หึๆ เสียงหัวเราะแกมเหยียดหยันลอยมาจากที่ลับ
พอได้ยินเสียง ถังชิงหรูก็รู้ว่ามาจากผู้ใด
เสี่ยวอีเคยเตือนนางว่ามีมือสังหารคนหนึ่งคอยติดตามนางอยู่ตลอด นั่นเป็บริวารของเฟิ่งหยาง ฝีมือดีเยี่ยม แม้แต่เสี่ยวอียังแทบััตัวตนของเขาไม่ได้ แต่การดำรงอยู่ของเขาก็ทำให้ถังชิงหรูและเสี่ยวอีได้เข้าใจว่าแท้จริงแล้วของในยุคสมัยนี้ก็อาจไม่ง่ายต่อการค้นหา ใช่ว่ามาอยู่ที่นี่แล้วจะเก่งกาจสามารถไปเสียทุกเื่ และเป็ไปได้ว่าพวกเขาอาจตายด้วยน้ำมือใครสักคน เพราะทุกหนแห่งล้วนมีกฎเกณฑ์ที่ทุกคนต้องเคารพ ไม่อาจเข้ามาแหกกฎทำลายความสมดุลดั้งเดิมที่มีอยู่
"เ้าหัวเราะอันใด" ถังชิงหรูรู้ว่าเขาหาได้มีเจตนาร้าย แต่อดไม่ได้ที่จะแอบฟังพวกนางสนทนากัน
คนผู้นั้นเป็มือสังหาร ปรกติจะเร้นกายอยู่ในที่ลับ คนที่พบเจอเขาหากไม่ใช่เ้านาย ก็ต้องเป็เป้าหมาย ถังชิงหรูคุยกับเขา เขาจึงเอาแต่นิ่งงันไม่ตอบโต้
ถังชิงหรูมิเก็บมาใส่ใจ ตอนที่เอ่ยถามก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะให้คำตอบ ดังนั้นการที่ฝ่ายตรงข้ามไม่ตอบสนองก็เป็เื่ปรกติ
"ท่านกับคนผู้นั้นมีความแค้นต่อกันรึ" ขณะที่ถังชิงหรูเดินไปได้สองสามก้าว มือสังหารผู้นั้นก็เอ่ยถาม เสียงที่ได้ยินยังดูอ่อนเยาว์คล้ายกับเด็กชายที่เพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม
ถังชิงหรูนึกประหลาดใจ ทว่าสีหน้ากลับไม่เปลี่ยนสี นางออกมาจากตรอกแห่งนั้น เดินไปคุยไป "ก็ไม่นับว่ามีความแค้นล้ำลึกมาก แต่คนผู้นั้นจิตใจโเี้เกินไป เคยทำร้ายคนสำคัญของข้า แต่ไรมาข้าผู้นี้มีคุณต้องทดแทนแค้นต้องชำระ ผู้ใดมาล่วงเกินข้า ก็อย่าฝันว่าจะลอยนวลไปได้"
มือสังหารไม่สนทนาอีก หูของถังชิงหรูก็กลับมาสงบเงียบเหมือนเดิม
นางไปเดินที่ร้านขายอาภรณ์สำเร็จรูป แบบเสื้อผ้าของที่นั่นไม่สวยเท่าไร เดิมทีคิดจะซื้อให้หลินหลันเซิงสักสองสามชุด ทว่าอาภรณ์เ่าั้สวยสู้ที่นางตัดเองไม่ได้ จึงตัดสินใจซื้อผ้าสีสันงดงามมาจำนวนหนึ่ง แล้วให้เถ้าแก่ร้านส่งไปจวนฉิน
นางไปอีกหลายที่ ซื้อของมาไม่น้อย ซื้อง่ายจ่ายคล่องจนคนที่มองอยู่ด้านข้างต้องประหลาดใจ
"หนุ่มน้อย อยากซื้ออะไรหน่อยไหม" ยามเดินมาถึงตรอกเปลี่ยวแห่งหนึ่ง ถังชิงหรูก็คุยกับมือสังหารในที่ลับ
เขาได้ยินคำกล่าวของถังชิงหรู แต่กลับเมินเฉย เพราะอะไรน่ะหรือ? ก็เพราะว่าถูกนางเรียกว่า "หนุ่มน้อย" น่ะสิ เขารู้สึกเหมือนว่านางไม่ได้คุยกับตนเองอยู่ เขาเป็นักฆ่าผู้น่าเกรงขาม ไม่ใช่หนุ่มน้อยอะไรนั่นเสียหน่อย
"เ้าไม่ได้ฟังผิดหรอก ข้าคุยกับเ้าอยู่นั่นแหละ หนุ่มน้อย เ้าอยากได้ของอะไรหรือไม่" ถังชิงหรูกล่าวพลางยิ้มน้อยๆ "ข้าเป็คนใจกว้าง แค่เ้าเอ่ยปาก ข้าก็จะซื้อให้แน่นอน เ้าติดตามข้ามาทั้งวัน แม้ไม่มีผลงานแต่ก็ทำงานอย่างหนัก ข้าอยากจะตกรางวัลให้เ้าสักหน่อย"
มือสังหารน้อย "..."
