช้มองปีศาจร้าย
เสียงร้องไห้ของเด็กทั้งเจ็ดคน รวมไปถึงเสียงด่าทอของบิดาพวกเขา ดังขึ้นๆ ลงๆ ไปทั่วโถงใหญ่
เนี่ยเทียนที่แย่งชิงอาวุธทั้งเจ็ดชิ้นมาได้ มือสองข้างไม่สามารถถือได้หมด ดังนั้นจึงวางอาวุธวิเศษกองเอาไว้ด้วยกัน ส่วนตัวเองก็คุกเข่าลงลูบอาวุธทุกชิ้นพร้อมหัวเราะชอบใจไม่หยุด ั์ตาเต็มไปความพึงพอใจและลำพองใจ
ทว่าทุกคนล้วนเห็นได้ชัดเจนว่า เมื่อมือเล็กๆ อวบอ้วนของเขาััโดนอาวุธวิเศษทั้งเจ็ดชิ้น พลังิญญาของอาวุธแต่ละชิ้นกลับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
นี่หมายความว่า อาวุธวิเศษเจ็ดชิ้นที่เขาแย่งชิงมา แท้จริงแล้วไม่มีชิ้นใดที่สอดคล้องกับธาตุในการฝึกบำเพ็ญตบะของเขาเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
เห็นได้ชัดว่าเขาก็แค่้าทำลายกฎตามอำเภอใจเท่านั้น!
เด็กตระกูลเนี่ยเจ็ดคนซึ่งกำลังร้องไห้หลังจากถูกแย่งชิงอาวุธวิเศษ ล้วนไปรวมอยู่รอบกายเนี่ยเทียน มองอาวุธที่มีธาตุสอดคล้องกับพวกเขาที่จะทำให้พวกเขานั้นรู้สึกสบายตาปริบๆ พยายามจะเอากลับคืนมา
“ของข้า ของข้าทั้งหมด...” เนี่ยเทียนหันขวับกลับมา มือไม้โบกสะบัดทำท่าประกอบพลางเอ็ดตะโรเสียงอ้อแอ้ไปด้วย
เนี่ยหงที่มองไข่มุกสีเขียวเม็ดนั้นด้วยสายตาละโมบ เดินเข้ามาใกล้ทีละก้าว คิดจะเดินผ่านตัวเนี่ยเทียนไปเอาไข่มุกเม็ดนั้นกลับคืนมา
“ผัวะ!”
เนี่ยเทียนโบกหมัด กำปั้นอ้วนกลมกระแทกลงบนใบหน้าเนี่ยหงอย่างไม่เกรงใจ เนี่ยหงถูกต่อยจนก้นจ้ำเบ้าลงไปกับพื้น ทั้งร้องทั้งะโเสียงดังยิ่งกว่าเดิม
เด็กอีกหกคนที่เหลือซึ่งกำลังจะเดินเข้ามาใกล้นั้น มองเห็นท่าทางของเนี่ยเทียนที่ราวกับาาปีศาจอยู่บนโลกมนุษย์ ดวงตาทุกคนล้วนฉายแววหวาดกลัว แต่ละคนยืนล้อมเนี่ยเทียน จ้องตาเขม็งไปยังอาวุธที่ควรจะเป็ของพวกเขา แต่กลับไม่มีผู้ใดกล้าเข้าไปแย่งแม้แต่ผู้เดียว
“กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว! ข้าเคยเข้าร่วมงานเลี้ยงจับฉลากมาก็ตั้ง
“เ้าเด็กสารเลว! อาวุธวิเศษเจ็ดชิ้น ไม่มีชิ้นใดที่สอดคล้องกับธาตุในการฝึกฝนของเขา เขากลับไม่ยอมปล่อยมันไปแม้แต่ชิ้นเดียว ยึดครองเอาไว้เองหมด! ตระกูลเนี่ยของเรา นับั้แ่มีประวัติการณ์มา ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนี้มาก่อน!”
“พี่น้องตระกูลเดียวกันต้องรักและดูแลซึ่งกันและกัน ห้ามเห็นแก่ตัวเด็ดขาด! ทว่าเขากลับกล้าดีนัก ไม่เพียงแต่กินเนื้อคนเดียว แม้แต่น้ำแกงก็ยังไม่เหลือให้คนอื่นกินสักคำ! ช่างกำเริบเสิบสานยิ่งนัก ไม่เคารพกฎเลยแม้แต่นิดเดียว!”
เนี่ยเป่ยชวนและเนี่ยหนานซานได้ยินเสียงร้องไห้และเสียงด่าทอในห้องโถงใหญ่ สีหน้าก็ยิ่งมืดคล้ำราวกับน้ำครำ
เนี่ยเฉี่ยนยืนอยู่หน้าประตู มองเนี่ยเทียนที่หัวเราะลำพองใจเสียงดังด้วยสีหน้าร้อนรน แอบโกรธเคืองเนี่ยเทียนที่สร้างความวุ่นวาย ล่วงเกินทุกคนในตระกูลเนี่ย
นางมองไปยังบิดาอย่างเนี่ยตงไห่ด้วยท่าทางน่าสงสาร แต่กลับเห็นว่าเนี่ยตงไห่ได้แต่ด้วยความละอายใจ ปวดหัวและกระอักกระอ่วนไม่ต่างกัน คล้ายไม่รู้ว่าควรจะยุติเื่นี้ได้อย่างไร
“คือว่า...”
