จางอี๋เหนียงอดที่จะหัวเราะเ็าออกมาไม่ได้
ในเมื่อต้วนชิงิอยากให้นางสร้างปัญหาให้หลิวหรงนางก็ต้องช่วยทำให้สำเร็จไม่ใช่หรือ? อย่างไรเสียก็มีศัตรูคนเดียวกัน เื่นี้จริงๆ แล้วนางอยากทำมานานแล้วแต่ไม่มีโอกาสครั้งนี้ต้วนชิงิหยิบอื่นโอกาสให้ นางควรจะขอบคุณถึงจะถูก
ชิวเอ๋อร์ได้ยินเช่นนั้นก็ไม่สบายใจทำอะไรเชื่องช้าไปหมด นางเบะปากเอ่ยเสียงต่ำ “อี๋เหนียงไม่รู้ว่าไม่ได้ใช้ของพวกนี้มานานเท่าไรแล้ว ทำไมจู่ๆต้องทำให้นายท่านกับคุณชายใหญ่ด้วยล่ะเ้าคะ?”
คนพวกนั้นไม่ขาดแคลนของทานเล่นอี๋เหนียงต่างหากที่ขาดแคลน!
จางอี๋เหนียงมองชิวเอ๋อร์ด้วยความเอ็นดู “เ้านี่ไม่ฉลาดเลย ถ้าไม่ล่อลูกเสือแล้วจะได้แม่เสือหรือ?”
ถ้าไม่ได้ความสนใจจากต้วนเจิ้งและคุณชายใหญ่แล้วจะได้ความสนใจจากต้วนชิงิได้อย่างไร?
จางอี๋เหนียงไม่ได้ออกจากเรือนมาหลายปีแล้วนางไม่เคยเจอต้วนชิงิมาก่อน ทว่าวันนี้ได้พบกลับทำให้นางใ คุณหนูใหญ่ราวกับรวมเอาข้อดีของต้วนเจิ้งและติงโหรวไว้ที่นาง
ต้วนเจิ้งเป็คนทำอะไรเด็ดขาดและมีเสน่ห์ติงโหรวแม้อ่อนโยนแต่กลับฉลาดหลักแหลมส่วนต้วนชิงิเอาจุดเด่นของต้วนเจิ้งและติงโหรวที่มีทั้งความเด็ดขาดและอ่อนโยนผสมเข้าด้วยกันทั้งยังนำจุดเด่นนั้นมาใช้ได้เป็อย่างดี
นางจึงรู้ว่าไม่สามารถมองข้ามต้วนชิงิได้
ชิวเอ๋อร์ยังไม่เข้าใจในทันทีระหว่างที่ฟังก็เปิดแป้งหมี่ขาวออกดูพลางร้องด้วยความใ
แป้งหมี่ขาวขึ้นราส่วนน้ำตาลจับตัวเป็ก้อนแล้ว ของแบบนี้จะให้นายท่านกับคุณชายใหญ่ทานได้อย่างไร? หากกินเข้าไปกลัวว่าจะท้องเสีย
จางอี๋เหนียงไม่ได้ให้ความสนใจกับการใของชิวเอ๋อร์ นางพูดเสียงเรียบ “เ้าคิดดูถ้าเ้าทำให้คุณชายใหญ่ทาน อีกหน่อยจะมีที่ดีกว่านี้ รู้ไหม...”
ลมแ่เบาพัดโชยเอากลิ่นเหม็นหืนลอยข้ามมาจางอี๋เหนียงเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว กลั้นลมหายใจไว้ “ใช้ไม่ได้แล้ว?”
ชิวเอ๋อร์พยักหน้าด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน “ตอนนั้นที่อี๋เหนียงไม่ยอมทาน ตอนนี้มันทานไม่ได้แล้วเ้าค่ะ...”
จางอี๋เหนียงนั่งนิ่งไปชั่วครู่
ทานไม่ได้แล้วทำขนมก็ไม่ได้แล้ว นางจะใช้อะไรทำให้ได้ไปอยู่ข้างกายของต้วนเจิ้งและต้วนอวี้? จะใช้สิ่งใดเพื่อทำตามที่พูดไว้กับต้วนชิงิ?
นางเชื่อว่าต้วนชิงิกำลังแอบจับตามองเพื่อดูว่านางคิดจะทำอะไรแต่ว่าตอนนี้โอกาสที่จะใช้สักครั้งก็ยังไม่มี...
