เหนียนยวี่ใเล็กน้อย
ไม่้า?
“หรือ...เ้ารังเกียจข้า...”
ฉู่ชิงเอ่ยอีกครั้ง ในน้ำเสียงนั้นฟังดูราวกับเจือความผิดหวังเล็กน้อย
"ไม่ ไม่ ไม่"
เมื่อได้ยินคำว่ารังเกียจสองคำนี้ เหนียนยวี่แทบจะโพล่งออกไปโดยไม่รู้ตัว "เหตุใดเหนียนยวี่จะต้องรังเกียจท่านแม่ทัพหลวงด้วยเล่า?"
เขามียศสูงศักดิ์และอำนาจมากมาย ฐานะสูงส่ง แม้แต่โอรสของฮ่องเต้ล้วนยังเกรงกลัวเขา ทั้งยังใบหน้าภายใต้หน้ากากนั่น...
นางได้เห็นใบหน้างดงามเหนือผู้ใดนั่นด้วยตาของนางเอง หากใบหน้างดงามหล่อเหล่าเช่นนั้นเปิดเผยสู่ผู้คนในใต้หล้านี้ คนที่อยากแต่งงานกับเขาจะไม่มาเบียดกันเข้าประตูจวนแม่ทัพเอกได้หรือ?
ในโลกหล้านี้ ผู้ใดจะกล้ารังเกียจ ‘ฉู่ชิง’?
ทว่า...
ทันทีที่คำพูดของเหนียนยวี่หลุดออกไป รอยยิ้มพลันปรากฏขึ้นที่มุมปากของฉู่ชิง “ใช่หรือไม่? ในเมื่อไม่รังเกียจ เช่นนั้นเื่นี้ก็เอาเช่นนี้แล้วกัน”
เอาเช่นนี้แล้วกันหรือ?
“ช้าก่อน...” เหนียนยวี่สบตาของฉู่ชิง มองเห็นรอยยิ้มที่เจือแววหยอกเย้าเล็กน้อย ซึ่งสื่อออกมาจากใต้หน้ากากได้อย่างชัดเจน
“ท่านแม่ทัพหลวงกำลังหยอกเหนียนยวี่เล่นหรือ?”
ฉู่ชิงเลิกคิ้ว ทว่าเพียงพริบตาเดียว ลึกๆ ในดวงตาคู่นั้น พลันฉายแววแน่วแน่ "ข้าจริงจัง"
เมื่อไม่นานมานี้ เขาออกไปทำภารกิจต่างเมือง หลังจากกลับมาจึงได้รู้ว่า ฮองเฮาอวี่เหวินเห็นด้วยกับการแต่งงานของจ้าวอี้และเหนียนยวี่
แต่เขาจำได้อย่างชัดเจน งานเลี้ยงฉีเฉี่ยวในสวนวันนั้น เหนียนยวี่พูดกับองค์หญิงใหญ่ชิงเหอออกมาจากปากตนเองว่า นางไม่้าแต่งงานกับคนในราชวงศ์!
จนกระทั่งเมื่อวานนี้ องค์หญิงใหญ่ชิงเหอมาที่จวนแม่ทัพเอก เอ่ยเื่การแต่งงานของเหนียนยวี่ เขาจึงสังเกตเห็นว่า บางทีคำพูดว่าเห็นด้วยของฮองเฮาอวี่เหวิน อาจไม่ใช่การเห็นด้วยที่แท้จริง และเหนียนยวี่...
ฉู่ชิงจ้องมองเหนียนยวี่ หากให้ครุ่นคิด เกรงว่าฮองเฮาอวี่เหวินคงจะ้าโยนปัญหาไปให้เหนียนยวี่!
นางจะแก้ปัญหานี้อย่างไร?
ฉู่ชิงเป็คนฉลาด ฮองเฮาอวี่เหวิน้าให้เหนียนยวี่ทำลายความคิดของจ้าวอี้ด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงมีวิธีเดียวคือ ปฏิเสธการแต่งงาน
การจะแต่งงานก็ต้องมีบุรุษด้วยมิใช่หรือ?
และบุรุษผู้นั้น...
คำว่า ‘จริงจัง’ ประโยคนั้น เหนียนยวี่ฟังไม่ผิด แต่ทว่า...
“ท่านแม่ทัพหลวง เื่การแต่งงานเป็เื่ใหญ่ ท่านจะตัดสินใจเร็วไม่ได้เด็ดขาด” เหนียนยวี่เลิกคิ้ว พลางสูดหายใจเข้าลึกๆ ในชาติก่อน นางก็ยังปรารถนาการแต่งงานที่มาจากความรัก แม้นสุดท้ายจะจบลงอย่างน่าเวทนา ทว่าอย่างไรเสีย การแต่งงานสำหรับนางยังคงเป็เื่ศักดิ์สิทธิ์
หากทั้งสองฝ่ายไม่มีความรักซึ่งกันและกัน การแต่งงานจะมีความหมายอะไร?
“เ้าอยากแต่งเข้าราชวงศ์ถึงเพียงนั้น? หรืออยากจะเป็ภรรยาของชายเฒ่าขายเนื้อของเฉิงตง?” ั์ตาของฉู่ชิงพลันดำมืดขึ้นเล็กน้อย
เหนียนยวี่ใ
"ไม่!"