"เ้าไม่พูด งั้นข้าจัดการเอาเองแล้วนะ" ถังชิงหรูยกยิ้ม "ข้าคิดดูก่อน... อายุเ้าก็น่าจะยังไม่มาก งั้นข้าซื้อตุ๊กตาแป้งปั้นให้ก็แล้วกัน"
มือสังหารน้อย "..."
"แล้วก็เสื้อผ้าอีกสองชุด เ้าพรางตัวในที่ลับนานๆ ทุกวันคงใส่แต่ชุดสีดำ ข้าชอบเด็กแต่งตัวสวยๆ " ถังชิงหรูพูดต่อ
มือสังหารน้อย "ข้าไม่ชอบตุ๊กตาแป้งปั้น แล้วก็ไม่ชอบอาภรณ์สีฉูดฉาดด้วย"
"เ้าพูดแล้ว" ถังชิงหรูหัวเราะเบาๆ "ข้านึกว่าเป็เป็ใบ้ไปแล้วเสียอีก"
มือสังหารน้อยนึกเสียภายหลัง เมื่อครู่ไม่รู้จะหัวเราะออกไปทำไม สตรีผู้นี้กำลังแก้เผ็ดเขาอยู่ชัดๆ
"หนุ่มน้อย" ถังชิงหรูเรียกเขาเช่นนี้อีกครา มือสังหารน้อยรีบพูดตัดบททันที
"หลิงจื้อ ข้าชื่อหลิงจื้อ หาใช่หนุ่มน้อยอะไรนั่น" มือสังหารน้อยเอ่ยเสียงเรียบ
"หลิงจื้อ? ชื่อนี้ไม่เลว" ถังชิงหรูกล่าว "เ้าไม่ชอบตุ๊กตาแป้งปั้น ไม่ชอบอาภรณ์สีสันสดใส แล้วชอบอันใดเล่า ชอบกินไหม? รสมือข้าไม่เลวนะ"
"หมูสามชั้นน้ำแดง" หลิงจื้อรู้นิสัยของถังชิงหรู หากเขาไม่พูด นางก็จะซักไซ้ไม่เลิกรา แทนที่จะต้องทนอดสูกับเสียงปีศาจของนาง มิสู้บอกไปตามตรงดีกว่า
"หมูสามชั้นน้ำแดงหรือ ข้าก็ชอบนะ เช่นนั้นวันนี้ก็ซื้อเนื้อหมูกลับไปอีกอย่าง" ถังชิงหรูพูดจบก็เดินไปยังแผงขายเนื้อหมูซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก
ตอนกลับมาจากข้างนอก ถังชิงหรูอารมณ์ดียิ่ง อาจเป็เพราะเื่ของอวี๋ซื่อประสบความสำเร็จด้วยดีก็เลยรู้สึกเบิกบานใจ ความอึดอัดคับข้องใจตลอดหลายวันที่ผ่านมาล้วนสลายไปสิ้น นางควรขอบคุณสตรีผู้นั้น หากไม่เพราะนาง ตนเองก็คงไม่อารมณ์ดีขนาดนี้
ถังชิงหรูเข้าไปในครัว ตั้งใจจะทำหมูสามชั้นน้ำแดงตามที่สัญญากับหลิงจื้อไว้ หลินหลันเซิงเลิกเรียนแล้ว กลับมาถึงก็ตรงดิ่งมาหาถังชิงหรู ทำตัวเป็ลูกมือตัวน้อย ถังชิงหรูทำกับข้าว เขาก็ช่วยก่อฟืน แทบจะตัวติดอยู่กับนางตลอดเวลา ไม่ห่างไปไหน
"หลันเซิง ช่วยข้าหั่นผักที" ถังชิงหรูเอ่ย "แล้วก็... เ้าชอบกินอะไร บอกพี่สาวได้นะ พี่สาวจะทำให้"
หลินหลันเซิงเห็นหมูสามชั้นแดงหอมฉุยก็น้ำลายสอ เอ่ยขึ้นว่า "หมูสามชั้นๆ "
