“ิอวี่ ... ทำไมเ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”
ในเวลานี้เอง ในหูของิอวี่ก็มีเสียงใสๆ เสียงหนึ่งดังขึ้น
เพราะเฮยจีรับรู้ได้ว่าิอวี่อยู่แถวนี้ก็เลยหันมามอง นางไม่ได้พูด แต่ใช้พลังจิตส่งเสียงให้กับเขา
“แล้วทำไมข้าจะมาไม่ได้?” ิอวี่จ้องไปทางเฮยจี ดูไม่ได้อ่อนข้อให้เลย
“เ้าดูเป็ห่วงข้าจังเลยนะ”
เฮยจีกะพริบตาให้กับิอวี่ สายตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ข้าจะบอกอะไรให้ วันนี้ข้าออกมาเที่ยวกับท่านพี่ฉินฟ่านสนุกมากเลยนะ เขาเป็คนดีมาก อ่อนโยน นิสัยอย่างอื่นก็ดี มีความหวานด้วย เ้าดูสิ เขายังซื้อกำไลข้อมือที่สวยมากขนาดนี้ให้ข้าด้วยนะ”
ระหว่างที่พูดนางก็ยกแขนแกว่งให้ิอวี่ดู ท่าทางดูมีความสุขอย่างมาก
ิอวี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ “เ้ามีความสุขก็ดีแล้วนี่”
เฮยจีเบะปากใส่ิอวี่ ดูได้ใจมาก
“แม่นางเยวี่ยเย่ เ้ามองอะไรอยู่หรือ?”
ในเวลานี้เองฉินฟ่านก็หันมามองเฮยจี แล้วมองตามสายตาของนางไป บังเอิญเห็นิอวี่ที่นั่งอยู่ที่มุมหนึ่งแล้วอึ้งไปพักหนึ่ง เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมาเจอิอวี่ที่นี่
ก่อนหน้านี้ตอนที่เดินเที่ยวอยู่กับเฮยจี เขาสนใจแค่เฮยจีแค่คนเดียว ความงามของนางมันดึงดูดเขาเอาไว้ทั้งหมด ทำให้เขาตัดขาดจากโลกภายนอก ดังนั้น ต่อให้แรงรับรู้ของเขาแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่รู้เลยว่าิอวี่อยู่ด้วย
แต่ตอนนี้เพราะเขาสนใจสิ่งที่เฮยจีกำลังเอียงหัวไปมอง เขาถึงได้มองเห็นิอวี่
พูดตามตรงเลย ฉินฟ่านคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าิอวี่จะมาอยู่ที่นี่
แล้วการที่ิอวี่มาคอยแอบดูเื่ส่วนตัวของเขาแบบนี้ มันยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่ชอบใจ เขาเป็เป็ถึงศิษย์พี่ใหญ่ เวลาจะทำอะไร มีใครบ้างที่กล้าติดตามเขาแบบนี้กัน แล้วคนที่ตามเขาอยู่ในเวลานี้ยังเป็ิอวี่อีก
มันเลยทำให้ฉินฟ่านรู้สึกว่าในฐานะที่เขาเป็ศิษย์พี่ใหญ่ ดูเหมือนไม่มีอำนาจน่าเกรงขามอะไรเลย แม้แต่เด็กที่เพิ่งจะเข้าสำนักมายังกล้ามาแอบสอดส่องเื่ส่วนตัวของเขาโดยไม่ยำเกรงอะไรเลยแบบนี้
มันเลยทำให้ฉินฟ่านยิ่งไม่สบอารมณ์เข้าไปใหญ่
แต่เขาจะไม่แสดงมันออกมา เพราะยังมีแม่นางเยวี่ยเย่อยู่ด้วย เขาจะต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้นางประทับใจ