ไม่ว่าจะเป็ราชวงศ์ หรือเป็ภรรยาของชายเฒ่าขายเนื้อ นางล้วนไม่อยากแต่งด้วยทั้งนั้น!
ทันใดนั้น เหนียนยวี่พลันเข้าใจสถานการณ์ในยามนี้ ฮองเฮาอวี่เหวินกดดันนาง หนานกงเยวี่ยเองก็กำลังวางแผนบางอย่างกับนาง การแต่งงานของนาง สำหรับหนานกงเยวี่ยแล้วเป็ที่จับจ้องประหนึ่งดุจเสือกำลังเฝ้าเหยื่อ หากหนานกงเยวี่ยจะเริ่มทำอะไร...
เหนียนยวี่จ้องมองบุรุษตรงหน้า สีหน้านางก็ยิ่งเคร่งขรึมขึ้นเรื่อยๆ
ชั่วขณะหนึ่ง ทั้งสองต่างเงียบนิ่งไม่พูดจา และความเงียบอันแปลกประหลาดนั้นไหลเวียนไปทั่วศาลา
ทันใดนั้น สายลมเย็นพัดพาเส้นผมของเหนียนยวี่ให้ปลิวไหว
แทบไม่รู้ตัว ฉู่ชิงก้าวไปข้างหน้า ยกมือจัดผมยุ่งๆ ของนางให้เรียบร้อย
ัันี้ทำให้เหนียนยวี่ตกตะลึงไปชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นเสียงหนาทุ้มของฉู่ชิงค่อยๆ ดังขึ้นที่ข้างหู...
"ตอนนี้เ้า้าสามี และข้า...ก็้าภรรยา ข้ามีข้อตกลง ยวี่เอ๋อร์ลองพิจารณาดูหน่อยเถิด"
ยามที่ฉู่ชิงกล่าว สายลมยังคงพัดผ่าน มือของฉู่ชิงที่จับเส้นผมสีดำนุ่มสลวยของเหนียนยวี่ยังคงไม่ไปไหน การเคลื่อนไหวนั้นอ่อนโยนและนุ่มนวล ราวกับว่าสิ่งที่อยู่ในมือของเขาเป็สมบัติที่เขาหวงแหน
เหนียนยวี่ฟังฉู่ชิงพูดต่อไป จึงไม่ได้สนใจการเคลื่อนไหวของเขา ทว่าภาพนี้กลับอยู่ในสายตาของคนผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ไกล มือที่กำลังถือผ้าเช็ดหน้าของคนผู้นั้นพลันสั่นไหวอย่างหยุดไม่ได้
หลังจากที่จ้าวอิ้งเสวี่ยออกไปจากศาลาแล้ว นางยังคงคิดถึงถ้อยคำที่เหนียนยวี่พูด
ยามที่อยู่ในศาลา เมื่อครู่นี้นางยังรู้สึกไม่เชื่อคำพูดทั้งหมดของเหนียนยวี่ ทว่าระหว่างทาง หลังจากคิดเื่นี้อย่างละเอียดแล้ว นางเชื่อมั่นว่าเื่นี้อาจเป็งิ้วที่จัดฉากและวางแผนโดยสองแม่ลูก หนานกงเยวี่ยและเหนียนเฉิง
ในหลายวันมานี้ เื่เลวร้ายยังคงวนเวียนอยู่ในหัวนาง ในใจนางรู้สึกอับอายและอัปยศอย่างยิ่ง ราวกับว่ามิอาจรอได้แม้นาทีเดียว นาง้ารู้ว่า หลักฐานที่เหนียนยวี่พูดมานั้นจะหามันได้อย่างไร นางอยากยืนยันให้เร็วขึ้นว่า เื่พวกนี้เป็ฝีมือของหนานกงเยวี่ยกับเหนียนเฉิงทั้งหมด หลังจากนั้นนางจะได้ตอบแทนพวกมันอย่างสาสม
แต่นางมิคาดคิดเลยว่า เมื่อหันหลังกลับไปจะได้เห็นเหตุการณ์เช่นนี้
ฉู่ชิง...เขากับเหนียนยวี่...
จ้าวอิ้งเสวี่ยมองบุรุษในชุดคลุมสีดำกำลังลูบผมของเหนียนยวี่อย่างอ่อนโยน
นางเพียงได้ยินมาว่า ท่านแม่ทัพหลวงเป็คนที่เ็าและรักษาระยะห่าง แต่นางไม่รู้เลยว่า เขาจะมีด้านที่อ่อนโยนเช่นกัน
และเหนียนยวี่...
