“เบื้องต้นไม่ได้เป็อะไรมากครับ แค่หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ รวมถึงอาจมาจากลุกขึ้นยืนกะทันหันก็เลยมีอาการหน้ามืดอย่างที่เห็น อาจต้องกำชับคนไข้นะครับว่าห้ามขยับตัวเร็ว เขาเพิ่งฟื้นจากอุบัติเหตุ”
ระฟ้าพยักหน้าฟังคุณหมอที่กำลังตรวจอาการสามี ร่างสูงของพ่ออัลฟ่าตัวยุ่งหลับปุ๋ย ไม่รู้เื่รู้ราวเลยว่าตนเองน่ะทำเขาวุ่นวายกันไปหมด ไม่ล้มหัวฟาดพื้นก็ดีแค่ไหน ขนาดโอฬารที่กำลังทำแผลอยู่ยังร้อนใจต้องวิ่งมาดู กลัวเ้าชายแห่งวงการจอเงินจะกลับดาวหมาเร็วกว่ากำหนดน่ะสิ
“ไงคุณระ คุยกับสามีสุดที่รักเป็ไงบ้างล่ะครับ”
น้ำเสียงล้อเลียนแบบไม่จริงจังของโอฬารทำระฟ้าแอบหงุดหงิด โอฬารรู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างดาราในปกครองและภรรยาเป็อย่างไร ศิธาติดจะนินทาว่าร้ายระฟ้าให้โอฬารฟังบ่อยครั้งด้วยซ้ำ ทั้งหน้าเงินอย่างนั้น นิสัยเสียอย่างนี้ จ้องจะฮุบเอาสมบัติทั้งหมดแม้จะไม่ใช่สายเืแท้ๆ ทีแรกโอฬารก็หูเบาเชื่อ แต่พอได้มาััพูดคุยกับระฟ้าด้วยตนเอง ผู้จัดการมือทองถึงได้รู้ว่าไอ้ที่นิสัยเสียน่ะมันพ่อดาราของเขาต่างหากล่ะ
ส่วนเื่ที่ระฟ้าคุยกับสามีสุดที่รักจนสลบไปน่ะหรือ
“เป็อัลฟ่าครับ จำมาจากซีรีส์ที่แสดงอยู่แน่ๆ”
สิ้นเงาของคุณหมอ สองหนุ่มก็เปลี่ยนมากอดอกยืนคุยกันตรงปลายเตียงคนป่วย มองร่างสูงอันไร้สติเ้าปัญหา ขนาดยืนท่าเดียวกัน ออร่าความสง่างามที่ระฟ้าเปล่งออกมายังเจิดจ้าเสียเหลือเกิน สมแล้วที่คุณหญิงเยาวมาลย์เก็บมาเลี้ยง เด็กคนนี้มีดวงเป็เ้าคนนายคนเหนือคณา
“เออเนอะไอ้ห่านี่ ลืมทุกอย่าง แต่ไม่ลืมบทละคร เกิดมาเพื่อแสดงละครโดยแท้” โอฬารหัวเราะแต่ก็ต้องหลุดร้องซี๊ดเพราะอ้าปากกว้างเกินไปแล้วกระทบแผล “ว่าแต่เราเอาไงต่อดีครับคุณระ ผู้กำกับโทรหาผมยิกๆไม่หยุดเลยเนี่ย แล้วก็ได้ยินว่าสุดสัปดาห์ไอ้ศิมันต้องเข้าประชุมบอร์ดบริหารกับคุณระด้วยไม่ใช่นี่ครับ”
ระฟ้าเอามือลูบหน้าผากทันที
เื่งานแสดงฟอร์มั์อะไรนั่นของสามีระฟ้าไม่ได้สนแม้แต่นิด หน้าที่ของระฟ้าคือดูแลวาสุกรุปในฐานะประธานกรรมการแทนคุณหญิงเยาวมาลย์ให้ดีที่สุด และศิธาก็รับตำแหน่งรองประธาน โดยปกติต่อให้เหม็นขี้หน้ากันเพียงไร เวลามีประชุมศิธาก็ล้วนปรากฏตัวไปนั่งไร้ประโยชน์ข้างกายระฟ้าอยู่เสมอ แต่ศิธาในเวลานี้
“ค่อยคิดแล้วกันครับ ผมปวดหัวมาก”
ระฟ้าไม่ชอบอะไรที่อยู่เหนือการควบคุม
