เนื่องจากมีการค้าขายใหญ่โตจากสกุลหยาง หลายวันมานี้พวกลั่วชีเหนียงจึงไม่ได้ไปตั้งแผง
ทางด้านพี่หลิวก็ยิ่งยุ่งจนเท้าไม่ติดพื้น
“นี่คือการค้าขายครั้งใหญ่ ดีที่อาเหยียนได้เตรียมทำแก้วออกมาอีกหนึ่งชุด หากมิเช่นนั้นคงจะเร่งไม่ทันจริงๆ เพียงแต่ช้อนหลอดดูดนั่นคงต้องช้าสักหน่อย”
พี่หลิวทั้งดีใจและร้อนใจ สิ่งที่นางคิดไม่ถึงคือหลอดดูดก็สามารถค้าขายเป็เงินเป็ทองได้ ก่อนหน้านี้ที่ชีเหนียงให้ช่างไม้ในหมู่บ้านทำ นางยังขัดขวางและไม่ยินยอม แต่ตอนนี้ เพียงแค่ช้อนหลอดดูดที่ทำจากไม้ถึงขั้นขายได้อันละสองอีแปะ ในส่วนของช่างไม้หลี่ หนึ่งอีแปะสามารถสั่งทำช้อนหลอดดูดได้อย่างน้อยสิบอันเชียวนะ!
“ไม่ได้การแล้ว ข้าต้องไปคุยกับช่างไม้หลี่ให้ดี ต้องให้เขารีบทำ จะทำให้การค้าล่าช้าไม่ได้” พี่หลิวร้อนใจจนทนไม่ไหว เกรงว่าการค้าขายใหญ่โตครั้งนี้จะเสียเปล่า พลันปลดผ้ากันเปื้อนและเดินออกไป
ชีเหนียงรู้ว่านางนิสัยใจร้อน หากไม่ให้นางไป เดาว่าทั้งวันนางคงไม่สบายใจ
......
่เวลานี้ เนื่องจากท่าทีของนาง จ้าวจือชิงจึงไม่กล้ามาโผล่หน้ามาที่บ้านสกุลลั่ว อีกทั้งหลิงชางไห่ก็แสดงท่าทีชัดเจน พอจ้าวจือชิงมา เขาก็ขับไล่ออกไปทันที สถานการณ์ในบ้านเริ่มมั่นคงขึ้นไม่น้อย นางไม่จำเป็ต้องคอยพะวักพะวนทั้งวัน!
“ข้าจะไปดูบนเขา ชาดอกไม้ในบ้านเหลือไม่มากแล้ว เดาว่าคงต้องเก็บมาอีก ลูกใหญ่ลูกรอง พวกเ้ารับซื้อนมแพะต่อ หากไม่ได้จริงๆ จะหานมวัวมาแทนก็ได้เช่นกัน”
หลังจากผ่านกระบวนการขั้นตอน รสชาติของนมวัวถึงขั้นดีกว่าหลายระดับและลื่นคอกว่ามาก
หลายวันมานี้ สกุลลั่วยุ่งกันจนเท้าไม่ติดพื้น นมวัวที่รับซื้อมาได้รวมกันเป็สองโอ่งใหญ่ มองดูวันเวลาส่งมอบสินค้าให้สกุลหยางที่ใกล้เข้ามา พวกเขาแต่ละคนก็ยิ่งขยันขันแข็ง
ชีเหนียงสั่งงานเรียบร้อยก็ตรงขึ้นเขา เพียงแต่อากาศหนาวเหน็บขึ้นเรื่อยๆ ต้นไม้บนเขาเริ่มเหี่ยวเฉา นางหาอยู่หลายรอบก็ไม่เจอดอกไม้ที่เหมาะจะนำมาทำชาดอกไม้
จังหวะที่นางกำลังครุ่นคิด กลับเห็นดอกเหมยที่อยู่ระหว่างดงต้นไม้ นางหยิบดอกเหมยขึ้นมาพินิจอย่างละเอียด การปรากฎกลีบดอกเหมยก็แสดงชัดว่าละแวกนี้ต้องมีดอกเหมย นางต้องไปค้นหา
ขณะคิดนางก็เตรียมลุกขึ้นจากพื้นที่ที่เห็นดอกเหมยตกอยู่ ทันใดนั้น กลับเห็นเงาพร่ามัวของร่างสองร่างกำลังผลักกันไปมา ทำเอานางใและกลับไปซ่อนในช่องว่างของต้นไม้
......
“บอกมา ใครบงการเ้า?”
ลั่วชีเหนียงค่อนข้างคุ้นเคยกับเสียงนี้อย่างน่าประหลาด นางเงี่ยหูฟังรายละเอียดอย่างตั้งใจโดยไม่รู้ตัว
“เ้าจะพูดหรือไม่? ไม่พูดข้าจะตีเ้าให้ตาย!”