ิอวี่กลับรู้สึกหมดคำพูด เดิมเขาคิดจะมาสำรวจนิดหน่อยเท่านั้น คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกจับได้เร็วขนาดนี้ ในเมื่อซ่อนตัวไม่ได้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ไม่จำเป็ต้องหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไป
เขาจึงลุกจากโต๊ะที่นั่งก่อนจะยิ้มแล้วเดินไปทางโต๊ะที่ฉินฟ่านกับเฮยจียืนอยู่ จากนั้นก็พูดว่า “บังเอิญจังเลยนะศิษย์พี่ คิดไม่ถึงเลยว่าคืนนี้มาเล่นสนุกที่นี่จะได้เจอศิษย์พี่แล้วก็แม่นางคนสวยคนนี้”
“บังเอิญจริงๆ นั่นแหละ คิดว่าศิษย์น้องิน่าจะสนใจการพนันพอสมควรเลยนะ” ฉินฟ่านยิ้มให้กับิอวี่
ิอวี่ยกมือคำนับ “ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ข้าเห็นท่านทั้งสองกำลังสนุก ข้าก็ไม่รบกวนพวกท่านล่ะนะ ข้าไปเล่นอย่างอื่นดีกว่า”
ในเมื่อถูกจับได้แล้ว ิอวี่จะตามต่อไปอีกไม่ได้ เลยคิดว่าจะไปนั่งพักที่ร้านเหล้าที่อยู่ไม่ไกลจากบ่อน แล้วตั้งจิตสมาธิไว้กับเฮยจี ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับนางเขาก็จะรีบบุกเข้าไปทันที
ถึงแม้เฮยจีจะบอกว่านางสามารถสลายร่างิญญากลับเข้าหยกโบราณได้ทันที แต่ิอวี่ก็ยังไม่วางใจ ถ้าวันนี้เฮยจียังไม่กลับโรงเตี๊ยมเทียนเล่อ เขาไม่มีทางไปไหนได้ไกล
“ช้าก่อน”
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าฉินฟ่านกลับรั้งเขาเอาไว้ “ไหนๆ เราศิษย์พี่น้องจะมีเวลาว่างออกมาเดินเที่ยว ในเมื่อเ้าก็อยู่นี่ เรามาเล่นด้วยกันหน่อยไหมล่ะ เล่นให้สะใจก่อนแล้วค่อยกลับก็ได้นี่นา”
“หือ?”
ิอวี่ยิ้ม เดิมเขาอยากจะไปแล้ว แต่ฉินฟ่านกลับบอกให้เขาอยู่ก่อน ถ้าอย่างนั้นก็ดี สามารถอยู่คอยจับตาดูเฮยจีใกล้ๆ ดูสิว่าฉินฟ่านจะทำอะไรที่มากเกินงามกับนางหรือเปล่า
ฉินฟ่านหันกลับไปพูดกับเฮยจีด้วยความอ่อนโยนว่า “แม่นางเยวี่ยเย่ เ้าไม่ติดอะไรใช่ไหมถ้าข้าจะเล่นกับศิษย์น้องของข้าน่ะ?”
เฮยจีส่ายหน้าแสดงออกว่านางไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ในใจนางกลับไม่ได้อยากเห็นหน้าเ้าบ้าที่ทำให้นางโมโหนี่เท่าไร
“ในเมื่อแม่นางเยวี่ยเย่ไม่ติดอะไร ถ้าอย่างนั้นเราก็มาเล่นกันเถอะ”
ิอวี่มองไปที่เฮยจีแล้วพูดเหมือนมีเลศนัย
“เชิญ”
ฉินฟ่านยื่นมือออกไป จากนั้นก็นำเหรียญเดิมพันมาวางไว้ตรงหน้าแล้วเรียกิอวี่มาเล่น
บนโต๊ะสี่เหลี่ยมตัวยาวนี้ เมื่อรวมิอวี่ ฉินฟ่าน แล้วก็เฮยจีด้วยแล้วก็มีทั้งหมดสิบสองคน บนโต๊ะเป็การเล่นไพ่แบบสิบสองคน แต่ละรอบจะมีผู้ชนะคนสุดท้ายคนเดียวที่จะได้เงินไป พูดได้เลยว่า มันเป็การเล่นที่ได้กำไรงามทีเดียว