'ข้าเองก็ได้ยินชุ่ยเอ๋อร์พูดว่า หลายวันก่อน ตอนเช้าตรู่ชุ่ยเอ๋อร์ออกไปด้านนอก และบังเอิญเห็นคุณหนูรองกำลังขี่ม้า ข้างๆ ก็มีท่านแม่ทัพหลวงอยู่ด้วย ท่านแม่ทัพหลวงพาคุณหนูรองมาส่งที่หน้าประตูจวนองค์หญิงใหญ่แล้วก็กลับไป'
คำพูดที่อนุสองลู่ซิวหรงเคยเล่าดังวนเวียนอยู่ในหัวของจ้าวอิ้งเสวี่ย หัวใจของนางพลันเต็มไปด้วยคลื่นอารมณ์สาดซัด
แม้ว่ามันจะอยู่ห่างไกล นางก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่ฉู่ชิงมองเหนียนยวี่นั้นต่างไปจากปกติ
“ท่านหญิงเ้าคะ คุณหนูรองคนนั้นช่างมีความคิดเสียจริง คิดถึงขั้นไปเชิญท่านแม่ทัพหลวงมา...”
ผิงเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างเอ่ยถึงเหนียนยวี่อย่างเ็า เพราะการหายตัวไปของจ้าวอิ้งเสวี่ย นางจึงยังคงมีความแค้นต่อเหนียนยวี่ ครั้นนึกถึงหลายวันก่อน ท่านแม่ทัพหลวงจะอยู่ที่หอชิงยวี่ทุกวันเพื่อปกป้องเหนียนยวี่ เมื่อคิดดังนั้นในใจนางก็ยิ่งรู้สึกไม่สบอารมณ์
แต่ทันทีที่นางเอ่ยถึงตรงนี้ จ้าวอิ้งเสวี่ยจึงปรายตามองไปอย่างดุดัน จนในใจของผิงเอ๋อร์รู้สึกตื่นกลัว จึงรีบหยุดปากของตัวเองทันที
ท่านหญิง นาง...
ทันใดนั้น นางก็จำสิ่งที่สังเกตเห็นนอกประตูอันชิ่งในวันนั้นได้ นางพลันถอนสายตาตัวเองกลับมาโดยไม่รู้ตัว
ท่านหญิง นางรู้สึกกับท่านแม่ทัพหลวง...
“ท่านหญิง ลมแรงขึ้นแล้ว พวกเรารีบกลับกันเถิดเ้าค่ะ” ผิงเอ๋อร์เหลือบมองจ้าวอิ้งเสวี่ย ในใจอดไม่ได้ที่จะลอบถอนหายใจ ท่านแม่ทัพหลวงช่วยชีวิตของท่านหญิงไว้ ไม่ว่าท่านหญิงจะรู้สึกอย่างไรกับท่านแม่ทัพหลวง ทว่าทุกสิ่งทุกอย่างก็สายไปแล้วมิใช่หรือ?
ท่านหญิงแต่งงานกับเหนียนเฉิงแล้ว แม้นท่านหญิงจะเกลียดชังเหนียนเฉิงเข้ากระดูกดำ ทว่าทั้งชีวิตนี้ของนางก็เป็ไปไม่ได้ที่จะได้มีความรู้สึกร่วมกันกับท่านแม่ทัพหลวง
ในใจรู้สึกสงสารเ้านายของตนเอง ทว่านางก็ต้องเผชิญกับความเป็จริงนี้
สายตาของจ้าวอิ้งเสวี่ยยังคงจับจ้องชายหนุ่มหญิงสาวคู่นั้นซึ่งอยู่ในศาลา ขาทั้งสองข้างของนางราวกับถูกมือของใครบางคนฉุดลาก ไม่ว่าทำอย่างไรก็มิอาจขยับเขยื้อน
ในศาลา
เพราะคำพูดของฉู่ชิงเมื่อครู่นี้ ชั่วครู่หนึ่งบรรยากาศพลันแปรเปลี่ยนไปอย่างแปลกประหลาด
“ท่านแม่ทัพหลวง เป็ท่านที่พูดผิดหรือ เป็ข้าที่ฟังผิด”
เหนียนยวี่มองบุรุษตรงหน้าอย่างไม่แม้แต่จะปิดบังความประหลาดใจของตนเอง นางจ้องมองเขาเขม็ง ราวกับ้าจะมองทะลุให้เห็นความคิดของเขา
ข้อตกลง? เมื่อครู่เขาพูดว่า นางสามารถทำให้งานแต่งงานครั้งนี้ให้กลายเป็ข้อตกลง!
เอาการแต่งงานมาเป็ข้อตกลง ฉู่ชิงที่นางรู้จัก ไม่น่าจะมีนิสัยเช่นนี้มิใช่หรือ?
“เ้าได้ยินถูกแล้ว และข้าไม่ได้พูดผิด” ฉู่ชิงตอบรับสายตาของเหนียนยวี่ พลางยกมือที่วางอยู่บนเส้นผมของเหนียนยวี่ออก ความรู้สึกที่ไม่มีคอยมือจับเส้นผมแล้ว กลับทำให้นางรู้สึกว่างเปล่าไปเล็กน้อย
“ทำไม? เื่นี้ท่านไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย” ความสงสัยของเหนียนยวี่ยังคงไม่จางหายไป แต่ความคิดคาดเดาอย่างหนึ่งในใจนางเริ่มเป็รูปเป็ร่าง “หรือ...ท่านแม่ทัพหลวง้าช่วยเหนียนยวี่?”