ชิวเอ๋อร์เห็นสภาพที่จางอี๋เหนียงเสียใจแบบนี้มาหลายปีจึงได้แต่ยืนนิ่งเงียบมองโดยไม่พูดอะไร
คุณหนูใหญ่แม้แต่ก่อนจะอยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยดีนักแต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนไปไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว มีเพียงอี๋เหนียงของนางที่หน้าตางดงามจิตใจดี แต่กลับไม่มีจะกินแม้กระทั่งแป้งหมี่ขาว
คิดเช่นนี้ชิวเอ๋อร์ก็กำมือแน่นรับรู้ถึงของแข็งที่อยู่ในมือนางก้มหน้าลงมอง “อี๋เหนียงอย่ากังวลไปเลยเ้าค่ะพวกเรายังมีทองแท่ง”
ทองแท่งสามารถซื้อของได้มากมายไม่ว่าอี๋เหนียง้าอะไร นางจะไปซื้อให้หมด
จางอี๋เหนียงดีใจขึ้นมาทันที “ชิวเอ๋อร์ เ้าไปซื้อแป้งหมี่ขาวอย่างดีมาสองชั่ง น้ำตาลทรายขาวข้าจะทำขนมให้นายท่านกับคุณชายใหญ่ทาน”
ฝีมือทำอาหารของจางอี๋เหนียงถือว่ายอดเยี่ยมตอนที่ฮูหยินยังอยู่ นางมักจะทำอาหารให้ฮูหยินและนายท่านทานบ่อยๆทั้งสองต่างชมนางไม่ขาดปาก ในที่สุดนางก็มีโอกาสทำอีกครั้ง
ชิวเอ๋อร์กุมทองแท่งไว้แน่นพยักหน้าตอบรับด้วยรอยยิ้ม จางอี๋เหนียงจึงถอนหายใจเบาๆนางเรียกชิวเอ๋อร์ที่หมุนตัวเตรียมจะวิ่งออกไปว่า “ชิงเอ๋อร์ซื้อแป้งหมี่ขาวเพิ่มอีกหน่อย ซื้อเนื้อมานิดหน่อยด้วยวันนี้เราจะทานอาหารที่มีเนื้อกับขนมเปี๊ยะอบ”
ชิวเอ๋อร์ได้ฟังน้ำลายก็ไหลออกมาในทันทีนางกำทองแท่งในมือแน่นแล้ววิ่งออกไป
มีแป้งหมี่ขาวกับเนื้อั้แ่โตมา วันนี้เป็วันที่มีความสุขมากที่สุดวันหนึ่งสำหรับนาง
จางอี๋เหนียงเป็มองด้านหลังของชิวเอ๋อร์แต่ในใจนางกลับมีความรู้สึกเ็ปขึ้นมา
นางไม่มีลูกจึงมองชิวเอ๋อร์เป็ลูกของนางและมักจะคิดเสมอๆ ว่าถ้าชิวเอ๋อร์ไปอยู่กับคนอื่นคงจะดีกว่าอยู่กับนางหลายเท่าจากนี้ไปสภาพของนางจะค่อยๆ ดีขึ้น ชิวเอ๋อร์เองก็จะต้องดีตามไปด้วย
เมื่อคิดถึงต้วนชิงิในใจจางอี๋เหนียงกลับรู้สึกขอบคุณขึ้นมา ต้วนชิงิเป็คนละเอียดลออนางรู้ว่าสภาพของตนไม่ดีจึงตั้งใจมอบทองแท่งให้เพื่อให้นางมีโอกาสเอาอกเอาใจต้วนเจิ้งและต้วนอวี้ อีกอย่างเพื่อบอกเป็นัยว่าถ้านางมีชีวิตที่ดีจางอี๋เหนียงก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีกต่อไป !
เมื่อคิดได้เช่นนี้ก็ถอนหายใจออกมาฟ้าดินช่างโหดร้าย! คนที่ฉลาดหลักแหลมส่วนใหญ่ไม่สามารถมีชีวิตอย่างมีความสุขได้ดูติงโหรวเป็ตัวอย่าง นางสามารถมัดใจชายที่ไม่เคยรักนางแม้แต่น้อยได้อยู่หมัดเห็นได้ชัดว่าวิธีการของติงโหรวไม่ธรรมดาตอนนี้ต้วนชิงิเองก็สามารถทำได้ทั้งยังทำได้เกินหน้าติงโหรวในตอนนั้นแล้ว!
เช่นนั้นวันข้างหน้าของคุณหนูใหญ่จะได้พบความสุขที่แท้จริงหรือไม่?