มีเงาร่างผอมบางะโลงมาจากขื่อ คนผู้นั้นเข้ามาคว้าหมูสามชั้นน้ำแดงชามนั้นไปอย่างคล่องแคล่วว่องไวราวกับลิงน้อยตัวหนึ่ง
หลินหลันเซิงมองคนผู้นั้นหายไปอย่างตะลึงพรึงเพริด เขายังไม่ทันเห็นอีกฝ่ายชัดเจนด้วยซ้ำ รู้แต่ว่าหมูสามชั้นน้ำแดงตรงหน้าถูกเงาร่างหนึ่งมาฉกไปต่อหน้าต่อตา รู้สึกเสียใจเป็อย่างมาก เนื้อจานนั้นหอมน่ากินจริงๆ พอคิดมาถึงตรงนี้ก็เริ่มเบะปาก ทำท่าคล้ายจะร้องไห้
ถังชิงหรูรู้ว่าคนผู้นั้นเป็ใคร เด็กนั่นผอมกว่าที่นางคิดไว้เสียอีก เห็นแวบเดียวก็รู้ว่าได้รับการฝึกฝนมายาวนาน
"หลิงจื้อ เนื้อจานนั้นเพิ่งขึ้นจากกระทะ ไยต้องรีบร้อน" ถังชิงหรูพูดขึ้นไปในอากาศ "ข้าตั้งใจทำให้เ้าโดยเฉพาะอยู่แล้ว ค่อยๆ กินล่ะ"
"พี่สาว..." หลินหลันเซิงดึงชายเสื้อของถังชิงหรู เอ่ยปากอย่างน่าสงสาร "ข้าก็อยากกินเหมือนกัน"
ถังชิงหรูย่อตัวลง ยิ้มกล่าวว่า "พี่ชายผู้นั้นเป็ผู้คุ้มกันพี่สาวอยู่ในที่ลับ ปรกติเขาลำบากมาก ไม่มีของดีๆ กิน พี่สาวก็เลยทำหมูสามชั้นให้เขาแทนคำขอบคุณ หลันเซิงอยากกิน พี่สาวก็จะทำให้อีกชุด อีกประเดี๋ยวเ้าต้องกินให้หมดเล่า มิเช่นนั้นพี่สาวโกรธจริงๆ ด้วย"
"อื้อๆ " หลินหลันเซิงได้ยินว่าถังชิงหรูจะทำให้เขาอีกชุด ก็ผงกศีรษะด้วยความดีใจ ส่วนที่หลิงจื้อชิงคว้าไปแล้ว เขาก็ไม่คิดจะแย่งคืนมา ถึงอย่างไรพี่ชายผู้นั้นก็น่าสงสาร "พี่สาว ทำไมพี่ชายถึงลงมากินกับพวกเราไม่ได้ล่ะ ข้ากินนิดเดียว แบ่งอีกครึ่งให้เขาก็ได้"
"พี่ชายของเ้ากำลังฝึกยุทธ์อยู่ข้างบน เขาต้องรอให้ฝึกเสร็จก่อนถึงจะลงมากินกับพวกเราได้ พี่ชายผู้นี้เก่งกาจมากเลยนะ" ถังชิงหรูล้างเนื้อไปสนทนาไป
หลินหลันเซิงมองขึ้นไป้าด้วยแววตาเลื่อมใส แม้จะไม่เห็นสิ่งใด แต่เขารู้ว่าพี่ชายคนนั้นกำลังฝึกยุทธ์อยู่ที่นั่น
หลินหลันเซิงจุดไฟ ถังชิงหรูหุงข้าวทำกับข้าวอย่างรวดเร็ว กลิ่นอาหารหอมฟุ้งไปทั่ว เหล่าผู้คุ้มกันด้านนอกที่เดินผ่านไปผ่านมาพอได้กลิ่นอาหารจากด้านใน ก็พลันรู้สึกริษยาเด็กชายที่ถูกเก็บกลับมาคนนั้น เห็นๆ กันอยู่ว่าไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับถังชิงหรูทั้งสิ้น แต่กลับได้รับการดูแลจากนางเป็พิเศษ
