ยามนี้อวี๋หรูไห่สติกระเจิดกระเจิง ครั้นได้ยินสตรีแซ่อวี๋โจวเอ่ยเช่นนี้จึงตอบกลับว่า “ในเมื่อสกุลเหอส่งนางกลับมา เกรงว่าคงจะมาหาเื่ข้าเสียแล้ว”
สตรีแซ่อวี๋โจวมีความคิดแตกต่างออกไป นางเอ่ยเสียงเบาว่า “อาจไม่เป็เช่นนั้นเ้าค่ะ นางเป็คนเขียนเทียบยาของนายท่านผู้เฒ่าเหอจริงๆ ขอเพียงพวกเราขับไล่นางออกจากจวน เมื่อคนสกุลเหอบุกมายังจวน พวกเราค่อยไปถกเถียงในจวนว่าการ นายท่านเพียงแต่ต้องผลักความผิดทั้งหมดไปให้นางเป็พอเ้าค่ะ”
“คนสกุลเหอจะยอมรามือง่ายดายเช่นนั้นหรือ?” อวี๋หรูไห่เอ่ยด้วยความเป็กังวล
“บางทีสกุลเหออาจส่งเมิ่งอวี๋เจียวกลับมาเพราะอยากให้พวกเราจัดการด้วยตัวเองก็เป็ได้เ้าค่ะ” สตรีแซ่อวี๋โจวคาดการณ์อย่างถ้วนถี่
เมื่อเห็นทั้งสองคนกระซิบกระซาบกันอย่างมีเจตนาร้าย ดวงตาผลซิ่งของอวี๋เจียวเจือแววเย้ยหยัน นางคร้านจะสนใจ หันหลังเดินออกไปจากห้องโถงทันที
อวี๋หรูไห่เรียกนางเอาไว้ เอ่ยด้วยใบหน้าเ็าว่า “เทียบยาของเ้าทำร้ายนายท่านผู้เฒ่าเหอ ตอนนี้สกุลอวี๋ของพวกเราไม่อาจเก็บเ้าเอาไว้ เ้าทำให้ข้าเสื่อมเสียชื่อเสียง ทำให้วิชาหมอสกุลอวี๋ของข้าต้องอับอาย ข้าจะไม่ถือสาเื่เหล่านี้กับเ้า แต่หายนะครั้งใหญ่เช่นเื่ของนายท่านผู้เฒ่าเหอ เ้าจำต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว สกุลอวี๋ของข้าให้เ้าอยู่กิน ไม่เคยทำสิ่งที่ผิดต่อเ้าแม้แต่นิด หากมโนธรรมอันน้อยนิดของเ้ายังไม่สูญสิ้นก็ควรจะแบกรับบาปกรรมนี้”
อวี๋เจียวนึกอยากจะปรบมือให้กับความหน้าด้านไร้ยางอายของอวี๋หรูไห่เหลือเกิน นางเดินไปยังเก้าอี้ด้านข้างและนั่งลงอย่างเอ้อระเหย เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจนักว่า “หากข้าจำไม่ผิด ท่านเป็คนเอาเทียบยาไปใช้กับนายท่านผู้เฒ่าเหอโดยพลการเองไม่ใช่หรือ? เกี่ยวอันใดกับข้าเล่า?”
ครั้นเห็นท่าทางคล้ายนางไม่ฟังวาจาของตนแม้แต่นิด อวี๋หรูไห่โมโหจนหายใจติดขัด เอ่ยวาจาหยิ่งยโสว่า “ข้าใช้เทียบยาของเ้าแล้วอย่างไรเล่า? สรุปคือเทียบยานั้นออกมาจากมือของเ้า ยามนี้ทำร้ายผู้อื่น ย่อมต้องโทษว่าเป็ความผิดของเ้าทั้งหมด”
อวี๋เจียวหรี่ตา เอ่ยพลางชำเลืองมองอวี๋หรูไห่ทางหางตา “บรรดาผู้คนในใต้หล้า หากถกเื่ความไร้ยางอาย ท่านสามารถคว้าอันดับหนึ่งมาครองโดยไม่มีผู้ใดโต้แย้งจริงๆ!”