การเล่นไพ่ประเภทนี้ยังมีอีกมากมาย เล่นกันหลายขา แล้วอาศัยทักษะเอาชนะ
ถึงแม้ฉินฟ่านจะไม่ได้เก่งเื่การเดิมพันเท่าไร แต่ก็พอมีความรู้บ้าง อีกทั้งยังเป็ผู้ฝึกยุทธ์ มีความฉลาด หลายคนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย
ในเมื่อิอวี่กล้าจะตามมาดูเขากับผู้หญิงของเขา ไม่เห็นศิษย์พี่ใหญ่อย่างเขาอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะสั่งสอนเ้าหนูที่ไม่รู้จักเจียมตัวคนนี้สักหน่อย ให้เขาเสียเงินมากๆ จะได้คิดได้
ถึงแม้ปกติฉินฟ่านจะเป็คนทำอะไรเรียบง่าย แต่หลังจากที่ได้เจอแม่นางเยวี่ยเย่แล้ว หัวใจที่ไม่เคยหวั่นไหวเลยก็เกิดอาการพองโต
เดิมทีที่เขาพาแม่นางเยวี่ยเย่มาที่บ่อนก็เพื่อแสดงความฉลาดให้นางได้เห็น การเอาเ้าิอวี่เข้ามาร่วมวงด้วย ถือว่าได้ประโยชน์สองอย่าง
ไม่นาน ิอวี่กับฉินฟ่านก็เริ่มเดิมพัน
เริ่มแรกนั้น ิอวี่ไม่รู้อะไรเลยแม้แต่กฎการเล่น เพราะในความทรงจำของเขาเหมือนจะไม่มีของอะไรพวกนี้อยู่เลย สามสิบเหรียญของเขานั้นหมดลงภายในพริบตา
“สามสิบเหรียญ? มันไม่เหมือนวิถีของศิษย์น้องิเลยนะ” ฉินฟ่านยิ้มแล้วตบไปที่ไหล่ของิอวี่
ิอวี่ยักไหล่ “เมื่อครู่ก็แค่ซ้อม หลังจากนี้ข้าจะเอาจริงแล้ว”
พูดจบ ิอวี่ก็เรียกพนักงานมาแล้วแลกไปอีกหนึ่งร้อยเหรียญ แต่หลังจากเล่นไปอีกหลายรอบ ิอวี่ก็แพ้หมดไปอีกหนึ่งร้อยเหรียญ
เห็นตรงหน้าของิอวี่โล่งแล้ว ฉินฟ่านก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ศิษย์น้อง เลิกเล่นเถอะ เ้าบอกว่าเพิ่งเริ่ม แต่เล่นแพ้หมดแบบนี้ ข้าว่าเ้าอย่าเล่นอีกเลยนะ บางครั้งล้มแล้วก็ต้องรู้จักปล่อยวาง ไม่อย่างนั้นอาจจะเจ็บหนักก็ได้”
ระหว่างที่พูด ฉินฟ่านก็มองไปที่เหรียญกองพะเนินที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะหันไปมองเฮยจี แล้วก็ยิ้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
ิอวี่นิ่งมาก เขาไม่ได้ดูเสียใจหัวเสียเพราะแพ้ไปอีกหนึ่งร้อยเหรียญเลย แต่พูดว่า “ในเมื่อแพ้แล้วล้มลง ก็ควรจะลุกขึ้นมาจากตรงนั้น แล้วสรุปประสบการณ์ที่ได้เพื่อเดินหน้าต่อไป”
“หือ?”
เดิมทีฉินฟ่านคิดว่าหากิอวี่คิดได้แล้วยอมถอยเขาก็จะจบแค่นี้ แต่เห็นิอวี่ยังไม่ยอมเขาก็เริ่มไม่สบอารมณ์ เขาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ไม่คิดจะฟังความเห็นของศิษย์พี่หน่อยหรือ?”