ตารางชีวิตส่วนใหญ่ของระฟ้ามักเป็ไปตามแบบแผน ระฟ้าวางแผนก่อนกระทำการสิ่งใดเสมอ ต่อให้เป็เื่เล็กๆน้อยๆเขาก็วางแผนละเอียดยิบ หลายครั้งคุณหญิงเยาวมาลย์ยังแซะว่า ‘แกเป็เพอร์เฟ็คชั่นนิสต์เกินไปนะตาฟ้า ไม่ต้องละเอียดมันทุกอย่างหรอก เดี๋ยวก็อกแตกตายกันพอดี’ แหม คุณย่าก็พูดได้สิ
“ผมจะลองติดต่อเพื่อนที่เป็หมอที่อเมริกาดู ถามข้อมูลจากหลายๆแหล่งบางทีเขาอาจช่วยได้ ระหว่างนี้พี่โอฬารอย่าเพิ่งบอกเื่ความจำเสื่อมของคุณศิธากับใครล่ะครับ”
“ไม่บอกแน่นอนครับ พี่ก็ไม่อยากให้มันชวดงานนะ ไอ้ศิตุ้บพี่ก็ตุ้บด้วย”
โอฬารทำมือรูดซิบปากสนิทก่อนจะปั้นหน้าเหยเกเมื่อจินตนาการไปถึงสถานการณ์เลวร้ายสุดขีด และดูเหมือนสถานการณ์เลวร้ายสุดขีดจะโผล่มาเร็วกว่าที่คาด เสียงประตูห้องพักสั่นครืด เป็ชวิศ รุ่นพี่คนสนิทของระฟ้าที่เหมือนกับเพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจวิ่งสี่คูณร้อยมาหมาดๆ หยาดเหงื่อผุดเอ่อเต็มกรอบหน้า
“ฟ้า พี่ว่าท่าไม่ดีแล้ว”
“เกิดอะไรขึ้นครับพี่วิศ?”
“พวกอาศรุตกับอาสิปปางค์จะมาเยี่ยมคุณศิธา!”
/
ศิธา วาสุรีย์โรจน์ถูกย้ายออกจากโรงพยาบาลในบ่ายวันเดียวกันทันที
ชวิศอยู่รับหน้ากับเหล่าอาๆน้าๆของศิธา เนื่องจากชวิศเป็ลูกชายคนโตของทนายประจำตระกูลวาสุรีโรจน์ ทำให้เขาค่อนข้างสนิทกับสมาชิกบ้านนี้มากพอสมควร ส่วนระฟ้านั้น เมื่อปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับสภาพร่างกายของสามีแล้วพบว่าอีกฝ่ายไม่จำเป็ต้องแอดมิทโรงพยาบาลต่อแต่อย่างใด ภรรยาผู้แสนดีจึงตัดสินใจพาสามีกลับบ้าน
บ้านที่เขาไม่เคยแวะเวียนเข้ามาเหยียบั้แ่แต่งงานกัน
“นี่เรือนหอของพี่กับเธอหรือ?”
ร่างสูง 190 เิเยืนเอามือไพล่หลังมองบ้านทรงยุโรปร่วมสมัยสีขาว บ้านสองชั้น มีสวนขนาดใหญ่ล้อมรอบและสระว่ายน้ำ สมัยก่อนโน้นบ้านเล็กกว่านี้เพราะเคยเป็บ้านของคุณหญิงเยาวมาลย์ เธอรับระฟ้าให้มาอาศัยด้วยกันในฐานะเด็กประจำบ้าน คอยหยิบจับช่วยงานเล็กๆน้อยๆไม่ให้คุณหญิงอยู่คนเดียวแล้วเบื่อ พอระฟ้าโตขึ้นทำงาน มีเงินเก็บก็ขอต่อเติมบ้านเพราะเห็นตัววัสดุเริ่มเก่าแล้ว คุณหญิงย่าก็ตามใจระฟ้า ตอนรีโนเวตเสร็จเธอชมด้วยว่าออกแบบได้สวยกว่าเดิมอีก
“ไม่มีหรอกครับเรือนหอ คุณก็อยู่บ้านของคุณอีกฝั่งแม่น้ำโน่น”
สมัยยังสาว คุณหญิงเยาวมาลย์อาศัยอยู่ที่คฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามกับลูกๆ สามีเธอเสียชีวิตนานแล้ว แต่พอลูกทุกคนเริ่มเติบโตมีครอบครัวเป็ของตนเอง แต่งสะใภ้ แต่งเขยย้ายเข้ามายังคฤหาสน์หลังใหญ่ คุณหญิงก็ซื้อที่ดินฝั่งตรงข้ามแม่น้ำแยกมาปลูกบ้านคนเดียวตามประสาแม่หม้ายผัวตาย