อวี๋หรูไห่โมโหจนเครากระตุก ริ้วรอยบนใบหน้าชราพับเป็รอยจีบเข้าหากัน เอ่ยด้วยความขุ่นเคืองว่า “นังเด็กชั้นต่ำผู้นี้ หากไม่อยากถูกทุบตีก็รีบไสหัวออกไปให้พ้นจวนสกุลอวี๋ของข้า!”
สตรีแซ่อวี๋โจวรีบคลายโทสะให้อวี๋หรูไห่ นับั้แ่วันนั้นที่สกุลเหอมาก่อเื่ ร่างกายของอวี๋หรูไห่ในหลายวันนี้ไม่สู้ดีเช่นแต่ก่อน ร่างทั้งร่างไร้ชีวิตชีวา แลดูชราลงไปอย่างมาก
นางปรายตามองอวี๋เจียวด้วยสายตาดุดัน ร้องะโไปทางอวี๋ฮั่นซานว่า “เ้าสาม เ้ารีบมาไล่นังเด็กชั้นต่ำผู้นี้ออกไปเร็วเข้า! ตัวหายนะเช่นนี้ เกรงว่าคงจะเป็ดาวหางกลับชาติมาเกิด นับั้แ่นางเข้ามาในจวนสกุลอวี๋ของพวกเรา คนในจวนก็ไม่เคยได้อยู่อย่างสงบสุข อย่าปล่อยให้นางก้าวเข้ามาเหยียบจวนสกุลอวี๋ของพวกเราแม้แต่ครึ่งก้าว!”
อวี๋ฮั่นซานกับสตรีแซ่จ้าวแอบดูความเคลื่อนไหวอยู่ในห้องฝั่งตะวันตกมาโดยตลอด ครั้นสตรีแซ่อวี๋โจวร้องะโเช่นนี้ เขาจึงรีบเดินออกมาทันที หยิบไม้กวาดจากด้านหลังประตูขึ้นมา จากนั้นส่งไปทักทายร่างกายของอวี๋เจียวด้วยความเดือดดาล
อวี๋เจียวขมวดคิ้ว ดวงตาผลซิ่งมีความเ็าวูบผ่าน เ้าสามของสกุลอวี๋ช่างเป็สุนัขกินมูลที่แก้ไม่หาย กล้าลงมือแค่กับสตรี แต่เมื่อพบเจอคนนอกกลับหวาดกลัวจนแข้งขาอ่อน
นางเบี่ยงกายออกห่างจากเก้าอี้เพื่อหลบหลีก คว้าถ้วยชาบนโต๊ะแล้วเขวี้ยงไปทางใบหน้าของอวี๋ฮั่นซาน
อวี๋ฮั่นซานเบี่ยงกายหลบ ครั้นถูกชาร้อนสาดไปทั่วทั้งตัวจึงยิ่งโมโหขึ้นไปอีก
สตรีแซ่อวี๋โจวเดินเข้าไปจับอวี๋เจียว แม้ว่านางจะอายุมากแล้ว แต่ยังคงมีเรี่ยวแรงดุดันเช่นเดียวกับนิสัยใจคอ
ภายในห้องไก่บินเตลิดสุนัขวิ่งพล่าน ในขณะที่อวี๋เจียวถูกสตรีแซ่อวี๋โจวจับตัวเอาไว้และอวี๋ฮั่นซานกำลังจะเงื้อไม้กวาดฟาดลงบนกายของอวี๋เจียว เงาของคนผู้หนึ่งพลันสาวเท้าเข้ามาจากหน้าประตูห้องโถงอย่างรวดเร็ว พุ่งปราดมาอยู่ตรงหน้าของอวี๋เจียว จากนั้นยกมือขึ้นคว้าไม้กวาดในมือของอวี๋ฮั่นซาน ขวางไม้กวาดให้อวี๋เจียว
อวี๋เจียวเงยหน้าขึ้น นางจ้องมองแผ่นหลังของอวี๋ฉี่เจ๋อ ถึงแม้จะบอบบาง แต่สำหรับนางแล้ว ยามนี้แผ่นหลังนี้กลับกว้างใหญ่กว่ายามปกติ อวี๋เจียวพลันรู้สึกน้ำตารื้นจมูก นางนึกถึงศิษย์พี่ที่คอยคุ้มกันอยู่ตรงหน้านางยามเกิดข้อพิพาทระหว่างรักษา
“เ้าห้า หลีกไป!” อวี๋ฮั่นซานแย่งไม้กวาดที่อวี๋ฉี่เจ๋อคว้าไว้อย่างไม่เกรงใจ
อวี๋เมิ่งซานที่เดินลากขาเทียมและสตรีแซ่ซ่งต่างเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน “ท่านแม่ พวกท่านทำอะไรกัน? เหตุใดถึงทุบตีแม่หนูเมิ่งเล่าเ้าคะ?”