"พี่ใหญ่ พ่อบ้านช่างร้ายกาจแท้ เขาเจาะผนังเป็ทางเชื่อม แล้วมอบหมายให้แม่นางถังรับหน้าที่ทำอาหารสามมื้อให้นายท่าน ต่อไปนายท่านก็มีลาภปากแล้ว" ผู้คุ้มกันหมายเลขหนึ่งคุยกับพี่น้องข้างกาย "หากได้กินอาหารแบบนี้ทุกมื้อ แม้ไม่ได้ค่าตอบแทน ข้าก็ยินดีอยู่ทำงานให้นายท่านแบบทุ่มกายถวายชีวิต"
"ฝันไปเถอะ อาหารของแม่นางถังมีแต่เ้านายเท่านั้นถึงจะกินได้ เ้าอยากกินอาหารรสมือของแม่นาง มิกลัวหัวหลุดจากบ่าหรือไง ทีนี้ละก็ไม่ต้องกินข้าวอีกแล้ว" ผู้คุ้มกันหมายเลขสองปรายตามองอย่างเหยียดหยัน พร้อมกับดับฝันสหายหมายเลขหนึ่งโดยสิ้นเชิง
"เ้าเด็กหลิงจื้อมีดีอันใด ไฉนถึงได้ไปอยู่ข้างกายแม่นางถัง เ้าไม่ได้ยินเสียงจากข้างในรึ แม่นางถังทำอาหารให้เขากินโดยเฉพาะเลยนะ" ผู้คุ้มกันหมายเลขหนึ่งเอ่ยด้วยความไม่พอใจ "หากนายท่านให้ข้าคุ้มกันแม่นางถังก็ดีน่ะสิ ตอนนี้คนที่มีลาภปากอยู่ข้างในคงเป็ข้าไปแล้ว น่าอิจฉาเด็กนั่นเป็บ้า"
"เอาล่ะ ไปกันเถอะ หากพ่อบ้านมาเห็นพวกเรามัวแต่เอ้อระเหยกันอยู่แถวนี้มีหวังถูกทำโทษแน่ เมียข้ายังรอเบี้ยรายเดือนไปซื้ออาหารให้ลูกๆ อยู่นะ" ผู้คุ้มกันหมายเลขสองกล่าวตัดบท
"ยอมแพ้เ้าเลย พวกเราขายชีวิตทำงานเสี่ยงอันตราย แต่เ้ายังอุตส่าห์มีลูกชายตั้งห้าคน หากเกิดอะไรขึ้นกับเ้า แล้วลูกเมียจะทำอย่างไร"
"ก็เพราะว่าพวกเราทำงานเสี่ยงอันตราย ถึงควรมีบุตรชายเอาไว้มากๆ หน่อย อีกอย่างหากข้ามีอันเป็ไป ยังมีนายท่านอยู่ นายท่านจะต้องให้ค่าทำขวัญแก่พวกเขา เมื่อไม่กี่วันก่อนที่เกิดเื่กับพี่น้องเ่าั้ นายท่านจ่ายค่าทำขวัญไม่น้อย ครั้งแรกหนึ่งร้อยตำลึง ปีต่อๆ ไปก็ให้ปีละหนึ่งร้อยตำลึง จนกว่าบุตรของพี่น้องเ่าั้จะอายุครบสิบแปดปี เ้าว่าในโลกนี้จะมีเ้านายที่ดีขนาดนี้สักกี่คน ดังนั้นการติดตามนายท่าน อย่างน้อยก็รับประกันได้ว่าทายาทของพวกเราจะมีคนดูแล"
"เ้าพูดมาไม่ผิด ชาตินี้ข้าจะไม่สวามิภักดิ์ใครหน้าไหนทั้งสิ้นยกเว้นนายท่านเพียงผู้เดียว"