เติมทีจ้าวจือชิงตั้งใจจะไปแอบดูที่บ้านสกุลลั่วก่อนฟ้าจะสางเหมือนเช่นทุกวัน แต่คิดไม่ถึงว่าเพิ่งถึงบ้านสกุลลั่ว ก็เห็นเงาคนทำลับๆ ล่อๆ ฉับพลันเขาจึงลากตัวคนผู้นั้นมาที่บนเขา ใครจะรู้ว่าคนผู้นี้กลับเจนจัดและคิดแอบวิ่งหนีขณะที่เขาเผลอ
ดีที่เขาอาศัยบนเขามานานหลายปี สำหรับสถานการณ์เช่นนี้มันง่ายดายนัก มิเช่นนั้นคนผู้นี้คงหนีไปได้จริงๆ
“เ้าทึ่มจ้าว ข้าไม่มีความแค้นอะไรกับเ้า เ้าจับข้ามาทำอะไร!” คนที่ถูกจับแม้ตายก็ไม่ยอมรับว่าตนเองมีแผนร้าย เพียงแต่คิดอยากหลุดพ้นจากการตามรังควานของเ้าทึ่มร่างโตให้ได้โดยเร็ว
“เ้ารีบปล่อยข้านะ มิเช่นนั้นข้าจะไปหาจ้าวเหลยและถามว่าเขาสั่งสอนลูกชายอย่างไร ถึงขั้นกล้าทำร้ายข้า!”
คนที่ถูกจับคือจ้าวกวง ซึ่งเป็คนหมู่บ้านชิงเหอเหมือนกับจ้าวจือชิง เพียงแต่ว่าจ้าวกวงใช้ชีวิตในอำเภอเฉาหลายปี ด้วยเหตุนี้ชีเหนียงที่ออกเรือนมานาน จึงไม่รู้ว่าจ้าวกวงคือคนหมู่บ้านชิงเหอ จ้าวจือชิงเป็คนทึ่มสติไม่ดี แน่นอนว่าไม่รู้จักจ้าวกวงเช่นกัน
“เ้าทึ่มจ้าว ข้ามีศักดิ์เป็อาลูกพี่ลูกน้องของเ้า จ้าวกวง! เ้ารีบปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ!”
จ้าวกวงเห็นว่าไม่ว่าเขาจะพูดเช่นไร เ้าทึ่มจ้าวก็ไม่ยอม เ้าทึ่มจ้าวทำร้ายคนโดยไม่กะพริบตา หากคลั่งเมื่อใด เขาจะกลายเป็คนคลั่งที่ทำร้ายได้กระทั่งบิดามารดา จ้าวกวงต้องรีบงัดสถานะของตนออกมา หวังว่าจะหยุดอีกฝ่ายได้และไขว่คว้าเวลาหนีให้ตนเอง
ดั่งที่คาด จ้าวจือชิงขมวดคิ้ววิเคราะห์อาลูกพี่ลูกน้องคนนี้ เพียงแต่สกุลจ้าว เขารู้จักไม่หมด ไหนเลยจะรู้ว่าอาลูกพี่ลูกน้องคืออะไร
เมื่อเห็นว่าจ้าวกวงจะหนีอีกรอบ จึงยื่นมือไปด้วยความเคยชิน “อย่าหนี รีบบอกมาว่าใครบงการเ้าไปบ้านสกุลลั่ว?”
ไม่ง่ายดายกว่าจ้าวกวงจะได้โอกาสหนี แล้วจะถอดใจได้เยี่ยงไร เขาโน้มตัวก้มเก็บท่อนไม้และฟาดใส่ศีรษะของจ้าวจือชิงเต็มแรง จ้าวจือชิงที่ขณะนั้นไม่ทันโต้ตอบ ฉับพลันจึงถูกทุบจนหมดสติและล้มดังตุบกองกับพื้น
ชีเหนียงที่แอบซ่อนอยู่ได้ยินเสียงก็รู้ว่าเกิดเื่แล้ว นางรอจนเหตุการณ์สงบจึงค่อยๆ ออกมาก่อนจะเห็นเพียงเงาของจ้าวกวงที่วิ่งหนีไป
“พี่จ้าว? พี่จ้าว?”
ชีเหนียงร้อนรนและเรียกจ้าวจือชิงแต่กลับไม่เห็นวี่แววว่าจ้าวจือชิงจะฟื้น พอมองดูก็เห็นบนศีรษะของเขามีเืไหล คงเพราะศีรษะกระแทกกับก้อนหินตอนที่ล้มลงหลังโดนท่อนไม้ฟาดเมื่อครู่
ชีเหนียงรีบฉีกผ้ามาพันศีรษะให้เขา จากนั้นก็พยายามลากจ้าวจือชิงลงจากเขา
นางรู้สึกโชคดีจริงๆ ที่่ระหว่างนี้ตนเองทำงานมาตลอด มิเช่นนั้นคงลากจ้าวจือชิงไม่ไหวจริงๆ
แม้ว่าคนผู้นี้จะเป็คนสติไม่ดี ตนเองก็ไม่อยากเข้าใกล้เขามากเกินไป แต่คนผู้นี้ได้รับาเ็เพราะเื่ของครอบครัวตน แม้จะไม่ใช่เพราะเื่นี้ นางก็ไม่อาจเมินเฉยต่อความตายและไม่ช่วยเหลือได้
......