อวี๋เมิ่งซานเดินกะเผลกไปข้างหน้าและคว้าไม้กวาดมาจากมือของอวี๋ฮั่นซาน เอ่ยด้วยความไม่พอใจว่า “น้องสาม แม่หนูเมิ่งเป็คนในครอบครัวรองของข้า หากนางทำอะไรผิด ในฐานะที่เ้าเป็ผู้าุโก็ควรจะชี้แนะอย่างพอประมาณ เหตุใดถึงลงไม้ลงมือทุบตีอีกเล่า?”
อวี๋ฮั่นซานนึกไม่ถึงว่าอวี๋เมิ่งซานที่ขาเป๋จะมีเรี่ยวแรงมากเพียงนี้ เขาเอ่ยอย่างโกรธเคืองว่า “พี่รอง นังเด็กชั้นต่ำผู้นี้เป็ตัวหายนะ เกิดมาเพื่อทำลายสกุลอวี๋ของพวกเราโดยเฉพาะ! ท่านยุ่งเื่ไม่เข้าเื่ให้น้อยลงสักหน่อย ท่านพ่อกับท่านแม่บอกแล้วว่าให้ขับไล่ทุบตีนางออกจากจวน!"
ตอนนี้สตรีแซ่ซ่งใจกล้ามากขึ้นกว่าเดิม นางเดินไปข้างหน้าแล้วแกะมือชราของสตรีแซ่อวี๋โจวที่กำลังจับข้อมือของอวี๋เจียวออก แล้วดึงอวี๋เจียวไปไว้ด้านหลังตนเอง “ท่านพ่อท่านแม่ แม่หนูเมิ่งเพิ่งกลับมา นี่พวกท่านจะทำอะไรกัน?”
ครั้นเห็นสตรีแซ่ซ่งกล้าพูดจาหาเื่กับตน สตรีแซ่อวี๋โจวพลันผลักนางอย่างแรง “ในจวนแห่งนี้เ้ามีสิทธิ์พูดงั้นหรือ? หลีกไป พวกเ้าปกป้องคนชั่วร้ายผู้นี้ จะยั่วโมโหให้บิดาของเ้าโกรธเจียนตายใช่หรือไม่? เทียบยาของนางทำร้ายนายท่านผู้เฒ่าเหอ จะยังปล่อยให้นางอยู่ในสกุลอวี๋ของพวกเราต่อไปได้อย่างไร?”
อวี๋เจียวรีบพยุงสตรีแซ่ซ่ง ดวงหน้าเรียวเล็กงดงามของนางเต็มไปด้วยความเ็า เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า "ข้าไม่ไป พวกท่านไม่ต้องเปลืองแรงแล้ว คิดอยากจะปัดความรับผิดชอบเื่สกุลเหอหรือ ฝันไปเถิด”
หลังอวี๋หรูไห่ได้ฟัง เขายิ่งมั่นใจว่าที่อวี๋เจียวกลับมาจากจวนสกุลเหออย่างปลอดภัยจะต้องเป็เพราะนางใส่ร้ายตนต่อหน้านายท่านเหอเป็แน่ เขาเปล่งวาจาบริภาษด้วยความโมโหว่า “นังเด็กชั้นต่ำสมควรตาย เ้าไปพูดจาใส่ร้ายข้าต่อหน้านายท่านเหอใช่หรือไม่? ดูสิว่าข้าจะตีเ้าให้ตายหรือไม่!”