“ในเมื่อเล่นเอาสนุก มีความสุขก็พอแล้วนี่นา”
ิอวี่ยกมือเรียกพนักงานแล้วพูดว่า “เพิ่มอีกสามร้อยเหรียญ”
“เหอะๆ ”
เห็นิอวี่หัวรั้นอย่างมาก ฉินฟ่านก็ส่ายหน้า
ในเมื่อเ้าอยากจะแพ้หมดตัว ข้าก็จะเล่นเป็เพื่อนเ้าเอง
ไม่นานนัก เหรียญอีกกองหนึ่งก็ถูกยกมาตั้งตรงหน้าของิอวี่ ก่อนหน้านี้ที่เขาแพ้นั้นหมดไปประมาณครึ่งชั่วยามก็จริง แต่เขาก็เริ่มคุ้นเคยกับการเล่นมากขึ้นแล้ว ลูกล่อลูกชน วิธีการตุกติกอะไรหลายอย่างเขานั้นเริ่มรู้แล้ว
การเรียนรู้อะไรหลายอย่างแบบนี้ิอวี่มีพร์ที่ใครหลายคนยากจะเทียบได้ แค่การเล่นไพ่แค่นี้เอง ต่อให้ยากกว่านี้อีกหลายระดับมันก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของเขาหรอก
ิอวี่เริ่มจริงจังขึ้นมาแล้ว เขาเริ่มคิดทบทวนอย่างละเอียด
เริ่มแรก จากสามร้อยเหรียญแพ้จนหมดไปเกือบครึ่งอย่างเร็วมาก ผ่านไปครึ่งชั่วยาม ในมือของิอวี่ก็เหลือแค่หนึ่งร้อยเหรียญแล้ว
ฉินฟ่านส่ายหน้า เขามองไปที่ิอวี่อย่างสนใจ เขาอยากรู้จริงๆ เลยว่าคนที่ล้มลงมาจากท้องฟ้าตกไปอยู่ในหุบเขาลึก จะปีนขึ้นมาอย่างสง่างามได้อย่างไร
ผ่านไปอีกหลายรอบ ในที่สุดก็เอาชนะแต่ละคนมาได้อย่างเฉียดฉิว และไพ่ใบสุดท้ายก็ทำให้เขาเป็ผู้ชนะคนสุดท้ายได้
ชนะแล้วหนึ่งรอบ?
ิอวี่เล่นจบไปแล้วประมาณหนึ่งชั่วยาม ในที่สุดก็ชนะได้หนึ่งรอบ
“นี่เป็รอบแรก” ิอวี่มั่นใจมาก คู่ต่อสู้อย่างฉินฟ่านยื่นมือ “เชิญ” ให้
ฉินฟ่านถอนหายใจแล้วพูดว่า “ศิษย์น้อง อย่าเพิ่งได้ใจไป ระวังจะแพ้หมดรูปนะ”
จากนั้นรอบต่อไปก็เริ่มต้นขึ้น ิอวี่แพ้ไปอีกสองรอบจริงๆ แต่ว่าในรอบที่สามเขาก็ชนะอีก และไม่หยุดแค่นั้น ิอวี่ชนะอย่างต่อเนื่องั้แ่นั้นเป็ต้นมา เล่นงานจนคู่ต่อสู้ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ทั้งคิดทั้งวิเคราะห์อย่างละเอียด เขาใช้ความฉลาดเอาชนะได้ทั้งหมด
เดิมทีฉินฟ่านนั้นอารมณ์ดีมาก ชนะแต่ละครั้งก็จะเหลือบไปดูปฏิกิริยาของเฮยจี เห็นเฮยจียิ้มอยู่ตลอดก็ทำให้เขารู้สึกดีมาก
แต่หลังจากที่ิอวี่เอาชนะได้อย่างต่อเนื่องอารมณ์ของเขาก็เริ่มเปลี่ยน จนสุดท้ายเขาก็เริ่มหัวเสีย
เล่นไปเล่นมาเขาก็เริ่มมีอารมณ์ฉุนเฉียว
ความรู้สึกไม่อยากยอมแพ้มันแผ่กระจายเต็มหัวของฉินฟ่านไปหมด เขาอยากเอาชนะิอวี่ให้ได้ แต่ก็พบว่าเขาสู้ิอวี่ไม่ได้จริงๆ
ผู้เล่นรอบตัวิอวี่ต่างยอมรับในฝีมือการเล่นไพ่ของเขาอย่างมาก ออกไปกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า แต่คนที่ยังไม่เปลี่ยนไปเลยนั้นคือิอวี่กับฉินฟ่าน
คนอื่นแพ้ไปสองสามรอบก็หยุดแล้ว แต่ฉินฟ่านกลับแพ้อยู่อย่างนั้นตลอดไม่ยอมหยุด
จนกระทั่งตรงหน้าของิอวี่มีเหรียญกองอยู่ถึงห้าร้อยกว่าเหรียญ หักลบกับที่แพ้ไปก่อนหน้านี้สามร้อยเหรียญ ตอนนี้เขาได้กำไรกลับมาสองร้อยเหรียญ
“ศิษย์พี่ พอเถอะ วันนี้ท่านดวงไม่ค่อยดี ไว้เราค่อยมาเล่นกันใหม่เถอะนะ”
ิอวี่เห็นสีหน้าของฉินฟ่านนั้นแข็งทื่อแล้ว เขาคิดว่าเ้าบ้านี่แพ้หมดสภาพขนาดนี้แล้ว น่าจะไม่มีอารมณ์ไปคิดอะไรไม่ดีกับเฮยจีแล้ว ถ้าเช่นนั้นเขาก็วางใจไปเยอะ ถ้าเล่นอีกก็ไม่สนุกแล้ว เพราะเงินเดิมพันมันน้อย เล่นไปิอวี่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร
“จะให้จบแบบนี้ไม่ได้”
ฉินฟ่านดึงมือของิอวี่เอาไว้ ไม่ยอมให้ออกไป เขาพูดว่า “ศิษย์น้องบอกเองไม่ใช่หรือ ถ้าล้มตรงไหนก็ให้ลุกขึ้นมาจากตรงนั้น แต่ว่าข้าเบื่ออันนี้แล้ว เราไปเล่นอย่างอื่นกันไหม เล่นอะไรที่สู้กันสองคน”
“ก็ได้”
หลังจากนั้น าในบ่อนก็เปิดฉากขึ้น!