“แล้วทำไมไม่อยู่ด้วยกัน ผัวเมียก็ต้องอยู่ด้วยกันสิ”
“ผัวเมียแยกกันอยู่ถมเถไปครับ”
“อ๋อ เพราะมึงใช่ไหมไอ้เหี้ยโอ ทำครอบครัวกูร้าวฉาน”
พูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ตัวการ โอฬารสะดุ้งโหยงไม่วายส่ายหน้าหงึกยกมือยอมแพ้
“กูมีเด็กของกูอยู่แล้วครับโว้ยไอ้ศิ ต้องให้พูดกี่ครั้งโว้ย”
ั์ตาคมหรี่มองโอฬารเหมือนช่างใจ ก่อนจะขมับจมูกฟุดฟิดแล้วไหวไหล่แบบไม่ติดใจเอาความ “ถ้าถึงขนาดยอมเก็บฟีโรโมนขนาดนี้กูจะลองเชื่อใจมึงดูสักครั้งแล้วกัน” พูดจบก็เดินผิวปากสำรวจบ้านตามประสาอัลฟ่าหนุ่ม
“ปล่อยฟีโรโมน.. หนักแล้วคุณระ” จนโอฬารต้องเขยิบมาป้องปากกระซิบภรรยาพ่ออัลฟ่าตัวดี
ในโลกของโอเมก้าเวิร์ส การปล่อยฟีโรโมนไม่ต่างอะไรจากการปล่อยกลิ่นข่มขวัญศัตรูของสัตว์ แต่เพศรองที่สามารถทำได้มีเฉพาะอัลฟ่าและโอเมก้า โดยฟีโรโมนของอัลฟ่าจะเป็กลิ่นประเภทกดดันศัตรู แสดงความเป็เ้าของอาณาเขต ต่างจากกลิ่นของโอเมก้าที่ให้ความรู้สึกยั่วยวน เน้นไปในทางสืบพันธุ์ ว่ากันว่า อัลฟ่าและโอเมก้าแต่ละคนก็ล้วนมีกลิ่นฟีโรโมนเอกลักษณ์เฉพาะตัว
“ว่าแต่มันบอกว่าคุณระเป็โอเมก้าใช่ไหม แล้วฟีโรโมนคุณระกลิ่นอะไรครับ”
“ตลกเหรอครับ? จะซวยกันหมดแล้วยังไม่รู้ตัวอีก”
โอฬารยิ้มแหย ระฟ้าเอามือตบหน้าผากแล้วถอนหายใจ
ภาวะความจำเสื่อมของศิธาน่ะสามารถทำให้วาสุกรุปย่อยยับได้เพียงชั่วข้ามคืน เพราะอะไรน่ะหรือ? เพราะคนบ้านนั้น... เหล่าสมาชิกสุดที่รักบ้านวาสุรีย์โรจน์ เหล่าคุณน้าคุณอาของศิธาผู้พร้อมจะเตะตัดขาหลานชายคนโปรดทุกครั้งเมื่อมีโอกาส พวกเขาไม่เคยยินดีกับการที่หลานชายได้หุ้น 35% จากคุณย่าเลยสักนิด ซ้ำยิ่งรังเกียจเดียดฉันท์ขึ้นกว่าเดิมที่เด็กนอกสายเลือกอย่างระฟ้าได้ไปอีก 35% ทั้งๆที่สายตรงอย่างพวกเขาควรจะได้ก่อน แต่คุณหญิงเยาวมาลย์กลับทำตัวประหลาด ข้ามไปให้หลานชายและเด็กรับใช้ที่เก็บมาเลี้ยง
“พวกเขาต้องฟ้องให้สัญญามอบอำนาจเป็โมฆะแน่ๆครับ หรือไม่ก็หาทางถอดหุ้นของคุณศิธาออกไปเป็ของตัวเอง ถ้าทำอย่างนั้นได้หุ้นที่พวกเขาถือรวมกันทั้งหมดก็จะมีมากกว่าผม”
“เดี๋ยวนะครับ หมายถึงเขาจะใช้เื่ที่ไอ้ศิป่วยเป็คนสติไม่ดีแย่งเอาหุ้นคืนเหรอ ผมไม่แม่นกฎหมาย แต่มันจะทำได้จริงๆเหรอคุณระ”
โลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่าการเล่นสกปรกและช่องโหว่ทางกฎหมาย ทำไมจะทำไม่ได้ คนพวกนั้นพยายามทำอยู่ต่างหาก ยิ่ง่นี้ที่คุณหญิงเยาวมาลย์ออกเดินทางเที่ยวรอบโลกจนขาดการติดต่อ พวกลูกๆบังเกิดเกล้าก็พยายามสร้างข้อมูลเท็จว่าคุณย่าสติไม่ดีตอนเขียนโอนมรดก สัญญาส่งมอบนั้นควรจะถือเป็โมฆะ เกิดข้อพิพาทมาตลอดสองปีจนระฟ้าเหนื่อยอยากจะทิ้งตำแหน่งประธานกรรมการบ้าบอคอแตกนี้ให้รู้แล้วรู้รอด
ถ้าไม่ติดว่ารับปากกับคุณย่าว่าจะดูแลให้
“เอาเป็ว่าจะมีใครรู้ไม่ได้เด็ดขาดครับว่าคุณศิธาป่วย ผมจะหาทางรักษาเขาให้กลับมาเป็ปกติโดยเร็ว”
“สาบานด้วยเกียรติรด.ปีสามเลยครับคุณระ ผมไม่บอก ขืนบอกผมก็ตกงานเหมือนกัน ฮือออ ว่าแต่กูจะตอบผู้กำกับว่าไงดีครับเนี่ย โทรมาจะร้อยสายแล้ว” โอฬารยืนมองโทรศัพท์หน้าระห้อยอย่างหมดวัง
“แล้วพี่โอฬารจะไปไหนครับ”
“ทำงานสิครับ ผมก็ต้องกินต้องใช้”
“แต่คุณศิธาอยู่นี่?”
“คุณระ ผมมีเด็กในสังกัดอยู่อีกคนนะลืมไปแล้วเหรอ ถึงผมจะคอยดูแลประคบประหงมไอ้ศิเป็พิเศษ แต่เวลานี้ไอ้ศิแม่งใช้การไม่ได้แล้ว เอาเป็ว่าผมจับอีกคนใส่ตะกร้าล้างน้ำไปเสนอผู้กำกับดีกว่า เผื่อจะฟลุค”
โอฬารไม่ได้พูดกับระฟ้านะนั่น พูดเองเออเอง พึมพำคนเดียวแล้วก็เดินถือโทรศัพท์คอตกเดินลิบออกจากบ้าน คำถามคือ หลังจากนี้ใครต้องคอยดูแลพ่ออัลฟ่าเ้าชายแห่งวงการจอเงินกันนะ
“มึงไงไอ้ฟ้า...”
ระฟ้าตบหน้าตนเองดังแปะ
/
สิ้นเงาของโอฬารระฟ้าก็กำชับให้คนงานในบ้านห้ามพูดเื่ของศิธา
ต่อไปนี้สามีของระฟ้าจะย้ายมาอยู่บ้านเราชั่วคราว ถ้าคนบ้านโน่นถามถึงว่าศิธาอยู่ที่นี่ไหมให้ตอบว่าไม่รู้ไม่ชี้ ส่วนเหตุผลว่าทำไมถึงไม่พาศิธาย้ายออกไปอยู่ไกลๆอย่างต่างจังหวัด เมืองนอก หรือบนเขาที่ความเจริญเข้าไม่ถึง เหตุผลก็คือหนึ่ง ระฟ้ายังจำเป็ต้องทำงาน เขาไม่มีเวลามาตามดูแลสามีทุกฝีเก้า อย่าลืมสิ หัวโขนที่ระฟ้า วาสุรีย์โรจน์สวมอยู่คือประธานกรรมการแห่งวาสุกรุบ และสอง ที่ๆอันตรายที่สุดคือที่ๆปลอดภัยที่สุด คำสอนจากคุณหญิงเยาวมาลน์ที่ระฟ้าเชื่อและยึดถือเสมอมา
“ตกลงตามนี้นะครับ ห้ามใครรู้ อ้อ ยกเว้นคุณชวิศแล้วก็คุณโอฬาร”
ระฟ้ากำชับเด็กในบ้านและคุณลุงคุณป้าเป็อย่างดี ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปออกเดินตามหาใครบางคน เมื่อกี้เห็นเขาแวบๆในสวน คงไม่พิเรนทร์เดินข้ามสะพานไปโผล่บ้านใหญ่หรอกนะ อ่า เจอแล้วนั่นไง...