ด้านข้างไม่มีอะไรเหมาะมือ อวี๋หรูไห่พลันคว้าเก้าอี้ไม้ หมายจะทุบลงบนหัวของอวี๋เจียว
อวี๋ฉี่เจ๋อรีบดึงอวี๋เจียวไปข้างหลังอย่างว่องไว เขากับอวี๋เมิ่งซานเอื้อมมือออกไปแย่งเก้าอี้ในเวลาเดียวกัน เมื่อครู่อวี๋หรูไห่เพียงอาศัยเรี่ยวแรงจากความโกรธ เดิมทีมือของเขามีเรี่ยวแรงไม่มากนักจึงถูกอวี๋เมิ่งซานแย่งเอาเก้าอี้ไปได้อย่างง่ายดาย มิหนำซ้ำยังซวนเซจนเกือบล้มลงกับพื้นเพราะแรงของอวี๋เมิ่งซาน
อวี๋หรูไห่สั่นเทาไปทั้งตัว เขาหอบหายใจอย่างหนักหน่วง กล่าวด้วยความโกรธว่า "เ้ารอง พวกเ้าต่อต้านข้าหรือ? ต่อต้านแล้ว ต่อต้านกันเสียแล้ว! พวกเ้ายังเห็นบิดาผู้นี้อยู่ในสายตาหรือไม่?”
อวี๋เมิ่งซานเผยสีหน้าจนใจ เขาโยนเก้าอี้ในมือให้ออกห่างในระยะที่อวี๋หรูไห่คว้าไม่ถึงแล้วเอ่ยว่า "ท่านพ่อ พวกเราเป็คนในครอบครัวเดียวกัน มีอะไรก็พูดกันดีๆ ไม่ได้หรือขอรับ? เหตุใดต้องลงมือกับแม่หนูอวี๋เจียวด้วย?”
สองสามีภรรยาครอบครัวใหญ่มายังห้องโถงเช่นกัน ครั้นเห็นในห้องเละเทะต่างไม่กล้าเอ่ยสิ่งใด ทำได้เพียงยืนโง่งมอยู่ที่มุมห้อง
"ได้ ข้าไม่ลงมือ เ้ารอง เ้าไล่ตัวหายนะอย่างนางออกไปจากจวนเดี๋ยวนี้!" อวี๋หรูไห่ใบหน้าดำทะมึน เอ่ยพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ทันใดนั้นเสมหะพลันอุดตันในลำคอจนทำให้เขาแทบหายใจไม่ออก
สตรีแซ่อวี๋โจวเห็นเช่นนั้นพลันใเสียแล้ว นางรีบใช้มือลูบหน้าอกให้เขา ยังไม่ลืมเงยหน้าปรายตามองอวี๋เจียวอย่างเชือดเฉือน เอ่ยขึ้นว่า “หากพวกเ้าไม่อยากให้ท่านพ่อของพวกเ้าเป็อะไรไปก็รีบไล่นางออกไป ถ้านางอยู่ที่นี่อีกหนึ่งเค่อ ไม่แน่ว่าคนสกุลเหอเ่าั้อาจจะบุกเข้ามาจับตัวบิดาของพวกเ้าถึงในจวน! ท่านพ่อของเ้าอายุมากแล้ว หากยังประสบเหตุการณ์ตื่นตระหนกอีกครั้ง ร่างกายคงจะรับไม่ไหว เ้ารอง หากคนครอบครัวรองของเ้าปกป้องนางก็เท่ากับอกตัญญูต่อบิดาของเ้า!”