ในบ่อนมีเกมพนันที่เล่นสู้กันสองคนเยอะมาก เช่น ไพ่เก้าเก หมากล้อม หมากรุก เป็ต้น ...
ซึ่งมันเป็อะไรที่ิอวี่คุ้นเคยอย่างมาก แค่เล่นให้คุ้นนิดหน่อย เขาก็สามารถเอาจริงได้แล้ว
เล่นไพ่เก้าเก ฉินฟ่านแพ้ เล่นหมากล้อม ก็แพ้
สุดท้ายเขาก็ไปเล่นหมากรุก เริ่มแรกเขายังยื้อได้ประมาณสิบห้านาที แต่หลังจากนั้นห้าหกนาทีก็ถูกิอวี่เล่นงานจนหมดสภาพ ไม่มีโอกาสได้โต้ด้วยเลย
ฉินฟ่านอารมณ์เสียสุดๆ เขาแพ้จนหูแดง อารมณ์บูดมาก ตอนนี้เขาเสียให้ิอวี่ไปเกือบสองพันเหรียญแล้ว
ฉินฟ่านแทบกระอักเื!
ถึงแม้ฉินฟ่านจะมีพลังสามารถกดดันิอวี่ได้ แต่ในด้านความฉลาด เหมือนว่าเขาจะแพ้ราบคาบ ...
“วันนี้ข้าไม่ค่อยมีสมาธิ ไม่เล่นอันนี้แล้ว”
ฉินฟ่านพยายามปลอบใจตัวเอง เขาปัดกระดานหมากออก แล้วมองไปที่ิอวี่แล้วพูดว่า “ศิษย์น้อง เดิมพันอะไรเล็กๆ แค่นี้มันไม่สนุกหรอก เรามาเล่นอะไรที่เด็ดขาดกว่านี้หน่อย เล่นรอบเดียวจบดีไหม?”
“อย่างไรหรือ?” ิอวี่ไม่ค่อยเข้าใจ
“เล่นเกมยึกยักเด็กๆ แบบนี้ เล่นไปก็ได้เงินมานิดเดียว ไม่สู้เราเล่นอะไรที่ใหญ่หน่อย เอาอย่างนี้ เรามาเล่นทอยลูกเต๋ากัน แทงสูงต่ำ เดิมพันตามจำนวนเงินที่เรียก ไม่มีกำหนดจำนวน หากไม่กล้าเปิดก็ต้องเสียเดิมพัน แบบนี้น่าจะสะใจกว่านะ”
ฉินฟ่านเองก็ถูกบีบ วันนี้เขาไม่อยากเสียหน้าต่อหน้าแม่นางเยวี่ยเย่เป็ที่สุด แล้วจะไม่กู้หน้าตัวเองกลับมาได้อย่างไรกัน!
เขายอมรับว่าความคิดของิอวี่นั้นจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด แต่เขาก็มั่นใจว่าตัวเองจะปกปิดอารมณ์ความรู้สึกได้ดี ในเื่นี้ิอวี่ไม่น่าจะสู้เขาได้แน่นอน