นั่งดูดอกไม้เหรอ?
ผิดหูผิดตาเป็อย่างมาก ร่างสูงที่กำลังนั่งยองๆจ้องดอกโบตั๋นสีขาว พ่อดาราดังที่ระฟ้าเคยรู้จักเกลียดดอกไม้เสียยิ่งกว่าอะไรดี ไม่สิ... ต้องถามว่าเขาชอบอะไรมากกว่านอกจากการแสดงและเงินทอง ศิธาในความทรงจำของระฟ้าคือผู้ชายโมโหร้าย ขี้แกล้ง เหน็บแนมเก่งเป็ที่หนึ่ง ไม่มีความอ่อนโยนเลย แต่ศิธาเวลานี้กำลังอมยิ้มติดมุมปากให้แก่ดอกโบตั๋นสีขาว
“เข้าบ้านเถอะครับ แดดร้อน”
พอถูกระฟ้าทักชายหนุ่มก็สะดุ้งเล็กน้อย ซ้ำยังรีบหุบยิ้มที่ใช้มองดอกไม้ฉับพลัน
ระฟ้าสังเกตมาั้แ่ที่โรงพยาบาลแล้ว การตื่นขึ้นมาครั้งนี้ของเขาแตกต่างจากเดิม ไม่เหมือนหมาโกลเด้นติดเ้าของใน่แรก ตอนนั่งรถมาด้วยกันเขาแอบลอบมองระฟ้าเป็จังหวะ พอระฟ้ามองกลับก็ผินใบหน้าหนีเหมือนคนวางฟอร์ม เข้าใจยากมาก เ้าชายแห่งวงการจอเงินเวอร์ชั่นสมองเพี้ยนน่ะ
“คุณศิธา?”
“เธอก็นำพี่ไปซิ”
ระฟ้าช่างใจครู่หนึ่งว่าจะเดินนำไปทั้งอย่างนั้นเลย แต่พอนึกถึงเหตุการณ์เขาเป็ลมล้มตึงจึงเปลี่ยนใจเข้าไปประคองแผ่นหลัง คนถูกประคองเลิกคิ้วสูงเล็กน้อย สุดท้ายก็อมยิ้มติดมุมปาก ระฟ้าว่าท่าทางเขาเหมือนตาแก่เวลามีอีหนูมาเอาใจ ติดตรงที่ระฟ้าไม่ใช่อีหนูนี่แหละ ระฟ้า 26 แล้วนะ
“วันนี้ขึ้นไปพักก่อนนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมให้คนพาเดินดูบ้าน”
“แล้วเธอจะไปไหน”
“ทำงานครับ”
ตอบเ้าของท่อนแขนที่วางพาดอยู่บนไหล่ เป็ครั้งที่สองที่ระฟ้าได้อยู่ใกล้ชิดศิธาในระยะ่ลมหายใจนอกเหนือจากพิธีแต่งงาน ผ่านมาเกือบสามปีแล้วแฮะ เข้าดูโตขึ้นไม่น้อย ผิวคล้ำแดดจากถ่ายละครหรือเปล่า
“บ่ายสองแล้วยังต้องกลับเข้าบริษัทอีกหรือไง”
“เข้าสิครับ ผมเป็ประธานกรรมการ”
“อ๋อ ส่วนพี่ก็เป็รองประธานสินะ ได้ยินไอ้โอมันพูด งั้นพี่เข้าด้วยสิ”
“ไม่ได้ครับ คุณยังป่วยอยู่”
“ป่วยอะไร หมอบอกว่าพี่ไม่เจ็บตรงไหนสักหน่อย ไม่รู้ล่ะ ถ้าเธอไปพี่ก็จะไป จะทิ้งผัวอยู่บ้านคนเดียวแล้วออกไปทำงานหรือ? ชาวบ้านได้นินทากันตลาดแตกพอดีว่าผัวบ้านนี้ใช้เมียทำงาน ส่วนตัวเองก็นั่งกินนอนกิน พี่ไม่ยอมหรอกนะ”
ระฟ้าเหนื่อยมาก
อยากกราบเท้าคุณหญิงย่าสามสิบครั้ง อยากสอบถามแกว่าเลี้ยงลูกตั้งสี่คนมาได้อย่างไรด้วยตนเอง ขนาดระฟ้าแค่ดูแลหลานชายแกไม่กี่นาทียังไมเกรนจะขึ้น
“ห้องคุณห้องนี้นะครับ”
“แล้วเธอนอนห้องไหน”
“ห้องถัดไปครับ”
“ผัวเมียก็ต้องนอนด้วยกันสิ”
“ไม่นอนครับ”
“อ๋อ เธอชอบมันใช่ไหม ไอ้โอล่ะสิ หรือไอ้ชวิศ?”