ที่เรือนซึ่งอยู่ติดกัน นายใหญ่ที่เหล่าผู้คุ้มกันกำลังเอ่ยถึงถือพู่กันค้างอยู่เป็นานสองนานก็ไม่อาจเขียนอักษรลงไปได้สักตัว กลิ่นหอมฟุ้งจากเรือนด้านข้างยั่วแมลงตะกละในท้องร่ำร้อง ยามนี้ไม่มีสมาธิทำอันใดทั้งสิ้น
"นายท่าน..." พ่อบ้านมองเขาจากฝั่งตรงข้ามพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "ได้ยินว่าฝีมือการทำอาหารของแม่นางถังยอดเยี่ยมนัก บ่าวก็เลยบอกนางไว้ว่าต่อไปให้นางรับหน้าที่เื่อาหารสามมื้อให้นายท่าน และทำการเปิดช่องทางเชื่อมตรงกำแพงด้านนั้นขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกโดยเฉพาะ"
"อื้ม" เฟิ่งหยางกล่าวเสียงเรียบ "งั้นเ้าไปดูว่านางเตรียมเรียบร้อยหรือยัง บอกว่า่บ่ายข้ายังมีธุระ ต้องรับอาหารเดี๋ยวนี้"
"ไฉนนายท่านถึงไม่ไปรับประทานที่นั่นเล่า จากที่นี่ไปเรือนข้างเดินแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึง หาใช่เื่ลำบากอันใด แม้ว่ายกมาก็รวดเร็วดี แต่หากไปรับประทานที่นั่น ถ้ามีสิ่งใดไม่ถูกปากก็สามารถบอกกับแม่นางถังได้ ครั้งต่อไปนางจะได้ระวังมากขึ้น" พ่อบ้านกล่าวอย่างมีเหตุมีผล
"ไปกินที่นั่น..." เฟิ่งหยางนึกถึง่นี้พวกเขาสองคนไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไรนัก หากเขาไปกินอาหารตอนนี้ สตรีผู้นั้นจะไว้หน้าตนเองหรือไม่
นางไม่สำเหนียกว่าตนเองเป็เชลยสักนิด ปรกติก็ชอบวางตัวยโสโอหังต่อนายเช่นเขา หรือนางไม่กลัวว่าเขาจะทำร้าย แต่ที่พ่อบ้านพูดมาก็ถูก เมื่อตอนนี้นางเป็สาวใช้ของตน ก็ควรปรนนิบัติเขาเยี่ยงเ้านาย หากอาหารไม่ถูกปาก ก็ต้องทำให้ใหม่
"งั้นไปก็ได้ ่ก่อนหน้านี้ปล่อยให้นางเล่นสนุกมานาน ต้องไปดูเสียหน่อยว่าทำอะไรพิเรนทร์ไว้บ้าง" เฟิ่งหยางกล่าว
พ่อบ้านเดินนำทางอยู่ด้านหน้า ถือโอกาสแก้ต่างให้ถังชิงหรู "นายท่านกล่าวผิดแล้ว ลูกเล่นใหม่ของแม่นางถังนับว่างดงามยิ่ง นางยังสร้างห้องสุขาขึ้นมาใหม่อีกด้วย ยามนี้ที่นั่นงดงามมาก ทั้งยังมีกลิ่นหอมไม่เหม็นสักนิดเลยขอรับ เดิมทีบ่าวคิดจะปรับปรุงห้องสุขาทางฝั่งของนายท่านด้วย แต่เกรงว่านายท่านจะไม่คุ้นชิน"