ลั่วชีเหนียงกลับถึงบ้านพร้อมร่างเปื้อนเื ทำเอาหลิงชางไห่ถึงกับใจนเหงื่อแตก
“เ้าดูเ้าสิ ข้าบอกให้เ้าพาเ้ารองขึ้นเขาด้วย เ้ากลับไม่ยอม ดูสิไปทำอีท่าไหนเข้าให้?”
“ตาเฒ่า ท่านอย่าเพิ่งร้อนใจ นี่มิใช่เืข้า” นางมองหลิงชางไห่ด้วยสายตาปลอบโยน จากนั้นะโเรียก “ลูกรอง รีบช่วยข้ายกคนเข้าไปเร็ว”
รอจนจ้าวจือชิงถูกหามเข้าไปในห้องของลั่วจิ่งซี ชีเหนียงถึงเพิ่งมีเวลาอธิบายกับทุกคน
“นี่จะบังเอิญเกินไปหรือไม่? เ้าขึ้นไปบนเขาก็เห็นเขากับใครบางคนกำลังทะเลาะกันอยู่ อีกทั้งยังเป็เพราะคนผู้นั้นคิดร้ายกับครอบครัวเราอีก?” หลิงชางไห่ทำแผลให้จ้าวจือชิงเรียบร้อย กลับรู้สึกว่าเื่นี้มันบังเอิญเกินไป
“ท่านคิดไปถึงไหนกัน? วันนี้ข้าขึ้นเขาด้วยความคิดแบบฉุกละหุก มันบังเอิญมากกว่า” ชีเหนียงรู้ว่าหลิงชางไห่มาจากเมืองหลวง การอยู่ในสถานที่มากด้วยการเล่ห์กลต่างๆ นานามายาวนาน ในสมองคงยากจะเลี่ยงนึกถึงเื่แผนชั่วร้ายอยู่บ้าง
เมื่อเห็นนางพูดเช่นนี้ หลิงชางไห่ก็รู้สึกว่าตนเองคิดมากเกินไป
“ทว่า สถานการณ์ของเ้าทึ่มจ้าวเกรงว่าคงไม่ดีนัก สมองของเขาเดิมทีมีแผลเก่าอยู่แล้ว ตอนนี้ถูกกระแทกเช่นนี้ คงรับมือยากอยู่บ้าง”
ไม่เสียแรงที่หลิงชางไห่คือหมอหลวงอันดับต้นๆ แห่งพระราชวังย่อมดูออกถึงาแที่ซ่อนอยู่ของจ้าวจือชิง
“เดาว่าคงหลงเหลือมาจากา” เสียงของผู้ใหญ่บ้านฝูอันดังขึ้นทันใด
ฝูอันวางตะกร้าในมือลงที่ลานบ้าน บังเอิญนัก ภรรยาของเขาอาหลิวให้เขามาส่งช้อนหลอดดูดให้ชีเหนียงก่อน พอเข้ามาก็ได้ยินคำพูดของหลิงชางไห่ บังเอิญอีกอย่างก็คือเขารู้เื่ราวภายใน จึงอดที่จะเอ่ยปากไม่ได้
ใครใช้ให้สกุลลั่วไม่ชอบลงกลอนประตู จะโทษเขาแอบฟังก็ไม่ได้
“ผู้ใหญ่บ้าน ท่านมาแล้ว รีบเข้ามาด้านในก่อน”
ชีเหนียงรีบเชื้อเชิญคนเข้ามา นางซาบซึ้งใจในตัวฝูอัน หากไม่มีการสนับสนุนจากฝูอัน พี่หลิวจะช่วยเหลือครอบครัวตนเองอย่างแน่วแน่เช่นนี้ได้อย่างไร
“จ้าวจือชิงคนนั้น สมัยก่อนเคยเป็ทหารรบในา ตอนที่ไป แม้จะไม่ได้เป็คนชอบพูด แต่ก็เป็คนปกติทั่วไป ต่อมาหลังจากถูกราชสำนักส่งกลับ ทุกคนต่างคิดว่าเขายังเหมือนสมัยก่อน ใครจะรู้ว่ากลับกลายเป็คนสติไม่ดี ่เริ่มแรกนั้น กระทั่งดื่มน้ำ เขายังดื่มไม่เป็ด้วยซ้ำ”
พอเข้ามา ผู้ใหญ่บ้านก็เริ่มเล่าเื่ราวสมัยก่อน เขาคือผู้ใหญ่บ้าน เดิมทีหมู่บ้านต้าสือก็มีทหารที่ไปรบกลับมา จึงสืบรู้เื่ราวระหว่างหมู่บ้านมาไม่น้อย
-----
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้