เอาแจกันทุบให้สลบไปอีกรอบดีไหมนะ?
ระฟ้าตบหน้าตนเองดังแปะไม่รู้เป็ครั้งที่เท่าไหร่ของวัน มือบางจัดการกดไหล่ผู้ชายตัวสูงนอนลงบนเตียง เปิดแอร์ให้แรงที่สุด ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเขา ตบไหล่แปะๆบอกให้คุณสามีสุดที่รักนอนหลับพักผ่อน ส่วนเขาจะนั่งทำงานอยู่ตรงโซฟาปลายเตียง
“ใจคอเธอจะให้พี่นอนทั้งวันเลยหรือไง พี่นอนจนจะเป็หมูอยู่แล้วนะ”
คุณภรรยาหันมองตาขีดใส่ผู้ชายเื่มาก สารภาพตามตรงว่าระฟ้าไม่เคยใช้ชีวิตอยู่กับสามี เขาไม่รู้ว่าวันๆผู้ชายคนนี้ทำอะไร งานอดิเรกคืออะไร ของโปรดคือสิ่งไหน อาจรู้สมัยแต่งแรกๆเพราะคุณย่าสั่งให้จำ แต่ตอนนี้ลืมไปหมดแล้ว แต่ไหนแต่ไรเราก็แทบไม่รู้จักกันเลย
“งั้นอ่านนี่แล้วกันครับ”
เผอิญเหลือบไปเห็นบทละครเื่ ‘โรงเรียนประจำโอเมก้า’ วางเอาไว้หน้าทีวี ระฟ้าจึงยื่นให้พ่ออัลฟ่าตัวดีอ่านแก้เบื่อ คือระฟ้าต้องทำงานจริงๆน่ะ โน้ตบุคไอแพดก็หอบมานั่งเฝ้าแล้ว ขอทำงานหน่อยเถอะ ส่วนใครบางคนก็ช่วยอยู่เงียบๆหน่อยเถอะ ไหว้ล่ะ
“ใครตั้งชื่อ เช๊ยเชย แล้วพี่เล่นเื่นี้หรือ ไอ้โอมันบอกพี่เป็ดารา”
“ครับ พอจะจำอะไรได้มั้ย รีบๆจำให้ได้เถอะครับ”
“น้ำเสียงมันติดรำคาญผัวอะไรขนาดนั้นหือ”
ระฟ้าไม่ตอบ ปกติก็ไม่เคยคุยกันยาวขนาดนี้อยู่แล้ว ร่างบางเปลี่ยนมาจ่ายความสนใจให้กับงานเบื้องหน้า เลขาสาวอย่างคุณปุ๊กกี้ฟอร์เวิร์ดอีเมลมาเต็มไปหมด ไหนจะเอกสารมากมายที่จำเป็ต้องเซ็นออนไลน์ ไม่รวมคำถามจากทางบริษัทและนักข่าวเื่ที่สามีของระฟ้าประสบอุบัติเหตุ ผ่านมาเกือบสัปดาห์แล้วท่านประธานแห่งวาสุกรุปก็ยังไม่อัพเดตข่าวคราวของสามีแม้แต่น้อย
ระฟ้าทำงานเพลินจนลืมไปเลยว่านั่งอยู่ในห้องกับใครบางคน ชายหนุ่มแสร้งหันหลังกลับไปมอง ที่เงียบไปคิดว่าหลับแล้ว แต่ความจริงคือไม่ใช่ ศิธากำลังอ่านบทละครอย่างใจจดใจจ่อ พอเห็นภรรยาหันมองมาจากฝั่งโซฟาปลายเตียงก็เลิกคิ้วถามว่ามีอะไรจ๊ะ
“เปล่าครับ ยังอ่านออกก็ดีแล้ว”
“ปกติพี่เรียกเธอว่าอะไร”
“เรียกชื่อครับ บางครั้งก็แก”