คิดแล้วพลันหัวเราะออกมาชีวิตของนางยังไม่รู้จะเป็อย่างไร กลับมีเวลาว่างไปห่วงคนอื่นอยู่อีก
เฮ้อ...จัดการชีวิตของนางให้ดีก่อนก็แล้วกัน
คิดได้ดังนั้นจึงลุกขึ้นจากเตียงไปเปิดหีบข้าวของค้นหาชุดที่ถูกเก็บไว้ใต้สุดที่นางไม่กล้าหยิบออกมาใส่ชุดนี้ฮูหยินติงโหรวมอบให้นาง จางอี๋เหนียงลูบไล้ไปที่ชุด อยู่ๆ ก็นึกถึง่เวลาก่อนที่ฮูหยินจะเสียนางรับใช้อยู่ข้างกายฮูหยินจึงบอกให้นางมีชีวิตต่อไปให้ดีและฝากดูแลคุณชายคุณหนูแทนด้วย
ในตอนนั้นจางอี๋เหนียงรับปากแต่น่าเสียดายที่นางเป็แค่อี๋เหนียงที่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมและความสามารถเพราะไม่เพียงแต่ปกป้องคุณชายคุณหนูไม่ได้แล้ว นางก็ยังปกป้องตัวเองไม่ได้เช่นกัน
ทว่าตอนนี้คุณหนูใหญ่มีอนาคตไกลเช่นนี้ฮูหยินจะวางใจได้แล้วหรือไม่?
น้ำตาพลันไหลทะลักอย่างอดกลั้นไม่ไหว
ฮูหยิน…
…...
ั้แ่ออกจากเรือนจางอี๋เหนียงต้วนชิงิก็เดินไปข้างหน้าไม่หยุด ผ่านไปนานเซี่ยฉ่าวเอ๋อร์ที่เดินตามหลังถึงได้เอ่ยปากถามอย่างไม่สบายใจ “คุณหนู ทำไมยื่นมือไปช่วยก็ให้ทองแท่งกับจางอี๋เหนียงเลยล่ะเ้าคะ?”
ทองแท่งเล็กๆนั่นเป็เงินเก็บที่สะสมมานานของต้วนชิงิ ตอนนี้กลับให้จางอี๋เหนียงโดยไม่หวง
ต้วนชิงิหัวเราะออกมา “ถ้าไม่มีเงิน จางอี๋เหนียงจะสร้างปัญหาให้หลิวหรงได้ยังไง?”
จากสภาพในเรือนดูก็รู้ว่านางไม่มีเงินแม้แต่ตำลึงเดียว ถ้าต้วนชิงิไม่ช่วยนางสภาพอย่างนางจะเอาอะไรไปสู้กับหลิวหรง?
เซี่ยฉ่าวเอ๋อร์ได้ฟังจึงรู้สึกสบายใจขึ้นมาไม่น้อยแต่นางก็อดเสียดายไม่ได้เมื่อคิดไปถึงทองแท่ง ใช้เวลาเก็บสะสมมาตั้งนานเชียวนะ!
คนทั้งสองเดินกันไปเงียบๆเพียงไม่นานเซี่ยฉ่าวเอ๋อร์ที่เป็คนคิดมากก็ถามขึ้นอีก “คุณหนูว่าจางอี๋เหนียงจะช่วยพวกเราหรือไม่เ้าคะ?”
เซี่ยฉ่าวเอ๋อร์พบจางอี๋เหนียงน้อยมากเมื่อก่อนตอนที่จางอี๋เหนียงยังออกจากเรือนได้เมื่อเห็นคุณหนูของนางก็มักจะหันหลังกลับในทันที วันนี้ต้วนชิงิไปช่วยนางเซี่ยฉ่าวเอ๋อร์ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น
ต้วนชิงิยิ้มบาง “ช่วยสิ ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ? เพราะนางช่วยข้าก็เท่ากับช่วยตัวนางเอง”
ถ้าพูดจริงจังก็คือต้วนชิงิช่วยจางอี๋เหนียงก็เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกันถ้าช่วยอีกฝ่ายก็เหมือนช่วยตัวเอง
เซี่ยฉ่าวเอ๋อร์ฟังที่ต้วนชิงิพูดไม่เข้าใจสักนิด นางคิดแล้วคิดอีกสีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “จางอี๋เหนียงจะช่วยคุณหนูตลอดไปไหมเ้าคะ?”
ความคิดของเซี่ยฉ่าวเอ๋อร์บริสุทธิ์มากนางคิดว่าคุณหนูดีกับจางอี๋เหนียง จางอี๋เหนียงก็ควรจะช่วยคุณหนูด้วยถึงจะถูก
เด็กสาวหัวเราะพลางส่ายหัวในโลกนี้คำว่าตลอดไปเสียที่ไหน? ตอนนี้นางกับจางอี๋เหนียงต่างฝ่ายต่างไขว่คว้าเอาในสิ่งที่ตน้า