หลิ่วเยี่ยนที่มองอยู่นาน เอ่ยปากเสียงเบา เมื่อคำพูดนี้ดังขึ้น เสียงเอะอะโวยวายในห้องโถงใหญ่ก็สงบเงียบลงทันตาเห็น
คนตระกูลเนี่ยที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ย้ายสายตาออกจากร่างของเนี่ยเทียนมามองหลิ่วเยี่ยน
หลิ่วเยี่ยนกระแอมไอเบาๆ หนึ่งครั้ง มองทุกคนด้วยรอยยิ้ม กล่าวว่า “เด็กน้อยเล่นซนกัน ก็...ถือว่าน่าสนใจดี ส่วนของเล่นเจ็ดชิ้นนั้น ตามความเห็นของข้า แน่นอนว่าเนี่ยเทียนย่อมไม่สามารถยึดครองได้ทั้งหมด เอาอย่างนี้แล้วกัน ให้เนี่ยเทียนเก็บไว้ชิ้นหนึ่ง ส่วนที่เหลือคืนให้กับเด็กๆ เ่าั้ เื่นี้ก็ให้จบกันไป พวกเ้าว่าอย่างไร?
“ท่านหลิ่วว่าเช่นไร พวกเราก็ทำตามนั้น” เนี่ยตงไห่เห็นเขาช่วยผ่อนคลายบรรยากาศให้ก็แอบถอนหายใจกับตัวเอง แล้วรีบพูดกับเนี่ยเทียนว่า “เนี่ยเทียน เ้าอย่าทำตัวเหลวไหล อาวุธเ่าั้ เ้าเลือกได้เพียงชิ้นเดียว! ชิ้นที่เหลือต้องคืนให้พวกพี่ๆ น้องๆ ต่อไปห้ามทำตัวบุ่มบ่ามเอาแต่ใจอีกเช่นนี้อีก!”
“พวกเ้าล่ะ?” หลิ่วเยี่ยนหันไปมองคนอื่นๆ ของตระกูลเนี่ย
ภายใต้การจับตามองของเขา คนตระกูลเนี่ยที่ก่อนหน้านี้โวยวายว่าต้องลงโทษเนี่ยเทียนให้ได้ ยามนี้ได้แต่พยักหน้าอย่างจำใจ ต่างพูดว่าให้ทำตามประสงค์ของเขา
“เป็เช่นนี้ก็ดี” หลิ่วเยี่ยนพยักหน้าเล็กน้อย ด้วยรอยยิ้ม มองเนี่ยเทียนด้วยสายตาลึกซึ้งหนึ่งครั้ง กล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน “เอาล่ะ ฟังคำของลุงหลิ่ว เ้าเลือกอาวุธที่ตัวเองชอบมาหนึ่งชิ้น ชิ้นที่เหลือต้องคืนให้กับพี่ชายน้องชายของเ้าเ่าั้”
เนี่ยเทียนมุ่ยปาก ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม แอบเหลือบมองเนี่ยเฉี่ยน
เนี่ยเฉี่ยนขรึงตาดุใส่เขาหนึ่งที “ถ้ากล้าก่อเื่อีก คอยดูว่าข้าจะจัดการกับเ้าอย่างไร!”
เนี่ยเทียนหดหัวลงคล้ายกลัวเนี่ยเฉี่ยนคนเดียว และก็ไม่หันไปมองด้านหลังให้เสียเวลา เอื้อมมือเข้าไปในกองอาวุธวิเศษส่งเดช หยิบเอากระดูกสัตว์ชิ้นหนึ่งมาได้แล้วก็หลีกทางให้ทันที
ท่าทางไม่สนใจใยดีของเขาทำให้ทุกคนตระหนักได้ทันทีว่า เขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับอาวุธทั้งเจ็ดชิ้นเท่าไหร่นัก
สิ่งที่ทำให้เขามีความสุข ดูเหมือนจะ... มีเพียงขั้นตอนระหว่างการแย่งชิงกับทุกคนเท่านั้น
มองเห็นว่าสิ่งที่เขาหยิบมาคือกระดูกสัตว์ที่เป็ระดับล่างสุด ดวงตาของคนตระกูลเนี่ยทุกคนก็เปล่งประกายวาว ในใจแอบเย้ยหยันความโง่เขลาเบาปัญญาของเขา ขณะเดียวกันสีหน้าที่บูดบึ้งมืดทะมึนก็ค่อยๆ คลายลงด้วย
“โอ้!”
และเมื่อเขาหลีกทางให้ เด็กตระกูลเนี่ยซึ่งอดทนไม่ไหวอยู่นานแล้ว ในที่สุดก็กล้าเฮโลกันเข้าไปแย่งชิงอาวุธวิเศษหกชิ้นที่เหลือซึ่งตัวเองเล็งเอาไว้ั้แ่แรก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้