ตอบพลางหันกลับไปทำงานตามเดิม ระฟ้าเป็มนุษย์ประเภท multi tasking สามารถทำอะไรหลายอย่างได้ในเวลาเดียวกัน ตอนแรกทำไม่ได้หรอก แต่ประสบการณ์บีบบังคับให้ต้องทำได้
“เรียกเมียแกได้ไง ไม่น่ารัก”
“คุณไม่ใช่คนน่ารักอยู่แล้วนะครับ”
ระฟ้าได้ยินคนตัวโตจิ๊ปาก
“งั้นต่อไปนี้พี่จะเรียกเธอว่าฟ้า”
“ฟ้าเอาไว้ให้คนสนิทเรียกครับ”
“ผัวไม่สนิทเหรอ”
“ไม่ค่อยนะครับ”
“งั้นยัยฟ้า”
“เดี๋ยวเถอะคุณ”
ระฟ้าหันมาถลึงตาใส่จอมวุ่นวายแห่งชาติ ยัย มันเอาไว้สำหรับเรียกผู้หญิงไม่ใช่หรือไง
“ก็หน้าเธอมันเหมาะจะเรียกยัยฟ้ามาก”
“ห้ามเรียกครับ ไม่ว่าจะฟ้าเฉยๆหรือยัยฟ้าก็ไม่ให้เรียก”
“ยัยฟ้าๆๆๆๆ”
ปวดหัวจังโว้ยยยยยยยย
ระฟ้าหยิบหูฟังแบบเฮดโฟนขึ้นมาครอบหู ศิธา วาสุรีย์โรจน์สำหรับระฟ้าคือศัตรูทางธรรมชาติ ั้แ่เวอร์ชั่นก่อนแล้ว ผู้ชายคนนี้ปากร้ายขี้แซะมาก เถียงด้วยทีไรก็แพ้มันทุกที แล้วระฟ้าเวลาเถียงแพ้จะน้ำตาคลอ เสียศักดิ์ศรีมาก ระฟ้าก็เลยหลีกเลี่ยงการพูดคุยกับศิธาหากไม่จำเป็ แต่ใครจะคิด เวอร์ชั่นสมองเพี้ยนระฟ้าก็เถียงแพ้อีกเหมือนกัน
แต่ดูเหมือนอีตาเ้าชายแห่งวงการจอเงินจะไม่หยุดอยู่แค่ไหน เขาขยับเข้ามาสะกิดไหล่ระฟ้า พอระฟ้านิ่งไม่ตอบพี่แกก็ถือวิสาสะถอดหูฟังออกอย่างเสียมารยาท
“คุณศิธา...”
“พี่ตัดสินใจละ พี่จะบอกความจริงกับเธอ”
ระฟ้าหันมองตาขีด ทอดถอนลมหายใจหนึ่งเฮือกด้วยความเหนื่อยล้า จู่ๆสีหน้า แววตา ท่าทางของศิธาก็เปลี่ยนไป จากผู้ชายขี้เล่นกวนประสาทก็ถูกสวมทับด้วยออร่าจริงจัง ระฟ้าดูคนจากแววตา แววตาเขาเวลานี้จริงจังเอามากๆ
“ม มีอะไรครับ”
“พี่ไม่ใช่สามีตัวจริงของเธอ พี่มาจากอีกโลก”
ระฟ้านิ่งไปราวๆสิบวินาทีพร้อมสมองที่ประมวลผลอย่างหนัก
หือ? มาจากอีกโลก
“เธออย่าเสียใจไปเลยนะ พี่จะทำหน้าที่สามีที่ดีต่อจากเขาเอง”
“ครับ? ถามจริง?”
“จริง พี่จะถามเธอด้วยซ้ำว่าเธออัญเชิญพี่มาหรือเปล่า นี่สินะที่เขาเรียกเกิดใหม่ต่างโลก เฮ้อ ตอนแรกก็กลัวจะได้ไปนรกแต่ดันได้เกิดใหม่มามีเมียสวย เหมือนถูกหวยรางวัลที่หนึ่งเลยแฮะ”
พาราหนึ่งกระปุกพอไหมวะ
ระฟ้าพึมพำกับตนเอง...
tbc.
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้